ตอนที่ 1270
แปลกประหลาด
สำหรับผู้ฝึกตนส่วนใหญ่แล้ว อาณาจักรโบราณเป็นแค่อีกระดับหนึ่งเท่านั้น การเดินไปบนเส้นทางโบราณ สามารถที่จะก้าวเดินไปตามรอยเท้าของบรรพบุรุษตนเอง สามารถใช้วิชาที่มีอยู่เพื่อค้นหา…เส้นใยแห่งแก่นแท้ดั้งเดิมที่หลบซ่อนอยู่ภายในร่างกายของพวกมัน
ด้วยการดับตะเกียงวิญญาณลงไปทีละดวง ทำให้จมลงไปในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ลึกลงไปในพื้นฐานฝึกตนของคนผู้นั้น…
สุดท้ายเมื่ออยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ เมื่อแก่นแท้เริ่มพลุ่งพล่านและพลังชีวิตเริ่มแกร่งกล้า ทัณฑ์เต๋าก็จะปรากฏขึ้น คนผู้นั้นก็จะสามารถก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งเต๋าและเข้าไปใน…อาณาจักรเต๋า เพื่อกลายเป็นบุคคลที่ทรงพลังอย่างแท้จริงในอาณาจักรขุนเขาทะเล
ตลอดช่วงขั้นตอนนั้น การที่ตะเกียงแต่ละดวงดับลงก็จะกลายเป็นวิกฤตอันร้ายแรง ทำให้อาณาจักรโบราณเป็นขั้นที่ยุ่งยากอย่างแท้จริง
เดิมทีเมิ่งฮ่าวคิดว่าการเดินเข้าไปในอาณาจักรโบราณเป็นเรื่องที่เรียบง่าย เขาจะพึ่งพาพื้นฐานฝึกตนของตัวเองเพื่อลดระดับความยาก และทำให้เรื่องราวง่ายดายขึ้น แต่ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความหมายของอาณาจักรโบราณที่มีต่อเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าแล้ว…มันคือสถานการณ์อันน่ากลัวอย่างแท้จริง
มันมีความยุ่งยากมากกว่าอาณาจักรโบราณทั่วไปหลายเท่าตัว การดับตะเกียงวิญญาณโดยทั่วไป อัตราความสำเร็จมีประมาณห้าในสิบส่วน แต่เมื่อเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า ก็จะต้องยุ่งยากมากกว่าถึงหนึ่งในสิบส่วน!
เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทัณฑ์ของพวกมันยิ่งมีความน่ากลัวมากขึ้น
เมิ่งฮ่าวฝังความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดไว้ในจิตใจ ขณะที่พุ่งตรงไป ในชั่วพริบตาก็เขาไปใกล้กลุ่มเมฆที่กำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วน
เมื่อเมิ่งฮ่าวใกล้เข้าไป กลุ่มเมฆก็ม้วนตัวไปมา ขณะที่เงาร่างๆ หนึ่งโผล่ออกมาจากภายใน เป็นบุคคลที่สวมใส่ชุดโบราณ แต่…ไม่มีใบหน้าแม้แต่น้อย!
มันคือ…บุรุษไร้หน้า!
มันเคลื่อนที่เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมกับขยับมือร่ายเวทไปด้วย เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากกลุ่มเมฆ กลายเป็นพลังแห่งฟ้าดินพุ่งเข้าไปในเศษชิ้นส่วนศิลาจำนวนมาก หมุนคว้างตรงมายังเมิ่งฮ่าว บุรุษไร้หน้าเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ราวกับว่าเมิ่งฮ่าวคือศัตรูตัวฉกาจที่มันไม่ยอมอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน ราวกับว่ามันจะไม่หยุดจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะตกตายไป
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหารเช่นกัน ขณะที่บุรุษไร้หน้าพุ่งลงมา เขาไม่ยอมช้าลงแม้แต่น้อย กลับพุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเศษชิ้นส่วนก้อนศิลากระแทกลงมาบนร่าง พวกมันก็แตกกระจายไป และเมิ่งฮ่าวก็พุ่งตรงไปยังบุรุษไร้หน้าราวกับเป็นดาวตก
“ตาย!” เมิ่งฮ่าวตวาดขึ้น คว้าจับไปบนลำคอของบุรุษไร้หน้าและบดขยี้ไป เสียงปังได้ยินมาขณะที่บุรุษไร้หน้าระเบิดออกเป็นชิ้นๆ แต่ไม่มีเลือดเนื้อพุ่งกระจายออกมา ร่างมันจางหายไปกลายเป็นกระแสแห่งสายหมอก จากนั้นก็พุ่งกลับเข้าไปในกลุ่มเมฆ
ต่อมาบุรุษไร้หน้าอีกสามคนก็ลอยลงมา เมื่อพลังพื้นฐานฝึกตนของพวกมันกระจายออกมา อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง พวกมันอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ การโจมตีของพวกมันทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน และกลุ่มเมฆก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน แต่เมิ่งฮ่าวก็แค่แค่นเสียงเย็นชาขณะที่ก้าวเดินตรงไป โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้พื้นฐานฝึกตนพุ่งขึ้นไป
บุรุษไร้หน้าทั้งสามแตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจจะต่อต้านเมิ่งฮ่าวได้แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามใบหน้าเมิ่งฮ่าวเริ่มดูน่าเกลียดขึ้น เขามีท่าทางไม่ยินดีแม้แต่น้อย เนื่องจากว่า…ทัณฑ์นี้เพิ่งจะเริ่มต้น แต่ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับมนุษย์กลที่อยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณแล้ว ทำให้คาดคิดได้ว่า…สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้คืออะไร
สิ่งที่ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องจมดิ่งลงมากไปกว่านั้นก็คือว่า มีแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อกำลังกดทับลงมาจากด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าถึงแม้ตนเองไม่ต้องการจะเอาชนะทัณฑ์นี้ และพยายามจะหลบหนีจากไป แต่แรงกดดันนี้ก็จะป้องกันไม่ให้เขากระทำเช่นนั้นได้
“ข้า…กำลังถูกบังคับให้ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์นี้…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ โคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตนอีกครั้ง และเสียงกระหึ่มก็ได้ยินมาขณะที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มเมฆ ต่อมาบุรุษไร้หน้าหกคนก็ปรากฏขึ้น และครั้งนี้พวกมันไม่ได้อยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ แต่เข้าไปใกล้กับอาณาจักรเสมือนเต๋า
พวกมันเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็ว จนดูคล้ายสายฟ้า ขณะที่เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว
“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวตวาดขึ้น เมื่อเสียงนี้ระเบิดออกไป ก็ทำให้เงาร่างที่คล้ายสายฟ้าทั้งหกระเบิดออก แม้แต่กลุ่มเมฆก็ยังต้องพลุ่งพล่านปั่นป่วน
คู่ต่อสู้เหล่านี้ไม่นับว่าเป็นอย่างไรสำหรับเมิ่งฮ่าว และดวงตาก็ลุกโชนขึ้นมาราวกับเป็นเปลวไฟขณะที่เขามุ่งหน้าต่อไป
“เจ้าไม่จำเป็นต้องบังคับให้ข้าเอาชนะทัณฑ์นี้…ข้าเฝ้ารอคอยมันมานานแล้ว!” เมิ่งฮ่าวเดินตรงไปอีกก้าว ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน และเสียงกระหึ่มที่อยู่ในกลุ่มเมฆก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น
ในตอนนี้สมาชิกนับไม่ถ้วนของตระกูลเมิ่งที่อยู่ด้านล่างในคฤหาสน์บรรพชน จ้องนิ่งไปยังภาพที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ด้วยสีหน้าตกตะลึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับห้าปรมาจารย์ พวกมันมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“ทัณฑ์โบราณทั่วไปส่งสายฟ้าออกมาจากกลุ่มเมฆ หรืออาจจะเป็นของวิเศษห้าชิ้น จนสุดท้ายค่อยมีมนุษย์กลโผล่ออกมา…”
“ถ้ามีพื้นฐานฝึกตนที่สูงมากพอ และรวดเร็วพอ ก็อาจจะเปิดประตูอาณาจักรโบราณออกมาได้ โดยไม่ต้องรอให้มนุษย์กลเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้น…”
“แต่ทัณฑ์โบราณนี้ มนุษย์กลกลับปรากฏขึ้นตั้งแต่ตอนแรก แล้วจะเอาชนะมันได้อย่างไร…?” ห้าปรมาจารย์อดไม่ได้ที่จะจ้องมองซึ่งกันและกันด้วยความตกตะลึง
ไว่ผอกำลังสั่นสะท้านด้วยความวิตกเป็นอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่ท่านไม่อาจจะช่วยเมิ่งฮ่าวได้ ทำได้แต่มองไปขณะที่เขาพยายามเอาชนะทัณฑ์นี้ จนรู้สึกเจ็บปวดใจราวกับถูกแทงด้วยคมมีด
ด้านหลังท่านคือไว่ซูกง, จิ้วจิ่วและจิ้วหมู่ คนทั้งหมดต่างก็มองไปด้วยความกังวลอย่างน่าเหลือเชื่อ
ถึงแม้ว่าในตระกูลเมิ่งจะไม่มีใครรู้สึกวิตกเช่นเดียวกับเครือญาติสายตรงของเขา แต่พวกมันทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง ตอนนี้เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้กลุ่มเมฆประมาณสองในสิบส่วน และขณะที่เขากำลังพุ่งตรงไป เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมามากขึ้น และเงาร่างสิบสองคนก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
สิบสองเงาร่างเหล่านั้น…ต่างก็อยู่ในอาณาจักรเสมือนเต๋า!!
จิตใจเมิ่งฮ่าวจมดิ่งลงไปมากขึ้นกว่าเดิม
“สิบสองเสมือนเต๋า ต่อไปก็เป็นยี่สิบสี่อาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้? จากนั้นก็สี่สิบแปดสองแก่นแท้? เก้าสิบหก…ราชันเต๋า…หนึ่งร้อยเก้าสิบสองสี่แก่นแท้? จากนั้นก็สี่ร้อยห้าแก่นแท้ แปดร้อยจักรพรรดิเต๋า…?” ขณะที่เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดอยู่นี้ หนังศีรษะก็เริ่มด้านชาขึ้นมา
“เป็นไปไม่ได้ ทัณฑ์นี้มาจากอาณาจักรขุนเขาทะเล ถึงแม้ว่าเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลจะไม่สอดมือเข้ามา ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลในอนาคต แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์นี้และดิ้นรนอยู่ในห้วงความเป็นตายนี้ด้วยเช่นกัน จึงไม่มีทางที่จะมีแปดร้อยจักรพรรดิเต๋าโผล่ออกมา…” ด้วยใบหน้าที่ซีดขาวเมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น และพุ่งตรงไปเพื่อเริ่มต่อสู้กับศัตรูเสมือนเต๋าทั้งสิบสองคน
เขากลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีฟ้าพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นศัตรูเสมือนเต๋าก็เริ่มแตกกระจายไป แต่พวกมันไม่ได้กระจัดกระจายกันออกไป พวกมันกลับระเบิดตนเอง!
เสียงระเบิดอันน่าตกใจดังก้องขึ้นมา และสีหน้าเมิ่งฮ่าวก็เต็มไปด้วยความดุร้าย ขณะที่กลายเป็นประกายแสงสีฟ้าพุ่งออกไปยังที่ห่างไกล การระเบิดตัวเองของเสมือนเต๋าทำให้เกิดเป็นพลังทำลายล้าง ที่แม้แต่ราชันเต๋าก็ยังต้องขมวดคิ้ว เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อทำให้พลังนั้นจางหายไป ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ใช้พลังจากพื้นฐานฝึกตนมากเท่าใดนัก แต่เมิ่งฮ่าวก็ตระหนักดีว่าถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป…เขาก็คงไม่อาจจะเข้าไปใกล้กลุ่มเมฆได้
“ข้าไม่อาจจะปล่อยให้กลุ่มเมฆขยายตัวอีกต่อไป จำเป็นต้องไปยังประตูอาณาจักรโบราณให้รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือโอกาสเดียวของข้า!” เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น จากนั้นวิหคยักษ์สีฟ้าก็ผงกศีรษะขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงสีฟ้าพุ่งเข้าไปในกลุ่มเมฆ ตรงไปยังประตูอาณาจักรโบราณ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปได้ไกลกว่านี้ เสียงแค่นเย็นชาก็ดังก้องอยู่รอบๆ ตัว น่าประหลาดใจยิ่ง…สี่ศัตรูอาณาจักรเต๋าไร้หน้าได้ปรากฏกายขึ้น!
บุรุษไร้หน้าทั้งสี่เหล่านั้นคือผู้ฝึกตนหนึ่งแก่นแท้ทั้งหมด แต่ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังพวกมัน ดวงตาก็สาดประกายขึ้น และถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา
“แค่สี่คนเท่านั้น…?”
ขณะที่บุรุษไร้หน้าทั้งสี่เข้ามาใกล้ เขาก็กำมือขวาเป็นหมัดต่อยออกไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และสายลมขนาดใหญ่ก็ม้วนกวาดออกไป ทำให้ศัตรูอาณาจักรเต๋าทั้งสี่แตกกระจายออกไปในทันที
ขณะที่ร่างกายพวกมันแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาที่กระดูกสันหลัง โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพุ่งตรงไป แต่ความหนาวเย็นก็ยังคงมีอยู่ที่ด้านหลัง แทบจะราวกับว่า…มีใครบางคนมาอยู่ด้านหลัง พ่นลมหายใจลงมาที่ลำคอ
เมิ่งฮ่าวส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป แต่ก็มองไม่เห็นใคร จากนั้นสีหน้าก็สลดลง กัดฟันแน่นหมุนตัวไปรอบๆ และเมื่อทำเช่นนั้นก็รู้สึกว่าหนังศีรษะแทบจะระเบิดออกไป ที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง แทบจะสัมผัสกับใบหน้าของเขาคือ…หญิงสาวในชุดสีขาว
นางมีเส้นผมที่ยาวเงางาม ผิวกายซีดขาว ดวงตาไร้ประกายจ้องนิ่งมายังเมิ่งฮ่าว ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบกริบ จู่ๆ หญิงสาวนางนี้ก็ปรากฏขึ้น ช่างเป็นภาพที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ทำไมเขาถึงไม่อาจจะมองเห็นนางด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์?
ม่านตาเมิ่งฮ่าวหดเล็กลง กำลังจะถอยไปทางด้านหลัง แต่หญิงสาวก็ยื่นมือออกมาคว้าจับเขาไว้ในทันที นางขยับตัวอย่างรวดเร็วจนเมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบเลี่ยงไปได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ มือนางก็จับมาที่แขนของเขา จากนั้นก็เริ่มดึงเข้าไปในกลุ่มเมฆอย่างรวดเร็ว
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป ตรงแขนที่หญิงสาวจับอยู่เขารู้สึกว่าเย็นเยียบราวน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเน่าเปื่อยที่กำลังกดทับลงมา เห็นได้ชัดว่ากลิ่นอายนี้ต้องการจะกัดกร่อนไปทั่วร่างของเขา
ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือว่า ขณะที่หญิงสาวลากเมิ่งฮ่าวไปพร้อมกับนาง กลุ่มเมฆที่ด้านบนก็กลายเป็นปากขนาดใหญ่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นสถานที่ ที่หญิงสาวนางนี้กำลังลากเขาเข้าไป
ความรู้สึกถึงวิกฤตอันน่ากลัวพุ่งขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว และมีความรู้สึกอย่างรุนแรงว่าถ้าปากที่เกิดจากกลุ่มเมฆเหล่านั้นกลืนกินตนเองเข้าไป เขาก็จะต้องตายไปทั้งร่างกายและวิญญาณโดยสิ้นเชิง!
“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้น ทำให้สุดยอดสะพานปะทุเป็นพลังออกไป สะพานที่ไร้รูปร่างปรากฏขึ้นที่นอกร่างเมิ่งฮ่าว ดึงตัวเองให้หลุดออกมาจากการคว้าจับของหญิงสาวและถอยไปทางด้านหลัง
หญิงสาวชุดสีขาวมองไปยังสุดยอดสะพานที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว และหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่ประกอบไปด้วยความหนาวเย็นอย่างน่ากลัวจนโลหิตแทบจะแข็งตัวไป
เมิ่งฮ่าวรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของทัณฑ์โบราณนี้ แต่ก็ไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ กัดฟันแน่น เร่งความเร็วตรงไปยังทิศทางที่จำได้ว่าเป็นประตูอาณาจักรโบราณ
“เร็วเข้า เร็วขึ้นอีก เร็วมากกว่านี้…” เมิ่งฮ่าวรู้ดีว่าโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะเอาชนะทัณฑ์นี้ได้ก็คือ ต้องไม่ต่อสู้อยู่ในกลุ่มเมฆเป็นเวลานานมากเกินไป
ขณะที่เมิ่งฮ่าวเริ่มพุ่งตรงไป อีกสี่เงาร่างก็ปรากฏขึ้น มีความแข็งแกร่งมากกว่าสี่คนที่เขาเพิ่งจะต่อสู้ไปเมื่อครู่นี้
ศัตรูอาณาจักรเต๋าสองแก่นแท้!