Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1271

ตอนที่ 1271

ศัตรูด้านนอกบุกเข้ามา

ขณะที่เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในท่ามกลางการเอาชนะทัณฑ์โบราณ ก็มีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตระกูลเมิ่งมากนัก แต่ไม่มีใครสามารถจะรับรู้ได้ แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ตามที ใบหลิวสีดำจำนวนมากกำลังลอยอยู่ที่นั่น

ใบหลิวแต่ละใบเหล่านั้นมีความยาวถึงหนึ่งพันจ้าง มองเห็นเส้นใยสีดำสนิทได้อย่างชัดเจนบนพื้นผิวของพวกมัน แทบจะดูคล้ายกับเส้นโลหิตที่ไหลผ่านไปมา ทำให้ใบไม้เหล่านั้นดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

ใบหลิวแต่ละใบมีอยู่สิบชั้น และบนพื้นผิวของแต่ละชั้น มีผู้ฝึกตนนั่งขัดสมาธิอยู่สิบคน เมื่อรวมเข้าด้วยกัน ก็มีทั้งหมดหนึ่งพันคน

พวกมันแต่ละคนดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้นมาด้วยความเย็นชา คนทั้งหมดต่างก็สวมใส่ชุดยาวสีดำและมีกลิ่นอายที่เย็นชาอย่างถึงที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเพ่งดูให้ละเอียดก็จะเห็นว่าพื้นฐานฝึกตนของผู้คนนับพันเหล่านี้คาดไม่ถึงว่า…จะอยู่ในอาณาจักรโบราณ!

บ้างก็อยู่ในอาณาจักรโบราณขั้นต้น บ้างก็อยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ ถ้าเมิ่งฮ่าวมองเห็นพวกมัน ก็จะต้องพบว่ารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง นั่นเป็นเพราะว่ากลิ่นอายของพวกมันเหมือนกับกลุ่มคนที่มาโจมตีตนเองและเมิ่งเต๋อ ตอนที่กลับมายังตระกูลเมิ่ง!

ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่า บนใบหลิวบางใบมีผู้ฝึกตนที่กระจายกลิ่นอายแก่นแท้ออกมา มีทั้งหมดเจ็ดคน พวกมันทั้งหมดเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า!

ท่ามกลางกลุ่มคนทั้งเจ็ดเหล่านั้นมีทั้งบุรุษและสตรี ชราและเยาว์วัย อย่างไรก็ตามไม่มีใครอ่อนแอเลยแม้แต่คนเดียว สำหรับผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดสามคน สองเป็นราชันเต๋า และหนึ่งเป็นเด็กชาย มีพื้นฐานฝึกตนที่…สามารถสะกดข่มได้แม้แต่การเปลี่ยนแปลงในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว มันคือ…จักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้!!

ผู้ฝึกตนอาณาจักรเต๋าสี่แก่นแท้ถูกเรียกว่าจักรพรรดิเต๋า แต่นั่นก็เป็นแค่การแบ่งแยกของอาณาจักรเท่านั้น ห้าแก่นแท้คือจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริง และหกแก่นแท้ถูกถือว่าอยู่ในขั้นสูงสุด ในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด จักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้และเหนือไปกว่านั้น ถูกถือว่าเป็นผู้ที่ทรงพลังมากที่สุดของผู้แข็งแกร่งทั้งหมด คนที่มีพลังสะกดข่มเช่นนี้สามารถเข้าร่วมแย่งชิงตำแหน่งราชันขุนเขาทะเล บุคคลที่มีศักดิ์ฐานะเช่นนี้ ไม่ว่าจะไปยังที่แห่งใดในอาณาจักรขุนเขาทะเล สามารถจะทำให้เกิดเป็นความตื่นเต้นขนาดใหญ่ขึ้นมาได้

ตอนนี้บุคคลเช่นนี้กลับมาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกตระกูลเมิ่ง

“ใครบางคนกำลังเอาชนะทัณฑ์โบราณ…และเป็นทัณฑ์โบราณที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง…” เด็กชายกล่าว

“มีบางสิ่งเกี่ยวกับกลิ่นอายของมันที่ข้าพบว่าไม่เสถียรมั่นคง…ให้แจ้งต่อสำนักที่มาจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดซึ่งอยู่ในบริเวณนี้ ให้เริ่มไปสอดแนมสถานการณ์ในตอนนี้”

“ท่านราชันขุนเขาทะเลสั่งพวกเรารอบคอบให้มากไว้ ต้องไม่มีความผิดพลาด หลังจากที่ภารกิจสำเร็จ…ต้องไม่มีสายโลหิตตระกูลเมิ่งเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว!” จากนั้นเด็กชายก็หลับตาลง

ขณะที่เสียงมันดังก้องขึ้น คำสั่งก็กระจายออกไปทั่ว ส่งต่อไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวยังดาวเคราะห์จำนวนมาก และทวีปที่ลอยอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด ซึ่งไม่ได้เป็นของพันธมิตรเทพสวรรค์ ภายในสำนักเหล่านั้นเงาร่างมากมายที่รับคำสั่งจากเด็กชายปรากฏตัวขึ้น

เมื่อรับคำสั่งไปแล้ว ตอนแรกมีแต่ความเงียบ แต่จากนั้นเสียงถอนหายใจก็ได้ยินมา ปรมาจารย์จากสำนักเหล่านั้นส่งคำสั่งลงไป ทำให้สำนักพวกมันเกิดการระดมพลกันขึ้นมา และจากนั้นก็กลายเป็นลำแสง…บินตรงไปยัง…ตระกูลเมิ่ง!

มีสำนักเช่นนั้นอยู่นับสิบ แต่ละสำนักต่างก็ส่งผู้ฝึกตนออกไปไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน ในที่สุดผู้ฝึกตนนับหมื่นต่างก็บินออกมาจากทิศทางที่แตกต่างกัน มุ่งตรงไปยังตระกูลเมิ่ง เข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

พายุฝนกำลังใกล้เข้ามาแล้ว!

นี่คือสงครามครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นระหว่างขุนเขาทะเลที่เจ็ด และขุนเขาทะเลที่แปด เห็นได้ชัดว่า…สนามรบแห่งแรกจะอยู่ที่ตระกูลเมิ่ง แต่ก็แน่ใจได้ว่าเมื่อถึงตอนสุดท้าย ขุนเขาทะเลที่แปดจะต้องสั่นสะเทือนอย่างใหญ่หลวง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีจักรพรรดิเต๋าเป็นผู้นำกองกำลังมา เป้าหมายในสงครามของพวกมันคงจะไม่ถูกเลือกอย่างไร้น้ำหนัก มันจะต้องเลือกเพราะว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์อันมีค่าและสำคัญมากที่สุดในขุนเขาทะเลที่แปด!

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในท่ามกลางการเอาชนะทัณฑ์สวรรค์ และผู้ฝึกตนทั้งหมดของตระกูลเมิ่งต่างก็มองไปด้วยความจดจ่อโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามถ้าใครบางคนมองดูอย่างละเอียด ก็จะสังเกตเห็นว่าในทันทีที่เด็กชายส่งคำสั่งออกไป…ก็มีคนในกลุ่มฝูงชนบนทวีปตระกูลเมิ่งมีดวงตาที่แวบประกายขึ้นจนแทบจะมองไม่เห็นในทันที

ราวกับว่าสายลมกำลังพัดลงมาจากสวรรค์ ม้วนกวาดออกไป…ยังโลกแห่งนี้ทั้งหมด

ตูม!

ภายในกลุ่มเมฆที่อยู่ด้านนอกท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เมิ่งฮ่าวกำลังขยับสองมือร่ายเวท ขณะที่เผชิญหน้ากับสี่บุรุษไร้หน้าสองแก่นแท้ เขาปลดปล่อยเวทกลืนภูเขาออกไป ทำให้ภูเขาจำนวนมากตกลงมา แรงกดดันอันไร้ขอบเขตพุ่งกระจายออกไป บดขยี้ทุกสรรพสิ่ง ทำให้บุรุษไร้หน้าทั้งสี่ต้องล่าถอยออกไป

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร แต่แทนที่จะใช้เวลาไปสังหารพวกมัน เขากลายเป็นวิหคยักษ์สีฟ้า และพุ่งร่างออกไป

เขาไม่มีเวลาสำหรับทัณฑ์มนุษย์กลเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เมิ่งฮ่าวเริ่มเคลื่อนที่ออกไป ดวงตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น ขณะที่ตระหนักว่าที่เบื้องหน้าขึ้นไปในกลุ่มเมฆ…เป็นชิงช้าเส้นหนึ่ง!

ที่กำลังนั่งอยู่บนชิงช้าคือเด็กหญิงที่หันหลังให้กับเขา กำลังแกว่งไปมาอยู่ เสียงหัวเราะที่ดังก้องออกมาคล้ายกับเสียงระฆังเงิน แต่เมื่อผ่านเข้ามาในหูเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้จิตใจต้องหมุนคว้าง

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็พยายามตรวจสอบดูสถานการณ์อย่างละเอียด แต่ก็พบว่าเด็กหญิงผู้นั้นหายตัวไปแล้ว เหลือแต่เพียงชิงช้าเท่านั้น ค่อยๆ แกว่งไปมาอย่างช้าๆ

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น แต่ก็ไม่ได้หยุดลง ทันใดนั้นขณะที่เขาเคลื่อนที่ต่อไป ก็ส่งพลังแห่งสุดยอดสะพานให้ระเบิดออกไปทางด้านหลัง แทบจะในทันทีที่มันปรากฏขึ้น จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงซี่ๆ ดังออกมาจากทิศทางเดียวกันนั้น

เมิ่งฮ่าวมองกลับไปด้วยสายตาที่เย็นชา และมองเห็นเด็กหญิงผู้นั้นกำลังมุ่งหน้าตรงมา นางก้มศีรษะลง เสียงซี่ๆ นั้นกำลังดังออกมาจากเด็กหญิงผู้นั้น

ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกได้ว่าเมิ่งฮ่าวกำลังมองมา ทำให้นางต้องมองขึ้นไปในทันที เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อตระหนักว่า ทั้งปากและดวงตาของเด็กหญิงนางนั้นถูกเย็บไว้ และโลหิตสีดำก็ไหลออกมาจากหางตาและมุมปากอย่างช้าๆ…

เสียงแปลกๆ ที่กำลังดังออกมาจากร่างนาง ทำให้ร่างกายเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที จากนั้นเขาก็ตระหนักว่ากำลังถูกนางลากจูงไป ไม่อาจจะควบคุมร่างกายได้โดยสิ้นเชิง

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ช่างน่าตกใจโดยสิ้นเชิง จากการที่เมิ่งฮ่าวฝึกฝนตนเองมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เขาเคยพบเจอกับประสบการณ์มาอย่างมากมายหลายสิ่ง แต่กลุ่มเมฆเหล่านี้ที่กำลังปกคลุมประตูอาณาจักรโบราณ ทำให้ต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

เมิ่งฮ่าวพยายามโคจรหมุนวนพื้นฐานฝึกตน แต่ก็แทบจะรู้สึกว่ามันถูกแยกออกไปจากร่างกาย แม้แต่สุดยอดสะพานก็ไม่อาจจะเรียกออกมาได้ รวมทั้งวิชาเวทหรือของวิเศษอื่นๆ ทั้งหมด

สิ่งเดียวเท่านั้นที่เขาสามารถใช้งานได้ก็คือผลเนี่ยผาน ทันใดนั้นพลังอันป่าเถื่อนก็ไหลออกมาจากผลเนี่ยผาน ช่วยให้เมิ่งฮ่าวต่อสู้กลับไปยังเด็กหญิง และเสียงซี่ๆ ที่ฟังดูเหมือนว่าจะไม่มีวันจบสิ้น

ขณะที่นางลากจูงเมิ่งฮ่าวออกไปยังที่ห่างไกล พลังของผลเนี่ยผานทั้งสี่ก็พุ่งออกไป ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปมา การเชื่อมต่อบางอย่างระหว่างเมิ่งฮ่าวและเด็กหญิงนางนั้นถูกตัดขาดไป แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว เด็กหญิงกรีดร้องออกมาแต่ก็ไม่หยุดนิ่ง และในที่สุดก็หายเข้าไปในกลุ่มเมฆ

เมิ่งฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าซีดขาว ถึงแม้ว่าเขาจะมีพื้นฐานฝึกตนถึงระดับนี้ แต่ก็ยังคงรู้สึกว่าไร้พลังที่จะต่อต้านได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งหญิงสาวชุดขาวและเด็กหญิงผู้นั้น ทำให้เมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่น่าขนลุก แทบจะราวกับว่า…ตัวเองในตอนนี้ยังไม่อยู่ในระดับที่สามารถจะจัดการกับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างแท้จริง

“นี่ก็คือทัณฑ์โบราณของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า…”

“ในอาณาจักรโบราณ ต้องค้นหาเส้นทางของบรรพบุรุษ ค้นหาแก่นแท้วิชาเวทของคนผู้นั้น…คงจะหมายความว่าอาณาจักรโบราณของข้า ต้องเกี่ยวข้องกับการค้นหาต้นกำเนิดของสายโลหิตเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า!”

“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าคนอื่นๆ จะมองเห็นสิ่งแปลกๆ เมื่อพวกมันต้องมาจัดการกับประตูอาณาจักรโบราณ ข้ารู้สึกว่าทั้งหญิงสาวชุดขาวและเด็กหญิงผู้นั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความลับของสายโลหิตเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า!”

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง แต่ดวงตากลับลุกโชนขึ้นด้วยความดื้อรั้นเหมือนเช่นเคย ร่างกายแวบขึ้นขณะที่พุ่งผ่านเข้าไปในกลุ่มเมฆอีกครั้ง ตรงไปยังทิศทางของประตูอาณาจักรโบราณ

“ปรากฏการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นแต่ในกลุ่มเมฆเท่านั้น หลังจากที่ข้าเผชิญหน้ากับบุรุษไร้หน้า ตอนแรกเป็นศัตรูอาณาจักรเต๋าหนึ่งแก่นแท้ และจากนั้นหญิงสาวชุดขาวก็ปรากฏขึ้น ต่อมาเป็นศัตรูสองแก่นแท้ และจากนั้นเด็กหญิงก็ปรากฏขึ้น…ถ้าเป็นเช่นนี้ ต่อไปข้าก็ต้องเผชิญหน้ากับ…ราชันเต๋าสามแก่นแท้!” เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปคล้ายสายฟ้า เข้าไปใกล้ประตูอาณาจักรโบราณมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นกลุ่มเมฆที่เบื้องหน้าก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน และสี่เงาร่างก็โผล่ออกมา

เหมือนที่เมิ่งฮ่าวคาดเดาไว้ บุรุษไร้หน้าทั้งสี่เหล่านี้กำลังกระจายความผันผวนพื้นฐานฝึกตนของ…ราชันเต๋าสามแก่นแท้!

ถ้าเมิ่งฮ่าวไม่ได้ดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สี่ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อต้องมาต่อสู้กับใครคนใดคนหนึ่งจากบุรุษไร้หน้าเหล่านี้ เขาก็คงพอจะสามารถต่อสู้ได้ และอาจจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ตอนนี้เรื่องราวได้แตกต่างออกไปแล้ว ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่ก้าวเดินตรงไป

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่สุดยอดสะพานปรากฏขึ้น พลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าระเบิดออกไป จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของบุรุษไร้หน้าผู้หนึ่ง เขายื่นมือออกใช้นิ้วแตะไปบนหน้าผากของบุรุษผู้นั้น และร่างมันก็ระเบิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่บุรุษผู้นั้นระเบิดขึ้น สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็เปลี่ยนไป และรีบพุ่งถอยไปทางด้านหลัง บุรุษไร้หน้าที่ร่างระเบิดไปกลายเป็นกลุ่มหมอก แต่แทนที่จะลอยกลับเข้าไปในกลุ่มเมฆ กลับกลายร่างเป็นเชือกสายหมอกพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว เวลาเดียวกันนั้นบุรุษไร้หน้าอีกสามคนก็พังทลายกลายเป็นชิ้นๆ และกลายเป็นเชือก จากนั้นก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวด้วยเช่นกัน

ขณะที่เมิ่งฮ่าวหลบเลี่ยงไปทางด้านข้าง เสียงอันเย็นชาจู่ๆ ก็ดังก้องออกมาจากกลุ่มเมฆที่เบื้องหน้า เป็นเสียงของบุรุษผู้หนึ่ง และกล่าวออกมาด้วยคำพูดที่เรียบง่ายว่า

“หยุด!”

เวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกกลุ่มเมฆที่ปกคลุมประตูอาณาจักรโบราณ ขณะที่กลุ่มคนตระกูลเมิ่งต่างก็จ้องนิ่งไปยังทัณฑ์โบราณ ลำแสงนับหมื่นกำลังใกล้เข้ามายังตระกูลเมิ่ง

ไม่มีใครหยุดชะงักลงแม้แต่ชั่วขณะ ผู้ฝึกตนเหล่านั้นกัดฟันแน่น กระจายเป็นรังสีสังหารออกมา ในที่สุดพวกมันก็มาอยู่ภายในอาณาเขตของตระกูลเมิ่ง ฉับพลันนั้นก็ทำให้เกิดเป็นแสงสีแดงกระจายออกมาจากรูปปั้นขนาดใหญ่ในคฤหาสน์บรรพชน

เมื่อผู้ฝึกตนตระกูลเมิ่งมองเห็นแสงสีแดงนั้น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ สีหน้าของห้าปรมาจารย์เปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน

“สีแดงนั่นหมายถึง…คนนอกกำลังบุกรุกเข้ามา!!”

“คนนอกบุกรุกเข้ามาแล้ว!!”

ขณะที่เสียงเหล่านั้นดังก้องออกมา เสียงกระหึ่มก็ได้ยินมาจากทวีปรองทั้งเก้า ขณะที่ค่ายกลเวทป้องกันของตระกูลเริ่มทำงานขึ้นเอง กระจายออกไปปกคลุมตระกูลทั้งหมดไว้อย่างรวดเร็ว และต่อสู้กลับไปยังผู้ฝึกตนนับหมื่นที่กำลังโจมตีมา

ในชั่วพริบตา เสียงอันเย็นชานับไม่ถ้วนก็ดังก้องออกมาให้ได้ยินไปทั่ว

“ตระกูลเมิ่ง โลหิตต้องชำระล้างด้วยโลหิต หนี้ที่พวกเจ้าติดค้างสำนักเทียนตี้ (ฟ้าดิน) ในปีนั้น…จะต้องชดใช้ในวันนี้!”

“ตระกูลเมิ่งอ่อนแอลงไปแล้ว ไม่มีที่ให้พวกเจ้าอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปดอีกต่อไป พวกเรามาในวันนี้เพื่อกำจัดพวกเจ้า ทำลายตำนานอันเป็นนิรันดร์ของพวกเจ้าไปตลอดกาล!”

“สำนักอวิ๋นตี้ (ดินเมฆา) ก็มากำจัดตระกูลเมิ่งด้วยเช่นกัน!”

“สำนักสุ่ยเต้า (เต๋าวารี) ก็มาสะสางความแค้นด้วยเช่นกัน!”

“แม้แต่ราชสีห์ก็ยังต้องแก่ลงไปสักวันหนี่ง และวันนั้นก็มาถึงแล้ว ระฆังมรณะสำหรับตระกูลเมิ่ง…ดังขึ้นมาแล้ว!”

——————–

หมายเหตุ: พายุฝนกำลังใกล้เข้ามาแล้ว (风雨欲来 – ฟงอวี่อวี้หลาย) หมายถึง วิกฤตเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!