Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1288

ตอนที่ 1288

ฉวยโอกาส

แทบจะในทันทีที่หลู่ว์โหวกลายร่างเป็นสัตว์อสูร เมิ่งฮ่าวก็รับรู้ได้ถึงเพลิงโทสะที่พุ่งขึ้นมาจากอาณาจักรขุนเขาทะเล และเริ่มรู้สึกได้อย่างชัดเจนในชั่วพริบตา คนอื่นๆ ไม่มีทางจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้ หรือบางทีพวกมันอาจจะเชื่อว่าแค่คิดไปเอง อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้รับผลกระทบจากจิตใต้สำนึกของตนเอง ทำให้เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อชนเผ่านอกคอกโดยไม่รู้ตัว

แน่นอนว่าเมิ่งฮ่าวสามารถจะรับรู้ถึงเพลิงโทสะนี้ได้อย่างชัดเจน ทำให้เต็มไปด้วยความต้องการที่จะสังหารคนนอกคอกผู้นี้ เวลาเดียวกันนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนจากร่างกายที่แท้จริงของคนนอกคอก ซึ่งกำลังออกมาจาก…สามสิบสามสวรรค์ที่อยู่สูงเกินกว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

“เพลิงโทสะแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล?”

เมิ่งฮ่าวมองไปยังคนนอกคอกที่กำลังแผดร้องคำราม ทำให้พลังการฝึกตนของมันพุ่งสูงจนเกินไปกว่าเซียวอี้หานห้าแก่นแท้

“มันทำการยึดร่าง เวลาเดียวกันนั้นก็ไม่ได้ครอบครองร่าง…มันฉายภาพของผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังจากสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านนอก ทำการยึดร่างของหลู่ว์โหวไว้ แต่เหตุผลที่มันสามารถยึดร่างนี้ได้อย่างรวดเร็วก็คือว่า มันเป็นเจ้าของร่างนี้มานานแล้ว” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นขณะที่ก้าวเดินตรงไป ใช้พลังจากกายเนื้อกระแทกเข้าไปในร่างของคนนอกคอก

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น จากนั้นคนทั้งสองก็แยกออกจากกัน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว เช่นเดียวกับคนนอกคอก ยิ่งไปกว่านั้นหน้าอกของมันก็ยุบลงไป และโลหิตสีม่วงกำลังพุ่งออกมา

“ช่างเป็นกายเนื้อที่แข็งแกร่งนัก แต่นี่คือพลังแค่ส่วนเดียวของร่างจริงคนนอกคอกเท่านั้น…ตอนนี้เมื่อคิดไปแล้ว คนนอกคอกใดก็ตามในสามสิบสามสวรรค์ที่กำลังควบคุมร่างนี้อยู่ ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขยับมือร่ายเวท ส่งแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ให้ระเบิดออกไป ปกคลุมร่างคนนอกคอกนั้นไว้ในทันที

คนนอกนอกแผดร้องขึ้นมา ทำให้ท่อนซุงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น บนพื้นผิวของท่อนซุงถูกแกะสลักไว้ด้วยสัญลักษณ์เวทอันลี้ลับ และยังปะทุเป็นพลังแก่นแท้ออกมาอีกด้วย ขณะที่พุ่งตรงมาปะทะกับแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือออกไป ทำให้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์จางหายไป จากนั้นก็ขยับมือร่ายเวท และชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นภูเขาจำนวนมากก็เริ่มตกลงมา แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่หยุดชะงักนิ่ง ปลดปล่อยวิชาเวทออกไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนั้นกระแทกเข้าไปในร่างคนนอกคอก ขณะที่เขาพยายามทำความเข้าใจร่างกายและพื้นฐานฝึกตนของมัน

คนนอกคอกแผดร้องคำรามภายใต้การระดมยิงมาของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นดวงตามันก็สาดประกายขึ้น ขณะที่ยื่นมือตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ทำท่าคว้าจับ ท่านั้นทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้าน และร่างเขาก็หายไปในทันที ชั่วขณะต่อมาจุดที่เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะยืนอยู่ก็พังทลายลงไป ภายใต้ประกายสายฟ้าที่โจมตีลงมาอย่างฉับพลัน

แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของมัน แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวไปปรากฏกายขึ้นในที่ห่างไกล ดวงตาคนนอกคอกก็สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร มันแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา กวาดมือออกไปเป็นวงกว้างเหนือศีรษะ แทบจะราวกับว่ามันกำลังสักการะบูชาต่อท้องฟ้าที่ด้านบน

ในตอนนี้เองที่ท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวเริ่มสั่นสะท้าน และกลิ่นอายที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาจากอาณาจักรขุนเขาทะเลก็เริ่มกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง กลิ่นอายนั้นเริ่มรวมตัวกันเพื่อก่อตัวเป็นรูปร่างของ…กิ้งก่ายักษ์!

กิ้งก่ายักษ์ตัวนั้นมีความยาวนับหมื่นจ้างและเต็มไปด้วยพลัง เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารอันเข้มข้นแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลที่ระเบิดออกมามากขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มันต้องสะกดข่มลงไป ไม่อาจจะปลดปล่อยออกมาได้ คนนอกคอกไม่ได้ไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในขุนเขาทะเล เช่นตอนที่อยู่ในเศษซากเซียน

“กำจัดร่างจริง!” คนนอกคอกแผดร้องคำราม เกล็ดบนร่างมันแตกกระจายไป ทำให้โลหิตพุ่งออกไป โลหิตเหล่านั้นพุ่งขึ้นไปในความว่างเปล่า และในชั่วพริบตาก็ไปรวมตัวกันอยู่ที่ดวงตาข้างขวาของกิ้งก่ายักษ์ ดวงตาสีแดงเข้มนั้นเปล่งประกายความฉลาดออกมา

ดวงตานั้นหันไปมองยังเมิ่งฮ่าว ทำให้จิตใจต้องเต็มไปด้วยแรงกดดันอันเข้มข้น จนสีหน้าต้องเปลี่ยนไป

“ผู้ยิ่งใหญ่…ถึงจะไม่ใช่เก้าแก่นแท้ แต่อย่างน้อยก็เจ็ดแก่นแท้” เมิ่งฮ่าวคิดด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงพุ่งขึ้นมา และดวงตาก็สาดประกายขึ้น จากนั้นก็ทำท่าคว้าจับ เรียกพลังแห่งขุนเขาทะเลมาเพื่อปกป้องตนเอง

ในตอนนี้เองที่ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากดวงตาของกิ้งก่ายักษ์ เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอันน่ากลัว พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว กระแทกเข้าไปยังพลังที่รวมตัวกันของขุนเขาทะเล

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ระลอกคลื่นอันน่ากลัวกระจายออกมาจากลำแสงสีแดง พลังแห่งขุนเขาทะเลจางหายไป และแสงสีแดงที่อยู่ในดวงตากิ้งก่ายักษ์ก็จางหายไปด้วยเช่นกัน

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือขวา เรียกสุดยอดสะพานออกมา จากนั้นก็ส่งเสียงดังกระหึ่มกระแทกลงไปบนร่างของกิ้งก่ายักษ์

ขณะที่พลังการต่อสู้ของเขาปะทุขึ้น ก็ชี้นิ้วขึ้นไปในอากาศ ทำให้พลังแห่งขุนเขาทะเลกรีดเฉือนลงไปยังร่างของคนนอกคอก ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

ดรรชนีนั้นทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน หลู่ว์โหวในรูปแบบของคนนอกคอก สั่นสะท้านและส่งเสียงแผดร้องอันน่ากลัวออกมา ขยับมือร่ายเวท ปลดปล่อยพลังทั้งหมดต่อสู้กลับไป แต่ชั่วขณะต่อมา สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นดรรชนียักษ์ที่มองไม่เห็นได้ปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดว่าเป็นพลังที่รวมตัวกันของขุนเขาทะเล กดทับลงไปยังร่างมัน

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากขณะที่มันถอยไปทางด้านหลัง แขนทั้งสองข้างแหลกละเอียด หน้าอกยุบลงไป ระเบิดขึ้นกลายเป็นเศษเลือดเนื้อจำนวนมาก สำหรับภาพกิ้งก่ายักษ์ มันถูกบดขยี้โดยสุดยอดสะพาน และเริ่มแผดร้องออกมาขณะที่จางหายไป

“ช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่ปล่อยให้เจ้าตกตายไปเช่นนี้”

เมิ่งฮ่าวกล่าว แม้ในขณะที่หลู่ว์โหวในรูปแบบของคนนอกนอก เริ่มแตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ เมิ่งฮ่าวก็ไปปรากฏกายขึ้นที่ด้านข้าง และยื่นมือออกไปคว้าจับส่วนของศีรษะที่ลอยออกมาของมันไว้ ทำการควาญหาวิญญาณ!

แต่สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังควาญหาวิญญาณ ไม่ได้เป็นแค่วิญญาณของหลู่ว์โหวเท่านั้น เขายังได้ใช้มันเป็นเหมือนกับสะพาน…เพื่อเชื่อมต่อไปยังวิญญาณของผู้แข็งแกร่งทรงพลังจากสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านบน

ผู้แข็งแกร่งนั้นอาจจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงทำการควาญหาวิญญาณต่อไป เขาต้องการจะรู้ว่า…ระหว่างสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนเองและผู้ยิ่งใหญ่นั้น มีความแตกต่างกันแค่ไหน!

ตูม!

ศีรษะหลู่ว์โหวสั่นสะท้าน และดวงตามันก็จ้องนิ่งมายังเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวสามารถมองเห็นความทรงจำทั้งหมดของมันแล้ว และเวลาเดียวกันนั้นเขาก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงเส้นใยอันเลือนลางที่เชื่อมต่อหลู่ว์โหวกับสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านบนท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมิ่งฮ่าวเริ่มติดตามเส้นใยนั้นไป

แทบจะในทันทีที่เขาเริ่มตามรอยเส้นใยนั้น จิตใจก็สั่นสะท้าน และรู้สึกได้ถึงเจตจำนงอันแข็งแกร่งที่อยู่ตรงปลายทาง เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะต่อสู้ด้วยได้แม้แต่หนึ่งในสิบส่วน

แค่การเชื่อมต่อกันกับคนผู้นั้นผ่านทางสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่พลังสะท้อนกลับก็แทบจะกำจัดเขาไป เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลัง ดวงตาสาดประกายขึ้น เขาไม่ได้คิดว่าตนเองแทบจะถูกกำจัดไป และไม่ได้คิดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตนเอง แต่…กำลังคิดไปถึงโอกาสที่ยากจะพบพาน!

มันเป็นโอกาสที่จะเพิ่มพลังแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเป็นหลายเท่าตัว!

เสียงแผดร้องคำรามดังก้องออกมาจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังนั้น ราวกับว่าการควาญหาวิญญาณของเมิ่งฮ่าวได้ไปกระตุ้นตอแยผู้ยิ่งใหญ่ในสามสิบสามสวรรค์อย่างคาดไม่ถึง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงดังกระหึ่ม พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวเพื่อกำจัดเขาไป

ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาในการอธิบาย แต่การต่อสู้ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวแทบจะพังทลายลงไปในทันที และเขาก็ติดตามเส้นใยที่ยังคงหลงเหลืออยู่เล็กน้อยกลับเข้ามาในอาณาจักรขุนเขาทะเล

เวลาเดียวกันนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์จากผู้ยิ่งใหญ่สามสิบสามสวรรค์ก็ไล่ตามเขามา!

โลหิตพ่นกระจายออกจากปากเมิ่งฮ่าวในทันที และใบหน้าก็ซีดขาวอย่างน่ากลัว เขาพุ่งถอยไปทางด้านหลัง และศีรษะของหลู่ว์โหวก็ระเบิดขึ้นกลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิต เวลาเดียวกันนั้นพลังจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต ก็พุ่งออกมาจากโลหิตเหล่านั้นตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่รังสีสังหารระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง ปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่ง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกสะกดไว้ในทันที เวลาเดียวกันนั้นเส้นใยที่เชื่อมต่อมันกับสามสิบสามสวรรค์ก็ถูกตัดขาดไป อันเนื่องมาจากการตายไปของหลู่ว์โหว

แรงกดดันจากอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำการตัดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั่นไปจากร่างจริงของมัน ต่อมาดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น อ้าปากและสูดหายใจเข้าในทันที

ขณะที่ทำเช่นนี้ เสียงกระหึ่มก็ดังก้องขึ้น และสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ถูกดูดเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว รู้สึกราวกับว่าร่างกายแทบจะระเบิดออกไป และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปาก แต่เวลาเดียวกันนั้นพลังจากคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็โคจรหมุนวนอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายในร่าง

หลังจากที่ฝึกฝนคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ เมิ่งฮ่าวก็ตระหนักมานานแล้วว่าคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์จริงๆ แล้วก็ถูกออกแบบมาให้ผู้ที่ฝึกฝน สามารถดูดกลืนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่น และทำให้กลายเป็นของตนเองได้ในที่สุด

แต่ในครั้งนี้เขากำลังดูดกลืนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว ก็ถือได้ว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขากำลังสั่นสะท้าน และโลหิตกำลังไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด กลุ่มหมอกโลหิตปกคลุมอยู่รอบๆ ตัว และร่างกายก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด รู้สึกราวกับว่ากำลังจะระเบิดออกไป

เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า และร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ราวกับว่ากำลังจะพังทลายลงไป อาณาจักรความเป็นนิรันดร์เริ่มทำงานอย่างบ้าคลั่ง เพื่อทำให้ตนเองมีชีวิตรอดต่อไป โลหิตพ่นกระจายออกจากปากครั้งแล้วครั้งเล่า และชีวิตก็ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ทั่วทั้งร่างเริ่มเสียหายอย่างร้ายแรง และเปลวไฟแห่งพลังชีวิตกำลังจะมอดดับลงไป แต่ดวงตายังคงสาดประกายเจิดจ้าขึ้น

จากนั้นเสียงแผดร้องคำรามก็ดังก้องออกมาจากสามสิบสามสวรรค์ที่อยู่ด้านบนท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว เสียงแผดร้องด้วยโทสะนั้นสามารถทำให้สวรรค์ต้องพังทลายปฐพีต้องแตกกระจายลงไปได้

ชั่วขณะต่อมาเมิ่งฮ่าวก็สั่นไปทั้งร่าง จากนั้นการพังทลายลงไปของร่างกายก็หยุดลง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่ถูกดูดซับและสะกดข่มไว้ แต่ก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เขาจำเป็นต้องหาสถานที่อันเหมาะสมเพื่อนั่งเข้าฌาณตามลำพัง และหลอมรวมมันเข้ากับตนเองอย่างรวดเร็ว

ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ และร่างกายก็อ่อนแอลงอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาระเบิดเป็นความแข็งแกร่งขึ้นอย่างน้อยก็สองเท่าจากก่อนหน้านี้…และตนเองก็เพิ่งจะเริ่มต้นดูดซับมันเข้ามา!

ด้วยพลังอันแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเมิ่งฮ่าวมองไปยังผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ซึ่งกำลังยืนสั่นสะท้านอยู่ในที่แห่งนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะมองมายังเมิ่งฮ่าว พวกมันทั้งหมดก้มศีรษะลง และกำลังคุกเข่าเพื่อกราบกราน

เมิ่งฮ่าวปาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก จากนั้นก็มองขึ้นไปยังส่วนลึกของท้องฟ้าด้วยสายตาที่เย็นชา เมื่อครู่นี้เขาเกือบจะตกตายไป การดูดกลืนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากเป็นอย่างยิ่ง

แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ในสามสิบสามสวรรค์ก็ไม่เคยคาดคิดว่า จะมีใครบางคนกล้าทำสิ่งที่บ้าคลั่งเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะว่าคนผู้นั้นไม่รู้จักเมิ่งฮ่าว และไม่รู้ว่าคติประจำตัวของเขาก็คือ ถ้าไม่เก็บสิ่งของที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก็เหมือนกับการทำมันสูญหายไป

เมื่อเมิ่งฮ่าวพบเจอกับผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจจะสังหารตนเองได้โดยตรง ถ้าเขาไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อดูดซับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันมา ไม่ยอมฉวยโอกาสบ้าง เขาก็คงจะไม่ใช่เมิ่งฮ่าว

“ความร่ำรวยมาพร้อมกับความเสี่ยง ช่างเป็นเรื่องที่จริงแท้ยิ่งนัก!”

เมิ่งฮ่าวเลียริมฝีปากไปมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!