Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1287

ตอนที่ 1287

ชนเผ่านอกคอก

ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เริ่มหนาวเย็นลงอย่างน่าเหลือเชื่อ ราวกับว่ามีน้ำแข็งที่มองไม่เห็นกำลังกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทางอย่างรวดเร็ว ที่ไหนก็ตามที่มันพุ่งผ่านไป ก็ทำให้ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดซึ่งกำลังหลบหนีจากไปต้องเต็มไปด้วยความหนาวเย็นอย่างรุนแรง ทำให้วิญญาณพวกมันต้องสั่นสะท้าน

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวไม่ต้องวิตกเกี่ยวกับตระกูลเมิ่งอีกแล้ว หันหน้าไปมองยังผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่เจ็ด และรังสีสังหารก็ระเบิดออกไป จริงๆ แล้วเขาไม่มีความอาฆาตแค้นใดๆ กับบุคคลเหล่านี้ และด้วยการเป็นราชันในอนาคตของอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็คงจะเหมาะสมกว่าที่จะให้พวกมันหลบหนีจากไปบ้าง โดยที่ไม่ต้องสังหารไปทั้งหมด

นอกจากนั้นก็ยังมีสงครามใหญ่กำลังใกล้เข้ามา ถ้าอาณาจักรขุนเขาทะเลมีผู้ที่แข็งแกร่งอยู่ทั่วไปก็น่าจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะตระหนักดีถึงเรื่องนี้ แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่เลือกที่จะทำเช่นนั้น

เขาไม่ใช่ผู้กล้าหรือผู้นำ เขาเป็นแค่ผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น เป็นนักศึกษาที่มักจะฝันถึงการเป็นคนร่ำรวย

ถ้าพวกมันไม่มาหาเรื่องก่อน เขาก็สามารถจะปล่อยผ่านไปได้ แต่เมื่อพวกมันพยายามจะมากวาดล้างตระกูลเมิ่ง จึงเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะกล้ำกลืนได้ และอันที่จริงเขาไม่ต้องการจะฝืนทนแม้แต่น้อย

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เมื่อเท้าเหยียบย่างลงไป แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อก็เริ่มกดทับลงไป ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้นในชั่วพริบตา

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ราวกับว่ามีการปะทะที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ผู้ฝึกตนนับพันจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดกระอักโลหิตออกมาทั้งหมด สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง

ไม่มีใครกล้าโจมตีกลับไป พวกมันยืนสั่นสะท้านอยู่ที่นั่น และมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเคลื่อนไหว อย่าว่าแต่จะหลบหนีจากไป

สีหน้าหลู่ว์โหวสลดลง แต่จากนั้นก็กัดฟันแน่น ทำให้แสงสีม่วงกระจายออกไปจากร่างมัน ปกคลุมตนเองไว้อย่างรวดเร็ว เมื่อมันขยับตัวเคลื่อนไหวเช่นนี้ ก็เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจที่จะทะลวงฝ่าออกมาจากแรงกดดันที่กำลังบดขยี้ลงมาของเมิ่งฮ่าว

“ข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้แล้ว?!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว หายตัวไป จากนั้นก็ไปปรากฎกายขึ้นใหม่อยู่ตรงหน้าหลู่ว์โหว และฟาดฝ่ามือออกไป

ตูม!

พลังอันน่าเหลือเชื่อระเบิดออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว กลายเป็นสายลมที่ปั่นป่วนวุ่นวาย เมื่อสายลมนั้นกระแทกเข้าไปบนร่างของหลู่ว์โหว โลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน และร่างก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลังราวกับเป็นว่าวที่ถูกตัดสายป่าน ใบหน้ามันดุร้ายขึ้นขณะที่หยุดชะงักนิ่ง จากนั้นก็จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว เปลวไฟแห่งความบ้าคลั่งลุกโชนขึ้นมาในแววตา

“ข้าคือหนึ่งในสามโหว (1) แห่งขุนเขาที่เจ็ด หลู่ว์อวิ๋นลี่! ถ้าเจ้าบังอาจทำร้ายข้า ขุนเขาที่เจ็ดจะไล่ล่าสังหารเจ้า ไม่ตายไม่เลิกลา!” มันแผดร้องออกมา

เมิ่งฮ่าวตอบรับด้วยการเดินตรงไปเป็นก้าวที่สาม และจากนั้นก็ต่อยหมัดทำลายล้างชีวิตออกไป กระแทกเข้าไปยังหน้าอกของหลู่ว์โหว

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่หน้าอกของหลู่ว์โหวยุบลงไป ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาขณะที่ร่างมันลอยไปทางด้านหลัง ได้ยินเสียงแตกร้าวดังขึ้นขณะที่ชุดเกราะเวทจากก่อนหน้านี้ของมันแตกกระจายไป

นั่นคือหนึ่งในของวิเศษช่วยชีวิตของมัน เป็นสิ่งที่ช่วยให้มันสามารถจะกวาดล้างไปทั่วทั้งสนามรบอย่างไร้คู่ต่อสู้ เมื่อไปเผชิญหน้ากับพันธมิตรเทพสวรรค์ มันยังได้พึ่งพาของวิเศษนี้เพื่อสังหารผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าบางคนแห่งขุนเขาทะเลที่แปดไป แต่เมิ่งฮ่าวก็ต่อยจนของวิเศษนี้แตกกระจายไปในหมัดเดียว

“พวกเจ้ารีบโจมตีในทันที! สังหารมัน!” หลู่ว์โหวร้องตะโกนขึ้นอย่างเร่งรีบด้วยใบหน้าที่ซีดขาว ผู้ฝึกตนอื่นๆ แห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดซึ่งอยู่รอบๆ บริเวณนั้นลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่จากนั้นพวกมันนับพันคนก็กัดฟันแน่นและพุ่งตรงไป รีบรวมตัวกันเป็นเก้ากลุ่มอย่างรวดเร็ว จัดเตรียมเป็นค่ายกลที่พิเศษเฉพาะ จากนั้นค่ายกลเวทของกลุ่มทั้งเก้าเหล่านั้นก็รวมตัวกันเป็นค่ายกลเวทอันยิ่งใหญ่

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ค่ายกลเวทนับสิบปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว แสงเจิดจ้าแวบขึ้นมา และระลอกคลื่นแห่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็กระจายออกไป แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่ทำท่าคว้าจับออกไป จากนั้นรอยแตกก็เปิดออก อสูรโลหิตแผดร้องคำรามออกมา พุ่งตรงไปยังค่ายกลเวทในทันที พร้อมกับเสียงระเบิดที่ปกคลุมไปทั่ว เมิ่งฮ่าวพุ่งฝ่าค่ายกลเวทเข้าไป และเริ่มไล่ล่าหลู่ว์โหว

แววตาหลู่ว์โหวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง การที่เมิ่งฮ่าวไม่แยแสต่อค่ายกลเวทนั้นแม้แต่น้อย ทำให้ความบ้าคลั่งของมันเริ่มรุนแรงมากขึ้น โยนความระมัดระวังตัวทิ้งไปในสายลม แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องออกมา

“เจ้าบังคับข้าให้ต้องทำเช่นนี้!” มันแผดร้องคำราม ยื่นแขนออกไป ทำให้รอยสักศักดิ์สิทธิ์บนแขนกระจายเป็นแสงสีม่วงออกมา มีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในชั่วพริบตาแสงสีม่วงก็เริ่มหมุนวนไปมาในทันที อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง แสงนั้นกลายเป็น…ศีรษะขนาดใหญ่

บนศีรษะนั้นมีเขาอยู่แปดข้าง มีผิวสีดำสลับเขียว และมีใบหน้าที่ดูคล้ายมนุษย์ ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น พลังอันน่าตกใจก็ระเบิดออกไป ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน ยิ่งไปกว่านั้น…ใบหน้านั้นก็กระจายเป็นกลิ่นอายที่ไม่ใช่ของอาณาจักรขุนเขาทะเล

มันคือ…ชนเผ่านอกคอก!

เป็นชนเผ่านอกคอกจากสามสิบสามสวรรค์!

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็น ก็สามารถจะบอกได้ว่ามันมาจากที่แห่งใด เวลาเดียวกันนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงความเกลียดชังที่พลุ่งพล่านขึ้นมาของอาณาจักรขุนเขาทะเล พร้อมกับความต้องการกำจัดชนเผ่านอกคอกนี้ไป ต้องการทำลายสายโลหิตทั้งหมดของมันไป

ชนเผ่านอกคอกแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา

ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกกระจายไป สายลมที่ปั่นป่วนขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมา และม้วนกวาดตรงไปยังเมิ่งฮ่าว เวลาเดียวกันนั้น ศีรษะนั้นก็พุ่งออกมาจากแขนของหลู่ว์โหว มุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับว่าต้องการจะกลืนกินเขาลงไป

“ตาย!” หลู่ว์โหวร้องตวาดขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความบ้าคลั่ง นี่คือไพ่ไม้ตายของมัน เป็นสิ่งที่ดูดกลืนอายุขัยของมันไปทุกครั้งที่ใช้ออกมา บังคับให้มันต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และเป็นเหตุผลที่มันกล้ามาโจมตีตระกูลเมิ่ง โดยที่ไม่แยแสเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย

ในความคิดของมัน รอยสักศักดิ์สิทธิ์นี้ทำให้ตนเองเอาชนะศัตรูสี่แก่นแท้ได้อย่างง่ายดาย และทำให้สามารถจะต่อสู้กับผู้ฝึกตนห้าแก่นแท้ได้ อันที่จริงตลอดช่วงของการต่อสู้กับพันธมิตรเทพสวรรค์ รอยสักศักดิ์สิทธิ์นี้ช่วยให้มันต่อสู้กับหัวหน้าผู้พิทักษ์เต๋าแห่งพันธมิตรเทพสวรรค์ได้อย่างสูสีอีกด้วย

เนื่องจากเช่นนั้น ทำให้มันมีความเชื่อมั่นอย่างน่าเหลือเชื่อ และรังสีสังหารก็พุ่งขึ้นมาอยู่ในตอนนี้ เมื่อส่งศีรษะขนาดใหญ่นั้นไปโจมตีเมิ่งฮ่าว มันก็มั่นใจว่าเมิ่งฮ่าวต้องตายไปอย่างแน่นอน

“รอยสักศักดิ์สิทธิ์นี้คือของวิเศษอันล้ำค่า ที่ราชันขุนเขาทะเลของข้าได้ประทานให้ มันถูกสร้างขึ้นมาจากวิญญาณของปีศาจสวรรค์ที่มาจากโลกภายนอก ทำให้ข้ามีพลังที่จะต่อสู้กับห้าแก่นแท้ได้! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ก็ต้องตายไปอย่างแน่นอน!!”

“หลังจากที่เจ้าตายไปแล้ว ขุนเขาทะเลที่แปดที่เหลือก็จะตามเจ้าไปยังน้ำพุเหลือง ถึงแม้ว่าตระกูลเมิ่งจะหลบหนีไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า แต่ก็จะถูกกวาดล้างไปอยู่ดี แม้แต่ขุนเขาทะเลที่เก้าก็จะต้องถูกทำลายไปด้วย!”

“สงครามที่ใกล้เข้ามานี้ ไม่มีใครหนีรอดได้ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย!!”

หลู่ว์โหวแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ใช้อายุขัยของตัวเองไปเป็นพลังให้กับรอยสัก ความเจ็บปวดเสียดแทงเข้าไปในจิตใจ ทำให้มันบ้าคลั่งมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงจุดที่เริ่มจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว

แต่มันก็ยังคงพยายามควบคุมตัวเองไว้ ขยับมือร่ายเวท ทำให้ปากของชนเผ่านอกคอกยักษ์นั้นอ้ากว้างขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยแสงสีแดง ขณะที่กำลังจะเขมือบกลืนเมิ่งฮ่าวลงไป

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น และแค่นเสียงเย็นชา เมื่อศีรษะชนเผ่านอกคอกใกล้เข้ามา เขาก็ยื่นมือออกไป และชี้นิ้วไปยังมัน

นี่คือเวทผนึกอสูรรุ่นแปด!

เมิ่งฮ่าวรู้ดีว่าเวทผนึกอสูรของตนเอง มีประสิทธิภาพต่อชนเผ่านอกคอกมากเป็นพิเศษ ในทันทีที่เขาชี้นิ้วไปเสร็จสิ้น ก็ชี้ไปอีกครั้งเพื่อปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นเจ็ดออกไป จากนั้นก็เป็นเวทรุ่นหกและเวทรุ่นห้า

นิ้วที่ชี้ออกไปทั้งสี่ครั้งนั้น ทำให้ชนเผ่านอกคอกแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา กลุ่มหมอกสีดำเริ่มลอยขึ้นมาจากศีรษะของมัน ขณะที่ใบหน้านั้นบิดเบี้ยวไปมา แผดร้องขึ้นว่า “เก้า…เวท…ผนึก…อสูร…บัดซบ!!”

ศีรษะนั้นเริ่มผุพังกัดกร่อนไป ส่งผลให้เกิดเป็นกลุ่มหมอกสีดำลอยออกไปในทั่วทุกทิศทาง หลู่ว์โหวกำลังสั่นสะท้าน และเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป อายุขัยของมันถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว แต่แทนที่จะหลบหนีจากไป มันกลับพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างบ้าคลั่ง

“ไม่เท่าไหร่” เมิ่งฮ่าวกล่าว ดวงตาสาดประกายขึ้น จากนั้นก็ยื่นมือออกไปทำเป็นท่าคว้าจับ แต่แทนที่จะก่อตัวเป็นพลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เขากลับใช้เวทปลิดดาวออกมา

พื้นฐานโบราณของเมิ่งฮ่าวไหลออกไป และตะเกียงวิญญาณทั้งสามสิบสามดวงก็สว่างจ้าขึ้น รวมเข้ากับพลังแห่งกายเนื้อพร้อมกับพลังการฝึกตน ทำให้เมิ่งฮ่าวระเบิดเป็นพลังการต่อสู้ที่เทียบเท่ากับห้าแก่นแท้ออกไป และพลังนี้ก็ไม่มีพลังแห่งขุนเขาทะเลอยู่ด้วย!

มันคือ…พลังอันน่ากลัวที่เป็นรองแต่เพียงราชันขุนเขาทะเลเท่านั้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ชนเผ่านอกคอกแผดร้องออกมา ใบหน้ามันบิดเบี้ยวขณะที่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้

ถ้าเมิ่งฮ่าวคว้าจับมันได้ ความเป็นตายของวิญญาณนั้นก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แต่จู่ๆ ใบหน้านั้นก็แผดร้องออกมาและเริ่มเลือนรางลงไป เห็นได้ชัดว่ามันเลือกที่จะระเบิดตัวเอง

ขณะที่ใบหน้านั้นระเบิดขึ้น มันก็ใช้พลังระเบิดเพื่อหลบหนีจากไป ปิดกั้นหัตถ์ยักษ์แห่งเวทปลิดดาวไว้ เวลาเดียวกันนั้นก็กลายเป็นลำแสงแห่งกลุ่มหมอกสีดำ พุ่งกลับไปยังหลู่ว์โหว

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้สายลมอันปั่นป่วนพุ่งขึ้นไป พลังแห่งการระเบิดตนเองจางหายไปในทันที และเมิ่งฮ่าวก็ก้าวเดินตรงไปยังกลุ่มหมอกสีดำ

กลุ่มหมอกสีดำเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว จนหลู่ว์โหวไม่ทันจะมีปฏิกิริยาใดๆ แทรกซึมเข้าไปในดวงตา หู จมูกและปาก ทำให้ร่างมันสั่นสะท้านและจากนั้นก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวขึ้นมา ราวกับว่ามันกำลังถูกยึดร่าง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่เข้าไปใกล้ กำลังจะขยับมือร่ายเวท แต่ใบหน้าหลู่ว์โหวก็ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกสีดำ ส่งเสียงแผดร้องอย่างบ้าคลั่งออกมา

จากนั้นพลังของมันก็พุ่งขึ้นไป ผิวกายเริ่มกลายเป็นสีเขียว และมีเกล็ดอ่อนๆ ขึ้นมา ศีรษะของมันแยกเปิดออก ขณะที่เขาแปดข้างเริ่มงอกออกมา ยิ่งไปกว่านั้นริมฝีปากของมันก็แยกออกเป็นสองส่วน ทำให้ปากมันมีรูปร่างเป็นสี่แฉก ในชั่วพริบตาร่างมันก็มีความสูงถึงสิบจ้าง

หนามแหลมที่ดูน่ากลัว แทงทะลุผ่านเสื้อผ้ามันออกมา อย่างน่าตกใจยิ่ง สิ่งที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ไม่ใช่ผู้ฝึกตนอีกต่อไป แต่เป็นสัตว์อสูรรูปร่างมนุษย์!

มันคือ…ชนเผ่านอกคอก!

ใบหน้าของผู้ฝึกตนอื่นๆ จากขุนเขาทะเลที่เจ็ดสลดลง และพวกมันก็เริ่มถอยไปทางด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าแม้แต่พวกมันก็ยังไม่รู้ถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของรอยสักศักดิ์สิทธิ์ของหลู่ว์โหว

มีแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะหวาดกลัว แต่เมิ่งฮ่าวก็มองเห็นได้ถึงความกระตือรือร้นและความจงรักภักดีที่มีต่อหลู่ว์โหวในรูปแบบนี้ ซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวเหล่านั้น

“เจ้าต้องตาย เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน!!” หลู่ว์โหวในรูปแบบสัตว์อสูรแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา ทำให้พลังของมันพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จากนั้นดวงตาก็กลายเป็นสีแดงก่ำ ดูเหมือนว่ามันจะสูญเสียสติไปแล้วโดยสิ้นเชิง ตกอยู่ในความบ้าคลั่งอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

———————

หมายเหตุ: (1) โหว (侯) หมายถึงขุนนางชั้นสูงของจีนโบราณเทียบได้กับชั้นพระยาของไทย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!