ตอนที่ 1312
ไป๋จู่กลายเป็นชนเผ่านอกคอก
“ทะเลประกอบด้วยสามเวท เวทแห่งปุถุชน, เวทแห่งขุนนาง, เวทแห่งจักรพรรดิ!” ไป๋จู่แผดร้องคำราม กฎธรรมชาติทั้งสามที่ตกลงมาดูเหมือนว่าจะสามารถหักล้างกฎธรรมชาติอื่นๆ ได้ทั้งหมด มีผลกระทบต่อจิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ขณะที่บดขยี้ลงมายังร่างเมิ่งฮ่าว
แสงแปลกๆ สาดประกายขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่โบกสะบัดมือออกไป เพื่อเรียกให้สุดยอดสะพานปรากฏขึ้น สุดยอดสะพานนี้แตกต่างออกไปจากสะพานที่เขาเคยเรียกมาก่อน เจตจำนงแห่งผู้ยิ่งใหญ่หมุนวนอยู่รอบๆ สะพาน ขณะที่ต่อสู้กลับไปยังเวททะเลทั้งสาม ทำให้เวทเหล่านั้นแตกกระจายไปในเวลาต่อมา
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าซีดขาวเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติแทบจะในทันที จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ร่างกายข้าจะเป็นส่วนที่อ่อนแอมากที่สุด” เขาพึมพำอยู่ภายในใจ ถึงแม้ว่ากายเนื้อจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อดับตะเกียงวิญญาณลงไป แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างเด่นชัดมากนัก กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวแทบจะบรรลุถึงขีดจำกัดแล้ว และไม่อาจจะทำให้ก้าวหน้าขึ้นไปได้อีกถ้าไม่ทำการทะลวงผ่านอย่างสมบูรณ์แบบ
ถ้าเขาเตรียมตัวเพื่อสร้างเป็นพลังสำหรับการทะลวงผ่านได้ กายเนื้อก็จะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่จะทำการทะลวงผ่าน พลังทั้งหมดเหล่านั้นต่างก็ไร้ประโยชน์ใดๆ
“กายเนื้ออาณาจักรเต๋าจำเป็นต้องใช้…โลหิตของเทพโบราณ” จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็คิดย้อนกลับไปในการทดสอบตอนที่อยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า และคำพูดของชายชราผู้ถ่ายทอดวิชาหมัดทำลายล้างทั้งสามให้กับตนเอง
“โลหิตเทพโบราณ…” จากนั้นก็คิดย้อนกลับไปตอนที่อยู่ในอาณาจักรสายลม อวี่เหวินเจียนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดเคยบอกว่ามีเทพโบราณอยู่ในสถานที่แห่งนั้น
ขณะที่ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นมาในจิตใจ โลหิตก็พุ่งกระจายออกมาจากปากของไป๋จู่ จากพลังสะท้อนกลับที่มันโจมตีไป เส้นผมกลายเป็นสีขาว และร่างกายก็แห้งเหี่ยวลงไป กลิ่นอายอ่อนแอลงในชั่วพริบตา เวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ทำงานขึ้นมาในทันที
แต่มันก็ตระหนักดีว่าไม่มีที่แห่งใดให้ตนเองหลบซ่อนตัวได้ ไม่มีเส้นทางให้หนีรอดจากไปได้ โอกาสที่จะมีชีวิตรอดอย่างริบหรี่ก็คือทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อต่อสู้ให้ถึงที่สุด
ไป๋จู่แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขยับสองมือร่ายเวทและพ่นโลหิตออกมาในเวลาเดียวกัน มันไม่ได้ใช้เวทคำสาปแช่งแห่งความตาย ที่เมิ่งฮ่าวเคยเอาชนะมาได้ในการต่อสู้ครั้งก่อน ตอนนี้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวแข็งแกร่งเช่นเดียวกับผู้ยิ่งใหญ่ การใช้เวทคำสาปแช่งแห่งความตายไปต่อต้านเขาคงไม่ได้ผลมากนัก
ไป๋จู่กัดฟันแน่น ชี้นิ้วตรงไปยังเมิ่งฮ่าวทั้งสองมือ ทันใดนั้นดาบและกระบี่ที่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมัน ก็เปล่งประกายเป็นแสงสีแดงและกลุ่มควันสีดำออกมา จนดูเหมือนว่าจะเชื่อมต่อเข้ากับสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านบนเหนือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ราวกับเป็นเปลวไฟปีศาจที่ทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลต้องสั่นสะท้าน และพลังแห่งการขับไล่ก็พุ่งขึ้นมา
แต่ขณะที่พลังแห่งการขับไล่ปรากฏขึ้น ไป๋จู่ก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ทันใดนั้นสิ่งที่คล้ายกับเป็นมงกุฎก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะของมัน ช่วยให้สามารถยืมพลังมาจากสามสิบสามสวรรค์ได้โดยตรงชั่วคราว!
“ตาย!” มันร้องตวาดขึ้น ดาบและกระบี่ส่งเสียงหึ่งๆ โดยพร้อมเพรียงกัน กระจายเป็นรังสีสังหารอันเข้มข้น ขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว!
ไป๋จู่รู้ว่าถึงแม้ดาบและกระบี่จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจจะสังหารเมิ่งฮ่าวได้ มันหัวเราะอย่างขมขื่น ดวงตาลุกโชนขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง ตัดสินใจทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อโจมตีไปเป็นครั้งสุดท้าย นี่คือการโจมตีที่จะตัดสินใจว่าเมิ่งฮ่าวหรือตนเองจะตายไป!
มันยกมือขวาชูสูงขึ้นไป และรอยสักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปีศาจก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีชีวิตขึ้นมา ดวงตาในรอยสักลืมขึ้นมาในทันที ทำให้กลิ่นอายอันชั่วร้ายปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
เสียงแผดร้องคำรามที่แทบจะไม่ได้ยิน ดังก้องออกมาจากสามสิบสามสวรรค์ ที่อยู่เหนือท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวขึ้นไป พุ่งผ่านเกราะป้องกันตกลงมายังตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวและไป๋จู่กำลังต่อสู้กันอยู่!
เสียงแผดร้องคำรามนั้นไม่ได้ดังมาจากเต้าฟาง ซึ่งเคยปรากฏตัวขึ้นในการต่อสู้ครั้งที่แล้วของคนทั้งสอง!
มันดังออกมาจากวิญญาณดวงอื่น!
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าเปลี่ยนไป และแสงแปลกๆ ก็สาดประกายขึ้นในดวงตา หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก็หันหน้ามองไปยังดาบและกระบี่ที่ใกล้เข้ามา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปทำท่าคว้าจับ ดาบและกระบี่เริ่มสั่นไปมาในทันที
จากนั้นดาบสั้นเริ่มเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นมา และทันใดนั้นก็ละลายกลายเป็นของเหลวพุ่งกระจายออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงการคว้าจับของเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็กลายเป็นโครงร่างของสัตว์อสูรขนาดใหญ่บางอย่าง
มันคือจิ้งเหลนที่ดุร้าย ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมนับไม่ถ้วนที่ส่องแสงอันเจิดจ้าหนาวเย็นออกมา จิ้งเหลนแผดร้องคำรามขณะที่พุ่งมาโจมตีเมิ่งฮ่าว
สำหรับกระบี่สั้น มันก็ละลายไปด้วยเช่นกัน กลายเป็นมังกรสีเงิน พุ่งตรงมาพร้อมกับเสียงแผดร้องคำราม
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา เลื่อนสายตาจากไป๋จู่มายังจิ้งเหลนและมังกรเงิน เวลาเดียวกันนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ระเบิดออกไป กลายเป็นพลังบดขยี้กดทับลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ทุกสิ่งทุกอย่างบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น จิ้งเหลนยักษ์สั่นสะท้านและส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ขณะที่ร่างมันถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ
สำหรับมังกรเงิน ก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ไม่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กลับมาแม้แต่น้อย และแตกกระจายไปในทันที
ดาบถูกทำลาย และกระบี่ก็ถูกบดขยี้ไป!
พวกมันเป็นของวิเศษอันล้ำค่าที่ไป๋จู่เตรียมมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้ต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว แต่ตอนนี้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ยิ่งใหญ่แปดในสิบส่วน ก็ทำให้ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวไปมา และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็บดขยี้ลงมา
เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ม้วนกวาดตรงไปยังเศษชิ้นส่วนของดาบและกระบี่ ทำให้พวกมันกระจัดกระจายออกไป
เวลาเดียวกันนั้นไป๋จู่ก็กู่ร้องออกมา เป็นเสียงที่ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน จากนั้นเสียงแผดร้องคำรามที่ดังออกมาจากสามสิบสามสวรรค์ที่อยู่สูงขึ้นไปจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนไปมา
วิญญาณอันดุร้ายบนหลังมือของไป๋จู่ยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่เมิ่งฮ่าวเพ่งมองไป มันก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในรูปแบบของภูตผี ซึ่งไม่ได้โจมตีมายังเมิ่งฮ่าว แต่หมุนตัวมุดเข้าไปในร่างของไป๋จู่
ร่างไป๋จู่กระตุกไปมา จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องออกมา
กรรรรรรร!!
ร่างมันเริ่มขยายขนาดขึ้น ในชั่วพริบตาก็สูงนับสิบจ้าง จากนั้นก็หนึ่งร้อยจ้าง ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ และเปล่งประกายด้วยความบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าจิตวิญญาณของมันถูกบดขยี้ไปในทันที และกลายเป็นบ้าไปโดยสิ้นเชิง
หนามจำนวนมากงอกยาวออกมาจากม่านตาของมัน และผิวหนังก็มีเกล็ดแผ่กระจายปกคลุมไปทั่ว ทำให้ดูน่ากลัวอย่างถึงที่สุด ใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มันใช้กำปั้นทุบลงไปที่หน้าอกของตนเอง เวลาเดียวกันนั้นก็มีหางงอกยาวออกมาจากด้านหลัง เมือกที่ข้นเหนียวปกคลุมไปทั่วร่างมัน
เขาอันดุร้ายงอกออกมาจากศีรษะของมัน กลิ่นอายระเบิดออกไปจนถึงระดับที่สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน
กลิ่นอายนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่กลิ่นอายของอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่เป็นกลิ่นอายของชนเผ่านอกคอกจากสามสิบสามสวรรค์!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าวเคยเห็นเรื่องเช่นนี้มา ย้อนกลับไปตอนที่เขาต่อสู้กับหลู่ว์โหว ก็มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามพลังของไป๋จู่ที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้ก็สูงเกินกว่าสิ่งที่เขาเคยเห็นมาก่อน
แต่…ไม่มีพลังขับไล่กระจายออกมาจากขุนเขาทะเล มงกุฏนั้นยังคงส่องแสงระยิบระยับอยู่บนศีรษะของมัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำให้เกิดเป็นเจตจำนงที่แปลกๆ เต็มอยู่ในบริเวณนั้น แยกมันออกมาจากอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้ไม่อาจจะรับรู้ถึงการคงอยู่ของมันได้!
เห็นได้ชัดว่าศักดิ์ฐานะของไป๋จู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้!
“ตาย, ตาย, ตาย!” ไป๋จู่ร้องตวาดขึ้น เห็นได้ชัดว่าไป๋จู่มีการเชื่อมต่ออย่างแปลกๆ กับสามสิบสามสวรรค์ เป็นการเชื่อมต่อที่เมิ่งฮ่าวสามารถรับรู้ได้ ทำให้ต้องขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจมากนัก
หลังจากที่ต่อสู้กับหลู่ว์โหว เมิ่งฮ่าวก็สรุปได้อย่างง่ายดายว่าไป๋จู่ต้องมีวิชาเวทเช่นเดียวกับมัน แน่นอนว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปอย่างมากมายจนยากที่จะเข้าใจได้ ดังนั้นไป๋จู่จึงไม่ยอมใช้ออกมา จนกระทั่งเป็นโอกาสเดียวที่มันจะรอดชีวิตได้เท่านั้น จริงๆ แล้วค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปนั้น ก็สูงลิ่วจนมันเลือกที่จะหลบหนีจากไปในช่วงของการต่อสู้เมื่อครั้งก่อน
แต่ตอนนี้รอยแตกหายไปแล้ว และพลังของเมิ่งฮ่าวก็ทำให้มันต้องรู้สึกสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง มันรู้ว่าวันนี้…คงจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตเหลืออยู่ จนกว่าตนเองจะทุ่มออกมาอย่างสุดตัวเท่านั้น!
กรรรรรรร!
ไป๋จู่กลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งฝ่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ในชั่วพริบตาก็ไปอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ยื่นมือที่คล้ายกับเป็นกรงเล็บออกไป
ตูม!
กรงเล็บของมันกรีดเฉือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยพลังทำลายล้าง ถึงแม้ว่าพลังที่ระเบิดออกมานั้นจะเทียบไม่ได้กับระดับหกแก่นแท้ แต่ก็ใกล้เคียงกันอย่างถึงที่สุด
ขณะที่กรงเล็บเข้ามาใกล้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น และสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ม้วนตัวออกไป พลังแปดในสิบส่วนของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่บดขยี้ลงไปบนร่างไป๋จู่ ทำให้ร่างมันสั่นสะท้านหยุดชะงักนิ่งในทันที
ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยกมือขวาขึ้นมา และกระจกทองแดงก็ปรากฏขึ้น กลายเป็นอาวุธสงครามในทันที อาวุธสงครามในตอนนี้มีความคมกริบมากขึ้นกว่าเดิม และดูแตกต่างออกไปเช่นเดียวกัน
กลิ่นอายอันน่ากลัวที่ปกคลุมอยู่รอบๆ ก็ดูแข็งแกร่ง และใบมีดก็เปล่งแสงระยิบระยับพุ่งตรงไปยังไป๋จู่ที่อยู่ห่างออกไปสิบจ้างจนมันต้องแผดร้องคำรามออกมา
หน้าอกมันเกิดเป็นบาดแผลปรากฏขึ้น แต่น่าแปลกที่ไม่มีโลหิตไหลออกมา มันแผดร้องอย่างบ้าคลั่งพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ในขณะที่เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา และส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปบดขยี้มันอีกครั้ง
เสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่ไป๋จู่หยุดชะงักนิ่งไปอีกครั้ง ด้วยแรงกดดันอันน่ากลัวจากเมิ่งฮ่าว มันพยายามจะต่อสู้กลับไป แต่ก็ไร้ประโยชน์ใดๆ และกำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่างอยู่ในตอนนี้
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น และเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว อาวุธสงครามกรีดเฉือนผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้เกิดเป็นแสงเจิดจ้าจนดูเหมือนว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจะถูกกรีดผ่าออกไป
พลังอันมหาศาลกรีดเฉือนตรงไปยังไป๋จู่ ตัดร่างมันออกเป็นสองส่วนอย่างหมดจด ถึงจะไม่มีโลหิตพุ่งกระจายออกมาเหมือนเช่นเคย แต่มันก็แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างแท้จริงก็คือ ร่างกายสองส่วนของมันกระตุกไปมา และกลายเป็นไป๋จู่สองคน จากนั้นก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างบ้าคลั่งจากสองทิศทางที่แตกต่างกัน
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป และใช้อาวุธสงครามโจมตีไปอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ของการกรีดเฉือนลงไปนั้นก็คือมีไป๋จู่อยู่สี่คนในตอนนี้!
“ฆ่าไม่ตาย สังหารไม่ได้?” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา ขณะที่เก็บอาวุธสงครามไว้ จากนั้นก็ขยับมือร่ายเวทและชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นสุดยอดสะพานก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม กระจายพลังระดับหกแก่นแท้ออกไป ทำให้ไป๋จู่ทั้งสี่คนถูกบดขยี้จนแตกกระจายไป
ตูมมมมมมม…
อย่างไรก็ตามขณะที่พวกมันแตกกระจายไป เมิ่งฮ่าวก็ขมวดคิ้วลึกมากขึ้น ที่เบื้องหน้าในตอนนี้ เศษชิ้นส่วนที่คล้ายกับฝุ่นธุลีนับไม่ถ้วนกลับมารวมตัวกัน และครั้งนี้ ไม่ได้มีไป๋จู่แค่สี่คน แต่เป็น…สิบกว่าคน!
“ตาย, ตาย, ตาย!” ไป๋จู่ทั้งหมดร้องตวาดขึ้น และพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวจากทั่วทุกทิศทาง