ตอนที่ 1313
ถ้าเจ้าสังหารมัน สงครามก็จะเริ่มขึ้น
เมิ่งฮ่าวมองไปยังไป๋จู่นับสิบเหล่านั้น ด้วยแววตาที่สาดประกายวาววับ
“ฆ่าไม่ตาย สังหารไม่ได้ เนื่องมาจากพลังชีวิตของเจ้า?” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือออกไปในทันที เรียกกระจกทองแดงออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ให้มันกลายร่างเป็นอาวุธสงคราม แต่ยื่นมือซ้ายล้วงเข้าไปในตัวกระจกจนลึก!
กระจกทองแดงคล้ายกับเป็นหลุมดำ กลืนกินมือของเมิ่งฮ่าวไปจนหมดสิ้น เวลาเดียวกันนั้นกระจกก็สั่นสะท้าน ราวกับว่ามีพลังมหาศาลกำลังพลุ่งพล่านขึ้นมาอยู่ภายใน เกิดเป็นเสียงแผดร้องคำรามจำนวนมากดังก้องออกมา เสียงเหล่านั้นทำให้สีหน้าของไป๋จู่ทั้งหมดต้องเปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นบริเวณที่ก่อนหน้านี้ถูกไป๋จู่ตัดขาดออกไปจากอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการพังทลายลงไป
“เยาปิงฮวงจ่ง (อาวุธอสูรสุสานเดียวดาย)…ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เจ้าจะปรากฏขึ้นในโลกนี้อย่างแท้จริงแล้ว!” จากระดับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ทำให้รู้สึกได้ว่า…ตนเองสามารถจะดึงเศษชิ้นส่วนของกระจกที่เคยได้มาตอนที่อยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงสิ่งที่อยู่ด้านในของมันซึ่งก็คือเยาปิงฮวงจ่ง!
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่อาวุธอสูรที่ไม่สมบูรณ์ เหมือนตอนที่เขาเอาออกมาต่อสู้กับไป๋จู่ นี่คือ…อาวุธอสูรสุสานเดียวดายที่แท้จริง!
โลกในกระจกทองแดงเป็นสิ่งที่บุคคลภายนอกไม่อาจจะมองเห็นได้ ลึกลงไปในกระจกเป็นสนามรบโบราณ เต็มไปด้วยซากศพที่กองซ้อนทับกันจนคล้ายภูเขา ในท่ามกลางซากศพเหล่านั้นเป็นกลุ่มหมอกสีดำที่พลุ่งพล่านปั่นป่วน ภายในของมันเป็นหอกยาวสีดำที่เปล่งประกายความบ้าคลั่งดุร้ายออกมา
และยังมีกลิ่นอายอันน่ากลัวอย่างรุนแรงกระเพื่อมออกมาอีกด้วย ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ราวกับว่าวิญญาณที่ถูกหอกเล่มนี้สังหารไปตลอดหลายปีนั้นไม่อาจจะนับได้อย่างแท้จริง…
ทันใดนั้นหัตถ์ยักษ์ก็ยื่นลงมาจากท้องฟ้าของโลกแห่งนั้น ซึ่งก็คือมือของเมิ่งฮ่าว พุ่งผ่านกลุ่มหมอกสีดำและคว้าจับไปยังเยาปิงฮวงจ่ง
เสียงหึ่งๆ ด้วยความตื่นเต้นดังขึ้นมาจากตัวหอก ราวกับว่ามันสามารถจะรับรู้ได้ถึงความผันผวนแห่งพันธมิตรผู้ผนึกอสูร มันเฝ้ารอคอยมามากกว่าหนึ่งหมื่นปี…เพื่อให้ผู้ฝึกตนแห่งพันธมิตรมาปลดปล่อยมันออกไปอีกครั้ง!
มือข้างนั้นคว้าจับไปรอบๆ เยาปิงฮวงจ่ง จากนั้นก็ดึงมันขึ้นไปในท้องฟ้า…
ที่ด้านนอกของขุนเขาทะเลที่แปด มือของเมิ่งฮ่าวค่อยๆ โผล่ออกมาจากกระจกทองแดง พร้อมกับเสียงกระหึ่มและแสงเจิดจ้าที่กำลังกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง
ยังมีกลุ่มหมอกสีดำม้วนตัวออกมาเป็นจำนวนมากอีกด้วย ปกคลุมไปทั่วในบริเวณนั้นด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัว ราวกับว่าวิญญาณไร้ร่างนับไม่ถ้วนกำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เสียงกระหึ่มได้ยินมา ขณะที่มือของเมิ่งฮ่าวโผล่ออกมา พร้อมกับหอกยาวสีดำ ในที่สุดเยาปิงฮวงจ่ง…ก็กลับเข้าสู่อาณาจักรขุนเขาทะเล!
มันมีความยาวถึงสามจ้างเป็นสีดำสนิทไปโดยสิ้นเชิง และถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกสีดำที่หมุนวนไปมา และภาพของวิญญาณพยาบาทนับไม่ถ้วน กลิ่นอายอันน่ากลัวของมันประกอบไปด้วยแรงกดดันอันน่าตกใจ จนทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือน ราวกับว่าชีวิตทั้งปวงในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ และถูกเยาปิงฮวงจ่งที่ปรากฏขึ้นมาใหม่นี้กลืนกินลงไป!
ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือ หลังจากที่กลืนกินพลังชีวิตเหล่านั้นเข้าไปแล้ว กลิ่นอายอันน่ากลัวของอาวุธอสูรก็เริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ยิ่งมันมีความต้องการมากขึ้น ก็ยิ่งกระหายมากขึ้น ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนอย่างรุนแรง
ไป๋จู่ทั้งสิบกว่าคนเริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรง สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจและตื่นตระหนก
“พลังชีวิตที่ไม่ตาย สังหารไม่ได้…?” เมิ่งฮ่าวกล่าว ริมฝีปากบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา เดินตรงไปหนึ่งก้าว และเยาปิงฮวงจ่งก็กลายเป็นสายฟ้าสีดำพุ่งออกไป
มันเป็นแค่หอกหนึ่งเล่มเท่านั้น แต่เมื่อแทงเข้าไปในหน้าผากของไป๋จู่ผู้หนึ่ง เมื่อพุ่งผ่านออกไป ร่างของมันก็แห้งเหี่ยวลง ในชั่วพริบตาร่างนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ พลังชีวิตของมันถูกเยาปิงฮวงจ่งดูดกลืนเข้าไปโดยสิ้นเชิง
อาวุธอสูรที่ก่อนหน้านี้เป็นสีดำสนิท ทันใดนั้นก็เปล่งประกายสีโลหิตออกมา จนดูเหมือนว่าจะปกคลุมไปด้วยสีม่วง!
เวลาเดียวกันนั้น ไป๋จู่ที่เหลืออยู่ทั้งหมด ในที่สุดก็หลุดพ้นเป็นอิสระออกมาจากเวทผนึก และเริ่มกระจัดกระจาย หลบหนีออกไปในทั่วทุกทิศทาง
“เจ้าไม่มีทางหนีพ้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ แต่ก็ไม่ได้ไล่ตาม แสงสีโลหิตที่อยู่รอบๆ เยาปิงฮวงจ่งกลายเป็นลำแสงสีโลหิต พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว จนทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่ม ขณะที่เกราะป้องกันซึ่งไป๋จู่สร้างขึ้นมาแตกกระจายออกไป ทันใดนั้นพลังแห่งขุนเขาทะเลก็รับรู้ได้ถึงการคงอยู่ของชนเผ่านอกคอก และด้วยเช่นนั้นก็ทำให้ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลเริ่มสะสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง
บนจุดสูงสุดของเก้าขุนเขา เต่าเสวียนอู่ที่อยู่ในสระสวรรค์ทั้งเก้า ต่างก็ผงกศีรษะขึ้นไปและกู่ร้องออกมา ขุนเขาทะเลสั่นสะเทือน และราชันแห่งขุนเขาทะเลทั้งปวง ก็รับรู้ได้ถึงเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลในทันที!
“กลุ่มคนนอกคอกต้องถูกสังหารไป!!” คำพูดเหล่านี้ดังกระหึ่มขึ้นมาในจิตใจของราชันแห่งขุนเขาทะเล บนขุนเขาที่เก้า ดวงตาจี้เทียนสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่มองไปยังทิศทางของขุนเขาทะเลที่แปด
บนขุนเขาที่แปด ไว่กงของเมิ่งฮ่าว ซึ่งเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด กำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง มือของท่านกำลังสั่นไปมา และกลิ่นอายอันน่ากลัวกำลังปะทุขึ้นมาจากภายในร่าง ขณะที่ดวงตาค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ!
ในขุนเขาทะเลที่หก ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต่างก็มารวมตัวกันจนกลายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ เดินตรงเข้าไปในรอยแตกที่เชื่อมต่อกับขุนเขาทะเลที่ห้า ไม่เพียงแต่ขุนเขาทะเลที่แปดเท่านั้นที่กำลังมีสงครามเกิดขึ้น และราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดก็ไม่ใช่ผู้ทรยศเพียงคนเดียวเท่านั้น!
ยังมีผู้ทรยศอื่นอีก…ราชันแห่งขุนขาทะเลที่หก!
เกิดสงครามขึ้นในขุนเขาทะเลที่ห้า และสองราชันแห่งขุนเขาทะเลก็ระเบิดเป็นพลังออกมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะยังไม่เริ่มต่อสู้กัน แต่กำลังเผชิญหน้ากันแล้วในตอนนี้
ในตอนนั้นเองที่พวกมันได้ยินเสียงของอาณาจักรขุนเขาทะเล
ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังสั่นสะเทือน และสีหน้านับไม่ถ้วนก็เปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึง
พลังอันน่าประหลาดใจพุ่งขึ้นไป ปกคลุมอยู่ตรงตำแหน่งของเมิ่งฮ่าวที่อยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด จากนั้นก็บดขยี้ลงไปบนร่างของไป๋จู่ที่กำลังหลบหนีจากไป
นั่นคือเป้าหมายหลักของเมิ่งฮ่าว เขาต้องการตัดพลังที่ไป๋จู่ใช้ออกมา อันเนื่องมาจากศักดิ์ฐานะที่เป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดของมัน ทำให้สามารถจะป้องกันเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลไว้ได้ เมื่อไหร่ที่กลิ่นอายคนนอกคอกของมันกระจายออกไป และถูกตรวจจับได้ การสังหารมันไปก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
จริงๆ แล้วตอนนี้เมิ่งฮ่าวไม่จำเป็นต้องโจมตีไปแม้แต่น้อย พลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลจะสังหารไป๋จู่แทนเขาเอง!
ในท่ามกลางเสียงกระหึ่มกึกก้อง ไป๋จู่ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ขณะที่เจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลตกลงมา แต่ขณะที่มันกำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือน ขณะที่แรงกดดันอันมหาศาลตกลงมาจากสามสิบสามสวรรค์ที่ด้านบน
เวลาเดียวกันนั้น ร่างแหสีทองขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล ที่สูงขึ้นไปจากร่างแห มองเห็นดินแดนจำนวนมากซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายกับเจดีย์ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบนดินแดนขนาดใหญ่ชั้นแรก ที่อยู่ใกล้กับอาณาจักรขุนเขาทะเลมากที่สุดนั้น เต็มไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ รวมทั้งกลุ่มผู้ฝึกตนที่มีสีหน้าโหดเหี้ยมและเย่อหยิ่ง
นี่คือสวรรค์ชั้นแรกแห่งสามสิบสามสวรรค์ มองเห็นภาพเช่นเดียวกันนี้บนสวรรค์ชั้นที่สอง, ชั้นที่สาม และดินแดนอันกว้างใหญ่อื่นๆ ที่ซ้อนสูงขึ้นไป นอกจากนี้ก็ราวกับว่าผู้ฝึกตนเพิ่งจะเริ่มมารวมตัวกัน และต้องใช้เวลานานหลายปีก่อนที่จะรวมกองกำลังขนาดใหญ่ได้เสร็จสิ้น
นอกจากนี้ สวรรค์แต่ละชั้นเหล่านั้นต่างก็มีขนาดเท่ากับอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด!
เหนือร่างแหสีทองขนาดใหญ่นั้น เป็นเงาร่างๆ หนึ่งที่อยู่ในชุดเกราะนักรบสีทอง กำลังลอยตัวอยู่ตรงด้านบนของสวรรค์ชั้นแรก จ้องมองลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล ทันใดนั้นมันก็ร้องตะโกนขึ้นด้วยโทสะว่า “อาณาจักรขุนเขาทะเล ถ้าเจ้าบังอาจสังหารคนจากสวรรค์ชั้นแรกของข้า สงครามก็จะเกิดเร็วขึ้น!”
เงาร่างนั้นดูคล้ายกับเป็นผู้ฝึกตน ยกเว้นว่าร่างกายของมันปกคลุมเต็มไปด้วยเกล็ด และมีหางงอกยาวออกมาจากด้านหลัง มีเขาอันดุร้ายงอกออกมาจากศีรษะสองข้าง และดวงตาก็เย็นชาราวน้ำแข็ง
“ปล่อยมันไป และข้าก็จะทำเป็นไม่รู้ว่าเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น อาณาจักรขุนเขาทะเลก็จะมีเวลาเตรียมตัวอีกหลายปี สงครามระหว่างพวกเรากำลังใกล้เข้ามาแล้ว และจะจบลงด้วย ไม่ขุนเขาทะเลก็สามสิบสามสวรรค์ของพวกข้าที่จะถูกกำจัดออกไป!”
“เจ้าต้องการให้เกิดสงครามขึ้นในตอนนี้ หรืออีกหลายปีนับจากนี้? ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นกับคำพูดเพียงประโยคเดียวของเจ้า อาณาจักรขุนเขาทะเล!”
เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงนั้น แทงทะลุเข้ามาในอาณาจักรขุนเขาทะเล ระเบิดเข้าไปในขุนเขาทะเลที่แปด แต่ผู้ฝึกตนในอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็ได้ยินเสียงที่ดังก้องนั้นพร้อมกันทั้งหมด
อันที่จริงผู้ฝึกตนใดๆ ก็ตามที่อยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเล ถ้ามีใครมองขึ้นไปก็จะมองเห็นร่างแหขนาดใหญ่ที่กระจายออกไปทั่วตรงด้านบน และสามสิบสามสวรรค์ที่อยู่สูงกว่าขึ้นไป!!
ทั่วทั้งอาณาจักรตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง!
ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือเกี่ยวกับสามสิบสามสวรรค์แพร่กระจายออกไปนานแล้ว และผู้คนมากมายก็เคยรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ในตอนนี้คนทั้งหมดต่างก็ประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำพูดของคนนอกคอกในชุดเกราะสีทองจากสวรรค์ชั้นแรก
มันคือคำข่มขู่อย่างหน้าด้านๆ!
มันกำลังข่มขู่เจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างเปิดเผยว่า ถ้าบังอาจสังหารไป๋จู่ สงครามแห่งการกวาดล้างจนสิ้นซากก็จะเกิดขึ้นก่อนกำหนด!
เมิ่งฮ่าวกำลังสะท้านใจ และแสงอันเจิดจ้าก็สาดประกายขึ้นมาในดวงตา เขาไม่เคยคาดคิดว่าการสังหารไป๋จู่จะไปกระตุ้นให้สามสิบสามสวรรค์เกิดปฏิกิริยาเช่นนี้ขึ้นมาได้ จนทำให้พวกมันยินดีที่จะทำสงครามก่อนกำหนด!!
ทันใดนั้นเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็นิ่งเงียบไป และหยุดความพยายามที่จะสังหารไป๋จู่ เวลาเดียวกันนั้นไป๋จู่ที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็รวมตัวเข้าด้วยกันจนกลายเป็นร่างเดิม ใบหน้าซีดขาวและกำลังสั่นสะท้าน แต่การที่มันเพิ่งจะรอดชีวิตมาได้ ก็ทำให้แววตาต้องสาดประกายขึ้นด้วยความอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่ง!
เจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลตกอยู่ในความเงียบ เต่าเสวียนอู่บนขุนเขาทั้งเก้าเริ่มเงียบลง ราชันแห่งขุนเขาทะเลไม่มีใครพูดออกมา ผู้ฝึกตนทั้งหมด ไม่ว่าพวกมันกำลังต่อสู้อยู่ในสนามรบ หรืออยู่ที่ไหนก็ตามที ต่างก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง และจ้องมองขึ้นไปเหนือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยสีหน้าที่สับสน
ไม่มีใครพร้อมที่จะทำสงครามเช่นนี้ และจริงๆ แล้ว พวกมันส่วนใหญ่ก็ไม่เคยตระหนักว่าสงครามกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
แต่…สามสิบสามสวรรค์ ถึงแม้ว่าจะยังเตรียมตัวไม่พร้อมเต็มที่ แต่ก็เริ่มรวบรวมกองกำลังกันแล้ว ถ้าพวกมันยังคงต้องการเวลาสำหรับการเตรียมตัว อาณาจักรขุนเขาทะเลก็ยิ่งต้องการด้วยเช่นกัน
เมิ่งฮ่าวก็เงียบลงไปเช่นเดียวกัน นี่คือการตัดสินใจเพื่อความอยู่รอดของอาณาจักรขุนเขาทะเลเอง ตอนแรกเขาคิดจะปล่อยให้ไป๋จู่จากไป เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่จะเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร นอกจากนั้น เขาก็ยังเตรียมตัวมาไม่ดีพอที่จะต่อสู้กับสามสิบสามสวรรค์ในตอนนี้
เสียงแค่นเย็นชาดังก้องออกมาจากสามสิบสามสวรรค์ และหัตถ์ยักษ์สีดำก็พุ่งฝ่าลงมาจากร่างแหสีทอง ตกลงมายังขุนเขาทะเลที่แปด คว้าจับร่างไป๋จู่และจากนั้นก็ดึงมันขึ้นไปอย่างช้าๆ
เรื่องนี้ถูกตัดสินใจไปแล้ว อาณาจักรขุนเขาทะเลไม่กล้าจะโจมตีไป ไม่กล้าที่จะเริ่มสงครามก่อนเวลาอันควร นั่นเป็นสงครามที่ตัดสินโชคชะตาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้ และไม่มีใครเชื่อมั่นอย่าเพียงพอที่จะเริ่มมันก่อน
อย่างไรก็ตาม…มีบางสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นมาในทันที!!
——————–
หมายเหตุ: ประมาณตอนที่ 618: กระจกซานไห่! เมิ่งฮ่าวได้เศษชิ้นส่วนของกระจกตอนที่อยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณ