ตอนที่ 1315
ไป๋จู่แตกดับ สงครามเริ่มขึ้น
“ไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ พวกเราก็จะสู้!”
“เมื่อพวกมันยังไม่พร้อม…พวกเราก็ต้องโจมตีในตอนนี้!”
“สงครามครั้งแรกหรือแม้แต่สงครามครั้งนี้ จะเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด แต่ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องเกิดขึ้น จึงไม่ต้องเตรียมตัวอีกแล้ว!”
เสียงตะโกนนับไม่ถ้วนดังขึ้นมาจากทุกส่วนของอาณาจักรขุนเขาทะเล ขณะที่ดังก้องอยู่นั้น เมิ่งฮ่าวยังคงสงบนิ่ง แต่ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความต้องการต่อสู้อย่างรุนแรง
“บางทีหลังจากที่เตรียมตัวแล้ว ข้าอาจจะมีพลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลเพิ่มขึ้นมา แต่…ตอนนั้นสองกองกำลังอันน่ากลัวก็จะมาถึง” เมิ่งฮ่าวคิด
“เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงไม่สู้ในตอนนี้? ถ้าพวกเราสามารถจะกวาดล้างสามสิบสามสวรรค์ได้ก่อนที่อีกสองกำลังจะมาถึง…บางทีอาจจะชนะก็เป็นได้!”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิดอย่างเงียบๆ เขามองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ยังหัตถ์ยักษ์ในชุดเกราะสีทองที่ยังคงคว้าจับตัวไป๋จู่ไว้ เขาไม่ร้องตะโกนว่าต้องการจะต่อสู้ แต่ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่ากับแปดในสิบส่วนของผู้ยิ่งใหญ่ ให้ระเบิดเป็นพลังดังกระหึ่มกึกก้องออกไป
ถ้าสงครามกำลังจะเริ่มขึ้น ไป๋จู่ก็จะช่วยให้อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของ
เมิ่งฮ่าวก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น…เขาต้องไม่ปล่อยให้มันหนีรอดจากไปได้ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงไปยังไป๋จู่ในทันที…
คนนอกคอกในชุดเกราะสีทองจากสวรรค์ชั้นแรกมีสีหน้าตกตะลึง ปฏิกิริยาของผู้ฝึกตนทั้งหมดแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อ
เวลาเดียวกันนั้นก็พยายามจะฉุดดึงไป๋จู่ออกมาจากอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวกลายเป็นใบมีดขนาดใหญ่ที่สามารถจะผ่าสวรรค์ให้ขาดออกเป็นสองส่วนได้ กรีดเฉือนลงไปยังแขนของมันด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
“เจ้าเป็นแค่แสงหิ่งห้อยที่มาต่อสู้กับดวงตะวันและจันทราเท่านั้น!”
คนนอกคอกในชุดเกราะสีทองกล่าวขึ้นพร้อมกับแค่นเสียงเย็นชา ประกายสีทองเริ่มส่องแสงเจิดจ้าออกมาจากมือของมัน ราวกับว่าไม่สนใจสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว และดึงไป๋จู่ขึ้นมาต่อไป
แต่ขณะที่คำพูดของมันดังก้องออกมา
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นใบมีดของเมิ่งฮ่าวก็กรีดเฉือนเข้าไปในแสงสีทองนั้น ทำให้แสงนั้นบิดเบี้ยวไปมาและเริ่มสั่นสะท้านขึ้น เห็นได้ชัดว่าแทบจะแตกกระจายออกไปได้ทุกเมื่อ!
“นั่นคือ…” คนนอกคอกในชุดเกราะสีทองร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาเบิกกว้างขึ้นและจิตใจกำลังหมุนคว้าง
คมมีดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวกรีดผ่านแสงสีทองเข้าไปยังแขนขนาดใหญ่ของคนนอกคอกในชุดเกราะสีทอง เสียงแตกร้าวดังก้องขึ้นขณะที่ชุดเกราะสีทองแตกกระจายออกไป เผยให้เห็นถึงแขนที่เต็มไปด้วยเกล็ดของมัน
แขนข้างนั้นสั่นสะท้านขณะที่คมมีดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวกรีดเฉือนเข้าไป แขนของมันไม่อาจจะต่อต้านได้ ในชั่วพริบตาก็ถูกตัดออกจนขาดสะบั้นไป!!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ขณะที่เริ่มตัดแขนข้างนั้นลงมา และจากนั้นก็ร้องตะโกนออกไปราวกับเป็นเสียงฟ้าร้องคำราม “คนนอกคอกที่บุกรุกเข้ามาต้องตาย!”
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปมาอยู่ในสวรรค์ชั้นแรก ดวงตาของคนนอกคอกในชุดเกราะสีทองเบิกกว้างขึ้น ขณะที่ความเจ็บปวดจากแขนที่ถูกตัดออกไปพุ่งขึ้นมา จิตใจมันเริ่มเต้นรัวขณะที่ตระหนักว่าการใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวด้วยระดับพลังเช่นนั้น ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาโดยสิ้นเชิง
“ผู้ยิ่งใหญ่! นั่นเป็นพลังของผู้ยิ่งใหญ่ เจ้า เจ้า…เจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่!!” คนนอกคอกในชุดเกราะสีทองร้องตะโกนขึ้น
ผู้ฝึกตนนอกคอกอื่นๆ จากสวรรค์ชั้นแรกต่างก็อ้าปากค้าง ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ย้อนกลับไปในอาณาจักรขุนเขาทะเล
แขนที่ถูกตัดไปข้างนั้นค่อยๆ ปล่อยร่างไป๋จู่อย่างช้าๆ ซึ่งในตอนนี้กำลังหันหน้ามาเผชิญกับเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าตกใจและสิ้นหวัง
“ผู้ทรยศอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องตาย!” เมิ่งฮ่าวยกเยาปิงฮวงจ่งขึ้นมา จากนั้นก็ซัดตรงไปยังไป๋จู่ด้วยความรวดเร็วราวสายฟ้า ในชั่วพริบตาหอกเล่มนั้นก็แทงทะลุเข้าไปในหน้าผากของไป๋จู่
เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนดังก้องไปทั่ว แววตาไป๋จู่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่งุนงงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ศีรษะจะระเบิดออกไป ตามมาด้วยร่างกายของมัน!
ไป๋จู่แห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดตกตายไป!!
เมื่อไป๋จู่ตายไป มงกุฎที่มันสวมอยู่ก็เริ่มตกลงมา เกิดเป็นเสียงแตกร้าวขึ้น ขณะที่มงกุฎนั้นแตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ เวลาเดียวกันนั้นราชวังของไป๋จู่ที่อยู่บนขุนเขาที่เจ็ดก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป ราวกับว่าถูกบดขยี้โดยหัตถ์ยักษ์!
สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็คือ มงกุฎหนึ่งองค์ที่ลอยลงไปอยู่ตรงจุดสูงสุดของขุนเขาที่เจ็ด เฝ้ารอคอย…ให้ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดคนใหม่ปรากฏตัวขึ้น!
ในสระสวรรค์ที่อยู่บนขุนเขาที่เจ็ด ดวงตาเต่าเสวียนอู่สาดประกายขึ้นด้วยแสงสีขาว เห็นได้ชัดว่าการเชื่อมต่อที่ถูกผนึกไว้กับราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดได้หายไปแล้วในตอนนี้
พลังอันไร้ขอบเขตของขุนเขาทะเล เริ่มกระจายออกมาจากมงกุฎ เต็มไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เจ็ด เวลาเดียวกันนั้นผู้ฝึกตนทั้งหมดที่ถือกำเนิดอยู่ในขุนเขาทะเลที่เจ็ดก็รู้สึกได้ถึงพลังนั้น และสามารถจะบอกได้ว่า…
ตอนนี้เมื่อตำแหน่งราชันว่างลง ก็สามารถจะไขว่คว้าแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ได้!
เวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในขุนเขาทะเลที่แปด…ในตอนที่ไป๋จู่ตายไป ซากศพของมันก็กลายเป็นปราณและโลหิตจำนวนมาก บางส่วนก็ถูกเยาปิงฮวงจ่งดูดซับเข้าไป แต่พลังส่วนใหญ่ก็กลายเป็นเส้นใยกลุ่มหมอกสีขาว ที่เมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปผ่านทางดวงตา หู จมูกและปาก
นอกจากนั้นตรงจุดที่ไป๋จู่ตายไป ปรากฏเป็นใบไม้สีเขียวขึ้นหนึ่งใบ และเริ่มกระจายเป็นแสงอันเจิดจ้าออกมา ราวกับว่าวิชาเวทกำลังก่อตัวขึ้นมา เวลาเดียวกันนั้น อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเมิ่งฮ่าวก็เริ่มทำงานขึ้นอย่างเต็มกำลัง ดึงดูดใบไม้นั้นให้ตรงเข้ามา ชั่วขณะหลังจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ดูดซับไว้โดยสิ้นเชิง
ตลอดทั้งร่างเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน และรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตกำลังปะทุขึ้นมาอยู่ภายในร่าง ถึงแม้ว่ากายเนื้อจะไม่เกิดการทะลวงผ่าน แต่พลังที่พุ่งขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
เขามีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าว่า ถ้าใช้โลหิตเทพก็จะทำให้กายเนื้อทะลวงผ่านไปได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นพลังของกายเนื้อก็จะสูงเกินกว่าราชันเต๋า และก้าวตรงเข้าไปในระดับจักรพรรดิเต๋า!!
อันที่จริง เมิ่งฮ่าวสามารถจะบอกได้ว่าตะเกียงวิญญาณดวงที่หกของตนเอง…แทบจะดับลงไปได้ทุกเมื่อ!
แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวกำจัดไป๋จู่ไป เสียงการต่อสู้อันน่าตกใจก็เริ่มดังขึ้นมาในอาณาจักรขุนเขาทะเล เมิ่งฮ่าวยังรับรู้ได้ถึงความผันผวนของพลังที่กำลังพุ่งขึ้นมาจากขุนเขาที่แปดอีกด้วย ในตอนนั้นเองที่เมิ่งฮ่าวรู้ว่าไว่กงเมิ่ง…ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
สุดท้ายเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง!
“สู้!” แค่คำเดียวเท่านั้น แต่ในทันทีที่เสียงนี้ดังก้องออกมา เต่าเสวียนอู่ทั้งเก้าบนเก้าขุนเขา ต่างก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา จากนั้นทั้งดวงตะวันและจันทราแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็เปล่งแสงอันเจิดจ้าอย่างเข้มข้นออกมา!
เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจดังก้องขึ้น ขณะที่เก้าลำแสงพุ่งขึ้นมาจากเก้าขุนเขา จากนั้นก็กระแทกเข้าไปยังร่างแหสีทองที่ด้านบน ร่างแหนั้นเริ่มสั่นสะเทือนในทันที และจากนั้น…ก็เริ่มพังทลายลงไป!
ขณะที่ร่างแหพังทลาย สวรรค์ชั้นแรกแห่งสามสิบสามสวรรค์ ไม่ว่ามันจะต้องการหรือไม่ก็ตามที…ก็เริ่มตกลงมา!!
ตอนนี้สามารถมองเห็นได้ว่าสูงขึ้นไปตรงด้านนอกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ไม่ใช่ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต แต่เป็นดินแดนอันกว้างใหญ่
สามสิบสามสวรรค์สั่นสะเทือนขณะที่ลำแสงแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังนับไม่ถ้วนระเบิดออกไป และระลอกคลื่นอันน่าตกใจของเสียงที่เก่าแก่โบราณ ก็กระจายออกมาจากสวรรค์ชั้นแรกด้วยความเย็นชาเช่นเดียวกัน
“สงคราม! เมื่ออาณาจักรขุนเขาทะเลตัดสินใจที่จะทำสงครามให้เร็วขึ้น ถ้าเช่นนั้น…พวกเราก็จะต่อสู้!!” ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกไป เสียงกระหึ่มนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นมาจากภายในสวรรค์ชั้นแรก
ต่อมาก็มองเห็นเงาร่างโผล่ออกมาจากสวรรค์ชั้นที่สอง, สวรรค์ชั้นที่สาม จนกระทั่งสวรรค์ชั้นที่สามสิบสาม คนทั้งหมดต่างก็เข้าร่วมในการต่อสู้นี้!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนั้น ดวงตะวันและจันทราแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ส่งลำแสงอันเจิดจ้าสองสาย พุ่งขึ้นไปในสามสิบสามสวรรค์ ตรงไปยังจุดที่สวรรค์ชั้นแรกและชั้นที่สองเชื่อมต่อกัน!
ตูม!
สองลำแสงพุ่งผ่านจุดเชื่อมต่อนั้น ตัดสวรรค์ชั้นแรกออกมาจากสวรรค์ชั้นอื่นๆ ในทันที ฉับพลันนั้นร่างแหขนาดใหญ่อีกแห่งก็ปรากฏขึ้น ปกคลุมและแบ่งแยกสวรรค์ชั้นแรกออกไปโดยสิ้นเชิง!
เงาร่างอื่นๆ ที่ลงมาอยู่เหนือสวรรค์ชั้นแรกต่างก็หยุดชะงักนิ่งไปชั่วคราวในทันที เสียงแผดร้องด้วยโทสะได้ยินมา และสามสิบสามสวรรค์ก็เริ่มสั่นสะเทือน ขณะที่เสียงของผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนดังก้องขึ้น ย้อนกลับไปในสวรรค์ชั้นแรก กลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดรักษาความสงบนิ่งไว้ แต่ไม่นานมากนักพวกมันก็เริ่มบินออกมาจากดินแดนอันกว้างใหญ่นั้น พุ่งตรงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล!
สงครามที่แท้จริง…กำลังเริ่มขึ้นแล้ว!
สนามรบไม่ใช่ที่แห่งใดแห่งหนึ่งในอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่เป็น…อาณาจักรทั้งหมด!
ผู้ฝึกตนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นแรกกระจัดกระจายกันออกไปในทิศทางต่างๆ คนนอกคอกเหล่านี้ที่มาจากสวรรค์ชั้นแรกมีรูปร่างหน้าตาที่ดุร้าย และดูไม่เหมือนกับผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไป ดูคล้ายกับเป็นสัตว์อสูรมากกว่า เป็นสัตว์อสูรที่กระจายเป็นกลิ่นอายอันดุร้ายน่าตกใจอย่างเข้มข้น
เวลาเดียวกันนั้น ดินแดนทั้งหมดแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วนขึ้นมา ในที่สุดการต่อสู้ก็เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
ขุนเขาทะเลที่เจ็ดแทบจะกลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟในทันที มีผู้ฝึกตนเหลืออยู่ในที่แห่งนั้นน้อยมาก ทำให้กลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นแรกพบเจอกับการต่อต้านเล็กน้อยเท่านั้น ผู้ฝึกตนในที่แห่งนั้นส่วนใหญ่แล้วก็มุ่งเน้นไปที่การพิทักษ์คุ้มครองฐานกองกำลังของตนเองมากกว่า
เห็นได้ชัดว่า สวรรค์ชั้นแรกเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานนี้มานานหลายปีแล้ว!
ภาพเดียวกันนี้ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขุนเขาทะเลที่หกด้วยเช่นกัน!
การต่อสู้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในทันที แต่ก็มีสงครามเกิดขึ้นในขุนเขาที่แปดและห้าไปแล้ว ถึงแม้ว่ากองกำลังของสงครามทั้งสองขุนเขาจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างต่อเนื่อง แต่ในตอนนี้ก็ประกอบไปด้วยกองกำลังของสองขุนเขาทะเลที่รวมเข้าด้วยกัน นอกจากนั้นเนื่องจากสิ่งที่เมิ่งฮ่าวกระทำไปในขุนเขาทะเลที่แปด การต่อสู้ในที่แห่งนั้นจึงไม่ได้รุนแรง และกองกำลังก็ค่อนข้างจะยังคงไม่เสียหายมากนัก
ตอนนี้เมื่อสงครามที่แท้จริงกำลังเริ่มต้นขึ้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็ต่อสู้กลับไปด้วยความกระตือรือร้น และเสียงระเบิดของการต่อสู้ก็ดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับขุนเขาทะเลอื่นๆ ที่ยังไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น พวกมันขาดอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้นก็คือเวลาในการจัดเตรียมกองกำลัง แต่กลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นแรกก็ยังไม่พร้อมด้วยเช่นกัน ดังนั้นการต่อสู้กันอย่างโกลาหลก็เกิดขึ้นมาในทันที
ในขุนเขาทะเลที่หนึ่ง ผู้ฝึกตนลำดับขั้นเต้าเทียน เป็นผู้นำในการต่อสู้ ทำให้สำนักและตระกูลอื่นๆ ทั้งหมดในที่แห่งนั้น ไร้ทางเลือกนอกจากต้องเข้าร่วมกับมันเท่านั้น
เช่นเดียวกับขุนเขาทะเลที่สองและสาม ยกเว้นเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ…ขุนเขาทะเลที่สี่!