Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1348

ตอนที่ 1348

ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นทาส

เมื่อกระแสน้ำวนแห่งที่ห้าพังทลายลงไป พลังโจมตีของมันก็ระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง ภายในโลหิตที่พ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว เป็นเศษชิ้นส่วนของอวัยวะภายใน และร่างก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง ตรงไปยังสนามรบของผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ในตอนนี้เขาอยู่ห่างเพียงแค่หนึ่งหมื่นจ้างเท่านั้น!

“วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าเพื่อสังเวยสวรรค์ชั้นแรก!” ราชันจักรพรรดินอกคอกแผดร้องคำราม ดวงตากลายเป็นสีแดงจ้า ขณะที่ก้าวเดินตรงมา ทำให้กระแสน้ำวนแห่งที่หกซึ่งเป็นแห่งสุดท้ายส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงไป!

จากความจริงที่ว่าเมิ่งฮ่าวสามารถจะต่อต้านการโจมตีของกระแสน้ำวนแห่งที่ห้าได้ จึงพอจะมองเห็นได้ว่าเขามีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน เขาอยู่ในระดับที่สูงเกินกว่าจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้ แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับราชันจักรพรรดิที่อยู่ห่างจากผู้ยิ่งใหญ่เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่อาจจะต่อสู้ด้วยได้

กระแสน้ำวนแห่งที่หกมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในพวกมันทั้งหมด และตอนนี้กำลังทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องบิดเบี้ยวไปมา กฎธรรมชาติและเวททั้งหมดถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่กระแสน้ำวนพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว กระแทกลงไปบนร่าง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นสีแดงจ้า ยกมือขึ้นเรียกอาวุธสงครามออกมา ผีโต้งปรากฎตัวขึ้น กลายเป็นชุดเกราะนักรบ และอ๋าวเฉี่ยนก็กลายเป็นผ้าคลุม เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นจนสูงถึงหนึ่งพันจ้างอย่างรวดเร็ว เวลาเดียวกันนั้นอาวุธสงครามก็มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน และดูน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม

เมิ่งฮ่าวไม่ได้ถอยไปทางด้านหลัง รู้ดีว่าไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการโจมตีในครั้งนี้ได้ ดังนั้นจึงยกอาวุธสงครามขึ้น และกรีดเฉือนลงไปยังกระแสน้ำวนแห่งที่หก!

“แยกออก!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาด อาวุธสงครามเปล่งประกายเจิดจ้า จนกลายเป็นลำแสงกรีดเฉือนลงไปยังกระแสน้ำวนแห่งที่หก เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ขณะที่กระแสน้ำวนถูกตัดออกเป็นสองส่วนในทันที!

แต่เมิ่งฮ่าวก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปอย่างสูงลิ่ว อาวุธสงครามหายไป ชุดเกราะแตกกระจาย และผีโต้งก็แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา อ๋าวเฉี่ยนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด และนกแก้วก็สั่นสะท้านด้วยความปวดร้าว ร่างกายเมิ่งฮ่าวสั่นระรัวอย่างรุนแรง ขณะที่กระดูกส่วนใหญ่แตกหักไป เวลาเดียวกันนั้นกายเนื้อเกือบครึ่งก็ระเบิดจนกลายเป็นกลุ่มหมอกของโลหิตและชิ้นเนื้อ

สติสัมปชัญญะเริ่มมืดสลัวลงไป แทบจะดูคล้ายกับเป็นโครงกระดูก นอกจากนั้นก็ยังลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง ตรงไปยังตำแหน่งที่ผู้ยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้กันอยู่ จนกระทั่งไปอยู่ห่างเพียงแค่หนึ่งพันจ้างเท่านั้น!

ราชันจักรพรรดินอกคอกทำให้พื้นฐานฝึกตนของตัวเองสงบนิ่ง และจากนั้นก็มองขึ้นไปด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย

“เจ้าตายแน่!” คำพูดนี้ไม่ได้กล่าวออกมาจากปากของราชันจักรพรรดิ แต่ดังมาจากด้านหลังเมิ่งฮ่าว ผู้ที่พูดออกมาก็คือ…ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกอี้กู่!

เสียงของมันเต็มไปด้วยโทสะ ขณะที่จู่ๆ ก็ทะลวงฝ่าออกมาจากไห่เมิ่ง พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ไห่เมิ่งสามารถตรึงมันไว้ภายในรัศมีหนึ่งพันจ้างเท่านั้น!

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวอยู่ภายในระยะห่างหนึ่งพันจ้าง แต่ในตอนนี้เองที่ใบหน้าได้ปรากฏเป็นรอยยิ้มน้อยๆ ขึ้นมาในทันที ราวกับว่า…เขากำลังรอคอยช่วงเวลานี้อยู่!

ใบหน้าตี้จ้างซีดขาวไร้สีเลือด และไห่เมิ่งก็ขมวดคิ้ว รู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์นี้แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้ และไม่มีทางจะหยุดมันได้อย่างแน่นอน ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกและราชันจักรพรรดิกำลังร่วมมือกันเพื่อสังหารเมิ่งฮ่าว!

เห็นได้ชัดว่า แม้แต่ราชันจักรพรรดิก็ไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถกำจัด

เมิ่งฮ่าวไปด้วยตนเองได้ ดังนั้นมันจึงเลือกวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมามากที่สุดในการจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ นั่นก็คือ…บังคับเมิ่งฮ่าวให้เข้าไปใกล้ผู้ยิ่งใหญ่ บังคับให้เขาเข้าไปในรัศมีหนึ่งพันจ้าง เพื่อให้ผู้ยิ่งใหญ่มีโอกาสลงมือ!

เมิ่งฮ่าวสูญเสียความได้เปรียบในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง ถูกบังคับให้ต้องถอยไปทางด้านหลัง จนกระทั่งอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายมากที่สุด อันที่จริงราชันจักรพรรดินอกคอก เกรงกลัวกระถางสายฟ้าของเมิ่งฮ่าว จึงได้เตรียมวิชาพิเศษเฉพาะเพื่อต่อต้านมัน

ดังนั้นมันจึงอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมเมิ่งฮ่าวถึงยังไม่ยอมใช้วิชาสลับร่างย้ายตำแหน่งออกมา

และจากนั้นราชันจักรพรรดิก็มองเห็นรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ทำให้จิตใจต้องเต้นรัวขึ้นมาในทันที สีหน้ามันเปลี่ยนไปขณะที่ลางสังหรณ์อย่างลึกล้ำจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาจากในส่วนลึกของจิตใจ

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่อาจจะคิดได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่ไหน ทำไมเมิ่งฮ่าวถึงได้ยิ้มออกมาในขณะที่กำลังตกอยู่ในจุดวิกฤตที่ร้ายแรงเช่นนั้น?

“เป็นเพราะแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าของมัน? เป็นไปไม่ได้! แม้แต่แก่นแท้นั้นก็ยังไม่อาจจะใช้เพื่อต่อต้านการโจมตีจากผู้ยิ่งใหญ่ได้!”

“ถ้าเช่นนั้นมันน่าจะเป็นอะไร…? อะไรที่ทำให้เด็กผู้นี้ยิ้มได้!? เหมือนว่ามันกำลังรอคอยอยู่ เมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่าข้าบังคับให้มันเข้าไปใกล้สนามรบผู้ยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า…มันกำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นด้วยตัวเอง!!”

“ไม่ถูกต้อง มีบางสิ่งผิดปกติอย่างแน่นอน!!” สีหน้าราชันจักรพรรดินอกคอกเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างไร ก็ไม่อาจจะได้รับคำตอบที่แน่ชัด

ถึงแม้ว่าผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกจะมองไม่เห็นรอยยิ้มของเมิ่งฮ่าว

แต่ในฐานะที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีชีวิตอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน แล้วมันจะไม่ทันสังเกตเห็นว่าเมิ่งฮ่าวกำลังพุ่งตรงมาด้วยตนเองได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม แม้แต่มันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเมิ่งฮ่าวถึงได้เชื่อมั่นที่จะทำเช่นนี้

“ไม่ว่าเจ้าจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้ามาใกล้ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว…จะมีชีวิตรอดจากไปได้!” อี้กู่จื้อจุนแค่นเสียงเย็นชา มีความเชื่อมั่นโดยสิ้นเชิง เป็นความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นมาจากการที่ตนเองคือผู้ยิ่งใหญ่

มันก้าวเดินตรงไป กำมือขวาเป็นหมัดและจากนั้นก็ต่อยตรงไปยังเมิ่งฮ่าว!

พลังผู้ยิ่งใหญ่ระเบิดออกไป หมัดที่ต่อยออกไปนั้นแข็งแกร่งอย่างเพียงพอที่จะทำลาย ไม่เพียงแต่เมิ่งฮ่าวเท่านั้น แม้แต่ความว่างเปล่าก็ยังต้องพังทลายลงไป ราวกับว่าสามารถจะทำลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และกำจัดเขตพื้นที่ที่เมิ่งฮ่าวอยู่ตรงจุดนั้นไปได้ทั้งหมดโดยสิ้นเชิง!

พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่สามารถสะกดข่มแก่นแท้ได้ มีอำนาจเหนือทุกสรรพสิ่ง อี้กู่จื้อจุนเชื่อมั่นโดยสิ้นเชิงว่านอกจากผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้แล้ว ไม่มีใครสามารถจะช่วยเหลือเมิ่งฮ่าวได้

อันที่จริงแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ ก็ต้องปรากฏตัวขึ้นในบริเวณใกล้เคียงนี้ ถึงจะมีเวลาเพียงพอที่จะทำสิ่งใดๆ ได้

มันมั่นใจว่าวันนี้ เมิ่งฮ่าว…ต้องตาย!

ในชั่วพริบตาพลังหมัดผู้ยิ่งใหญ่ก็ทำให้โลหิตพุ่งกระจายออกมาจากทั่วทั้งร่างของเมิ่งฮ่าว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวรอบๆ บริเวณนั้นแตกกระจายไป ขณะที่พลังอันน่ากลัวอย่างที่ยากอธิบายส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงมา

ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลส่งเสียงร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่กลับกันกลุ่มคนนอกคอกต่างก็ยินดีกันถ้วนหน้า พวกมันเกลียดชังเมิ่งฮ่าวที่ไปทำลายบ้านเกิดของตนเอง แต่ก็หวาดกลัวเขาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ก็ทำให้พวกมันร่าเริงขึ้นมา

ราชันแห่งขุนเขาทะเลทั้งปวงตกตะลึง แต่ละคนมีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป

ไว่กงเมิ่งกำลังสั่นสะท้าน ดูเหมือนว่าหยดน้ำตาโลหิตกำลังจะไหลหลงมาบนแก้มท่าน ในขุนเขาทะเลที่สี่ สวี่ชิงมีใบหน้าซีดขาว ราวกับว่าสำหรับนางแล้วทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็ไร้ความหมายไปโดยสิ้นเชิง

ตี้จ้างยืนอยู่ที่นั่น แน่นิ่งไม่ไหวติง

ย้อนกลับไปในขุนเขาทะเลที่เก้า ผู้ถูกเลือกทั้งหมดกำลังอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง พวกมันไม่อาจจะคาดคิดได้ว่าถ้าเมิ่งฮ่าวตกตายไปจริงๆ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป!!

ฟางซิ่วเฟิงแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา กลุ่มคนตระกูลฟางทั้งหมดกำลังร้องตะโกนออกมาด้วยความโศกเศร้าและโทสะ แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรได้

ไห่เมิ่งเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีปฏิกิริยแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ทั้งหมด คิ้วนางยังคงขมวดมุ่นอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหวเพื่อเข้าไปแทรกแซง อันที่จริงเมื่อนางมองไปยังเมิ่งฮ่าว สีหน้าครุ่นคิดก็ปรากฏขึ้น

พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่กำลังบดขยี้ลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว และความว่างเปล่ารอบๆ ตัวกำลังแตกกระจายออกไป ความรู้สึกถึงวิกฤติอันร้ายแรงพุ่งขึ้นมาในจิตใจ เมื่อพลังที่ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนบดขยี้ลงมา เขาก็หันหน้าไปมองยังอี้กู่จื้อจุน

แทบจะดูเหมือนว่าเขากำลังศึกษาคู่ต่อสู้อยู่

ตอนนี้จิตใจของราชันจักรพรรดินอกคอกเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ราวกับมีเสียงแผดร้องขึ้นมาอยู่ในจิตใจว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง!!

หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่องราวทั้งหมดแล้ว มันรีบส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป แต่ก็ไม่อาจจะตรวจพบสิ่งที่น่าสงสัยใดๆ ในบริเวณนั้น

ในตอนนี้เองเมื่อดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวกำลังจะพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิงแล้ว เขากลับหัวเราะขึ้นมา ถึงแม้ว่าร่างกายกำลังแตกกระจายออกไป เสียงหัวเราะนั้นก็ดูเหมือนว่าจะท้าทายทั้งสวรรค์และปฐพี

ภายในเสียงหัวเราะนั้นคือพลังที่น้อยคนนักจะสามารถเข้าใจได้

แต่ในทันทีที่อี้กู่จื้อจุนได้ยิน สีหน้ามันก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จริงๆ แล้วก็ยังมองเห็นความประหลาดใจและหวาดกลัวบนสีหน้ามัน…มากเกินกว่าตอนที่สวรรค์ชั้นแรกพังทลายลงมาซะอีก!!

“เจ้า…” มันกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ทันใดนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมาอยู่ที่เบื้องหน้า และถอยหลังออกไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด

ภาพนี้ทำให้ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวงต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง กลุ่มคนนอกคอกอึ้งงุนงง ดวงตาตี้จ้างเบิกกว้างขึ้น และไห่เมิ่งจื้อจุนกำลังหอบหายใจออกมา เท่าที่คิดนางแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังมองเห็นอยู่นี้

เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่นางพบว่าน่าเหลือเชื่อนี้ ไม่ใช่ความจริงที่ว่าผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกกำลังหลบหนีจากไป แต่เป็นอย่างอื่น!!

แทบจะในทันทีที่ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกเริ่มหลบหนีไปด้วยความตื่นตระหนกและขุ่นเคือง เสียงแหบแห้งของเมิ่งฮ่าวก็ดังก้องขึ้น

“เจ้าไม่มีทางหนีรอด อี้กู่จื้อจุน”

เมื่อราชันจักรพรรดินอกคอกได้ยินคำพูดเหล่านี้ จิตใจก็หมุนคว้าง จ้องมองไปด้วยความสงสัยโดยสิ้นเชิง และยังเริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาอีกด้วย

การที่ผู้ยิ่งใหญ่หลบหนีไปเช่นนี้เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง และยังดูเหมือนว่าอี้กู่จื้อจุนจะหวาดกลัวอีกด้วย ซึ่งเป็นสีหน้าที่ราชันจักรพรรดินอกคอกไม่เคยเห็นมาก่อนบนใบหน้าของผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้

“นี่…นี่…” มันคิดพร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้านขึ้นมา เริ่มถอยไปทางด้านหลังในทันที จู่ๆ มันก็ตระหนักว่าเมิ่งฮ่าวช่างเต็มไปด้วยความลี้ลับอย่างมากมาย เป็นความลี้ลับอันน่ากลัวอย่างที่ไม่อาจจะเข้าใจได้

แม้ขณะที่เมิ่งฮ่าวพูดขึ้นมา อี้กู่จื้อจุนก็แผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่มันต้องเสียกิริยาเช่นนี้ และเป็นครั้งแรกที่มันต้องหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง จริงๆ แล้วนี่คือครั้งแรกตั้งแต่ที่กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่มันรู้สึกหวาดกลัวจนลึกลงไปในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

“เจ้าเป็นใคร!?!? เจ้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล! เจ้าคือใคร!?!?”

“เหล่าฟูอี้กู่ ในฐานะที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีทางจะยอมจำนน!!”

“เจ้า…เป็นใครกันแน่!?!?” อี้กู่จื้อจุนแผดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กดังก้องออกไป ถูกเกื้อหนุนด้วยพื้นฐานฝึกตนของผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้ปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนและกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมด ต่างก็กระอักโลหิตออกมา

ไม่มีใครสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ยกเว้นผู้ยิ่งใหญ่อี้กู่, ไห่เมิ่งและเมิ่งฮ่าว สิ่งที่คนทั้งสามมองเห็นก็คือกลุ่มหมอกลึกลับที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ยากที่จะมองเห็นได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงด้านในกลุ่มหมอก แต่ก็กระจายเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวอย่างสุดแสนจะพรรณนาออกมาได้

จากนั้นกลุ่มหมอกก็ไหลซึมเข้าไปในร่างอี้กู่จื้อจุน จนกลายเป็นสัญลักษณ์เวทที่สาดประกายขึ้นมาบนผิวหนังของมัน แต่คนทั้งหมดไม่อาจจะมองเห็นได้

ไม่มีเสียงดังออกมาจากภายในกลุ่มหมอก เพื่อตอบสนองเสียงกรีดร้องของ

อี้กู่จื้อจุน มีเพียงแค่เส้นใยสีเทาเท่านั้น ประหนึ่งว่าพวกมันกำลังตรึงกรรมของอี้กู่ไว้ ทำให้ไม่อาจจะหลบหนีจากไปได้ เวลาเดียวกันนั้นสัญลักษณ์เวทที่ส่องแสงระยิบระยับบนร่างมันก็มีเพิ่มมากขึ้น!

“มาหาข้า นับจากนี้ไป ข้าคือจือจู่ (เจ้านาย) เจ้าตราบชั่วนิรันดร์…”

เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ออกมา

เสียงนี้เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามโดยสิ้นเชิง เวทตราบนิรันดร์ชิงตี้กำลังรักษาฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว และแววตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ

ขณะที่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว อี้กู่จื้อจุนก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง และจากนั้นก็ค่อยๆ เดินตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างช้าๆ

สำหรับคนทั้งหมดที่กำลังมองดูอยู่ ช่างเป็นภาพที่น่าประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง!!

จิตใจของราชันจักรพรรดินอกคอกกำลังหมุนคว้าง และใบหน้าก็ซีดขาวราวคนตาย โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย มันเริ่มหลบหนีจากไป จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการอยู่ให้ห่างออกไปจากเมิ่งฮ่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!