ตอนที่ 1349
จิตวิญญาณที่ไม่ยอมสยบของผู้ยิ่งใหญ่
แววตาของไห่เมิ่งจื้อจุนสาดประกายขึ้น
เมื่อมองไปยังกลุ่มหมอกที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว คลื่นแห่งความตกตะลึงบดขยี้ลงมาในจิตใจ แม้แต่นางก็ไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถเรียกผู้ช่วยเช่นนี้ออกมาได้!
เขาสามารถเปลี่ยนให้ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นหุ่นเชิดได้อย่างแท้จริง!
ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่…กลายเป็นข้าทาส!
ถึงแม้ว่าอี้กู่จะอยู่ในระดับเจ็ดแก่นแท้เท่านั้น
แต่ก็เป็นระดับที่ถือได้ว่าแข็งแกร่ง แม้จะอยู่ในยุคสมัยของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็ตาม ในสมัยนั้นมีผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้หนึ่งคน ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้หนึ่งคน และผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้หนึ่งคน ซึ่งก็คือไห่เมิ่ง
ตอนนี้สามสิบสามสวรรค์มีห้าผู้ยิ่งใหญ่ และถึงแม้ว่าไห่เมิ่งจะไม่แน่ใจว่าผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนเหล่านั้นมีพื้นฐานฝึกตนกี่แก่นแท้กันแน่ แต่ก็รู้ว่าพวกมันต้องไม่มีผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้อย่างแน่นอน ถ้ามีสงครามในครั้งนี้ก็คงจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดายมากกว่านี้ จริงๆ แล้วสามสิบสามสวรรค์กำลังรีรอด้วยเหตุผลบางอย่าง
ด้วยเช่นนั้น จึงเห็นได้ชัดว่าผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้คือสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำสงครามในครั้งนี้ ถ้าเมิ่งฮ่าวสามารถเปลี่ยนให้หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นกลายเป็นข้าทาสของตนเองได้ ก็หมายความว่าการทำสงครามกับสามสิบสามสวรรค์…คงจะไม่ต้องดิ้นรนอย่างไร้ความหวัง!
“ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้เทียบเท่ากับการรวมพลังกันของสวรรค์ทั้งห้าชั้น!” ไห่เมิ่งกำลังหอบหายใจออกมา ถึงแม้ว่าระดับพลังแห่งเจตจำนง และอายุขัยของนางจะมากมายอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ แต่ก็ยังคงสั่นสะท้านไปทั้งร่าง และแสงแห่งความมุ่งหวังก็ปรากฏขึ้นในแววตา
ตี้จ้างก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน ดวงตาท่านกำลังสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ สถานการณ์ที่พลิกกลับอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ท่านทั้งตกตะลึงและตื่นเต้นขึ้นมาอย่างรุนแรง
สำหรับราชันแห่งขุนเขาทะเลอื่นๆ จิตใจของคนทั้งหมดต่างก็พลุ่งพล่านขึ้นด้วยความตื่นเต้น ยกเว้นจี้เทียนซึ่งนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบกริบ
จากนั้นก็เป็นสุ่ยตงหลิว ด้วยความตกใจ ท่านค่อยๆ ลดมือขวาลงไป ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ ท่านก็คงต้องสอดมือเข้าไปแล้ว ในตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับอาณาจักรขุนเขาทะเล
“โชควาสนาเช่นนั้นเป็นของมันเพียงผู้เดียวเท่านั้น…” สุ่ยตงหลิวพึมพำ ใบหน้าปรากฏเป็นรอยยิ้มกว้างขึ้น
เวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนในส่วนอื่นๆ ของอาณาจักรขุนเขาทะเล สามารถที่จะรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้ พวกมันเริ่มดีใจและไม่อยากจะเชื่อขึ้นจนแทบจะคลุ้มคลั่ง
“ผู้ยิ่งใหญ่…กลายเป็นข้าทาส!?!?”
“สวรรค์ เมิ่งฮ่าวผู้นั้น มัน…มันมีวิธีทำให้ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นข้าทาสได้จริงๆ!!” ขณะที่เสียงร้องตะโกนดังก้องขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่มองไม่เห็นว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นก็ยังต้องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินอยู่นี้
สำหรับกลุ่มคนนอกคอก ด้วยสายโลหิตที่เชื่อมต่อกัน ก็เป็นเรื่องง่ายที่พวกมันจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เสียงแผดร้องด้วยความหวาดกลัวของผู้ยิ่งใหญ่พวกมัน ทำให้สีหน้ากลุ่มคนนอกคอกเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ถึงแม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นจากความโศกเศร้าและโทสะอันเนื่องมาจากสูญเสียบ้านเกิดของตนเองไป แต่ในตอนนี้พวกมันก็สูญเสียความหวังทั้งหมดไป และมาถึงวาระสุดท้ายแล้ว!
พวกมันรับรู้ได้ว่าราชันจักรพรรดิกำลังหลบหนีจากไป และได้ยินเสียงแผดร้องของผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อรวมเข้ากับความจริงที่ว่าบ้านเกิดของพวกมันถูกทำลายไปแล้ว เงาแห่งความพ่ายแพ้ก็ปกคลุมอยู่ในจิตใจพวกมันอย่างฉับพลัน
พวกมัน…แพ้แล้ว
เป็นความพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง พวกมันไม่มีที่ให้หลบหนีจากไป การรุกรานของสวรรค์ชั้นแรกกลายเป็นมหันตภัยของพวกมันเองโดยสิ้นเชิง!
ก่อนที่จะทำสงคราม พวกมันดูถูกเยาะเย้ยอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่ตอนนี้พวกมันต้องยอมรับว่า ถึงแม้อาณาจักรขุนเขาทะเลจะอ่อนแอลงไปมากในตอนนี้ แต่สวรรค์ชั้นแรกก็ไม่มีทางจะเอาชนะได้
นี่คือสถานที่ที่อาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่อาศัยอยู่ เป็นอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่เดียวกันกับอาณาจักรที่เคยสูงส่งเมื่อในอดีต สูงส่งกว่าพวกมัน!
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกสั่นสะท้านและเริ่มถอยร่นหลบหนีจากไป แต่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลก็มีปฏิกิริยาที่ตรงข้ามกัน เสียงร้องตะโกนด้วยความฮึกเหิมดังก้องขึ้น ขณะที่โลหิตพวกมันเริ่มเดือดพล่านขึ้นมา
สวรรค์ชั้นแรกพังทลาย และจิตวิญญาณของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลก็พุ่งทะยานขึ้น!
เมื่อได้เห็นผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นข้าทาส ก็ทำให้พวกมันมีความหวังขึ้นมา! ในที่สุดอาณาจักรขุนเขาทะเลที่หลับใหลอยู่ก็ลืมตาขึ้นมา มันกำลังตื่นขึ้นมาแล้ว!
ตูมมมมมมม!
สูงขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่มองไปยังอี้กู่จื้อจุนที่ใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ เวลาเดียวกันนั้นเวทตราบนิรันดร์ชิงหลัวก็ฟื้นฟูร่างกายขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องด้วยความไม่ยินยอมก็ดังก้องออกมาจากปากของ
อี้กู่จื้อจุน ในที่สุดมันก็สะกดข่มความหวาดกลัวไว้ได้ และจิตใจที่ไม่ยินยอมในตอนนี้ก็ระเบิดเป็นพลังออกไป
“เหล่าฟูคือผู้ยิ่งใหญ่!!” มันแผดร้องออกมา แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง พยายามจะต่อสู้กลับไปยังเส้นใยสีเทาที่พันธนาการร่างมันไว้ จากนั้นก็หยุดชะงักนิ่งและจ้องมองไปยังเงาร่างกลุ่มหมอกที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว
ถึงแม้ว่ามันจะหยุดเคลื่อนที่ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว แต่ร่างกายกำลังสั่นสะท้าน และจากนั้นโลหิตก็เริ่มพุ่งกระจายออกไปทั่วร่าง แต่ก็ยังคงอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
มันหันหน้าไปมองยังเมิ่งฮ่าว และความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัดก็ปะทุออกมาจากในจิตใจ “เหล่าฟูฝึกตนมานานนับล้านปี มีอายุขัยเทียบเท่ากับสวรรค์และปฐพี มีศักดิ์ฐานะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ปราบพิชิตโลกมามากมาย สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องคุกเข่าโขกศีรษะให้ แล้ววันนี้…จะกลายเป็นข้าทาสเจ้าได้อย่างไร!?”
มันกำลังสั่นสะท้าน โลหิตไหลซึมออกมาทั่วทั้งร่าง
แต่ก็ยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่นั่น พึ่งพาพลังชีวิตและศักดิ์ศรีของตนเองเพื่อต่อต้านเงาร่างภาพลวงตาที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ซึ่งกำลังพยายามทำให้มันกลายเป็นข้าทาส
มันยกมือขวาที่สั่นสะท้านขึ้น ชี้นิ้วตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้าย แค่การเคลื่อนไหวง่ายๆ เช่นนี้ก็ทำให้ใบหน้ามันต้องซีดขาวขึ้นอย่างน่ากลัว
ขณะที่พบว่าเส้นใยสีเทากำลังแทรกแซงเข้ามาในพื้นฐานฝึกตนของมัน ทำให้ยากที่จะปลดปล่อยพลังออกไปได้
สีเทาและเงาร่างที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวนั้น ทำให้จิตใจมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้นมันก็หัวเราะหึๆ อย่างขมขื่น จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องด้วยความขมขื่นออกมา
“ข้าอี้กู่ เคยเห็นการพังทลายของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่มา เคยช่วยสามสิบสามสวรรค์ให้เจริญรุ่งเรือง เคยร่วมเป็นสักขีพยานในการผนึกอาณาจักรขุนเขาทะเล ต่อสู้ในสงครามนี้เพื่อกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงในอาณาจักรขุนเขาทะเล!”
“มีชีวิตอยู่มานับล้านปี! ฝึกฝนตนเองจนถึงระดับผู้ยิ่งใหญ่!”
“ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ อี้กู่จื้อจุน!” เสียงหัวเราะอย่างขมขื่นของอี้กู่จื้อจุนดังก้องออกไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล และยังได้ดังขึ้นไปจนถึงสวรรค์ทั้งสามสิบสองชั้นที่ด้านบนอีกด้วย
ระลอกคลื่นกระจายปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งมีสาเหตุมาจากความพยายามของสวรรค์ทั้งสามสิบสองชั้น ที่จะทะลวงผ่านเกราะป้องกัน และเข้ามาในอาณาจักรขุนเขาทะเล
“สวรรค์ไม่อาจทำให้ข้าต้องโค้งตัวลงได้ ปฐพีไม่อาจจะทำให้ข้าต้องคุกเข่าลงไป และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ไม่อาจจะทำให้ข้าต้องก้มศีรษะลงไปได้ เจตจำนงของข้าคือเต๋าแห่งสวรรค์ และร่างกายข้าก็ยืดขยายออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด!” อี้กู่จื้อจุนแผดร้องคำราม ขณะที่ร่างกายเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตาก็มีความสูงถึงหนึ่งพันจ้าง จากนั้นก็ห้าพันจ้าง และหนึ่งหมื่นจ้าง!
ในฐานะที่เป็นยักษ์หนึ่งหมื่นจ้าง ทำให้มันดูคล้ายกับเป็นเทพ ม่านตาเมิ่งฮ่าวหดเล็กลง ขณะที่รับรู้ได้ถึงเจตจำนงที่ไม่ยอมจำนนของผู้ยิ่งใหญ่นอกคอก พลังแห่งเจตจำนงนั้นดูเหมือนว่าไม่อาจจะถูกม้วนกวาดออกไปโดยสวรรค์และปฐพี ทันใดนั้นเส้นใยสีเทาของวิชาเวทโฉ่วเหมินไถก็เริ่มคลายตัวออก
การทำให้ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นข้าทาสฟังดูแล้วเหมือนว่าจะง่ายดาย แต่ความจริงแล้วก็คือว่า ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดเป็นดวงตะวันอันเจิดจ้าที่อยู่ในสวรรค์และปฐพี พวกมันเป็นตัวแทนของโชควาสนาทั้งปวง…จึงไม่อาจจะทำให้กลายเป็นข้าทาสได้อย่างง่ายดาย!
พลังแห่งเจตจำนงพวกมัน ความคิดของพวกมัน และจิตใจของพวกมัน อยู่เหนือกว่าสวรรค์ใดๆ!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่เส้นใยสีเทาเริ่มขาดสะบั้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ ลึกลงไปในจิตใจ เมิ่งฮ่าวอดที่จะชื่นชมต่อพลังแห่งเจตจำนงของผู้ยิ่งใหญ่ จิตวิญญาณในการต่อสู้ และหัวใจที่ไม่ยอมจำนนของมันไม่ได้
ด้วยทั้งหมดนั้น ทำให้มันคู่ควรที่จะถูกเรียกว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!
ในตอนนี้เองที่เงาร่างเลือนรางที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชาออกมา ทันใดนั้นเส้นใยสีเทาที่มากกว่าก่อนหน้านี้นับสิบเท่าก็ระเบิดออกไป จากนั้นเป็นเป็นร้อยเท่า พวกมันเริ่มม้วนพันไปรอบๆ ร่างผู้ยิ่งใหญ่ที่สูงหนึ่งหมื่นจ้างด้วยความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม ใช้เวลาเพียงชั่วขณะเท่านั้นก่อนที่ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้อีกครั้ง และเริ่มจะคุกเข่าลงไปที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว
“เป็นไปไม่ได้!” อี้กู่จื้อจุนแผดร้องออกมา โลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปาก ร่างมันกำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ ราวกับว่าแม้แต่สวรรค์และปฐพีอันกว้างใหญ่ก็ยังไม่อาจจะบังคับให้มันต้องคุกเข่าลงไปได้
เสียงแตกร้าวดังก้องออกมา และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน แต่ก็ยังคงไม่ยอมคุกเข่าลงไป เกล็ดจำนวนมากปรากฏขึ้นไปทั่วร่าง แต่ละชิ้นเปล่งประกายที่เก่าแก่โบราณออกมา ดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลายร่างเป็นกิ้งก่าที่เก่าแก่โบราณแล้ว!
อย่างไรก็ตามเส้นใยสีเทาก็ยังคงเจาะไชเข้าไปในร่างมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัญลักษณ์เวทปรากฏขึ้น และมันก็ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อหยุดยั้งเรื่องนี้ได้
เมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ ความรู้สึกอันซับซ้อนกำลังสาดประกายอยู่ในแววตา
“ถ้าอาณาจักรขุนเขาทะเลและสามสิบสามสวรรค์ไม่ทำสงครามกัน…ผู้ยิ่งใหญ่นี้คงคู่ควรที่จะถูกกราบกรานสักการะจากสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอย่างแท้จริง” เมิ่งฮ่าวถอนหายใจ และจากนั้นก็กล่าวกับอี้กู่จื้อจุนโดยตรง
“ถ้าเจ้ายอมช่วยเหลืออาณาจักรขุนเขาทะเล ข้าก็จะไว้ชีวิตคนของเจ้าจากสวรรค์ชั้นแรกทั้งหมด!”
อี้กู่จื้อจุนสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง แต่ในแววตาก็ยังคงไม่ยินยอมจะจำนนเหมือนเช่นเคย และยังได้เริ่มหัวเราะขึ้นมาอีกด้วย
“อาณาจักรขุนเขาทะเลต้องถูกกำจัดไปอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่คนของข้ายังมีชีวิตอยู่แม้แต่คนเดียวก็ตาม นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราก็จะกลับมาใหม่!”
“เหล่าฟูอี้กู่ ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไปจนตาย!”
“เจ้าต้องการให้เหล่าฟูยอมจำนน? ต้องการให้เหล่าฟูกลายเป็นทาสเจ้า? ที่จะกลายเป็นทาสเจ้าคือร่างกายของเหล่าฟูเท่านั้น ไม่ใช่จิตวิญญาณ!” ขณะที่เสียงหัวเราะดังก้องขึ้น สัญญาณแห่งการระเบิดตนเองของมันก็ปรากฏขึ้น
ไม่มีความบ้าคลั่งอยู่ในแววตา มีแต่ความภาคภูมิใจอย่างไร้จุดสิ้นสุดเท่านั้น มันยินยอมตายดีกว่าจะก้มศีรษะ และสูญเสียศักดิ์ศรีของตนเอง!
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ความผันผวนแห่งการทำลายล้างเริ่มกระจายออกมาจากร่างมัน แต่เพราะว่ามันไม่อาจจะปลดปล่อยพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกมาได้ พลังระเบิดนั้นจึงไม่อาจจะม้วนกวาดเข้าไปในอาณาจักรขุนเขาทะเล เพื่อทำให้เกิดเป็นการทำลายล้างขนาดใหญ่ ได้แต่ทำร้ายตนเองเท่านั้น แต่ด้วยเช่นนั้น ถ้ามันตายไป ร่างกายก็จะไร้ประโยชน์ต่อเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว เสียงของโฉ่วเหมินไถจู่ๆ ก็ดังก้องขึ้นมาในจิตใจ “ไม่อาจจะบังคับให้ผู้ยิ่งใหญ่ยอมจำนนได้ เว้นแต่จะทำลายจิตวิญญาณของมันไปเท่านั้น”
“ถ้าเช่นนั้นก็ทำลายวิญญาณมัน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยความเด็ดเดี่ยว จ้องมองไปยังอี้กู่จื้อจุน
ในตอนที่เมิ่งฮ่าวอ้าปากขึ้น เส้นใยสีเทาที่พันธนาการอยู่รอบตัวอี้กู่จื้อจุนก็เปลี่ยนเป็นสีดำไปในทันที และเริ่มกระจายเป็นแสงแปลกๆ ออกมา กลายเป็นพลังทำลายล้างจิตวิญญาณ ที่ไหลเข้าไปในร่างของอี้กู่จื้อจุน ในตอนที่มันกำลังจะระเบิดตัวเองไป เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ก็ดังก้องขึ้น ขณะที่วิธีการบางอย่างถูกใช้ออกไป…
เพื่อลบล้างจิตวิญญาณของมัน!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มได้ยินมาเมื่อเส้นใยจางหายไป เงาร่างเลือนลางที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะอ่อนแออย่างไร้ที่เปรียบ ในที่สุดเสียงอันเลือนรางก็ดังขึ้น “ข้าทำตามสัญญาแล้ว…ต้องหลับใหลแล้วตอนนี้ จนกระทั่งจู่เหริน (เจ้านาย) ข้าฟื้นคืนชีพ…หวังว่าท่านจะปฏิบัติตามข้อตกลงของพวกเราด้วยเช่นกัน…”
เสียงที่อ่อนแอนั้นค่อยๆ จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เงาร่างอันเลือนรางของกลุ่มหมอกก็หายไปด้วยเช่นกัน เวลาเดียวกันนั้นร่างของอี้กู่จื้อจุนก็สั่นสะท้าน และดวงตาก็กลายเป็นความว่างเปล่าไปโดยสิ้นเชิง
ระลอกคลื่นแห่งการระเบิดตนเองจางหายไป ก้มศีรษะลงขณะที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว