ตอนที่ 1350
การตอบโต้อย่างเต็มกำลัง
สิ่งที่กำลังคุกเข่าอยู่คือร่างกายของผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่จิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตามการคุกเข่าลงไปเช่นนั้น ก็ทำให้กลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดในอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องเงียบกริบลงอย่างน่ากลัว จิตใจพวกมันว่างเปล่าไปโดยสิ้นเชิง ว่างเปล่าราวความตาย
ยกเว้นนักรบที่แข็งแกร่ง หรือผู้ที่ชื่นชอบการทำสงครามเป็นพิเศษแล้ว กลุ่มคนนอกคอกส่วนใหญ่ ไม่ว่าพวกมันจะมาจากชนเผ่าไหน ที่กำลังต่อสู้เพื่อบ้านเกิด เพื่อคนของตนเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อทรัพยากรการฝึกตนที่มากขึ้นกว่าเดิมเหล่านั้น
การพังทลายลงไปของสวรรค์ชั้นแรก ทำให้จิตใจของกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดต้องสั่นสะท้าน พวกมันต่างก็งุนงงและหวาดกลัว เต็มไปด้วยความเสียใจ บ้านของพวกมัน…หายไปแล้ว
สหายร่วมชนเผ่าของพวกมันต่างก็ตกตายไป…
ไม่มีเหตุผลในการทำสงครามอีกต่อไป ถ้าให้เวลามากกว่านี้ ความกระหายในการแก้แค้นก็จะกระตุ้นให้พวกมันทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อต่อสู้ต่อไป แต่ก่อนที่จะเกิดขึ้นเช่นนั้น ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมันก็กลายเป็นทาสไป เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่บดขยี้ลงไปในเจตจำนงของพวกมัน ลดทอนขวัญกำลังใจของพวกมันไปจนเหมือนกับถูกแช่แข็ง
ที่ห่างไกลออกไป ราชันจักรพรรดิที่กำลังหลบหนีจู่ๆ ก็หยุดชะงักนิ่งและบังคับตัวเองให้หันร่างกลับไป สิ่งที่มันเห็นก็คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สูงหนึ่งหมื่นจ้างกำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว และจิตใจมันก็เริ่มหมุนคว้าง
“แพ้แล้ว…” มันพึมพำด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและสิ้นหวัง เหตุการณ์ที่ทำให้สวรรค์ชั้นแรกต้องพังทลายลงไป ทำให้มันเต็มไปด้วยโทสะ และยังได้เสี่ยงชีวิตอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะไปขัดขวางอีกด้วย ถึงแม้ว่ากลุ่มคนนอกคอกอื่นๆ เกือบทั้งหมดจะสูญเสียกำลังใจไป แต่มันก็สามารถจะควบคุมสติของตนเองได้อย่างรวดเร็ว และพุ่งทะยานไปต่อต้าน
แต่เมื่อมันเห็นผู้ยิ่งใหญ่ของตนเองกลายเป็นข้าทาสไปแล้ว ก็เต็มไปด้วยความขมขื่น และยังได้เสียใจที่พยายามจะหลบหนีไปอีกด้วย เป็นความรู้สึกผิดอย่างแท้จริง ด้วยความคิดอันซับซ้อนทั้งหมดที่ถล่มลงมาอยู่ในจิตใจ ราชันจักรพรรดินอกคอกจึงทำได้แค่หัวเราะออกมาด้วยความขมขื่นเท่านั้น
ไห่เมิ่งมีสีหน้าแปลกๆ ขณะที่มองไปยังผู้ยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นข้าทาส ถึงแม้นางจะรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ต้องถอนหายใจขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ นางก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน เป็นคนที่อยู่ในจุดสูงสุดของสวรรค์และปฐพี ดังนั้นจึงรู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากเพียงใด ที่เงาร่างอันลี้ลับนั้นสามารถบังคับให้อี้กู่ยอมจำนนได้
ที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงจากกลุ่มคนนอกคอกก็คือ ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ พวกมันก็ระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มกำลัง จนทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน เริ่มจากขุนเขาทะเลที่สี่ และกระจายออกไปตลอดเส้นทางจนถึงขุนเขาทะเลแรกและเก้าอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเสียงของอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวงก็ร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง
“ขุนเขาทะเลต้องชนะ!”
“ขุนเขาทะเลต้องชนะ!!”
“ขุนเขาทะเลต้องชนะ!!!”
ยากที่จะบอกได้ว่าใครเป็นคนกล่าวขึ้นมาก่อน แต่ในทันทีที่คำพูดเหล่านั้นดังก้องไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มสั่นสะเทือน เมื่อคำสั่งให้เริ่มตอบโต้กลับไปยังกลุ่มคนนอกคอกถูกส่งออกมา
กลุ่มผู้ฝึกตนแห่งเก้าขุนเขาทะเลทั้งปวง ต่างก็ตอบโต้กลับไป!
กลุ่มคนนอกคอกน้อยคนนักที่จะมีความคิดต่อสู้ ดวงตาพวกมันว่างเปล่า และสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว สวรรค์ชั้นแรกถูกทำลายไปแล้ว บ้านพวกมันหายไปแล้ว สหายร่วมชนเผ่าของพวกมันต่างก็ตกตายไป ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมันกลายเป็นข้าทาส ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานี้ ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง
เมื่ออาณาจักรขุนเขาทะเลเริ่มต่อสู้กลับไป เสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นก็เริ่มดังขึ้นมา เมิ่งฮ่าวมองไปยังผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งหมื่นจ้างที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ด้วยแววตาที่สลับซับซ้อน ถอนหายใจออกมา
จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ
การโค้งตัวลงไปนั้น คือการก้มศีรษะให้กับจิตวิญญาณที่ไม่ยอมจำนนของผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านไปชั่วขณะ เขาก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณอันน่าเวทนาของอี้กู่ถูกกวาดล้างออกไปแล้ว แต่จากนั้นแววตาอันซับซ้อนก็ถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา เมื่อมีผู้แข็งแกร่งเป็นศัตรู ก็อาจจะรู้สึกเคารพซึ่งกันและกัน แต่ก็ไม่มีทางจะยอมอ่อนข้อให้ได้!
บางครั้งก็มีทางเลือกแค่อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือความตาย!
ไม่ใช่เจ้าตายก็เป็นข้าสิ้น การทำสงครามในครั้งนี้ไม่อาจจะมีจิตใจที่เมตตาสงสารได้ ไม่อาจจะเห็นอกเห็นใจหรืออ่อนแอได้ นอกจากนั้นสงครามนี้…ก็เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
“อันที่จริงข้าไม่ต้องการจิตวิญญาณของเจ้า แค่ต้องการร่างผู้ยิ่งใหญ่ของเจ้าเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะทำให้พลังการต่อสู้ของเจ้าลดลงไปเล็กน้อย แต่เจ้าก็ยังคงเป็นผู้ยิ่งใหญ่!” เมิ่งฮ่าวขยับร่างเคลื่อนไหว บินขึ้นไปหยุดอยู่ที่บนศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งหมื่นจ้าง ตอนนี้เขาสามารถควบคุมร่างกายของมันได้แล้ว เพียงแค่คิดก็ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดทำอะไรก็ได้ตามที่ตนเองต้องการ
ในช่วงเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวร่อนลงไปอยู่บนศีรษะผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด มันก็ลุกขึ้นมายืนอย่างช้าๆ เกิดเป็นพลังพุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง
ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีความน่ากลัวอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงแต่พื้นฐานฝึกตนจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในอาณาจักรขุนเขาทะเลเท่านั้น ในแง่ของพลังการต่อสู้แล้ว ตอนนี้เขายังมีผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดอยู่อีกด้วย ทำให้อยู่ในจุดสูงสุดโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้ไม่มีใครสามารถจะเทียบกับเมิ่งฮ่าวได้อีกแล้ว หลังจากที่ทำลายสวรรค์ชั้นแรกไป และทำให้ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นข้าทาส ทำให้ตอนนี้…เขากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของอาณาจักรขุนเขาทะเล!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น หันหน้าไปมองยังไห่เมิ่ง ประสานมือและโค้งตัวลงในทันที การมองไปยังนางทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจและละอายใจ จึงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ผู้อาวุโสไห่เมิ่ง วันนั้น…ผู้เยาว์รู้สึกสับสน เห็นแก่ตัว ไม่ได้คิดถึงขุนเขาทะเล หวังว่าผู้อาวุโสจะไม่ถือสา”
จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ประสานมือและโค้งตัวลงอีกครั้ง เหมือนกับที่ได้กล่าวมา เมื่อวันนั้นเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอาณาจักรขุนเขาทะเลมากเท่าใดนัก ทำให้เกิดการทะเลาะกับไห่เมิ่ง หลังจากที่ออกมาจากอาณาจักรสายลม
ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ก็ตระหนักว่าตนเองพูดจารุนแรงมากเกินไป
ไห่เมิ่งยิ้มน้อยๆ ออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็น ทำให้ดูงดงามเป็นอย่างยิ่งราวกับดอกโบตั๋นเบ่งบาน แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเมตตา ขณะที่มองตอบกลับไป สำหรับนางแล้ว เมิ่งฮ่าวก็เป็นแค่กลุ่มคนรุ่นเยาว์ เป็นเด็กรุ่นหลังเท่านั้น
“ไปทำในสิ่งที่เจ้าต้องทำเถอะ”
เมิ่งฮ่าวพยักหน้า โดยไม่ลังเลใดๆ อีก นั่งขัดสมาธิและหลับตาลง จากนั้นก็ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์บางส่วนออกไป ทำให้ดวงตาของผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดสาดประกายขึ้น แทบจะราวกับว่าดวงตาคู่นั้นเป็นของเมิ่งฮ่าว
หลังจากที่ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในร่างผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด มันก็คล้ายกับเป็นร่างกายของตนเอง ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าวไปโดยสิ้นเชิง เวลาเดียวกันนั้นกลิ่นอายอันน่ากลัวของผู้ยิ่งใหญ่ก็พุ่งกระจายออกไป
แน่นอนว่าตัวเมิ่งฮ่าวเองมีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่ากับแปดในสิบส่วนของผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้มั่นใจได้ว่า เขาสามารถจะใช้พลังแปดในสิบส่วนของอี้กู่จื้อจุนได้ แค่เดินไปก้าวแรก ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดก็ข้ามผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ไปปรากฏตัวขึ้นอยู่ที่เบื้องหน้าของราชันจักรพรรดินอกคอก
“จะยอมจำนน หรือว่าตายไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวผ่านปากของผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด ทำให้เสียงนั้นบดขยี้ออกไป ดังก้องไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล
ราชันจักรพรรดิหัวเราะอย่างขมขื่น มองไปยังอี้กู่ที่อยู่ในรูปแบบของผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดซึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้ามัน ผู้ยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนี่งเคยเป็นพวกเดียวกับตนเอง ดวงตามันสาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง และยังได้ตัดสินใจที่จะตายไปอย่างเด็ดเดี่ยวอีกด้วย ถ้าอี้กู่จื้อจุนยอมตายไปดีกว่ายอมจำนน ในฐานะที่เป็นราชันจักรพรรดิ มันก็จะไม่ทำเรื่องผิดพลาดเช่นเดียวกันนั้นก่อนที่จะยอมจำนน
“เจ้าทำลายบ้านเมืองข้า! สังหารคนของข้า! แล้วคิดว่าข้าจะยอมจำนนให้กับเจ้า? ถึงแม้ว่าข้าจะตายไป ก็จะกลายเป็นภูติผีพยาบาทคอยสาปแช่งอาณาจักรขุนเขาทะเลของเจ้าไปทุกชั่วโคตร!” ราชันจักรพรรดิแหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา ปลดปล่อยพลังระเบิดจากพื้นฐานฝึกตน ทำให้กระแสน้ำวนหกแห่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าแปลกๆ จ้องมองไปยังราชันจักรพรรดิชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวว่า “คำพูดของเจ้าดูเหมือนว่าจะถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง ไม่ยอมจำนนเป็นอย่างยิ่ง และเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง…”
เสียงระเบิดราวกับเสียงฟ้าร้องคำรามดังก้องขึ้น เมื่อคำพูดของเมิ่งฮ่าว ทำให้พลังของราชันจักรพรรดินอกคอกจู่ๆ ก็สะดุดลง
โดยไม่พูดอะไรออกมาอีก เมิ่งฮ่าวบังคับให้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดยื่นมือออกไป และทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่อยู่รอบๆ ตัวราชันจักรพรรดิก็แตกกระจายไป ร่างของราชันจักรพรรดิสั่นสะท้าน และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก ถอยไปทางด้านหลัง โบกสะบัดมือ เพื่อส่งให้อาวุธเวทนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายออกไป กระแสน้ำวนทั้งหกแห่งที่อยู่ด้านหลังพุ่งผ่านร่างมัน ตรงไปยังเมิ่งฮ่าวที่บังคับให้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดต่อยออกไปเป็นหมัดแรก
“ดูเหมือนเจ้าจะลืมไปว่า ผู้รุกรานในสงครามครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่มาจากสามสิบสามสวรรค์!” ขณะที่เสียงของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป หมัดนั้นก็บดขยี้ลงไปยังความว่างเปล่า และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็แตกกระจายไป อาวุธเวททั้งหมดถูกทำลายกลายเป็นผุยผง และกระแสน้ำวนทั้งหกก็พังทลายลงไป จากนั้นหมัดก็พุ่งตรงไปยังราชันจักรพรรดินอกคอก ทำให้ขาทั้งสองข้างของมันระเบิดออก รอดพ้นจากความตายไปได้ อีกครั้งที่มันถอยไปทางด้านหลังเพื่อหลบหนี
“สงครามนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่เป็นพวกเจ้า!” เมิ่งฮ่าวจะปล่อยให้คนนอกคอกผู้นี้สะกดข่มได้อย่างไร? คำพูดของเขาบดขยี้ออกไปคล้ายกับเป็นสายฟ้า ทำให้จิตใจของราชันจักพรรดิสั่นสะท้าน ตระหนักว่าคำพูดของเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่ายากที่จะยอมรับได้…แต่ก็เป็นความจริง
สงครามในครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากสามสิบสามสวรรค์ และพวกมันคือผู้รุกรานที่แท้จริง
“แล้วจะอย่างไร? พวกข้ายังไม่ได้ทำลายอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่เป็นเจ้าที่ไปกวาดล้างคนของข้า! เจ้าคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำลายบ้านเมืองของข้าก่อน!!”
มันไม่แยแสว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นจะสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหนอีกต่อไป กลายเป็นร่างจริงของมันไป เป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่ที่ยาวหลายจ้าง และปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีดำที่ลุกโชนขึ้นมา จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว และผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด “อาณาจักรขุนเขาทะเล กำลังจะถูกกวาดล้างไปอย่างแน่นอน!!”
“ข้าไม่รู้ว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลจะถูกกวาดล้างไปหรือไม่ แต่สิ่งที่ข้ารู้ก็คือว่าเจ้า…กำลังจะตายไปแล้วในตอนนี้!” ด้วยเช่นนั้นผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดก็ขยับมือร่ายเวท จากนั้นก็ชี้นิ้วออกไป ทำให้พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่ระเบิดขึ้นอย่างเต็มกำลัง ผนึกบริเวณนั้นทั้งหมดจนคล้ายกับเป็นกรงขัง และจากนั้นก็บดขยี้ลงไปด้วยแรงกดดันอย่างน่าเหลือเชื่อ
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ราชันจักรพรรดิเริ่มสั่นสะท้านไปมา โลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปาก เปลวไฟสีดำที่ปกคลุมอยู่รอบตัวกำลังดับลงไป เกล็ดบนร่างระเบิดออก และแผดร้องด้วยความขมขื่นออกมา จากนั้นแรงกดดันก็ทำให้ร่างกายของมันระเบิดขึ้น ถูกสังหารไปโดยสิ้นเชิง!
หลังจากที่สังหารราชันจักรพรรดินอกคอกไปแล้ว เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกว่าจะอ่อนแรงลงไป การควบคุมผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด ทำให้ตนเองต้องสูญเสียพลังไปอย่างมากมาย
ขณะที่นั่งอยู่บนศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด เมิ่งฮ่าวก็ลืมตาขึ้นมาในทันที และมองลงไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดพุ่งลงไปยังขุนเขาทะเล ที่ใดก็ตามที่มันปรากฏร่างขึ้น กลุ่มคนนอกคอกที่มองเห็นมันก็จะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง บางคนก็รู้สึกบ้าคลั่ง บางคนก็รู้สึกขมขื่น ตอนนี้พวกมันกำลังต่อสู้อย่างหมดหนทาง และเห็นได้ชัดว่า…ไม่อาจจะทำอะไรได้แม้แต่น้อย
พวกมันคือผู้รุกราน แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่ากำลังถูกรุกรานอยู่ สงครามนี้ก็เหมือนกับ…คมกระบี่ที่มีอยู่สองด้าน
“สงครามครั้งแรกกับสามสิบสามสวรรค์ ได้ข้อสรุปแล้วในตอนนี้!”
คนนอกคอกที่แข็งแกร่งมากที่สุด ซึ่งยังหลงเหลืออยู่จากสวรรค์ชั้นแรกคือ
หลงหลินจื่อ มันกำลังต่อสู้กับปรมาจารย์เอกะเทวะ และในตอนนี้กำลังสั่นสะท้านและเริ่มหลบหนีจากไป ปรมาจารย์เอกะเทวะแค่นเสียงเย็นชา ไล่ล่าติดตามไปในทันที
กลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นแรกตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายโดยสิ้นเชิง