ตอนที่ 1351
สวรรค์ชั้นแรกยอมจำนน
อาณาจักรขุนเขาทะเลตอบโต้กลับไปอย่างเต็มกำลัง เปลวไฟแห่งสงครามพุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ด้วยวิธีการที่แตกต่างไปจากเดิม ครั้งนี้ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไม่ได้พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าอีกต่อไป แต่กลับเป็นกลุ่มคนนอกคอกแทน
ในขุนเขาทะเลแรก ผู้ฝึกตนลำดับขั้นเต้าเทียนนำกองกำลังของเหล่าผู้ฝึกตนเข้าไปในสนามรบ กลุ่มคนนอกคอกใดๆ ก็ตามที่มาเผชิญหน้าด้วยต่างก็ถูกบดขยี้ไป พวกมันส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะต่อสู้กลับมา ใครก็ตามสามารถจะมองเห็นว่าในตอนนี้ กลุ่มผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ และจิตวิญญาณในการต่อสู้ของพวกมันก็เต็มไปด้วยความฮึกเหิม
ในสนามรบเกิดการระเบิดตนเองขึ้นเป็นระยะ เป็นการระเบิดที่ดูยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงสำหรับกลุ่มคนนอกคอก แต่ก็เป็นการกระทำที่เกิดจากความโศกเศร้าและสิ้นหวัง ซึ่งนำมาแต่ความตายเท่านั้น
การใช้กลยุทธ์เช่นนี้สามารถทำให้ศัตรูรู้สึกนับถือหรือแม้แต่หวาดกลัวได้ แต่ไม่อาจจะทำให้ศัตรูรู้สึกว่าไร้พลังที่จะต่อสู้ด้วย
ในทางกลับกัน…เมื่อกลุ่มคนทั้งหมดระเบิดขึ้นไปด้วยความเชื่อมั่นและฮึกเหิม ก็จะกลายเป็นความน่ากลัวที่แท้จริง นี่ก็คือสิ่งที่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลเป็นอยู่!
จากการตื่นขึ้นมาของจิตวิญญาณ ทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และทรงพลังจนจิตใจของกลุ่มคนนอกคอกต้องสั่นสะท้าน ไม่ใช่กลุ่มคนนอกคอกไม่เคยคิดว่าจะทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อต่อสู้กลับไป หรือว่าใช้วิธีการระเบิดตัวเองอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด…ต่างก็ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง
พวกมันรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ขณะที่กลุ่มผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลตอบโต้กลับมา กลุ่มคนนอกคอกระเบิดตนเอง และพยายามทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะลากคู่ต่อสู้ให้ตายตกตามกันไปด้วย
แต่กระนั้น…ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!
ในขุนเขาทะเลที่สอง การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุร้ายบ้าคลั่ง สำหรับขุนเขาทะเลที่สาม กลิ่นคาวโลหิตลอยคละคลุ้งไปทั่ว ผู้ฝึกตนในที่แห่งนั้นมีประสบการณ์ต่อสู้อาบเลือดมาก่อน ดวงตาพวกมันสาดประกายเจิดจ้าขึ้น เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ความหวัง ความดุร้ายและความบ้าคลั่ง
ความเกลียดชังที่พวกมันรู้สึกในตอนนี้ เกินกว่าความเกลียดชังที่อยู่ในจิตใจของกลุ่มคนนอกคอก เมื่อรวมเข้ากับความเชื่อมั่น เมื่อมาพร้อมกับความคาดหวัง ก็ทำให้กลุ่มคนนอกคอกไม่อาจจะเทียบได้
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่การต่อสู้ในขุนเขาทะเลที่สี่ใกล้จะได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วแล้ว ภายใต้การบัญชาการของสวี่ชิง และการกลับเข้ามาในสนามรบของตี้จ้าง เหล่าศัตรูถูกกวาดล้างไปอย่างที่ไม่อาจจะต่อต้านได้
อย่างไรก็ตามตี้จ้างไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยตนเองถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด และพลังการต่อสู้ขั้นสูงสุดหกแก่นแท้ ก็ยังคงหยุดนิ่งอยู่
ไห่เมิ่งและราชันแห่งขุนเขาทะเลคนอื่นๆ ต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน เว้นเสียแต่ว่าต้องไปเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งนอกคอกแล้ว ทุกคนต่างก็แค่เฝ้าสังเกตการณ์ดูเท่านั้น
คนทั้งหมดปล่อยให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้ให้มากที่สุด เพื่อช่วยให้พวกมันเข้าใจว่าตอนนี้สงครามที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น มีแต่อาบเลือดของศัตรูเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีประสบการณ์อย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับในขุนเขาทะเลที่แปดและเก้า
กลุ่มคนนอกคอกไม่อาจจะหลบหนีไปยังที่แห่งใดได้ ในช่วงการรุกรานตอนแรก พวกมันได้สร้างกองบัญชาการหลักไว้เก้าแห่งในเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ เดิมทีพวกมันอยู่ในสภาวะที่ได้เปรียบ ทำให้กองบัญชาการเหล่านั้นคล้ายกับเป็นใบมีดอันแหลมคมเก้าเล่มที่เสียดแทงเข้าไปในอาณาจักรขุนเขาทะเล เพื่อกรีดเฉือนออกเป็นชิ้นๆ
แต่กองบัญชาการเช่นนั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมพวกมันถึงได้แทบจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น พวกมันกระจัดกระจายออกไปรอบๆ มีเพียงขุนเขาทะเลที่หกและเจ็ดเท่านั้นที่ยังคงรวมตัวกันได้ และหลุดพ้นเป็นอิสระจากผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล สองตำแหน่งนั้นคือกองบัญชาการหลักของพวกมัน และตอนนี้ก็กลายเป็นจุดอพยพสุดท้ายของพวกมัน
ภายในช่วงเวลาเจ็ดวัน ขุนเขาทะเลแรก, สอง, สามและสี่ ต่างก็ได้รับชัยชนะอย่างหมดจด กำจัดกลุ่มผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นไปจนแทบจะหมดสิ้น สังหารพวกมันไปเกือบแปดในสิบส่วน
โลหิตกระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และการต่อสู้อันดุร้ายก็เกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้ด้วยความกล้าหาญแน่วแน่
สวี่ชิงเปล่งประกายความสามารถในการบัญชาการรบออกมา และในที่สุดขุนเขาทะเลที่สี่ก็เป็นสถานที่ที่สังหารกลุ่มคนนอกคอกได้มากที่สุด จากนั้นคนทั้งหมดก็ไปช่วยผู้ฝึกตนในขุนเขาทะเลที่สามต่อไป
หลังจากนั้นคนทั้งหมดก็ร่วมมือกันอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้การบัญชาของสวี่ชิง ทุกคนมุ่งหน้าตรงไปยังขุนเขาทะเลที่ห้า เป้าหมายก็คือ…กองบัญชาการของกลุ่มคนนอกคอกที่ยืดยาวออกไปยังขุนเขาทะเลที่หกและเจ็ด
สำหรับขุนเขาทะเลที่แปดและเก้า หลังจากที่กวาดล้างกลุ่มคนนอกคอกในสนามรบไปแล้ว พวกมันก็รวมกำลังกันและบุกเข้าไปในขุนเขาทะเลที่เจ็ด
เกิดการสู้รบกันอย่างยาวนานหลายเดือน แต่ในช่วงเวลาเหล่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
ในที่สุดวันแห่งการสู้รบครั้งสุดท้ายก็เริ่มต้นขึ้นในขุนเขาทะเลที่หกและเจ็ด
เมิ่งฮ่าวต่อสู้ในสนามรบพร้อมกับผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด ทำให้กลุ่มคนนอกคอกที่ยังคงต่อต้านเป็นกลุ่มสุดท้ายเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง
ผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มคนพวกมันก็คือหลงหลินจื่อ ซึ่งจมอยู่ในความขมขื่นอย่างที่ยากจะพูดออกมาได้
ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลคล้ายกับเป็นน้ำป่าที่ไหลท่วมท้นเข้าไปในกลุ่มคนนอกคอก พร้อมกับไห่เมิ่งจื้อจุน ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด ตี้จ้างและเมิ่งฮ่าว ที่นำกองกำลังผู้ฝึกตนเข้าไปในสนามรบด้วยตัวเอง ทำให้กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่ในขุนเขาทะเลที่หกและเจ็ดไร้กำลังที่จะต่อสู้กลับมาได้
“จะยอมจำนน หรือว่าตายไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ขณะที่เสียงนี้ดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลก็หยุดการโจมตี และเริ่มกล่าวขึ้นด้วยคำพูดเดียวกันนี้
เสียงของคนทั้งหมดโอ่อ่ายิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ นี่คือจิตวิญญาณของกลุ่มฝูงชน แทบจะราวกับว่าพวกมันได้ย้อนกลับเข้าไปในอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ในศักดิ์ฐานะที่สามารถจะสะกดข่มสิ่งมีชีวิตทั้งปวงได้
“จะยอมจำนน หรือว่าตายไป!”
“จะยอมจำนน หรือว่าตายไป!!” เสียงของคนทั้งหมดดังก้องไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล เกิดเป็นแรงกดดันอย่างรุนแรงจนทำให้กลุ่มคนนอกคอกสั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม
เมิ่งฮ่าวไม่ต้องการจะกวาดล้างกลุ่มคนนอกคอกไปจนหมดสิ้น ซึ่งจะเป็นการเสียเปล่า ถ้าพวกมันยอมจำนน กองกำลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็จะไม่ลดน้อยลงไป แต่จะแข็งแกร่งมากขึ้น
ซึ่งจะกลายเป็นความหวัง สามารถจะต่อสู้ในสงครามนี้จนถึงที่สุดได้อย่างแท้จริง
ด้วยการตอบรับคำพูดของเมิ่งฮ่าว ไห่เมิ่งจื้อจุนแค่นเสียงออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าถ้าเมิ่งฮ่าวไม่พูดออกมา นางก็จะพูดเช่นนี้ด้วยเช่นกัน สำหรับตี้จ้างและราชันขุนเขาทะเลคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีความคิดที่แตกต่างออกไปบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมิ่งฮ่าวก็คือบุคคลอันยิ่งใหญ่ในอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้คนทั้งหมดได้แต่ต้องรับฟังคำพูดของเขาเท่านั้น
จริงๆ แล้ว การเพิ่มขึ้นของพลังกายเนื้ออย่างน่าเหลือเชื่อของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็เนื่องมาจากเมิ่งฮ่าว ดังนั้นพวกมันจึงไม่ต่อต้านกับความต้องการของเขา
กลุ่มคนนอกคอกมีเวลาขบคิดไม่มากนัก ผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มพวกมัน หลงหลินจื่อ จักรพรรดิเต๋าเกราะทอง หัวเราะด้วยความขมขื่น หยุดโคจรพลังการฝึกตนของมันไป จากนั้นก็โค้งตัวลงและกล่าวว่า “ข้ายอมจำนน!”
พวกมันไร้ทางเลือกอย่างแท้จริง นอกจากต้องยอมจำนนเท่านั้น มิเช่นนั้นก็จะ…ตายไปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
เมื่อคำพูดของหลงหลินจื่อดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ และดังเต็มอยู่ในขุนเขาทะเลที่หกและเจ็ด กลุ่มคนนอกคอกที่ได้ยินต่างก็ถอนหายใจ หยุดโคจรพลังการฝึกตนและโค้งตัวลงด้วยเช่นกัน
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ปฏิเสธ และพวกมันก็ถูกสังหารไปอย่างรวดเร็ว โลหิตที่หลั่งใหลออกมาของพวกมัน เป็นสักขีพยานต่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขุนเขาทะเล
เป็นชัยชนะที่ทำให้สวรรค์ชั้นแรกพังทลายลงไป ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นข้าทาส ราชันจักรพรรดิถูกสังหาร สำหรับสองจักรพรรดิเต๋า หนึ่งถูกสังหารและอีกหนึ่งยอมจำนน กองกำลังที่รุกรานเข้ามาเกือบเจ็ดในสิบส่วนถูกสังหารไป…
อย่างไรก็ตามอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปอย่างสาหัสด้วยเช่นกัน ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลเกือบสี่ในสิบส่วนตกตายไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการทำสงคราม
ถ้าเมิ่งฮ่าวไม่ทำลายสวรรค์ชั้นแรก และปลุกจิตวิญญาณของเหล่าผู้ฝึกตน จากนั้นก็ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่ของกลุ่มคนนอกคอกกลายเป็นทาส และไม่เปิดโอกาสให้พวกมันมีเวลารวมตัวกันแล้วละก็ ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลคงจะตายไปมากกว่านี้
สงครามช่วงแรกจบลงแล้ว…
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกยินดีกับชัยชนะ แต่แรงกดดันขนาดใหญ่ก็ยังคงกดทับลงมาบนเกราะป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเล เกราะป้องกันนั้นช่วยแยกคนทั้งหมดออกจากสามสิบสองสวรรค์ และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีเงาร่างขนาดใหญ่บางอย่างกำลังกดทับลงมา
คนทั้งหมดต่างก็รู้ว่าสามสิบสองสวรรค์จะต้องมาถึงในที่สุด เจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลขัดขวางพวกมันได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อใดที่พวกมันมาถึง ก็คงเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่มากกว่าสวรรค์ชั้นแรก
ถึงตอนนั้น…ก็จะมีกองกำลังที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิมบุกเข้ามาโจมตี!
อาณาจักรขุนเขาทะเลจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่…?
เป็นคำถามที่ผู้ฝึกตนทั้งหมดในอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังครุ่นคิด อย่างไรก็ตามเมื่อพวกมันมองเห็นผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดขนาดใหญ่ และเมิ่งฮ่าวที่นั่งอยู่บนศีรษะ ดวงตาของคนทั้งหมดก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า
ทันใดนั้นเสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องขึ้นมาในจิตใจของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด ซึ่งก็คือเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลนั่นเอง
“สามเดือน…พวกเรามีเวลามากที่สุดสามเดือน…สามสิบสองสวรรค์ก็จะทะลวงผ่านเกราะป้องกัน และพุ่งลงมายังพวกเรา ถึงตอนนั้นก็จะไม่ใช่แค่สวรรค์ชั้นเดียวอีกแล้ว…”
ต่อมาเจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็สอบถามขึ้นมา จนเกิดเป็นเสียงสะท้อนดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง “พวกเราควรเปิดรูปแบบการปิดล้อมขุนเขาทะเลหรือไม่?!”
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวมีท่าทางประหลาดใจขึ้น และตี้จ้างก็มองขึ้นไปในทันที
แต่ไห่เมิ่งจื้อจุนหันหน้าไปมองยังขุนเขาทะเลที่เก้า หลังจากที่ผ่านไปชั่วครู่ นางก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ
“เปิดรูปแบบการปิดล้อม!”
“ราชันขุนเขาทะเลทั้งหมด จงปฏิบัติตามคำสั่ง ให้อพยพสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในขุนเขาทะเลของพวกท่านในทันที นำพวกมันไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งบัญชาการใหญ่ของพวกเราในตอนนี้!”
“ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล ให้กลับไปยังขุนเขาทะเลของพวกท่าน และรอฟังคำสั่งต่อไป พวกเราจะร่วมมือกันเพื่อผสานกับรูปแบบการปิดล้อมขุนเขาทะเล…เพื่อทำสงครามกับสามสิบสองสวรรค์อีกครั้ง!”
“รูปแบบการปิดล้อมขุนเขาทะเลต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนเพื่อกระตุ้นให้มันทำงานขึ้น ซึ่งถูกจัดเตรียมโดยจิ่วเฟิงจื้อจุนเพื่อใช้ในการทำสงครามนี้!”
“ในรูปแบบการปิดล้อม ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลจะเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบแนวนอนเป็นแนวตั้ง ขุนเขาทะเลทั้งหมดจะซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ!”
“ขุนเขาทะเลที่หนึ่งจะกลายเป็นแนวต้านด่านแรก ขุนเขาทะเลที่สองคือแนวต้านที่สอง หลังแนวต้านที่แปดก็จะเป็นขุนเขาทะเลที่เก้า”
“สหายเต๋าจากขุนเขาทะเลทั้งปวง พวกเรามีเวลาสามเดือน…สงครามนี้จะเป็นตัวตัดสินโชคชะตาของอาณาจักรพวกเรา สำหรับข้าแล้ว ก็มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่จะพูด…ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล สู้ตาย!” หลังจากที่คำพูดของไห่เมิ่งจื้อจุนจางหายไป ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็เงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่เสียงของพวกมันจะดังก้องขึ้นมาเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน
“ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล สู้ตาย!” เสียงของพวกมันทำให้อาณาจักรทั้งปวงต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว
เมิ่งฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ และภายในดวงตาก็แวบประกายขึ้นด้วยความต้องการต่อสู้ มองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และความว่างเปล่าที่อยู่สูงขึ้นไปเหนือเกราะป้องกัน ซึ่งก็คือสถานที่ของสามสิบสองสวรรค์ และระลอกคลื่นจำนวนมากที่กระจายออกมาจากเกราะป้องกัน
“สงครามที่แท้จริง กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…”