ตอนที่ 1397
ข้าจะมอบโชควาสนาให้แก่เจ้า
โล่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ จนแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ก็ยังไม่อาจจะทำลายมันไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้จากสามสิบสามสวรรค์ และผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้คนอื่นๆ ทั้งห้า ต่างก็ถูกขัดขวางอยู่ตรงด้านนอก
เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ทันใดนั้นเสียงแค่นเย็นชาก็ดังก้องออกมาจากอาณาจักรเทพ ขณะที่สตรีผู้งดงามนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มีท่าทางโดดเดี่ยวเย็นชา และสวมใส่ชุดยาวสีม่วง มองเห็นหญิงสาวเยาว์วัยติดตามมาด้วยที่ด้านข้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อน ขณะที่มองมายังอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างเงียบๆ
สตรีนางนั้นยกมือขวาขึ้นมา และฟาดฝ่ามือตรงไปยังโล่ยิ่งใหญ่ขุนเขาทะเลในทันที
การกระทำนั้นทำให้ใบหน้านางกลายเป็นสีแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย แต่พลังอันมหาศาลก็ระเบิดออกไปจนทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน และส่งผลให้จิตใจของผู้ฝึกตนทั้งหมดต้องหมุนคว้าง แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ก็ยังต้องหวาดกลัวต่อพลังนี้
นี่เป็นพลังของ…เก้าแก่นแท้!!
ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้!!
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ขณะที่การโจมตีนั้นกระแทกเข้าไปในโล่ยิ่งใหญ่ จนต้องแตกกระจายไปในทันที ถ้าให้กล่าวกันโดยทั่วไปแล้วค่ายกลเวทนี้ไม่ควรที่จะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แต่น่าเสียดาย…ที่มันขาดพลังของทะเลไปหนึ่งแห่ง
ซึ่งเป็นสิ่งที่สุ่ยตงหลิวไม่ได้คิดเผื่อไว้ในแผนการนี้ ไม่มีเวลาที่จะทดแทนในส่วนที่หายไป แผนการเดิมของท่านคือให้โล่ยิ่งใหญ่ช่วยต่อต้านจนกระทั่งผ่านเข้าไปในอุโมงค์ หรืออย่างน้อย…ก็จนกระทั่งเข้าไปใกล้ได้มากกว่าในตอนนี้
สิ่งที่ท่านสามารถจะทำได้มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ต้องทำให้พวกมันจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างสูงลิ่ว ในการทำลายค่ายกลเวทนี้ไป!
ในขณะที่โล่ยิ่งใหญ่แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พลังสะท้อนกลับก็ปะทุออกไป
สุ่ยตงหลิวแหงนหน้าขึ้น ร้องตวาดออกไป “ผนึกขุนเขาทะเล!”
ทันใดนั้นเศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายไปของค่ายกลเวท ก็พุ่งตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่สตรี และเริ่มก่อตัวเป็นผนึกอยู่รอบตัวนาง
ขณะที่นางขมวดคิ้วเพื่อตอบรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เสียงแค่นเย็นชาอีกเสียงก็ดังก้องออกมา ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นไปด้วยความเก่าแก่โบราณโดยสิ้นเชิง พร้อมกับเงาร่างที่แก่ชราโผล่ออกมาจากภายในอาณาจักรเทพ
เป็นชายชราผู้หนึ่ง สวมใส่ชุดยาวสีขาว พร้อมกับเส้นผมที่ยาวขาวโพลนไปทั่วศีรษะ และคิ้ว ทำให้ดูสง่างามเป็นอย่างยิ่ง ถือสร้อยประคำอยู่ในมือขวา ขณะที่เดินออกมา ดวงตาก็สาดประกายขึ้นราวกับเป็นสวรรค์
เวลาเดียวกับที่โล่ยิ่งใหญ่แตกกระจายไป ห้าผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ก็พุ่งเข้ามาในทันที พร้อมทั้งผู้แข็งแกร่งทรงพลังอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
“พวกเจ้า ไม่อาจจากไป!”
เมื่อบุคคลเหล่านั้นพุ่งเข้ามาโจมตี ชายชราซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักพรตเซียนโบราณก็ลืมตาขึ้นมาในทันที ร่างกายนั้นดูเหมือนว่าจะไร้ซึ่งพลังชีวิต และเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย แต่ดวงตาที่พร่าเลือนนั้นจู่ๆ ก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้าขึ้นมา และเดินตรงไปหนึ่งก้าว ไม่สนใจผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ทั้งปวง ขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังชายชราชุดขาวและคิ้วขาวผู้นั้น
คนทั้งสองเริ่มปะทะกันในทันที จนทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน
เวลาเดียวกันนั้นเทพสามตาก็แผดร้องคำราม และพุ่งตรงไปขัดขวางผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ ป้องกันไม่ให้มันเข้าไปใกล้ผีเสื้อ!
แสงแห่งอสูรที่แปลกๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว เดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะหรือร้องไห้ใดๆ แต่ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงสีแดงจ้า และปะทุขึ้นด้วยพลังอันน่าตกใจ ขณะที่เริ่มต่อสู้ไปอย่างดุร้าย เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นพร้อมกับเลียริมฝีปากไปมา ด้วยความต้องการจะกลืนกินศัตรูที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
ในตอนนี้อาณาจักรขุนเขาทะเลได้บรรลุถึงจุดวิกฤตมากที่สุดแล้ว!
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นไปทั่วทั้งสนามรบ กระบี่บินนับล้านกลายเป็นหยาดพิรุณแห่งการทำลายล้าง ราชันจักรพรรดิเมื่อในอดีตนับหมื่น แม่น้ำแห่งการเกิดใหม่ และมารนับแสนต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง เพื่อป้องกันผีเสื้อจากอาณาจักรเทพ
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นด้วยแสงสีแดงเข้ม ต่อสู้ไปตลอดทางจนเข้าไปใกล้ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงมากที่สุด จากนั้นกลิ่นอายก็เปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งคล้ายกับเป็นสัตว์ป่า ลืมเลือนความเป็นตายไปจนหมดสิ้น ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้นั้นคือหนึ่งในดวงตะวันของอาณาจักรเทพ ถึงจะมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนั้น แต่มันก็ไม่เคยพบเจอกับผู้ฝึกตนเช่นเมิ่งฮ่าวมาก่อน และภายในช่วงเวลาสั้นๆ เมิ่งฮ่าวก็ฉีกกระชากเนื้อชิ้นใหญ่ออกมาจากร่างมันได้ ทำให้มีโทสะพุ่งขึ้นมา แต่เมื่อมันกำลังจะโจมตีกลับไป ก็พบว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับหมัดสังหารเทพอันน่าตกใจ!
ไห่เมิ่งจื้อจุนเริ่มหัวเราะออกมา แสงอันเย็นชาปรากฏขึ้นในแววตา โดยไม่ลังเลใดๆ เริ่มเผาไหม้อายุขัยที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เพื่อให้มีพลังการฝึกตนที่มากขึ้น ทำการโจมตีออกไปในทันที
เกิดการต่อสู้ขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ และที่ห่างไกลออกไป ก็ยิ่งมีผู้ฝึกตนเข้ามาใกล้มากขึ้นจากทิศทางของอาณาจักรเทพ
สุ่ยตงหลิวแผดร้องคำราม โบกสะบัดชายแขนเสื้อไปมา ขณะที่พุ่งไปต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกคน เพื่อปกป้องผีเสื้อที่กำลังพุ่งตรงไปยังอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด
แม้ในขณะที่ส่วนหัวของผีเสื้อเริ่มผ่านเข้าไปในอุโมงค์ ผู้ยิ่งใหญ่สตรีที่ถูกผนึกไว้ก็เริ่มจะทะลวงออกมาได้ พันธนาการบนร่างนางแตกกระจายไป และเดินตรงไปหนึ่งก้าว ผ่านเข้าไปในอาณาจักรขุนเขาทะเล และยื่นมือขวาออกไปคว้าจับผีเสื้อไว้
“กลับมานี่!”
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อพลังอันมหาศาลพุ่งตรงไปยังผีเสื้อซึ่งเริ่มสั่นสะท้าน เวลาเดียวกันนั้นซากศพของนักพรตเซียนโบราณ ที่กำลังต่อสู้อยู่กับชายชราในชุดสีขาว ได้มองกลับไปยังผีเสื้อ จากนั้นก็หลับตาลงและระเบิดตนเองไปโดยไม่ลังเลใดๆ
การกระทำด้วยความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ทำให้ดวงตาของชายชราชุดขาวต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ พยายามที่จะถอยไปทางด้านหลัง แต่พลังของการระเบิดตนเองก็ม้วนกวาดมาปกคลุมร่างมันราวกับเป็นอุทกภัย และเริ่มกระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ที่แห่งใดก็ตามที่พลังนั้นพุ่งผ่านไป กลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนจากอาณาจักรเทพ ก็จะส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวน ขณะที่ถูกกำจัดไปในทันที จากนั้นพลังก็เริ่มม้วนกวาดไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่ก็ไม่ได้ทำอันตรายต่อกองกำลังของขุนเขาทะเลใดๆ กลับมีเป้าหมายอยู่ที่ผู้ยิ่งใหญ่สตรีเก้าแก่นแท้ผู้นั้น!
สีหน้านางสลดลง แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนางก็ยังต้องหลบเลี่ยงออกไปอย่างไร้ทางเลือก ต้องปล่อยมือออกจากผีเสื้อและพุ่งถอยไปทางด้านหลังในทันที
เวลาเดียวกันนั้นพลังของการระเบิดตนเองก็กลายเป็น พลังขับเคลื่อนที่ทำให้ผีเสื้อพุ่งตรงเข้าไปในอุโมงค์อย่างรวดเร็ว
“เซียนกู่!! (เซียนโบราณ)” สุ่ยตงหลิวร้องตะโกนขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ท่านรู้ว่าเซียนโบราณที่เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นมานี้ตายไปแล้ว และไม่อาจจะต่อสู้ได้นานมากนัก การที่เซียนโบราณเลือกที่จะระเบิดตนเองในช่วงวิกฤตเช่นนี้ เป็นสิ่งที่สุ่ยตงหลิวเคยคิดไว้นานแล้ว อันที่จริงแม้แต่ตัวท่านเองก็อาจจะทำเช่นนั้น ในแผนการทั้งหมดที่ท่านวางไว้ ความผิดพลาดที่แท้จริงมาจาก…ไม่ได้คาดคิดว่าทะเลที่เก้าจะกลายเป็นผู้ทรยศเท่านั้น
ในอดีตที่ผ่านมา ท่านเคยครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลจะทรยศ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าทะเลที่เก้าจะตัดสินใจกระทำเช่นนั้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าท่านไม่เคยรู้เรื่องบาดหมางระหว่างเมิ่งฮ่าวและทะเลที่เก้ามาก่อน แต่ท่านมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย อันที่จริงถ้าครุ่นคิดให้ลึกซึ้ง ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่ายังมีเหตุผลอื่นที่สำคัญมากไปกว่านั้น ในการทรยศของทะเลที่เก้า
“มันต้องการความเป็นอิสระ…” สุ่ยตงหลิวครุ่นคิดด้วยความขมขื่น การทรยศของทะเลที่เก้ากลายเป็นข้อบกพร่องของโล่ยิ่งใหญ่ขุนเขาทะเล ซึ่งน่าจะต่อต้านได้นานมากกว่านี้ก่อนที่จะถูกทำลายไป
ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปสำหรับความอ่อนแอนี้ก็คือชีวิต และโชคร้ายที่ชีวิตของนักพรตเซียนโบราณยังไม่เพียงพอ…
ในช่วงวิกฤตนี้เองที่ลำแสงได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้เข้ามาใกล้อีกครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีสองผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ จากอาณาจักรเทพอีกด้วย
แต่เทพสามตาก็แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะเป็นเสียงดังก้องออกไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น พุ่งทะยานตรงไปและตัดสินใจระเบิดตนเองโดยไม่ลังเล แรงระเบิดพุ่งออกไป กลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผีเสื้อพุ่งเข้าไปในอุโมงค์ได้ไกลมากขึ้น จนกระทั่งเข้าไปได้ครึ่งทางแล้ว
ต่อมารถศึกก็ระเบิดขึ้น จากนั้นก็เป็นราชันจักรพรรดิโบราณ ในตอนนี้คนทั้งหมดเลือกที่จะระเบิดตนเองไป กระบี่บินหนึ่งล้านเล่ม และกองกำลังอื่นๆ ที่มาจากกองหนุนสำรองแห่งขุนเขาทะเล ต่างก็ตกตายไปด้วยการกระทำเช่นเดียวกันทั้งหมด
ตูมมมมมมม!
ผลของการระเบิดทำให้เกิดเป็นอันแสงเจิดจ้ากระจายออกไปทั่วทั้งสนามรบ เวลาเดียวกันนั้นเต่าเสวียนอู่ทั้งเก้า รวมทั้งทะเลทั้งแปด ต่างก็รวมพลังกันเพื่อช่วยผลักดันผีเสื้อให้พุ่งตรงไป
ผู้ยิ่งใหญ่ที่ใกล้เข้ามาถูกม้วนกวาดออกไปด้วยพลังของการระเบิดตนเอง และเวลาเดียวกันนั้นผีเสื้อก็ถูกผลักดันให้เข้าไปในอุโมงค์ได้ทั้งตัว
ดูเหมือนว่าคนทั้งหมดแทบจะหลบหนีจากไปได้แล้ว ราวกับว่าภายในไม่กี่อึดใจนี้อาณาจักรขุนเขาทะเลก็จะหายไป ราวกับว่าอาณาจักรเทพไม่มีเวลาที่จะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม…ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกตัดสินนี้
กลุ่มผู้ฝึกตนก็พุ่งออกมาจากอาณาจักรเทพ อุโมงค์กำลังสั่นไหวไปมา ดูเหมือนว่ายากที่จะป้องกันไม่ให้ผีเสื้อหลบหนีจากไปได้
ในแผนการของสุ่ยตงหลิว ชั่วอึดใจต่อมาก็น่าจะมีโล่ยิ่งใหญ่มาช่วยปกป้องไว้ แต่การทรยศของทะเลที่เก้า ทำให้แผนการนี้กลายเป็นแค่ความฝันไปเท่านั้น
“แม้แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะต้องถูกชดเชยด้วยค่าตอบแทนอันยิ่งใหญ่ หลายชีวิตต้องถูกสังเวยไป ตอนนี้ก็เป็นคราของข้าแล้ว” สุ่ยตงหลิวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็ก้าวเดินตรงไป และทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าจะแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ฉับพลันนั้นท่านไม่ได้เป็นชายชราอีกต่อไป แต่กลับดูหนุ่มแน่นแข็งแรง สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ยื่นแขนตรงไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล
“ย่อส่วน!”
แค่สองคำนี้ก็ทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง ทั้งเก้าขุนเขาและแปดทะเล หดเล็กลงอยู่ในรูปแบบของของวิเศษที่ตกลงมาอยู่บนฝ่ามือของสุ่ยตงหลิว จากนั้นท่านก็โยนมันออกไปทางด้านหลัง ซึ่งห้อมล้อมเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนทั้งหมด รวมทั้งเมิ่งฮ่าว, ตี้จ้าง, ไห่เมิ่งจื้อจุน และคนอื่นๆ ต่างก็พุ่งทะยานตรงไปยังอุโมงค์ พร้อมกับขุนเขาทะเลที่ถูกย่อส่วน
คนทั้งหมดไม่อาจจะดิ้นรนขัดขืนได้ เมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ ต่างก็พุ่งทะยานตรงไปยังอุโมงค์ สำหรับอาณาจักรขุนเขาทะเลที่ถูกย่อส่วน มันมุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าว กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ส่องแสงระยิบระยับ หลอมรวมเข้าไปในหน้าผาก
จิตใจเมิ่งฮ่าวเริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่มองออกไปยังสุ่ยตงหลิว ซึ่งลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงด้านนอกของอุโมงค์ มีสุ่ยตงหลิวเพียงลำพัง เตรียมพร้อมที่จะขัดขวางคนทั้งหมดที่ใกล้เข้ามา เพื่อถ่วงเวลาให้กับผีเสื้อที่สูญเสียทะเลที่เก้าไป!
เสียงของสุ่ยตงหลิวดังก้องออกมาด้วยพลังที่ดูเหมือนว่าจะไร้ขอบเขต กล่าวขึ้นมาว่า
“เมิ่งฮ่าว เหล่าฟูเป็นหนี้ตระกูลฟาง วันนี้จะชดใช้ให้กับเจ้า!”
“ขอส่งมอบอาณาจักรขุนเขาทะเลให้กับเจ้าแล้ว!”
“นำมันไป พร้อมกับ…เวทผนึกตราบนิรันดร์ของเหล่าฟู นี่คือ…เวทผนึกรุ่นแรกของพันธมิตรผู้ผนึกอสูร นำพลังการฝึกตนและเต๋าของเหล่าฟูไปด้วย!”
“นี่คือแผนการขั้นสุดท้ายของเหล่าฟู ใช้พลังการฝึกตนและเต๋าของเหล่าฟูเพื่ออาณาจักรขุนเขาทะเล เพื่อกลายเป็นสิ่งที่เหนือกว่าจิ่วเฟิง…เหนือกว่าผู้ยิ่งใหญ่…เหนือกว่าเทพและมาร เหนือกว่า…ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังทั้งปวง!”