ตอนที่ 1398
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันไร้ขอบเขต
อุโมงค์สั่นสะเทือนขณะที่ผีเสื้อบินตรงไป ถูกห้อมล้อมด้วยเมิ่งฮ่าวและผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังอื่นๆ กระแสน้ำวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น พลังระเบิดเหล่านั้นมารวมตัวกัน จนทำให้ความรวดเร็วของผีเสื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะระเบิดเป็นความรวดเร็วออกไปอย่างกะทันหัน แต่เมื่อคนทั้งหมดมองกลับไป ก็ยังคงมองเห็นสุ่ยตงหลิวกำลังยืนอยู่ตรงด้านนอกของอุโมงค์ราวกับเป็นขุนเขาอันแข็งแกร่ง
ม่านตาสีแดงของเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น ด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน มองไปยังสุ่ยตงหลิวที่จู่ๆ ก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น ท่านไม่ได้แก่ชราอีกต่อไป แต่กลายเป็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง
สองมือของท่านขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้พลังอันน่าตกใจพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว พร้อมกับแสงอันเจิดจ้า ทั้งหมดนั้นคือ…พลังแห่งพื้นฐานฝึกตนเก้าแก่นแท้ ซึ่งส่งเสียงกระหึ่มราวกับมีชีวิตขึ้นมาอยู่ภายในร่าง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าท่านไม่อาจจะขยับร่างเคลื่อนไหวได้อย่างแท้จริง พื้นฐานฝึกตนของท่านพุ่งทะยานขึ้นไป แต่ที่สามารถจะทำได้ทั้งหมดก็คือยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ราวกับว่าใช้ร่างของตนเอง…ปิดกั้นปากทางเข้าอุโมงค์ ถ้าใครก็ตามต้องการจะผ่านเข้าไป ก็ต้องกำจัดท่านไปก่อน
ในช่วงเวลาเดียวกับที่ร่างท่านเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้น พื้นฐานฝึกตนก็เริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยวิธีการที่ลี้ลับบางอย่าง ท่านได้สร้างการเชื่อมต่อกับเมล็ดพันธุ์อาณาจักรขุนเขาทะเลที่อยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว!
ราวกับเป็นการส่งมอบจิตวิญญาณ คล้ายกับการส่งผ่านเต๋า ทำให้เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน และจิตใจก็เกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้อง เริ่มเข้าใจเต๋าแห่งสวรรค์นับไม่ถ้วน
มีความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานฝึกตนโดยสิ้นเชิง และรู้ซึ้งอย่างลึกล้ำเกี่ยวกับวิชาเวทต่างๆ ทั้งหมดนั้นถูกส่งต่อจากสุ่ยตงหลิวมายังเมิ่งฮ่าว
ถ้าเกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่พลังการฝึกตนอันไร้ขอบเขต รวมทั้งแก่นแท้พลังชีวิต ต่างก็ไหลเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าวทั้งหมด ทำให้ต้องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ส่งเสียงกู่ร้องออกมา ขณะที่การเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรและน่าตกใจ เกิดขึ้นอยู่ภายในร่าง
ตรงด้านนอกอุโมงค์ เสียงแผดร้องด้วยความผิดหวังของกลุ่มคนจากอาณาจักรเทพได้ยินมา
“มันกำลังส่งมอบเซียนเต๋าออกไป!”
“มันกำลังใช้ตนเองเป็นเมล็ดพันธุ์ จากนั้นก็สังเวยตนเองเพื่อช่วยให้ใครบางคนพุ่งทะยานขึ้นไป…”
“นั่นเป็นวิชาเวทที่ถูกส่งต่อกันมาจากอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ แต่เดิมทีมันเป็นวิชาเวทที่ชั่วร้าย สามารถใช้กลืนกินคนอื่นเพื่อช่วยให้ตนเองมีความก้าวหน้าขึ้น แต่คนผู้นี้…กำลังใช้ในทางตรงกันข้าม!”
ในท่ามกลางเสียงหึ่งๆ ของการพูดคุย ผู้ยิ่งใหญ่สตรีเก้าแก่นแท้ขมวดคิ้วอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา และเดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ชายชราในชุดยาวสีขาวคิ้วขาวถอนหายใจ และมุ่งหน้าต่อไป สำหรับผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้คนอื่นๆ ต่างก็เคลื่อนที่ตรงไปด้วยเช่นกัน
ไม่นานต่อมาเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในสองหูของคนทั้งหมด เมื่อพวกมันเข้าไปใกล้สุ่ยตงหลิวด้วยพลังอันน่ากลัว สุ่ยตงหลิวหัวเราะหึๆ และดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่มองไปยังผู้ฝึกตนที่ทรงพลังทั้งหมดจากอาณาจักรเทพ
“พวกเราผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล…มีชีวิตอยู่และตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!” สองมือของท่านขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว เรียกความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา เผาไหม้ร่างกายตนเองและปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกไป ส่วนหนึ่งใช้ขัดขวางคู่ต่อสู้ และอีกส่วนก็ส่งมอบให้กับเมิ่งฮ่าว
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ขณะที่สุ่ยตงหลิวได้รับบาดเจ็บนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ถอยไปทางด้านหลังแม้แต่น้อย ยังคงยืนอยู่ตรงด้านนอกปากทางเข้าอุโมงค์ หัวเราะออกมาเหมือนเช่นเคย
“เหล่าฟูไม่ใช่จิ่วเฟิง ถึงแม้ว่าร่างกายนี้จะประกอบไปด้วยวิญญาณไร้ร่างของจิ่วเฟิง…แต่ก็ไม่รู้ว่ามันใช้ข้าเพื่อฟื้นคืนชีพ หรือว่าข้าใช้มันกลับเข้ามาสู่โลกนี้…คำถามที่ว่าข้าเป็นใครจริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ข้าสงสัยมานับพันปีแล้ว บางทีข้าอาจจะรู้คำตอบนั้นมาโดยตลอด เดิมทีข้าเป็นวิญญาณของกลุ่มคนที่ตายไปแล้ว…แต่ในที่สุดก็เป็นเช่นเดียวกัน…”
“ข้าเป็นร่างจำแลงที่จะสังหารเทพ และขัดขวางศัตรูที่อยู่ในขุนเขาทะเล ข้าพิจารณาถึงเต๋าแห่งการทำลายล้าง และถามหาสวรรค์แห่งสิ่งมีชีวิตทั้งปวง”
“ข้าทุ่มเทอย่างสุดกำลัง กระทำการทุกอย่างเท่าที่จะทำได้…อาจจะมีบางคนเกลียดชังข้า หรือมีคนปรักปรำข้า แต่เมื่อพูดถึงอาณาจักรขุนเขาทะเลแล้ว…ข้าไม่เคยเสียใจใดๆ ข้ามีชีวิตอยู่เพื่ออาณาจักรขุนเขาทะเล และตอนนี้ข้าก็จะตายไปเพื่อมัน ความปรารถนาของข้าได้รับการเติมเต็มแล้ว และไร้ซึ่งความเสียใจใดๆ!”
“พวกเราผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล มีชีวิตอยู่และตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!” ขณะที่สุ่ยตงหลิวหัวเราะ แววตาแห่งความบ้าคลั่งก็สาดประกายขึ้นมา ก่อนที่ท่านจะถูกศัตรูกำจัดไปโดยสิ้นเชิง ก็เลือกที่จะกระทำเช่นเดียวกับผู้ฝึกตนอื่นๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล เมื่อพวกมันกำลังใกล้จะตกตายไป
ระเบิดตนเอง!
ด้วยการระเบิดตนเองไป ท่านก็สามารถจะทำให้คนที่ไล่ตามมาได้รับบาดเจ็บ ด้วยการระเบิดตนเอง ท่านก็สามารถจะส่งมอบมรดกของตนเองให้กับเมิ่งฮ่าวได้รวดเร็วมากขึ้น ท่านจะทำให้เมิ่งฮ่าว…ได้รับโชควาสนาขั้นสูงสุด!
สุ่ยตงหลิวกำลังระเบิดตนเอง!
ในทันทีที่เกิดขึ้นเช่นนี้ กระแสน้ำวนที่อยู่ในอุโมงค์ก็หมุนวนอย่างรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ผีเสื้อมีความรวดเร็วเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัวด้วยเช่นกัน เพียงชั่วขณะเท่านั้นมันก็พุ่งออกไปยังที่ห่างไกล ในตอนนี้เองที่จิตใจเมิ่งฮ่าวก็เต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้องที่บดขยี้ลงมาอย่างไร้จุดสิ้นสุดด้วยเช่นกัน ร่างกายสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เต๋านับไม่ถ้วนเต็มอยู่ในจิตใจ จนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจนแทบจะคลุ้มคลั่ง
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และม่านตาก็พร่าเลือนอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะหมดสติไป ไห่เมิ่งจื้อจุนรีบคว้าจับไว้ จากนั้นก็มองกลับไปยังแสงอันเจิดจ้าที่แวบขึ้นมาตรงประตูทางเข้าของอุโมงค์ด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน พร้อมกับคนทั้งหมดที่อยู่บนผีเสื้อ
ไม่นานนักเสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกมาจากทั่วทุกที่ ชั่วขณะต่อมาผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพก็หลั่งใหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก เวลาเดียวกันนั้นอาณาจักรขนาดใหญ่ของพวกมันก็บรรลุถึงอุโมงค์ด้วยเช่นกัน จากนั้นตัวอุโมงค์เองก็เริ่มพังทลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
ทันใดนั้นเองที่ผีเสื้อถูกดูดออกไปยังสุดปลายอุโมงค์อย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าเวลาจะเคลื่อนที่ช้าลง จนยากที่จะบอกได้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแล้ว เมื่อทุกสรรพสิ่งกลับคืนมาเป็นปกติเหมือนเดิม คนทั้งหมดก็ไปอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันไร้ขอบเขต พุ่งออกไปจากกระแสน้ำวนที่เพิ่งจะปรากฏขึ้น
เมื่อผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลมองออกไป ก็ได้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันไร้ขอบเขต ไม่มีกลุ่มดาวใดๆ มีเพียงชั้นของกลุ่มหมอกที่กำลังกระเพื่อมไปมาเท่านั้น
ด้านหลังคนทั้งหมดเป็นสถานที่ซึ่งอาณาจักรขุนเขาทะเลเคยคงอยู่มาก่อน เมื่อมองย้อนกลับไป ก็จะเห็นเป็นกระแสน้ำวนที่เลือนรางอยู่แห่งหนึ่ง ภายในนั้นมีจุดแสงอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่เหล่านี้มองเห็นโลกภายนอก ซึ่งให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง
เมิ่งฮ่าวยังคงสลบอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าพลังอันน่าตกใจกำลังบ่มเพาะอยู่ภายในร่าง จนเกิดเป็นเสียงดังกระหึ่มอยู่เป็นระยะ
ผีเสื้อพุ่งเข้าไปในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานนักเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากตำแหน่งที่เพิ่งจะโผล่ออกมา กระแสน้ำวนที่เปิดออกขยายใหญ่มากขึ้นในทันที จากนั้นก็ระเบิดออกเมื่อดินแดนอันกว้างใหญ่โผล่ออกมา
จากนั้นกระแสน้ำวนที่เชื่อมต่อกับตำแหน่งดั้งเดิมของอาณาจักรขุนเขาทะเลก็แตกกระจาย หายไปตราบชั่วนิรันดร์
สิ่งที่เพิ่งจะโผล่ออกมานั้นคืออาณาจักรเทพ ซึ่งกระจายเป็นกลิ่นอายอันน่ากลัวและเต็มไปด้วยโทสะนับไม่ถ้วน พุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง
“ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันไร้ขอบเขต! พวกมันไม่มีทางหนีรอด!”
“ไม่มีใครหลบหนีจากการไล่ล่าของอาณาจักรเทพได้!”
“เมิ่งฮ่าว! นามของผู้สืบทอดนั้นคือเมิ่งฮ่าว!”
หลังจากนั้นพวกมันก็มุ่งมั่นที่จะตามหาเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ ทุ่มพลังออกมาจนสุดตัวเพื่อไล่ล่า
ขณะที่อาณาจักรเทพไล่ตามมา เรือโดดเดี่ยวลำหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ลอยตัวอยู่ที่นั่น บนหัวเรือมีชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ ซึ่งทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นมา และมองออกไปยังที่ห่างไกล
หลังจากที่ผ่านไปชั่วขณะ ท่านก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ พึมพำว่า
“ถ้าพวกมันรับรู้ได้ถึงความจริงทั้งหมด ยังจะทำเช่นนี้อีกหรือไม่?” บางทีอาจจะเป็นท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า ‘พวกมัน’ ที่ตนเองเอ่ยถึงคือใคร
เวลาผ่านไปอีกชั่วครู่หนึ่ง และจากนั้นเรือก็เริ่มจางหายไป ชายชราเริ่มเดินทางอย่างไม่มีวันจบสิ้นต่อไป เห็นได้ชัดว่าการหยุดอยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเลนี้เป็นแค่การหยุดพักในช่วงเวลาสั้นๆ ของการเดินทางอันยาวนานเท่านั้น ตอนนี้ท่านเดินทางห่างออกไปไกลอีกครั้งแล้ว
“บางทีพวกเราอาจจะไม่ได้พบกันอีก แต่อสูรนั่น…ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย” ท่านถอนหายใจ และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความครุ่นคิด
ขณะที่เรือลำนั้นหายลับตาไป ผู้ฝึกตนชราที่ผอมกระหร่องผู้หนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นยังอีกทิศทางหนึ่ง ที่ลอยตัวอยู่ด้านข้างเป็นยุงยักษ์ตัวหนึ่ง ทั้งคู่ต่างก็มองออกไปยังที่ห่างไกล
ผู้ฝึกตนนั้นมีท่าทางที่น่าอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ในตอนนี้กำลังขมวดคิ้วด้วยท่าทางลังเลอยู่
“จำเป็นต้องมีสงครามนี้จริงๆ? พวกวิกลจริต เป็นคนบ้ากันทั้งสิ้น…เพื่อป้องกันไม่ให้เซียนปรากฏกายขึ้น ทำให้มันกลายร่างเป็นอสูรไป…” ถ้าหวังมู่ยังอยู่ในที่แห่งนี้ ก็คงจะจดจำชายชราที่ผอมแห้งผู้นี้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็คืออาจารย์ของมันนั่นเอง เป็นผู้สอนวิธีการฝึกตนอยู่ในป่าไผ่ของตระกูลหวัง
หลังจากที่ผ่านไปชั่วขณะ ผู้ฝึกตนที่ผอมกระหร่องก็ถอนหายใจ
“ดาววิบัติผู้นั้นหายไปนานหลายปีแล้ว แต่เรื่องราวเดียวกันนี้กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ช่างมันเถอะ เหยียเยี่ย (ท่านปู่) จะไม่เกี่ยวข้องด้วย”
ผู้ฝึกตนที่ผอมกระหร่องส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็เริ่มเดินห่างออกไปไกล บางทีจากมุมมองของมัน สิ่งที่อาณาจักรเทพกำลังกระทำอยู่นี้อาจจะมากเกินไป อาจจะชั่วร้ายเกินไป แต่ในที่สุด…ก็อาจจะไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรงก็เป็นได้
แม้แต่มือสังหารก็ยังได้ปรากฏตัวขึ้น กำลังมองออกไปยังที่ห่างไกล เห็นได้ชัดว่าแม้แต่ตัวมันเองก็ยังรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ค่อนข้างจะไร้สาระ…
เป็นไปได้ว่าในช่วงเวลานี้ ไม่มีใครสามารถจะเข้าใจได้…ต่อความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้
เซียนกลายเป็นอสูร และอสูร…ก็จะกลายเป็นสิ่งสูงสุดแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต!
การไล่ล่ายังคงดำเนินอยู่ต่อไป สงครามครั้งสุดท้ายที่เพิ่งจะเกิดขึ้น สุ่ยตงหลิวทำให้เกิดเป็นความรู้สึกอันซับซ้อนอยู่ในจิตใจของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเล
สุ่ยตงหลิวมอบความหวังให้กับอาณาจักรขุนเขาทะเล เมื่อพวกมันตกอยู่ในห้วงความสิ้นหวังอย่างลึกล้ำ ท่านก็มอบโอกาสรอดชีวิตอันน้อยนิดให้ โอกาสนั้นเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มมีความชัดเจนขึ้นในตอนนี้
ถึงแม้จะดูเหมือนว่าผีเสื้ออาจจะยังคงพบเจอกับการทำลายล้าง แต่การที่มันโผล่ออกมาจากกระแสน้ำวนเข้าไปสู่ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตอย่างฉับพลันนี้ ก็ทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเล…สามารถจะหลบหนีจากโชคชะตาที่ต้องถูกทำลายล้างอย่างแน่นอนไปได้
ในตอนนี้อาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังลิขิตโชคชะตาของตนเองแล้ว!
ไร้โซ่ตรวนและผนึกใดๆ ไม่มีสามสิบสามสวรรค์ และไม่มีเต้าฟาง ไม่มีผนึกไร้ขอบเขต! ไม่มีสองกองกำลังที่จะบดขยี้ลงมาจากด้านบน
สามารถจะกล่าวได้ว่าในที่สุดผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ได้รับอิสรภาพที่แท้จริง หลายแสนปีที่ผ่านมานับตั้งแต่อาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ตลอดช่วงเวลานั้น พวกมันไม่เคยมี…อิสระที่แท้จริงมาก่อน
พวกมันกำลังถูกไล่ล่า แต่ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็รับรู้ได้ว่า ตนเองมีอิสรภาพแล้ว
ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปเพื่ออิสรภาพนี้เป็นสิ่งที่ยากจะคาดคิดคำนวณได้ สำหรับผู้ฝึกตนเพียงหยิบมือที่ยังคงรอดชีวิตอยู่อย่างแท้จริง เมื่อพวกมันคิดไปถึงสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นโอกาสที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ซึ่งสุ่ยตงหลิวได้สร้างขึ้นมา ก็ทำให้ต้องเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน รวมทั้งความเกลียดชังและนับถือ
ผู้ฝึกตนเก้าสิบเก้าในหนึ่งร้อยส่วนต้องตายไป เพื่อแลกเปลี่ยนกับโอกาสเช่นนี้ ทุกครั้งที่ผีเสื้อกระพือปีกก็ทำให้วิญญาณที่ตายไปแล้วของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องหายสาบสูญไปเพิ่มขึ้น
อันที่จริงก็อาจจะดีกว่าถ้าจะกล่าวว่า ปีกคู่นั้นไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยฟางซิ่วเฟิงและเมิ่งลี่เพียงลำพัง แต่เป็นชีวิตของผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่ตายไปแล้วทั้งปวง