Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1402

ตอนที่ 1402

ข้าจะครอบครองขุนเขาทะเล

เมิ่งฮ่าวถืออาณาจักรขุนเขาทะเลอยู่ในมือ โยนมันออกไป พร้อมกับส่งจิตวิญญาณและเจตจำนงของตนเองเข้าไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่อาณาจักรขุนเขาทะเลปรากฏขึ้น ไม่ได้ปกคลุมไปรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว แต่เป็นผีเสื้อ!

โล่นั้นห่อหุ้มผีเสื้อไว้ ช่วยปกป้องเครือญาติและสหายทั้งปวงของเมิ่งฮ่าวไว้ จากนั้นก็ก้าวเดินตรงไป กลายเป็นลำแสงพุ่งไปยังผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ที่เย็นชานางนั้น

ขณะที่คนทั้งสองเข้ามาใกล้ซึ่งกันและกัน ก็ขยับมือร่ายเวทอยู่ตลอดเวลา กลิ่นอายสะกดข่มที่กระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ราวกับมีเสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วน ที่จู่ๆ ก็ดังเต็มอยู่ในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต

เสียงระเบิดดังก้องขึ้น และจากนั้นคนทั้งสองก็แยกออกจากกัน ชั่วขณะต่อมาก็ต่อสู้กันอย่างดุร้าย เมิ่งฮ่าวสะบัดมือออกไปเพื่อเรียกภูเขาจำนวนมากให้ตกลงมา จากนั้นก็กลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีฟ้า กระจายเป็นพลังที่แปลกๆ ออกมา ทำให้ดูเหมือนกับเป็นอสูร ขณะที่กรีดร้องพุ่งเข้าไปโจมตี

ระลอกคลื่นระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง เมิ่งฮ่าวยิ้มหน้าเป็นขยับมือร่ายเวท และปลดปล่อยเวทผนึกออกไป เวทรุ่นแปดปะทุขึ้น และนิ้วที่ชี้ออกไปนั้น ก็ทำให้สตรีที่เย็นชาหยุดชะงักนิ่งอยู่ชั่วขณะ ทันใดนั้นเวทรุ่นเจ็ดก็ปรากฏขึ้น

ต่อมาเป็นเวทรุ่นหก, เวทรุ่นห้า และเวทรุ่นสี่ โลกแห่งสีดำและสีขาวปรากฏขึ้น ถูกห้อมล้อมด้วยวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่นับไม่ถ้วน เต๋าแห่งกาลเวลาอันยิ่งใหญ่ที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้น สีหน้าของสตรีเย็นชาเปลี่ยนไป และชายชราคิ้วขาวในชุดยาวสีขาวก็เดินคุกคามตรงมา

เวลาเดียวกันนั้น เสียงของมันก็ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง “ทำลายโลกผีเสื้อ!”

ผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะพุ่งตรงไป ภายใต้การนำของผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ พวกมันเริ่มโจมตีไปยังโล่ยิ่งใหญ่

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น เมิ่งฮ่าวต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ทั้งสองเพียงลำพัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง กระถางสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ ประจุไฟฟ้าเต้นไปมา สลับร่างเปลี่ยนตำแหน่งกับผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพผู้หนึ่ง เมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไปอยู่ที่ด้านข้างของราชันจักรพรรดิอาณาจักรเทพ พุ่งมือออกไปในทันที และราชันจักรพรรดิก็แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา เมื่อนิ้วมือของเมิ่งฮ่าวแทงเข้าไปในดวงตาของมัน ปลดปล่อยพลังสาปแช่งเพื่อพันธนาการวิญญาณของมันไว้ จากนั้นก็ควักลูกตาทั้งสองข้างออกมา คว้าจับร่างมันยกขึ้นมาเหนือศีรษะ

ต่อมาก็โยนร่างมันตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ ที่กำลังพุ่งตรงมาจากด้านข้าง เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น และผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ก็สั่นสะท้าน แต่ชั่วขณะต่อมามันก็เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว

“ไสหัวไป!” มันร้องตวาดขึ้น ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และพลังแก่นแท้ออกมา แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็หายตัวไปอีกครั้ง ไปปรากฏกายขึ้นที่ด้านข้างของผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกคนอย่างคาดไม่ถึง ครั้งนี้กลิ่นอายของเขาแตกต่างกันออกไปกลายเป็นดุร้ายโหดเหี้ยม ขณะที่พุ่งทะยานตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่ กลุ่มหมอกสีดำก็ม้วนตัวออกมา ปกคลุมไปยังร่างของคนทั้งสอง

เสียงแผดร้องโหยหวนดังก้องออกมา และขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่เย็นชานางนั้นรีบเร่งตรงมา กลุ่มหมอกก็จางหายไป มองไม่เห็นเมิ่งฮ่าว แต่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้ยังคงอยู่ตรงนั้น ร่างกายราวกับถูกสัตว์ป่าฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ

เมิ่งฮ่าวไปปรากฏตัวขึ้นยังที่ห่างไกลออกไป ถือแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อยู่ในมือ ดวงตาแวบประกายขึ้นด้วยแสงสีแดง

หย่อนแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์นั้นเข้าไปในปาก และเริ่มขบเคี้ยวไปมาอย่างช้าๆ จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา และความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตก็สั่นสะท้าน ขณะที่อาวุธสงครามปรากฏขึ้นมาในทันที

ครั้งนี้มันไม่ได้มีสีดำสนิท แต่เป็นสีแดงจ้า อันที่จริงถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะเห็นว่าเส้นผมของเมิ่งฮ่าวไม่ได้เป็นสีดำอีกต่อไป แต่เป็นสีม่วง!

ยิ่งไปกว่านั้น…ตรงรากผมก็เป็นสีแดงขึ้นมาอย่างแท้จริง!

ถึงแม้ว่าจะมีกองกำลังมากมายเรียงหน้าเข้ามาต่อสู้ แต่เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะสังหารไปได้หลายคนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่สตรีเย็นชามีใบหน้าที่บึ้งตึงเป็นอย่างยิ่ง สำหรับอาณาจักรเทพอันยิ่งใหญ่แล้ว การสังหารผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ไม่ใช่สิ่งที่ยุ่งยากจนเกินไปนัก แต่เมิ่งฮ่าวก็แปลกประหลาดและมีการเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างมากมาย จนไม่อาจจะตรึงร่างเขาไว้ได้

ในตอนนี้เองที่ลำแสงอันเจิดจ้าเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอันบ้าคลั่ง พุ่งออกมาจากอาณาจักรเทพ พุ่งผ่านความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต แยกส่วนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวออกจากกัน ทำลายกฎธรรมชาติไปขณะที่กดทับลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าว ความผันผวนจากลำแสงนั้นเป็นสิ่งที่มาจากโลกอื่น ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น เห็นได้ชัดว่าแสงนี้ไม่ได้กระจายออกมาจากของวิเศษหรือผู้ฝึกตนใดๆ แต่ก็กระจายเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างเห็นได้ชัด

เมิ่งฮ่าวใช้รูปแบบการเคลื่อนร่างย้ายตำแหน่งเพื่อหายตัวไปโดยไม่ลังเลใดๆ ตรงจุดที่เพิ่งจะอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนั้น จู่ๆ ก็แตกกระจายและกลายเป็นหลุมดำไป ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น กลายเป็นเถ้าธุลีในทันที

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบตรงไปยังภูเขาที่อยู่บนอาณาจักรเทพ ตรงด้านบนนั้นมีรถศึกที่ดูน่ากลัวอยู่ สิ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิมก็คือ ตรงสถานที่บางแห่งบนอาณาจักรเทพ เขารับรู้ได้ถึง…กลิ่นอายของสองผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้!

ในตอนนี้เองที่ลำแสงอีกสายก็พุ่งออกมา และครั้งนี้มันกำลังมุ่งหน้าไปยัง ไม่ใช่เมิ่งฮ่าว แต่เป็นโล่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่โล่ยิ่งใหญ่พังทลายลงไป แต่เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ใช้สองมือขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว

“ผนึกขุนเขาทะเล!” เขากล่าวขึ้นทำให้เศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายไปของโล่ยิ่งใหญ่ถูกม้วนกวาดเข้าด้วยกัน และปกคลุมไปบนร่างของผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพที่อยู่ใกล้เคียง จนกลายเป็นเครื่องหมายผนึกอันน่าตกใจ!

มันยังห่อหุ้มไปบนร่างของสตรีเย็นชาและชายชราผมขาวอีกด้วย

ในตอนที่ผนึกก่อตัวขึ้นมา เมิ่งฮ่าวก็ขยับร่างเคลื่อนไหว พุ่งกลับไปบนผีเสื้อ

“ไปกันเถอะ!” เขากล่าวขึ้น ปีกผีเสื้อกระพือขึ้นลง และขณะที่คนทั้งหมดพุ่งออกไป เมิ่งฮ่าวก็มองกลับไปยังอาณาจักรเทพ และกลุ่มคนที่ติดอยู่ภายในเครื่องหมายผนึกด้วยสายตาที่เย็นชา โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ส่งขุนเขาทะเลให้ออกไปอยู่ที่เบื้องหน้าในรูปแบบของค่ายกล ร้องตะโกนขึ้นว่า

“มาแล้วไม่สนองคืน คงไม่ดีนัก!”

แสงอันลี้ลับปรากฏขึ้นในม่านตาสีโลหิต ขณะที่กล่าวว่า “เต๋าอยู่ในจิตใจ…”

แสงนั้นสาดประกายขึ้นราวกับเป็นใบมีดอันเย็นเยียบ!

เมิ่งฮ่าวยกสองมือขึ้นไปในอากาศ และแยกออกเป็นวงกว้าง เสียงสะท้อนแปลกๆ ได้ยินอยู่ในเสียงของเขา ทำให้เก้าขุนเขาและแปดทะเล มีขนาดใหญ่มากขึ้นเป็นหลายเท่าตัวในทันที!

ขุนเขาเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และทะเลก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน ในชั่วพริบตาเก้าขุนเขาที่เบื้องหน้าก็มีรูปร่างของภูเขาอันสูงใหญ่อย่างน่าตกใจยิ่ง!

ขุนเขาแต่ละลูกคือโลกของมันเอง และกระจายเป็นเจตจำนงอันคมกล้าออกมา

หลายปีก่อนหน้านี้ จิ่วเฟิงจื้อจุนใช้ของวิเศษอันล้ำค่าเดียวกันนี้ เพื่อทำลายสะพานเหยียบย่ำสวรรค์ เพื่อผลักดันอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารให้ห่างออกไป และป้องกันสองกองกำลังเหล่านั้นไม่ให้มาทำร้ายผู้รอดชีวิตจากอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่

ตอนนี้ในมือของเมิ่งฮ่าว อาณาจักรขุนเขาทะเลปะทุขึ้นมา…ด้วยพลังที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ภายในนั้น!

เก้าขุนเขาอันยิ่งใหญ่เหมือนกับเป็นกระบี่เก้าเล่ม ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน! ขณะที่พลังของขุนเขาเหล่านั้นพุ่งกระจายออกไป สีหน้าของกลุ่มฝูงชนจากอาณาจักรเทพก็เปลี่ยนไป

สตรีเย็นชาที่ติดอยู่ในผนึกขุนเขาทะเลมองไปด้วยม่านตาที่หรี่เล็กลง และเห็นได้ชัดว่าชายชราผมขาวกำลังตื่นตระหนก ทันใดนั้นพวกมันก็เริ่มพูดคุยกันไปมา

“ไม่อยากจะเชื่อว่ามรดกของสุ่ยตงหลิวจะประกอบไปด้วยความลับของการควบคุมอาณาจักรขุนเขาทะเล! เป็นไปไม่ได้!!”

“ย้อนกลับไปในตอนที่จิ่วเฟิงตกตาย มันได้ส่งวิญญาณไร้ร่างออกไป ความตายของมันทำให้พวกเราต้องสั่นสะท้าน ทำให้รากฐานของพวกเราต้องสั่นสะเทือนจนถึงจุดที่ไม่อาจจะทำลายอาณาจักรขุนเขาทะเลไปได้ แต่ในครั้งนั้นพวกเรารวมพลังกันเพื่อทำลายวิชาเวทที่มันใช้ควบคุมอาณาจักรขุนเขาทะเล!”

“ไม่มีใครสามารถจะควบคุมอาณาจักรขุนเขาทะเลได้อย่างแท้จริง นั่นเป็นการรวมตัวกันของเซียนผู้บ้าคลั่งอันน่ากลัว! แม้แต่วิญญาณไร้ร่างของจิ่วเฟิงที่อยู่ภายในร่างสุ่ยตงหลิว ก็ยังไม่อาจจะทำอะไรได้ นอกจากควบคุมในระดับพื้นฐานเท่านั้น!”

ขณะที่สองผู้ยิ่งใหญ่กำลังหมุนคว้างด้วยความตกตะลึง เมิ่งฮ่าวก็สะบัดมือออกไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ ด้วยความปรารถนาอันลึกซึ้งสำหรับอาณาจักรขุนเขาทะเล และด้วยความเกลียดชังอย่างลึกล้ำสำหรับศัตรู!

“เจตจำนงอยู่ในดวงตา!” พื้นฐานฝึกตนปะทุขึ้นด้วยพลัง เมื่อประโยคที่สองหลุดออกมาจากปาก เวลาเดียวกันนั้น แปดทะเลก็เริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วน และในชั่วพริบตาพวกมันก็กลายเป็นทะเลแห่งดวงดาว จนทำให้ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว แปดทะเลหลอมรวมเข้ากับเก้าขุนเขาเพื่อปะทุขึ้นด้วย…แรงกดดันอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้!

ในทันทีที่แรงกดดันนั้นปรากฏขึ้น กลุ่มคนจากอาณาจักรเทพก็กระอักโลหิตออกมา แม้แต่ดินแดนอันกว้างใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือน ภูเขาพังทลายลงมา และสายน้ำก็เปลี่ยนเส้นทางไป!

เมืองแล้วเมืองเล่าที่อยู่บนดินแดนอันกว้างใหญ่นั้น เริ่มพังทลายกลายเป็นซากปรักหักพัง!

ราวกับเป็นวันสิ้นโลก!

นี่คือพลังที่แท้จริงของของวิเศษอันล้ำค่า ซึ่งก็คืออาณาจักรขุนเขาทะเล!

เมิ่งฮ่าวไม่ได้รับวิธีการควบคุมของวิเศษนี้จากมรดกของสุ่ยตงหลิว มรดกนั้นส่งมอบวิชาเวทธรรมดาทั่วไปจากอาณาจักรขุนเขาทะเลให้เท่านั้น และไม่มีอะไรที่จะช่วยให้เขาเรียนรู้ได้มากกว่าสุ่ยตงหลิว

แต่สิ่งที่เมิ่งฮ่าวมีก็คือ…เวทผนึกสวรรค์!

เมื่อปลดปล่อยเวทนี้อยู่ภายในขุนเขาทะเล ก็จะนำไปสู่พลังอันน่าเหลือเชื่อ

แต่ในครั้งนั้นอาณาจักรขุนเขาทะเลยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของสุ่ยตงหลิว ทำให้เมิ่งฮ่าวยากที่จะใช้มันออกมาได้ อันที่จริงในตอนนั้นมันแทบจะไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่เขาเข้าใจถึงเวทผนึกสวรรค์ที่แท้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถใช้มันได้อย่างถูกต้อง หลังจากที่ขุนเขาทะเลกลายเป็นรูปแบบของอาวุธเวทแล้ว!

เช่นในตอนนี้!

นี่คือเวทผนึกสวรรค์!

มันถูกสร้างขึ้นมาโดยท่านอาจารย์ที่อยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์หรือเต๋าที่ถูกหัวเราะเยาะมาโดยตลอด แต่วิชาเวทนี้ก็ไม่ใช่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาทั่วไป จริงๆ แล้วมันคือ…วิธีการควบคุมอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง!

วิธีที่จะใช้มันได้อย่างถูกต้องไม่ได้ขึ้นกับผู้ฝึกตน แต่เป็นอาณาจักรขุนเขาทะเลเอง เพื่อปลดปล่อยส่วนที่น่ากลัวอย่างแท้จริงในฐานะที่เป็นของวิเศษอันล้ำค่า!

ไม่มีใครรู้ว่าในปีนั้นอี้หรันจื่อต้องพบเจอกับอะไรมาบ้าง เพื่อที่จะสร้างเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่โดดเด่นเช่นนี้ออกมา หลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมา ท่านก็ใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตเพื่อประกาศยกย่องวิชาเวทนี้ ในที่สุดก็ส่งต่อให้กับเมิ่งฮ่าว ซึ่งเป็นผู้พิสูจน์ว่า…เวทผนึกสวรรค์ไม่ใช่วิชาเวทที่ไร้ค่า!

หลังจากสงครามแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลที่แท้จริงเริ่มต้นขึ้น เมิ่งฮ่าวก็ไม่เคยพบเห็นอี้หรันจื่ออีกเลย อันที่จริงเมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่า…อี้หรันจื่อไม่ได้อยู่ในช่วงของการต่อสู้นั้น

แต่ในตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาไตร่ตรองใคร่ครวญถึงเรื่องราวเหล่านั้น

เมิ่งฮ่าวกวาดแขนออกไป และขุนเขาทะเลก็ปะทุขึ้นด้วยแรงกดดันอันน่าตกใจ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่จู่ๆ ก็เข้าใจถึงความหมายของคำกล่าวที่ว่า…เต๋าอยู่ในจิตใจ!

เต๋านั้นไม่ได้อ้างถึงแก่นแท้, ไม่เกี่ยวข้องกับกฎธรรมชาติ และไม่ใช่กฎแห่งวิชาเวท มันไร้รูปร่างและคงอยู่ในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นอสูรหรือเซียน มันก็เป็นเช่นเดียวกันทั้งหมด!

เต๋าคือจิตใจของคนผู้หนึ่ง ยิ่งมีจิตใจที่ลึกล้ำมากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งมีเต๋าที่ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น!

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็เข้าใจว่า ‘เจตจำนงอยู่ในดวงตา’ ก็คือสิ่งที่อยู่ด้านนอกของเต๋า ไม่ว่าเขาจะมองอะไร…ก็จะมีเต๋าอยู่ในนั้น หรือสิ่งนั้นก็คือเต๋า!

“ข้าจะครอบครองขุนเขาทะเล…” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป และเก้าขุนเขาก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่พวกมันเอียงไปทางด้านข้าง เพื่อชี้ตรงไปยังอาณาจักรเทพ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!