Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1403

ตอนที่ 1403

สุดยอดเวทผนึกสวรรค์

ทะเลทั้งแปดปะทุขึ้นด้วยพลัง ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นแค่ทะเล แต่พลังอันน่าตกใจนั้นก็ดูเหมือนกับเป็นเปลวไฟแห่งความบ้าคลั่ง ที่พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง กลุ่มหมอกของความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตหลบลี้หนีหาย ขณะที่กระแสน้ำวนขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมา

ในตอนที่กระแสน้ำวนปรากฏขึ้น กลิ่นอายอันน่ากลัวก็เริ่มกระจายออกไป ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่สัมผัสถึงมันได้ต้องแอบสั่นสะท้านอยู่ภายในใจ

เวลาเดียวกันนั้นก็มีสองเงาร่างโผล่ออกมาจากอาณาจักรเทพ เป็นชายชราสองคนที่มีท่าทางราวกับเป็นเซียนผู้วิเศษ!

ตอนนี้อาณาจักรเทพต่างก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั้งหมด ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนกำลังเข้าฌานเพื่อสร้างเป็นพลังขึ้นมา และดินแดนอันกว้างใหญ่ก็เหมือนกับเป็นยักษ์ที่กำลังตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล เกราะป้องกันชั้นแล้วชั้นเล่านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น

แทบจะทันใดนั้นการป้องกันอันน่าเหลือเชื่อก็ถูกจัดตั้งขึ้น!

เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็กวาดมือออกไป และกล่าวขึ้นมาเป็นประโยคสุดท้าย

“…เวทผนึกสวรรค์!!”

เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนคำพูดนี้ออกมาจนสุดเสียง เวลาเดียวกันนั้นพื้นฐานฝึกตนก็ปะทุขึ้น ปราณอสูรไหลออกไปหลอมรวมเข้ากับขุนเขาทะเล ทำให้เกิดเหตุการณ์อันน่าตกใจขึ้นมา ขณะที่เก้าขุนเขาแปดทะเลลอยอยู่ที่นั่นในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต เงาร่างขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นมา เป็นเงาร่างที่มีใบหน้าเป็นเมิ่งฮ่าว!

แต่เงาร่างนั้นก็มีเขางอกยาวออกมาจากด้านบนศีรษะ ทำให้ดูน่าตกใจโดยสิ้นเชิง!

ดูเหมือนว่าเงาร่างนั้นจะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิง ใครก็ตามที่มองมาต่างก็รู้สึกว่าความหนาวเย็นกำลังพุ่งขึ้นมาจากในส่วนลึกของจิตใจ แม้แต่กลุ่มหมอกของความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตก็ยังพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ไม่ยินดีที่จะเข้ามาใกล้

เต็มไปด้วยกลิ่นอายของโทสะที่ระเบิดออกไป และปีศาจร้ายที่แปลกประหลาด ก็กระจายออกมาจากเงาร่างภาพลวงตานั้น เพื่อสร้างเป็นขอบเขตที่เกินกว่ากลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวเอง จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ผลักสองมือออกไปอย่างรุนแรง ทำให้เก้าขุนเขาพุ่งตรงไปยังอาณาจักรเทพอย่างน่าประหลาดใจ

ทะเลทั้งแปดส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่หมุนคว้างไปมาในรูปแบบของกระแสน้ำวน เมื่อกระแสน้ำวนนั้นมีขนาดใหญ่มากขึ้น ก็พอจะมองเห็นภาพของวิญญาณนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในทะเล มีท่าทางดุร้ายและกระหายเลือด

สำหรับเงาร่างขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงด้านบนของทะเลทั้งหมด ดูเหมือนว่ามันกำลังใช้ขุนเขาทะเลโจมตีไปอย่างเต็มกำลัง!

ภาพที่เห็นนั้นช่างน่าตกใจโดยสิ้นเชิง ถ้าใครบางคนสามารถจะวาดเป็นภาพออกมาได้ ก็จะมีบางสิ่งบางอย่างที่ผู้คนสันนิษฐานว่าจะเป็นกลุ่มหมอกจากยุคสมัยห้วงบรรพกาล ราวกับว่าเงาร่างนั้นกำลังใช้ขุนเขาเป็นเหมือนกับพาหนะ และทะเลเป็นอาวุธอสูร เพื่อสังหารท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

อาณาจักรเทพสั่นสะเทือน และผู้ฝึกตนที่ถูกผนึกไว้ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจ ขณะที่ส่งเสียงร้องตะโกนด้วยความตกใจออกมา ในชั่วพริบตาหนึ่งในขุนเขาทั้งเก้า ซึ่งก็คือขุนเขาที่ห้าพุ่งแทงเข้าไปในบริเวณที่ถูกผนึกไว้ เหลือทิ้งไว้แต่รอยโลหิตเป็นทางยาว ขณะที่มันพุ่งตรงไปยังอาณาจักรเทพ

ต่อมาก็เป็นขุนเขาที่สี่และหก จากนั้นก็ขุนเขาที่สามและเจ็ด!

ท่ามกลางเสียงกระหึ่มกึกก้อง เก้าขุนเขาเหมือนกับเป็นหอกเก้าเล่มพุ่งทะลวงเข้าไปยังทุกสรรพสิ่ง ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้ทั้งสี่คนจากอาณาจักรเทพ ขัดขวางได้คนละขุนเขา แต่ที่เหลืออีกสามขุนเขากำลังบดขยี้ลงไปยังโครงสร้างของอาณาจักรเทพ!

ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตสั่นสะเทือน เมื่อเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่พุ่งกระจายออกไป เกราะป้องกันบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พลังทั้งหมดถูกเรียกออกมาเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังแผดร้องออกมา เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องไปทั่วทุกที่

ดินแดนอันกว้างใหญ่สั่นสะเทือน ราวกับวันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว ตอนนี้ผู้ฝึกตนในที่แห่งนั้นกำลังเผชิญหน้ากับ…ความบ้าคลั่งเช่นเดียวกับที่ถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อหลายปีก่อน โดยจิ่วเฟิง ในตอนที่ใช้อาณาจักรขุนเขาทะเลเป็นอาวุธโจมตีออกไป!

ขณะที่เก้าขุนเขาพุ่งตรงไป ทะเลทั้งแปดที่อยู่ในรูปแบบของอาวุธอสูร ก็พุ่งตรงไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ด้วยเช่นกัน

เมื่อขุนเขาสุดท้ายพุ่งแทงเข้าไปในเกราะป้องกัน เกราะป้องกันของอาณาจักรเทพก็แตกกระจายไป พื้นดินสั่นไหวไปมา และรอยแตกก็กระจายออกไปทั่วทุกแห่งหนในดินแดนอันกว้างใหญ่นั้น แต่จากนั้นดวงตาของรูปปั้นที่อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของดินแดนอันกว้างใหญ่ก็แวบประกายขึ้นมา

แรงกดดันอันน่ากลัวปะทุออกไป กลายเป็นระลอกคลื่นปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้นในทันที เมื่อระลอกคลื่นเหล่านั้นพุ่งผ่านเก้าขุนเขา พวกมันก็แตกกระจายไป ทะเลทั้งแปดก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่หายสาบสูญไป กลับกลายเป็นเศษชิ้นส่วนขนาดเล็กนับไม่ถ้วน ตกลงไปยังอาณาจักรเทพราวกับเป็นหยาดพิรุณ

ผู้ฝึกตนที่อยู่บนอาณาจักรเทพ เริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด

เมิ่งฮ่าวมองไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ทั้งหมด จากตำแหน่งที่อยู่บนผีเสื้อ และสามารถจะมองเห็นแสงในดวงตาของรูปปั้นที่แวบขึ้นมา

“เทพนั่น…เป็นพวกครึ่งเซียน?” เมิ่งฮ่าวพึมพำ จิตใจเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว ขณะที่ผีเสื้อบินออกไปอย่างเร่งรีบ แต่การเชื่อมต่อกับอาณาจักรขุนเขาทะเลของเขายังคงอยู่ เมิ่งฮ่าวเป็นเจ้าของของวิเศษอันล้ำค่านั้นเพียงคนเดียว และไม่มีใครสามารถจะแย่งชิงไปจากเขาได้

ด้วยเช่นนั้นขุนเขาทะเลจึงไม่ได้หายสาบสูญไปอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าพวกมันเพิ่งจะถูกทำลายไป แต่ชั่วขณะต่อมาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว เป็นเก้าขุนเขาแปดทะเลเหมือนก่อนหน้านี้

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนผีเสื้อที่กำลังบินห่างออกไปไกล เสียงแผดร้องด้วยโทสะก็ดังก้องออกมาจากอาณาจักรเทพ ซึ่งก็คือผู้ยิ่งใหญ่สตรีที่เย็นชาผู้นั้นนั่นเอง พลังอันน่ากลัวของนางพุ่งทะยานขึ้นไป ขณะที่ไล่ติดตามมาในทันที

“ข้าต้องเจ็บปวดใจในการมองดูเปลวไฟแห่งสงครามปกคลุมไปทั่วบ้านเกิด น่าเสียดายสำหรับเจ้าแล้ว ทั้งหมดนั้น…ก็แค่การเริ่มต้นเท่านั้น” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ออกมา จากนั้นก็ยกมือขึ้นและชี้ตรงไปยังขุนเขาทะเล ทันใดนั้นขุนเขาทะเลก็หดเล็กลงไป หลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นคันธนูขุนเขาทะเล!

เมิ่งฮ่าวถือคันธนูด้วยมือซ้าย และดึงสายธนูไปทางด้านหลังด้วยมือขวา รังสีสังหารแวบประกายขึ้นมาในดวงตา ขณะที่พลังของธนูพุ่งขึ้นไป และพลังแห่งขุนเขาทะเลก็กลายเป็นลูกธนู!

เมื่อเขาปล่อยสายธนู ลูกธนูก็พุ่งออกไปราวกับเป็นสายฟ้า!

แต่จากนั้นโดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย เมิ่งฮ่าวก็ง้างธนูขึ้นอีกครั้งและยิงลูกธนูดอกที่สองออกไป และจากนั้นก็ดอกที่สาม!

สามลูกธนูสามารถจะสังหารเทพ!

สี่ลูกธนูสามารถกำจัดเซียน!

ห้าลูกธนู…คือการต่อต้านสวรรค์!

ห้าลูกธนู ห้าลำแสง กลายเป็นทะเลแห่งความเจิดจ้า จนทำให้ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตต้องบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พวกมันส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงไป

ลูกธนูทั้งห้าประกอบด้วยเจตจำนงแห่งการทำลายล้างและรังสีสังหารของเมิ่งฮ่าว พร้อมทั้งปราณอสูรอันไร้ขอบเขต ทันใดนั้นพวกมันก็ไปปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้าของผู้ยิ่งใหญ่สตรีที่เย็นชา และกำลังเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ รวดเร็วจนนางไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้

จากพลังการต่อสู้ในตอนนี้ของเมิ่งฮ่าว การใช้ธนูขุนเขาทะเลออกมาเช่นนี้ ทำให้สามารถจะปลดปล่อยพลังที่แม้แต่สตรีเย็นชานางนี้ก็ยังต้องหวาดกลัว

เวลาเดียวกันนั้นก็เป็นเรื่องยากที่เมิ่งฮ่าวจะใช้ธนูได้ตลอดเวลา

เสียงกระหึ่มได้ยินมา ขณะที่สตรีนางนั้นโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป เมื่อนางไม่อาจจะเคลื่อนที่หลบไปได้ จึงตัดสินใจที่จะไม่หลบหนี ขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้ความเย็นเยียบพุ่งกระจายออกไปจากร่าง แช่แข็งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวและความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตไป น้ำแข็งชั้นแล้วชั้นเล่าถูกสร้างขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัวนาง จากภายในนั้นนางจ้องนิ่งไปยังเมิ่งฮ่าวที่กำลังยืนอยู่บนผีเสื้อ

เมื่อสายตาของคนทั้งสองสบประสานกัน ชั้นน้ำแข็งก็ขยายตัวออกไป ปะทะเข้ากับลูกธนูแสงทั้งห้าดอกนั้นในทันที

คาดไม่ถึงว่าน้ำแข็งไม่ได้แตกกระจายไป แต่กลับขยายตัวออกไปปกคลุมลูกธนูทั้งห้าดอกไว้ เวลาเดียวกันนั้นชั้นน้ำแข็งก็แผ่กระจายออกมาเพื่อก่อตัวเป็นมือของสตรีนางนั้น ยืดยาวตรงไปยังผีเสื้อราวกับว่าจะคว้าจับมันไว้

ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ภาพที่เกิดขึ้นนี้ช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าหัตถ์น้ำแข็งจะสามารถปลิดได้แม้แต่ดวงดาวหรือดวงจันทร์ ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตสั่นสะเทือนไปมาอย่างรุนแรง ขณะที่จู่ๆ หัตถ์นั้นก็ไปปรากฏขึ้นตรงด้านหลังผีเสื้อ

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนผีเสื้อ เฝ้าสังเกตดูหัตถ์น้ำแข็งยักษ์ด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ราวกับว่าไม่สนใจมันแม้แต่น้อย

เมื่อหัตถ์ยักษ์ใกล้เข้ามา สิ่งที่ปรากฏขึ้นก็คือชั้นน้ำแข็งเริ่มก่อตัวขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัวผีเสื้อ ในตอนนี้หัตถ์น้ำแข็งอยู่ห่างจากเมิ่งฮ่าวเพียงแค่หนึ่งร้อยจ้างเท่านั้น

อย่างไรก็ตามลูกธนูแสงทั้งห้าที่ถูกตรึงไว้ก่อนหน้านี้ ไม่อาจจะถูกสะกดไว้ได้นานมากนัก ทันใดนั้นพวกมันก็ระเบิดขึ้น ทำให้เกิดเป็นแสงระยิบระยับและรอยแตกจำนวนมากก็เกิดขึ้นอยู่ภายในหัตถ์น้ำแข็ง กลายเป็นว่าหัตถ์นั้นไม่อาจจะบรรลุถึงตัวเมิ่งฮ่าวได้ และในที่สุดก็แตกกระจายไป

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้นแสงระยิบระยับที่เกิดจากการระเบิดขึ้นของธนูทั้งห้าดอก ก็ส่งระลอกคลื่นอันทรงพลังกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

ปกคลุมพื้นที่ระหว่างเมิ่งฮ่าวและสตรีนางนั้น ทำให้ยากที่จะมองเห็นซึ่งกันและกันได้

ในที่สุดระลอกคลื่นก็จางหายไป แต่ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผีเสื้อได้หายไปแล้ว สำหรับผู้ยิ่งใหญ่เย็นชา ใบหน้านางบึ้งตึงขณะที่มองออกไปยังที่ห่างไกล รังสีสังหารในแววตาเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น

เวลาเดียวกันนั้นชายชราคิ้วขาวในชุดขาว รวมทั้งผู้เก่าแก่โบราณอันลึกล้ำอีกสองคนซึ่งมีท่าทางโดดเดี่ยวยืนด้วยกันอยู่ที่นั่น มองออกไปยังที่ห่างไกลอย่างเงียบงัน

“บางที การทำสงครามในครั้งนี้ของพวกเรา…คือสิ่งที่ผิดพลาด ถ้าท่านปรมาจารย์รู้เรื่องนี้ เกรงว่าท่านคงจะไม่เห็นด้วย”

“พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ถ้าพวกเราได้กระจกนั้นมา ก็สามารถจะเรียกท่านกลับมาได้ นอกจากนี้…เซียนอยู่เหนือเทพ และสามารถสะกดข่มมารได้ คำพูดเหล่านี้…ถูกส่งต่อกันมาอย่างช้านาน การที่เซียนกลายเป็นอสูร ก็เป็นเรื่องที่คนทั้งหมดสามารถจะคาดคิดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้”

“อสูร…” ผู้ยิ่งใหญ่สตรีถอนหายใจ จากนั้นก็แค่นเสียงเย็นชา

“ไม่ว่าอย่างไร เรื่องก็ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะมีพลังการต่อสู้ที่เทียบเท่ากับระดับเก้าแก่นแท้ แต่ก็ไม่ใช่คนแรกที่ตายไปในเงื้อมมือของพวกเราในรอบหลายปีที่ผ่านมา!”

สตรีนางนั้นโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ชั่วขณะต่อมาอาณาจักรเทพก็เริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม พุ่งตรงไปยังทิศทางที่เมิ่งฮ่าวหลบหนีเข้าไปในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตอีกครั้ง

ครั้งนี้มันเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่ากำลังปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อบางอย่างที่ไม่เคยใช้มาก่อนออกไป เป็นพลังที่ผลักดันให้ดินแดนอันกว้างใหญ่พุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วจนยากที่จะจินตนาการได้

อาณาจักรเทพสะสมทรัพยากรมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน ทำให้พวกมันมีระดับพลังที่ลึกล้ำจนเพียงพอที่จะทำให้ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตต้องสั่นสะเทือน สิ่งที่พวกมันเปิดเผยออกมานั้นเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ทรัพยากรที่แท้จริงของพวกมันอยู่ในรูปแบบของ…กลุ่มคนที่คงอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในตอนนั้น

ยกตัวอย่างเช่นมีแคว้นเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งในซอกหลืบของอาณาจักรเทพ เป็นแคว้นที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก พร้อมด้วยประชากรที่ไม่อาจจะถือได้ว่าจำนวนมาก

แต่ผู้ปกครองแคว้นนั้นก็เป็นบุรุษที่จิตใจดีมีเมตตาและแคว้นนั้นก็ถูกเรียกว่า…แคว้นชิงสุ่ย!

อีกตัวอย่างหนึ่งอยู่ในพื้นที่แห่งอื่น อยู่ในเมืองหลวงของอาณาจักรอันกว้างใหญ่ บุรุษร่างกำยำสูงใหญ่นั่งอยู่ในราชวังจักรพรรดิ กำลังจิบสุราและมองดูการร่ายรำ ถึงแม้ว่าจะกำลังหัวเราะเป็นเสียงดังก้องออกมา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

อาณาจักรเทพพุ่งผ่านความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต ไกลออกไปที่เบื้องหน้าพวกมัน ซึ่งอยู่ภายในความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตด้วยเช่นกัน เป็นกลุ่มหมอกสีดำที่กำลังบิดเบี้ยวไปมา ภายในกลุ่มหมอกนั้นเป็นผีเสื้อขนาดใหญ่หลายตัวที่กำลังพุ่งตรงไป กำลังลากดินแดนขนาดใหญ่อยู่ทางด้านหลังพวกมัน มองเห็นได้ว่าบนดินแดนขนาดใหญ่นั้นเป็นโลงศพขนาดใหญ่หนึ่งโลง ถูกห้อมล้อมด้วยผู้คนที่กำลังนั่งคุกเข่าโขกศีรษะอยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งกำลังท่องสวดคัมภีร์กันอยู่

ขณะที่เสียงท่องคัมภีร์ดังลอยออกมา เสียงกระหึ่มอย่างไร้จุดสิ้นสุดก็ได้ยินมาด้วยเช่นกัน กลายเป็นพลังอันบ้าคลั่งและอำมหิต ความรู้สึกที่ป่าเถื่อนโหดร้ายพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ดินแดนอันกว้างใหญ่นั้นพุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นเดียวกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!