Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1501

ตอนที่ 1501

ใครเข้ามา, ตาย!

ยักษ์ดาวเคราะห์แผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา เสียงนั้นดังมากจนทำให้ร่างของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นต้องระเบิดขึ้น

โลหิตพ่นกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ดวงตายักษ์ดาวเคราะห์มืดสลัวลงไป และจากนั้นศีรษะของมันก็ระเบิดออก ในตอนที่ร่างกายมันเริ่มล้มลงไป เมิ่งฮ่าวที่อยู่ในรูปแบบของวิหคยักษ์สีดำก็ย้อนกลับเข้าไปในดินแดนอันกว้างใหญ่

แต่ในตอนนั้นเองที่ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความประหลาดใจ รู้สึกได้ถึงอันตรายที่จวนตัวพุ่งขึ้นมาในจิตใจ ในชั่วพริบตาก็กลายร่างจากวิหคยักษ์สีดำเป็นมนุษย์ที่มีขนาดปกติธรรมดา เวลาเดียวกันนั้น ลำแสงสีดำสายหนึ่งก็พุ่งผ่านตำแหน่งที่ศีรษะวิหคเคยอยู่ตรงนั้น ถึงแม้ว่าลำแสงนั้นจะไม่สัมผัสโดนตัว แต่ก็ทำให้พื้นฐานฝึกตนต้องสั่นสะท้านขึ้นมา

ถ้าเมิ่งฮ่าวไม่มีปฏิกิริยารวดเร็วเช่นนี้ การโจมตีมานั้นคงจะระเบิดศีรษะที่อยู่ในรูปแบบวิหคยักษ์ของตนเองไปแล้ว ถ้าไม่โดนสังหารไปก็คงจะได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงเป็นแน่แท้

เมิ่งฮ่าวหมุนตัวไปรอบๆ และมองเห็นโลงศพใบหนึ่งจากที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง ที่กำลังลอยอยู่ในกลางอากาศเหนือโลงศพ เป็นใบหน้าของชายชราผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังจ้องเขม็งมองมา

ในทันทีที่สายตาของคนทั้งสองสบประสานกัน เมิ่งฮ่าวก็มีความรู้สึกว่าชายชราผู้นี้อยู่ในระดับเดียวกับตนเองอย่างฉับพลัน ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ ก็สูงเกินกว่าขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ไปแล้ว และเห็นได้ชัดว่าสามารถจะต่อสู้กับใครก็ตามได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าเหนือโลงศพ ก็ต้องเต็มไปด้วยความรู้สึกถึงอันตรายที่วิกฤตเป็นอย่างยิ่ง

สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไปขณะที่หายตัวไปอย่างรวดเร็ว เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเกราะป้องกันชั้นที่สิบเพียงแค่ไม่กี่จ้างเท่านั้น ถ้าตนเองต่อสู้กับชายชราผู้นั้นตรงด้านนอกในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว จากนั้นก็กลับเข้ามาในตำแหน่งนี้ ก็คงจะต้องถูกบดขยี้ไปอย่างแน่นอนด้วยพลังที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น

แต่…บนดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งนี้ พลังแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง

ชายชราที่อยู่เหนือโลงศพ ไม่ได้ผ่านเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ ยังคงอยู่ที่ด้านนอก มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็มองไปยังเกราะป้องกันที่มีความกว้างสิบจ้าง และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงที่แปลกๆ

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น ด้วยใบหน้าที่เย็นชา จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นมากระทืบลงไปบนพื้น ทำให้เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น และระลอกคลื่นก็ม้วนกระจายออกไป ขณะที่เสียงระเบิดดังก้องอยู่นั้น สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดนับไม่ถ้วนในบริเวณนั้น ซึ่งไม่เคยหวาดกลัวต่อความตายแม้แต่น้อย ต่างก็ถูกสังหารไปในทันที

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเงียบสงบลงไปอย่างช้าๆ อีกครั้ง ตรงด้านนอกเกราะป้องกันชั้นที่เก้าซึ่งชำรุดเสียหาย ยังคงมีสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอยู่เป็นจำนวนมากอย่างไร้จุดสิ้นสุด แต่พวกมันก็ไม่กล้าที่จะพุ่งเข้ามาในดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ใครก็ตามที่พยายามจะเข้ามา ไม่ว่าพวกมันจะมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ระดับใด ก็จะถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ ผู้ที่สามารถหนีรอดไปได้ก็หาได้ยากเย็นยิ่งกว่าขนหงส์หรือเขากิเลนซะอีก

ความเงียบนั้นไม่ได้ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกวิตกแม้แต่น้อย เขากำลังถ่วงเวลาอยู่ และสามารถจะบอกได้ว่ากระจกทองแดงกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว อย่างช้าที่สุดคงต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งวัน ก่อนที่มันจะมาปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เอง นอกเหนือจากกองกำลังจำนวนมากของสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดแล้ว ความผันผวนได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่เงาร่างนับหมื่นปรากฏกายขึ้นมา อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง เงาร่างเหล่านั้นเป็นผู้ฝึกตน!

นอกจากนั้นในทันทีที่พวกมันปรากฏขึ้นมา ก็กระจายเป็นกลิ่นอายแห่งอาณาจักรเทพออกมา ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอื่นๆ ในบริเวณนั้นไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว แววตาปะทุขึ้นด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้นอย่างยากที่จะควบคุมไว้ได้ในทันที

กลิ่นอายของอาณาจักรเทพนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้ นี่เป็นกลิ่นอายของศัตรูที่ทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลต้องถูกทำลายไป ผีโต้งต้องตายไป จิตใจนกแก้วต้องถูกลบออกไป และทำให้เมิ่งฮ่าวแทบจะตกตายไป

ทันใดนั้นแสงสีแดงในดวงตาเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้บริเวณนั้นทั้งหมดดูเหมือนว่าจะเศร้าหมองและโดดเดี่ยวอ้างว้างไปในทันที

แต่ก็ดังเช่นคำกล่าวที่ว่าไว้ โชคดีไม่มาคู่ เคราะห์ร้ายไม่มาเดี่ยว แทบจะในทันทีที่กองกำลังแห่งอาณาจักรเทพปรากฏขึ้น เงาร่างนับหมื่นอีกกลุ่มหนึ่งก็เผยออกมาให้เห็นจากอีกทิศทางหนึ่ง ตอนแรกยากที่จะแยกแยะได้ แต่ก็เป็นผู้ฝึกตนด้วยเช่นกัน พวกมันไม่ได้กระจายเป็นกลิ่นอายแห่งอาณาจักรเทพออกมา แต่ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มหมอกแห่งอาณาจักรมาร นอกจากนั้นผู้นำของพวกมันก็คือบุรุษร่างกำยำสูงใหญ่ ซึ่งก็คือ…หนี่งในผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้ที่เมิ่งฮ่าวเคยต่อสู้มาเมื่อในอดีต

ในทันทีที่มันมองเห็นเมิ่งฮ่าว สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง และรังสีสังหารก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น

แต่เมิ่งฮ่าวกลับยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหนาวเย็นราวน้ำแข็ง เขามุ่งเน้นไปที่การฆ่าฟันตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่ในตอนนี้ก็ยิ่งมีความต้องการสังหารเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวยิ้มออกมา กองกำลังแห่งอาณาจักรเทพและอาณาจักรมารก็บินเข้ามาในช่องโหว่ที่เปิดออกของเกราะป้องกันชั้นที่เก้า และมุ่งหน้าลงมายังดินแดนอันกว้างใหญ่

การพุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายของพวกมัน ทำให้สถานการณ์ในสนามรบต้องเปลี่ยนไป สิ่งมีชีวิตในกองกำลังอื่นๆ ที่เคยเงียบกริบมาก่อน เริ่มแผดร้องคำรามออกมาในตอนนี้ พุ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้ศัตรูจำนวนมากเริ่มไหล่บ่าท่วมท้นเข้ามาในช่องโหว่ของเกราะป้องกัน

เพียงชั่วขณะเท่านั้นที่ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งเมิ่งฮ่าวกำลังยืนอยู่นี้ เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาจากกองกำลังที่พุ่งเข้ามานับไม่ถ้วน

กองกำลังเหล่านั้นมีเป็นจำนวนมาก และในท่ามกลางพวกมันก็มีผู้แข็งแกร่งทรงพลังที่กระจัดกระจายออกไปทั่ว แม้แต่ชายชราโลงศพในที่สุดก็พุ่งผ่านเกราะป้องกันเข้ามาด้วยเช่นกัน

เสียงระเบิดดังก้องขึ้น เส้นผมเมิ่งฮ่าวพลิ้วไปมา ขณะที่เดินไปเป็นก้าวที่เจ็ด เมื่อก้าวนี้เหยียบย่างลงไป พื้นดินก็สั่นสะเทือนขณะที่เท้าขนาดใหญ่บดขยี้ลงไปบนร่างของศัตรูนับไม่ถ้วนจนกลายเป็นก้อนเนื้อเลอะเลือนไป เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็เคลื่อนที่ตรงไปอยู่ที่เบื้องหน้าของบุรุษร่างกำยำสูงใหญ่แห่งอาณาจักรมาร

จิตใจมันหมุนคว้าง ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าบุคคลที่ตนเองกำลังต่อสู้ด้วยในวันนี้จะเป็นเมิ่งฮ่าว และคาดไม่ถึงด้วยเช่นกันว่าหลังจากที่ผ่านไปแค่ไม่กี่ร้อยปี เมิ่งฮ่าวจะกลายเป็นผู้ที่ทรงพลังได้เช่นนี้

แต่มันก็ไม่มีเวลาที่จะมาขบคิดถึงเรื่องเหล่านี้ มือขวาเมิ่งฮ่าวพุ่งทะลวงผ่านการป้องกันของมันมาได้อย่างง่ายดาย ราวกับเป็นใบมีดอันแหลมคมที่ตัดเฉือนต้นไผ่ และจากนั้นก็คว้าจับไปที่ลำคอของมัน

“การล้างแค้นของข้าจะเริ่มต้นจากเจ้า” พร้อมกับเสียงแหบแห้งที่ดังก้องขึ้น พลังก็ปะทุออกมาจากมือของเมิ่งฮ่าว และผู้แข็งแกร่งเก้าแก่นแท้ก็ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถูกทำลายไปทั้งร่างกายและวิญญาณ

ขณะที่เมิ่งฮ่าวสังหารบุรุษร่างกำยำไป แปดเงาร่างก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัว อย่างน่าตกใจยิ่งกลุ่มคนเหล่านี้คือผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในท่ามกลางเผ่าพันธุ์ต่างๆ และพวกมันก็รวมพลังโจมตีมาโดยพร้อมเพรียงกัน

เมื่อเห็นศัตรูทั้งแปดคนนี้ เมิ่งฮ่าวก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ทำให้ภูเขาจำนวนมากตกลงมา แต่ก็ไม่ได้สั่งให้ภูเขาเหล่านั้นโจมตีไปยังศัตรูเหล่านี้ แต่สั่งให้พวกมันปกคลุมตนเองไว้ ในชั่วพริบตาภูเขานับแสน, นับล้าน และจากนั้นก็สิบล้านลูกต่างก็ซ้อนทับลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดเป็นเกราะป้องกันอันแข็งแกร่ง ชั่วขณะต่อมาการรวมพลังกันโจมตีมาของผู้แข็งแกร่งทั้งแปดก็กระแทกลงไปบนภูเขาเหล่านั้น

กลุ่มภูเขาระเบิดขึ้นจนดูเหมือนว่าจะไร้จุดสิ้นสุด เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็พุ่งถอยไปทางด้านหลัง กระแทกเข้าไปยังหนึ่งในผู้แข็งแร่งที่อยู่ด้านหลังตนเอง ด้วยความรวดเร็วเช่นนี้ทำให้ศัตรูผู้นั้นระเบิดขึ้นกลายเป็นกลุ่มควันของโลหิตและชิ้นเนื้อไป กายเนื้อของมันถูกทำลายไป วิญญาณลอยออกมา ไม่สามารถจะหยุดเมิ่งฮ่าวจากการหลบหนีไปจากการถูกห้อมล้อมไว้ได้

ในตอนนี้เองที่ดวงตาของชายชราโลงศพสาดประกายขึ้น และโผล่ออกมาจากโลงศพด้วยตนเอง ดูคล้ายกับเป็นภูตผี

ก้าวเดินตรงมาปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ยื่นมือออกไป และพลังการฝึกตนของมันก็พุ่งขึ้นมา ขณะที่พยายามจะแตะไปที่หน้าผากของเมิ่งฮ่าว

“ข้ากำลังรออยู่แล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา เมื่อนิ้วของชายชราใกล้เข้ามา ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น สีหน้าชายชราสลดลง แต่ก่อนที่มันจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือออกไป วาดเป็นเส้นตรงสี่เส้นอยู่รอบๆ ตัวชายชรา

“ผนึกความว่างเปล่า!”

เส้นตรงทั้งสี่กลายเป็นผืนผ้าในทันที พลังแห่งการผนึกความว่างเปล่าปะทุออกมา และชายชราก็ไม่อาจจะหลุดออกมาจากการถูกผนึกไว้ที่ด้านในของผืนผ้านี้ได้!

เมื่อร่างมันปรากฏขึ้นในรูปแบบของภาพวาด ก็รีบปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกมาในทันที ทำให้ภาพวาดนั้นลุกไหม้ขึ้นมา จากระดับพื้นฐานฝึกตนที่สูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่อของมัน การผนึกนี้ก็แค่ตรึงมันไว้ได้ชั่วขณะเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ชั่วขณะนี้ก็เป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวต้องการทั้งหมด

เขายิ้มอย่างน่ากลัว ปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกไป พร้อมกับโบกสะบัดมือเพื่อเรียกเวทรุ่นแปดออกมา จากนั้นก็เป็นเวทรุ่นเจ็ด และรุ่นหก…จนกระทั่งถึงรุ่นแรก ทั้งหมดนั้นกลายเป็นเส้นใยที่รวมตัวเข้าด้วยกันเป็นร่างแหที่พุ่งตรงไปยังชายชรา

“แปดเวทผนึก หลอมรวม!” เมื่อคำพูดหลุดออกมาจากปาก ร่างแหก็ม้วนกวาดปกคลุมไปยังทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้น

ร่างแหปกคลุมไปยังกองกำลังของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่อยู่ในที่แห่งนั้นก็ตาม ไม่มีใครสามารถจะหยุดร่างแหนี้ได้

ผู้ยิ่งใหญ่จากอาณาจักรเทพมองไปด้วยความตกตะลึง ขณะที่ร่างแหนั้นพุ่งผ่านมันไป มนุษย์ครึ่งวัว, เหล่าภูตผี, ยักษ์ศิลา, ผู้ฝึกตนจากอาณาจักรเทพ, สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันทั้งหมดจากส่วนอื่นๆ…ต่างก็ถูกร่างแหม้วนกวาดผ่านไป

แม้แต่แมลงสีแดงก็ยังไม่อาจจะหลีกเลี่ยงไปได้ พวกมันมีขนาดที่เล็กมาก แต่ร่างแหก็มีความหนาแน่น เมื่อกระจายออกไปจนถึงขีดจำกัดของมัน เมิ่งฮ่าวก็ทำท่าคว้าจับออกไป และร่างแหก็เริ่มลอยกลับมาเหมือนกับตอนที่มันพุ่งออกไป

ร่างแหหดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตกลงไปบนฝ่ามือของเมิ่งฮ่าว จนกระทั่งกลายเป็นแสงระยิบระยับไป

จากนั้นทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว บนดินแดนอันกว้างใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือน โลหิตเริ่มพุ่งกระจายออกมาจากทั่วทุกที่…ขณะที่พวกมันถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆ บ้างก็กลายเป็นชิ้นเนื้อที่กระจัดกระจายออกไปบนพื้น บ้างก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป…

กองกำลังที่ด้านนอกดินแดนอันกว้างใหญ่หอบหายใจออกมา จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบกริบ ถึงแม้ว่าเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกำลังร้องเรียกให้พวกมันโจมตีมา แต่สัญชาตญาณและความหวาดกลัวของพวกมัน ก็ทำให้ต้องมองไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งนั้นด้วยจิตใจที่หมุนคว้าง

เมิ่งฮ่าวยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย แต่ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงสีแดง มองขึ้นไปยังชายชราที่ถูกผนึกอยู่ในภาพวาด ซึ่งยังคงลุกไหม้อยู่ ชายชราแผดร้องคำรามขณะที่เตรียมตัวจะระเบิดออกมาจากด้านใน

เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังมันด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็โบกสะบัดมือออกไป อีกครั้งที่แสงระยิบระยับของร่างแหปรากฏขึ้น และเมิ่งฮ่าวก็ขว้างมันออกไปปกคลุมชายชราไว้ภายใน

ครั้งนี้พลังผนึกมีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากนัก และชายชราก็ไร้พลังที่จะหลบหนีออกมาได้ สิ่งที่มันทำได้ทั้งหมดก็คือส่งเสียงแผดร้องคำรามด้วยความไม่ยินยอมออกมาเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวเปลี่ยนความสนใจไปยังกองกำลังที่อยู่ด้านนอกในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว ที่ห้อมล้อมอยู่รอบๆ ตัวคือซากศพนับไม่ถ้วน มากมายจนไม่อาจจะนับได้

เมิ่งฮ่าวไม่พูดอะไรออกมา แต่ภาพที่เขากำลังยืนอยู่ตรงนั้น และเมื่อคิดไปถึงสิ่งที่เขาเพิ่งจะทำมาในการต่อสู้นี้ ก็กลายเป็นคำเตือนอันทรงพลังต่อคนทั้งหมดที่ยังคงมีชีวิตอยู่ว่า

ใครเข้ามา…ตาย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!