Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 656

ตอนที่ 656

ดอกปี่อ้านขยับตัว!

เมิ่งฮ่าวอยู่ใต้น้ำ ถูกห้อมล้อมด้วยสัญลักษณ์เวทสองหมื่นชิ้น ซึ่งกวาดออกไปรอบๆ ร่างเขา ก่อตัวเป็นสายลมอันรุนแรง น้ำทะเลพลุ่งพล่านปั่นป่วน และอสูรทะเลก็ไม่อาจจะเข้ามาใกล้ตัวเขาภายในรัศมีหนึ่งร้อยจ้างได้

แน่นอนว่า อสูรทะเลที่โจมตีมาด้วยความบ้าคลั่ง กำลังถูกขับเคลื่อนโดยสัญชาตญาณแห่งการต่อสู้ ถึงแม้ว่าพวกมันจะตายไปก็ตามที ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขณะที่สัญลักษณ์เวทพุ่งอยู่รอบๆ ร่าง ทำให้เกิดเป็นการสังหารอย่างน่าเหลือเชื่อ

คลื่นทะเลม้วนตัวออกไป ส่งผลกระทบต่อวงแหวนที่สามมากกว่าครึ่ง และทำให้อสูรทะเลเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็มีผลต่อเมืองไห่เฉิงของวงแหวนที่สาม ทำให้ผู้ฝึกตนมองไปรอบๆ ด้วยความตกใจและสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นมากกว่าเดิม

อันที่จริง คลื่นทะเลยังได้กวาดกระแทกเข้าไปในเมืองไห่เฉิง ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยการร่วมมือกันของสามผู้ศักดิ์สิทธิ์ เสียงเป่าเขาวัวดังเต็มอยู่ในอากาศ และผู้ฝึกตนที่เป็นทหารประจำการในเมืองต่างก็สวมใส่ชุดเกาะ และเข้าแถวเตรียมพร้อมสู้รบ ราวกับว่าพวกมันเตรียมตัวจะต่อสู้กับศัตรูที่น่ากลัวบางอย่าง

ผู้เชี่ยวชาญอันแข็งแกร่งภายในเมืองโผล่ออกมาทีละคน ใบหน้าเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความดุร้ายอันเข้มข้น พวกมันมองออกไปยังที่ห่างไกล มองไปยังคลื่นมากมายนับไม่ถ้วนซึ่งประดังพรั่งพรูตรงมาที่พวกมัน

“ใช่หรือไม่ว่าอสูรทะเลแห่งวงแหวนที่สองเข้ามาโจมตี?”

“เป็นไปไม่ได้! อสูรทะเลแห่งวงแหวนที่สองมีจำนวนน้อย ยากที่จะพบเห็น และพวกมันก็แทบจะไม่เคยเข้ามาในวงแหวนที่สามเลย สำหรับพวกมัน อสูรทะเลแห่งวงแหวนที่สามก็เหมือนกับสัตว์ทั่วไป พวกมันมองว่าตัวเองเป็นราชันแห่งอสูรทะเลทั้งหมด!”

“แต่ถ้าไม่ใช่อสูรทะเล แล้วอะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในวงแหวนที่สามนี้?!”

ทุกคนกำลังพูดคุยถกเถียง และทันทีที่อสูรทะเลถูกพูดถึง ใบหน้าพวกมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ที่นอกเมือง เสียงกระแทกได้ยินมา ขณะที่คลื่นทะเลกระแทกเข้าไปในกำแพงเมือง

เสียงนั้นได้ยินมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น และดังก้องไปทั่วเมือง ทำให้สีหน้าของผู้ฝึกตนเปลี่ยนไปด้วยท่าทางที่แตกต่างกันออกไป

ในท่ามกลางเมืองไห่เฉิง มีหอคอยขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสูงเกือบสามพันจ้าง พื้นที่บริเวณรอบๆ หอคอยเป็นเขตหวงห้าม ไม่เคยมีใครเข้าไปได้โดยไม่ได้รับการเชื้อเชิญมาก่อน

นี่เป็นสถานที่ที่สงวนไว้ให้กับสามผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่ด้านบนสุดของหอคอยมีบุรุษวัยกลางคนแซ่หลิน ซึ่งสวมใส่ชุดยาวสีแดง มีเส้นผมยาวสีดำ และยืนประสานมืออยู่ที่ด้านหลัง มองออกไปจากหน้าต่าง พร้อมกับคิ้วที่ขมวดย่น ยากที่จะบอกได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

“คลื่นนั้นมีความสูงมากกว่าหนึ่งจ้าง และดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล” มันกล่าวเสียงราบเรียบ “ดูเหมือนว่ามีบางอย่างมากระตุ้นอสูรทะเล ทำให้พวกมันทั้งหมดต่างก็มุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน พวกมันกำลังจะไปแสดงความเคารพ หรือว่าถูกเรียกไป หรือถูกล่อไป?” ดวงตามันสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า ขณะที่มันกล่าววาจา ก็ดูเหมือนว่าคำพูดของมันได้ทำให้ระลอกคลื่นกระจายออกไปในอากาศ

“ไม่ว่าอย่างไร อสูรทะเลก็ไม่ได้ฉลาดมากนัก ต้องมีบางอย่างชักนำพวกมันไป!” ทันใดนั้นมันก็ก้าวเท้าตรงไป และจากนั้นก็หายตัวไป อย่างน่าตกใจ มันไปปรากฏตัวขึ้นใหม่อยู่ที่ด้านนอกของเมืองไห่เฉิง ที่อยู่ห่างไกลออกไป คลื่นประดังขึ้นมาอยู่ใต้เท้ามัน ขณะที่มันประสานมืออยู่ด้านหลังและก้าวเนิบนาบตรงไป

ด้วยการเดินเพียงก้าวเดียว มันก็หายตัวไปและปรากฏกายขึ้นใหม่ในที่ห่างไกลออกไป จากนั้นมันก็กระทำเช่นเดิม ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อขณะที่มันเคลื่อนที่ไป เป็นความรวดเร็วที่ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งไม่อาจจะทำได้ โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกมันเอง

ในเวลาเดียวกันกับที่บุรุษชุดแดงมุ่งหน้าตรงไป เมิ่งฮ่าวที่ถูกห้อมล้อมด้วยสัญลักษณ์เวทสองหมื่นชิ้น โลหิตกระจายเต็มอยู่ในน้ำรอบๆ ตัวเขา ขณะที่อสูรทะเลมากมายนับไม่ถ้วน ถูกสังหารไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่รู้ว่าได้สังหารพวกมันไปมากมายเท่าใด แต่ขณะที่จมลึกลงไปด้านล่าง อสูรทะเลที่อยู่รอบๆ ตัวเขาก็ดูเหมือนว่าจะโผล่ขึ้นมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

ในตอนนี้เองที่สายฟ้าห้าสีจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น พุ่งผ่านฝูงอสูรทะเลเข้ามา ที่ไหนก็ตามที่มันพุ่งผ่านไป อสูรทะเลก็จะระเบิดออกในทันที พลังของสายฟ้านั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างของสวรรค์และปฐพี เพียงชั่วพริบตา มันก็กระแทกเข้าไปในสัญลักษณ์เวทซึ่งห้อมล้อมเมิ่งฮ่าวอยู่

ตูม!

สัญลักษณ์เวทสองหมื่นชิ้นนับพันแตกสลายไปในทันที มันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวซึ่งกำลังมองขึ้นมาอย่างฉับพลันต่อไป เมื่อเกาะพังทลายและเริ่มจมลงไปในน้ำทะเล เขาได้สังเกตเห็นแมงกระพรุนดอกไป๋กู่ (โครงกระดูกแห่งความตาย) ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เมิ่งฮ่าวจมลงไปในน้ำ ถึงแม้จะถูกขัดขวางโดยอสูรทะเลที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น เขาก็พบว่านี่เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากตอนที่อยู่ในทะเลม่วง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขามีข้อจำกัด

แน่นอนว่า เมิ่งฮ่าวยังคงระมัดระวังตัวเหมือนเช่นเคย ดังนั้นขณะที่สายฟ้าพุ่งตรงมา เขาก็ยกมือขวาขึ้นและชี้นิ้วตรงไป ฝ่ามือโลหิตทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นและพุ่งตรงไป

เสียงระเบิดได้ยินมา ขณะที่สายฟ้าห้าสีแตกกระจายออกไป ห้อมล้อมอยู่รอบๆ ฝ่ามือโลหิต ราวกับว่ามันต้องการจะเจาะเข้าไปในฝ่ามือโลหิต

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย และส่งเสียงแค่นอย่างเย็นชาออกมา เขาโบกสะบัดชายแขนเสื้อร่ายเวท และจากนั้นก็ชี้ตรงไป ทันใดนั้นใบหน้าก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า ดูคล้ายกับเป็นใบหน้าของเมิ่งฮ่าว ซึ่งดวงตากำลังปิดอยู่ขณะที่พุ่งตรงไป นี่แน่นอนว่าเป็นรูปแบบแรกของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เซียนโลหิต

เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ใต้ก้นทะเล ขณะที่สายฟ้าแตกกระจายไป ดวงตาของใบหน้านั้นก็ลืมขึ้นมา และริมฝีปากก็เริ่มกล่าวคำพูดที่ไร้เสียงออกมา

คำพูดที่ไร้เสียงนั้นดูเหมือนจะเปิดเป็นเส้นทางออกไปยังแมงกระพรุน คลื่นเสียงที่ไร้รูปร่างคล้ายกับเป็นระลอกคลื่นทั้งหก กวาดออกไปที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว หนึ่งในระลอกคลื่นนั้นทำให้อสูรทะเลนับพันระเบิดออกในทันที ส่วนที่สอง, สาม และสี่กวาดระลอกคลื่นออกไป ทำให้อสูรทะเลมากกว่าหนึ่งหมื่นตัวแตกกระจายไป

ระลอกคลื่นที่สี่และห้า ดูเหมือนจะเปิดเป็นเส้นทางที่เผยให้เห็นแมงกระพรุนขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไป อสูรทะเลที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวเบียดเสียดกันจนเปิดเป็นเส้นทางที่มองเห็นได้ชัดเจน ขณะที่ระลอกคลื่นทั้งหกพุ่งตรงไปยังแมงกระพรุน น้ำทะเลก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน และบิดเบี้ยวไปมาเพื่อก่อตัวเป็นใบหน้าของเมิ่งฮ่าว ซึ่งส่งเสียงกระหึ่มพุ่งตรงไปยังแมงกระพรุน

แสงห้าสีเจิดจ้ากระจายออกมาจากแมงกระพรุน ซึ่งกลายเป็นเกราะป้องกันห้าสีพุ่งออกไปต่อต้าน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ยินมา กลายเป็นการโจมตีอันรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา และกำลังจะพุ่งตรงไปสังหารแมงกระพรุนแปลกๆ ตัวนี้ แต่ทันใดนั้นก็รับรู้ได้ถึงพลังอันน่าเหลือเชื่อพุ่งตรงมาที่เขา พลังอันรุนแรงนั้นทำให้เขาต้องสั่นสะท้านอยู่ในจิตใจ สัญลักษณ์เวทที่วนอยู่รอบๆ ร่างเขาสั่นไปมา และสัญลักษณ์เวทอีกพันชิ้นก็แตกกระจายไปในทันที

ขณะที่พลังนั้นเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว ดวงตาเขาสาดประกาย ยกเลิกความคิดที่จะสังหารแมงกระพรุน หมุนตัวไป กำมือขวาเป็นหมัด จากนั้นก็ต่อยตรงไปยังพลังที่ใกล้เข้ามา

เสียงปังได้ยินมา และน้ำทะเลก็ระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง ราวกับว่าสองหมัดขนาดใหญ่อันน่าตกใจได้กระแทกเข้าหากันในน้ำทะเล

เสียงแผดร้องคำรามอย่างลึกล้ำได้ยินมา ขณะที่เงาร่างขนาดใหญ่พุ่งถอยไปด้านหลัง อันเนื่องมาจากพลังหมัดของเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวมองเห็นอสูรทะเลตัวนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นที่มาของพลังอันแข็งแกร่งเมื่อครู่นี้

มันก็คือยักษ์!

เป็นยักษ์ที่สูงหนึ่งพันจ้าง มีสองหัวและเกล็ดสีฟ้าก็ปกคลุมไปทั่วผิวหนัง ดวงตามันเป็นสีแดงจ้า ขณะที่จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าว

นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้เกาะแห่งนี้ต้องพังทลายลงไป

อย่างน่าตกใจยิ่ง ที่อยู่ด้านหลังของยักษ์ตัวนี้ก็คือดอกไป๋กู่ ที่กำลังส่ายไหวไปมา!

ดอกไป๋กู่มีสีขาวอย่างน่ากลัว และดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อมองไป เมิ่งฮ่าวแทบจะมองเห็นใบหน้ามนุษย์ จ้องกลับมาที่เขาด้วยสีหน้าแปลกๆ

สายตาของมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอย่างมากมาย ด้วยความโลภ และด้วย…ความจดจ่อ แทบจะราวกับว่า…มันกำลังจ้องมองไปยังบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นตัวมันเอง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ในตอนนี้ เขาได้เห็นสองอสูรทะเลที่แปลกๆ ในวงแหวนที่สามแห่งทะเลเทียนเหอแล้ว ซึ่งทั้งสองต่างก็มีดอกไป๋กู่แปลกๆ อยู่บนร่างพวกมัน

อันที่จริง เมื่อเมิ่งฮ่าวมองไปยังดอกไป๋กู่นั้น เขาก็รับรู้ถึงดอกปี่อ้านที่อยู่ในร่างเขาได้อย่างชัดเจนว่า มันถูกกระตุ้นให้กระจายพลังการโจมตีออกมา

เนื่องจากอันตรายอันร้ายแรงในตอนนี้ ทำให้มีแรงกดดันกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว รวมทั้งกลิ่นอายที่ซึมออกมาจากเส้นโลหิตในร่างเขา

จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน เขาเคยต่อสู้กับดอกปี่อ้านมานานหลายปี และถึงแม้ว่าเขาจะสะกดมันลงได้สำเร็จทุกครั้ง แต่ก็ทำให้มันหลอมรวมเข้ากับร่างเขาได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ดอกปี่อ้านไม่ยอมต่อต้าน ยอมเสนอตัวเพื่อรวมกลิ่นอายของมันเข้ากับกลิ่นอายของเขาเอง

ขณะที่กลิ่นอายของมันหลอมรวมเข้าไปในร่างเขา แสงแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว มันไม่ได้ต่อต้าน แต่ปล่อยให้กลิ่นอายของดอกปี่อ้านกระจายไปทั่วร่าง ทันใดนั้น…ดอกปี่อ้านห้าสีก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเขา!

ดอกไม้ก่อตัวขึ้นเป็นใบหน้าซึ่งแยกออกเป็นสองส่วน หนึ่งส่วนดูคล้ายกับเมิ่งฮ่าว ที่ดูละเอียดอ่อนคล้ายกับหยก อีกส่วนดูโหดเหี้ยมราวกับเป็นวิญญาณอันชั่วร้าย!

สองใบหน้า, ห้ากลีบดอก, ห้าสีสันที่เรืองแสง เพียงชั่วพริบตา แสงนั้นก็กระจายออกไปเต็มอยู่ที่ก้นทะเล ขณะที่เป็นเช่นนั้น จิตใจเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้านขึ้นมาในทันที และแสงแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในดวงตา ในตอนนี้ เขารับรู้ได้ถึง…พลังแห่งสวรรค์และปฐพี!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารับรู้ได้ถึงพลังแห่งสวรรค์และปฐพี แต่นี่เป็นการเชื่อมต่อกันโดยตรงมากที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้สึกมา เขาแทบจะรู้สึกว่า…กำลังได้รับความสนับสนุนจากสวรรค์และปฐพี ราวกับว่าการคงอยู่ของเขาได้รับการยอมรับ

ทุกๆ ลมหายใจที่เขาสูดเข้าไป พลังแห่งสวรรค์และปฐพีไหลเข้าไปในร่าง รวมทั้งพลังลมปราณและปราณอสูร หรือปราณอื่นใดๆ ที่มีประโยชน์ต่อเขาได้ไหลเข้าไป

เป็นความรู้สึกอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีสามารถกระทำทุกอย่างเพื่อเขาได้

เป็นพลังที่ไร้ขอบเขต!

รู้สึกราวกับว่าโชคชะตาของเขาเริ่มลึกล้ำมากขึ้น ราวกับว่าสวรรค์ได้ลืมตาขึ้นจ้องมองมาที่เขา คล้ายกับว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่ต้องการจะทำร้ายเขา ก็จะกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับสวรรค์และปฐพี

ความรู้สึกอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้นี้ เหมือนกับเป็นลางสังหรณ์อันลี้ลับ

“วันที่ดอกปี่อ้านบานเจ็ดสี, บุปผาจะบานและร่วงโรย หนึ่งพันปี…อย่าบอกข้านะว่าจริงๆ แล้วก็ไม่อาจจะสังหารมันได้!?” ความตระหนักถึงเรื่องนี้กระแทกมายังจิตใจเมิ่งฮ่าว แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะพิจารณาถึงมันได้ในตอนนี้

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น เมื่อดอกปี่อ้านห้าสีปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเขา ฝูงอสูรทะเลที่อยู่รอบๆ ร่างเขาต่างก็เริ่มคลุ้มคลั่ง ดวงตาพวกมันเป็นสีแดง และเครื่องหมายผนึกก็ปรากฏขึ้นบนร่างพวกมัน

ผนึกนั้นดูคล้ายกับเป็นใบหน้าของวิญญาณ แทบจะคล้ายกับดอกปี่อ้านในตอนแรกสุด ยกเว้นว่าเป็นสีขาว แต่ถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะเห็นว่ามันไม่ใช่ดอกปี่อ้าน แต่น่าตกใจยิ่งที่เป็น…ดอกไป๋กู่!

“ดอกไป๋กู่นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันโดยตรงกับดอกปี่อ้านอย่างแน่นอน แต่ทำไมถึงได้มีดอกไป๋กู่อยู่ในทะเลเทียนเหอมากมายเช่นนี้!? ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในอสูรทะเลแทบจะทุกตัว!” จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ขณะที่มองไปรอบๆ ยังผนึกดอกไป๋กู่ทั้งหมด และหนังศีรษะเขาก็เริ่มด้านชา

“ข้าอยากรู้นักว่ามันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านหยินเติงซ่างเหริน (ผู้สูงส่งตะเกียงเงิน) แห่งทะเลเทียนเหอที่ท่านอาจารย์เคยบอกไว้หรือไม่?!” สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป ขณะที่มองไปรอบๆ ยังยักษ์ขนาดใหญ่ และแมงกระพรุนอีกครั้ง เขาตระหนักว่าพวกมันแตกต่างไปจากอสูรทะเลตัวอื่นๆ

สิ่งที่อยู่บนร่างพวกมัน ไม่ใช่เครื่องหมายดอกไป๋กู่ แต่เป็นดอกไม้ที่มีชีวิตจริงๆ

ตอนนี้ดอกไป๋กู่ทั้งสองกำลังส่ายไหวไปมา และดูคล้ายกับว่าพวกมันกำลังจะบานออก แต่ละดอกมีอยู่สามกลีบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!