Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 741

ตอนที่ 741

ร่างจำแลงของเซียนรุ่งอรุณ!

เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตมีทั้งหมดหกระดับ!

ขั้นปราณและโลหิต, ขั้นเส้นลมปราณ, ขั้นวิญญาณโลหิต!

สามขั้นอันยิ่งใหญ่ ทำให้ร่างกาย, พื้นฐานฝึกตน และวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น!

ขั้นแรกช่วยให้ผู้ฝึกสามารถกลั่นสกัดร่างกาย ให้มีพลังที่ไร้ขีดจำกัด จนทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้านปฐพีสั่นสะเทือน ขั้นที่สองก็ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะดูดซับพื้นฐานฝึกตนของคนอื่นๆ เข้ามาได้ ช่วยให้พื้นฐานฝึกตนของผู้ฝึกวิชานี้เพิ่มสูงขึ้นได้ชั่วคราว

ช่วยให้สามารถทะลวงผ่านข้อจำกัดไปได้ และช่วยให้บรรลุถึงพลังขั้นสูงสุดได้ชั่วคราว!

สำหรับขั้นที่สาม ขั้นวิญญาณโลหิต เมิ่งฮ่าวไม่ค่อยชัดเจนนักเกี่ยวกับรายละเอียดของมัน แต่จากคำอธิบายของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต ขั้นที่สามนี้เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณ และเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์

สิ่งที่เขารู้ก็คือว่า ขั้นที่สามของเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต มีนามของมันเองโดยเฉพาะ

มันสามารถจะทำให้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นร่างจำแลงได้ และสังหารเซียนได้ด้วยความคิดที่แวบขึ้นมาเท่านั้น!

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขามองไปยังความปั่นป่วนวุ่นวายในสนามรบ พลังของเขาประดังขึ้น และดวงตาก็เปล่งแสงอันเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้จิตใจของหุ่นเชิดสำนักจินหานต้องสั่นสะท้าน ม่านตาผู้ฝึกตนตระกูลหลี่หดเล็กลง สำหรับผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยนที่ติดอยู่ภายในกระแสน้ำวนสีทอง จิตใจมันหมุนคว้าง และรับรู้ได้ถึงอันตรายอันร้ายแรงที่พุ่งขึ้นมาจากภายในจิตใจ

เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้นอย่างช้าๆ และชี้ตรงไปที่มันกล่าวว่า

“ตาย!”

ด้วยการตอบรับคำพูดของเขา กระแสน้ำวนเริ่มหมุนเร็วมากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นลมพายุที่ดูเหมือนจะขยายตัวออกไปจากพื้นดินจนสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล มันดูน่าตกใจอย่างถึงที่สุด ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบ ทั้งศิษย์สำนักเซี่ยเยา และกองกำลังจากสี่พลังอันยิ่งใหญ่ ต่างก็ประหลาดใจไปตามๆ กัน

มองไม่เห็นผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยนอยู่ภายในลมพายุนั้นอีกต่อไป ได้ยินแต่เสียงแผดร้องอย่างน่าหดหู่ใจออกมาจากภายในสายลมอันรุนแรงนั้น ปราณและโลหิตจำนวนมากกลายเป็นกลุ่มหมอกสีโลหิต ลอยออกมาจากลมพายุตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้ ทั่วทั้งร่างเมิ่งฮ่าวได้บรรลุขั้นค้นหาเต๋าไปเรียบร้อยแล้ว ในเวลาเดียวกันนั้น พลังพื้นฐานฝึกตนจำนวนมากจากลมพายุนั้นก็ไหลเข้ามาในร่างเขา ผลักดันให้พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานขึ้นไปในขั้นตัดวิญญาณครั้งที่สาม!

ภายในลมพายุนั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อ ร่างกายมันแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นซากศพที่มีชีวิตอยู่ในชั่วพริบตา!

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และกลิ่นอายอันน่าตกใจจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง ทำให้คนทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบต่างก็รับรู้ได้

กลิ่นอายนี้ไม่ใช่ขั้นตัดวิญญาณ แต่เป็น…ค้นหาเต๋า!

ในที่สุดกระแสน้ำวนสีทองก็จางหายไป เผยให้เห็นผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยน ซึ่งกลายเป็นหนังหุ้มติดกระดูก และไม่มีพื้นฐานฝึกตนติดตัวแม้แต่น้อย พลังชีวิตของมันแทบจะหายไปจนหมดสิ้น มันได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป!

มันอ่อนแอลงอย่างน่าเหลือเชื่อ กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาไป ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะหยิบเอาอาวุธเวทใดๆ ออกมาจากถุงสมบัติ แม้แต่แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ยังเหือดแห้งหายไปโดยสิ้นเชิง

ความตกตะลึงเต็มอยู่ในดวงตามัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้รวดเร็วจนมันแทบไม่อยากจะเชื่อว่าได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ขณะที่กระแสน้ำวนหายไป เมิ่งฮ่าวก็ก้าวเท้าตรงไปอยู่ที่เบื้องหน้าของชายชรา จากนั้นก็ยื่นมือออก และกดลงไปบนศีรษะของมัน

ผู้ฝึกตนนับแสนที่มองมา ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ, ตื่นตระหนก, หวาดกลัวและไม่อยากจะเชื่อ

ตูม!

ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยนระเบิดออก โลหิตและชิ้นเนื้อกลายเป็นหยาดพิรุณพร่างพรมออกไปทั่วทุกทิศทาง จากนั้น…ก็กลายเป็นเถ้าธุลีที่ปลิวหายไปในสายลม

ทั่วทั้งสนามรบตกอยู่ในความเงียบ

เหลืออยู่แต่เพียงแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ที่แห้งเหี่ยวลงไปเท่านั้น มีท่าทางสับสนและหวาดกลัว มันพยายามจะหลบหนีจากไป แต่ก่อนที่มันจะทันได้อยู่ห่างไกลออกไปจากเมิ่งฮ่าว ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบรังสีสังหารออกมา ยกมือขวาขึ้นและธวัชสามแฉกก็ปรากฏขึ้น ม้วนกวาดออกไป ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยระลอกคลื่นแห่งความมืด จากนั้นก็ม้วนพันไปรอบร่างที่เหี่ยวแห้งของแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ และกระชากมันกลับไปยังเมิ่งฮ่าว ผนึกมันไว้อย่างแน่นหนาอยู่ภายในผืนธง

รอบๆ บริเวณนั้นเงียบสงัดราวกับเป็นสุสาน…

หุ่นเชิดสำนักจินหานอ้าปากค้างและหลบหนีออกไป ผู้ฝึกตนสำนักจินหานที่ประกอบกันขึ้นเป็นหุ่นเชิด มีสีหน้าประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ ผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าเพิ่งจะถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตาพวกมัน

ผู้ฝึกตนตระกูลหลี่ จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ความเงียบปกคลุมอยู่ไม่นาน จากนั้นปฏิกิริยาต่างๆ ก็ระเบิดขึ้น

“ค้นหาเต๋าขั้นต้น…”

“ตาย?!”

“ปรมาจารย์ที่ทรงพลังแห่งสำนักอีเจี้ยนเพิ่งจะถูกกำจัดไป!!”

ไม่มีใครอยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกมันเพิ่งจะได้เห็นนี้

แม้ในขณะที่จิตใจพวกมันกำลังหมุนคว้างด้วยความตกใจ ต่างก็จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าว ภาพของเขาที่กำลังยืนอยู่ที่นั่น เป็นสิ่งที่พวกมันไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้ตลอดชั่วชีวิตที่เหลืออยู่

ศิษย์สำนักเซี่ยเยากำลังสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น และเริ่มตะโกนมายังเมิ่งฮ่าว

“เจ้าสำนักน้อย!”

“เจ้าสำนักน้อย!!”

“เจ้าสำนักน้อย!!!” เสียงนั้นดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนามรบ กลายเป็นเสียงกึกก้องที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือน

การสังหารผู้ฝึกตนขั้นต้นค้นหาเต๋าไป ทำให้ศิษย์สำนักเซี่ยเยารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป ตอนนี้เขาสามารถจะใช้เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตระดับสี่ได้แล้ว เขามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าสามารถจะต่อสู้กับศัตรูนับแสนนี้ได้

เมิ่งฮ่าวก้าวเดินตรงไป และจากนั้นก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสตระกูลหลี่อย่างโหดเหี้ยม

ขณะที่เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ สีหน้าผู้อาวุโสตระกูลหลี่สลดลง มันรีบหลบหนีไปในทันที ไม่กล้าจะอยู่ใกล้กับเมิ่งฮ่าว มันหวาดกลัวต่อกระแสน้ำวนเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตโดยสิ้นเชิง

ถึงแม้ว่ามันจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจจะเร็วกว่าเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตของเมิ่งฮ่าว เขาโบกสะบัดแขน และสามกระแสน้ำวนสีทองก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็ตกลงไปยังผู้ฝึกตนฝ่ายศัตรูนับแสนคน

ทันใดนั้น เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจก็ดังก้องออกมา ขณะที่สามกระแสน้ำวนปกคลุมผู้ฝึกตนฝ่ายศัตรูไปนับร้อยคน ร่างกายพวกมันแห้งเหี่ยวลง และพื้นฐานฝึกตนก็หายไปในทันที ปราณและโลหิต แม้แต่เส้นลมปราณก็ถูกดึงออก พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ร่างกายเขาเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น!

พื้นฐานฝึกตนของเขาพุ่งสูงขึ้นไปอย่างน่าตกใจ!

เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ชี้นิ้วตรงไปยังผู้อาวุโสตระกูลหลี่

เวทผนึกอสูรรุ่นแปด!

ปราณอสูรม้วนกวาดออกไป คล้ายกับเป็นเส้นไหม พันไปรอบๆ ร่างผู้อาวุโสตระกูลหลี่ในชั่วพริบตา ร่างกายมันหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ พยายามตระเกียกตระกายดิ้นรน และดูเหมือนว่าเกือบจะหลบหนีออกไปได้สำเร็จ แต่มันก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการหยุดชะงักนิ่งไปชั่วขณะนี้…

นั่นก็คือว่าเมิ่งฮ่าวมีเวลาที่จะปลดปล่อย กระแสน้ำวนเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตออกมา!

ตูม!

ทันทีที่กระแสน้ำวนปรากฏขึ้น ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ก็แผดร้องออกมา มันขว้างอาวุธเวทเป็นจำนวนมากออกมา และใช้พลังจากพื้นฐานฝึกตนของมันอย่างเต็มกำลัง แต่ถ้าผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าสำนักอีเจี้ยนยังไม่อาจจะหลบเลี่ยงจากการถูกกำจัดไปได้ แล้วมันจะสามารถได้อย่างไร ด้วยพื้นฐานฝึกตนที่ต่ำกว่าเช่นนี้?

ขณะที่เสียงแผดร้องดังก้องออกมา หุ่นเชิดสำนักจินหานก็มองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ผู้อาวุโสตระกูลหลี่แห้งเหี่ยวลง พื้นฐานฝึกตนของมันจางหายไป ผู้ฝึกตนที่อยู่ภายในหุ่นเชิดรู้สึกว่าหนังศีรษะพวกมันเริ่มด้านชา และหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็วมากที่สุด

ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ พื้นฐานฝึกตน, ปราณและโลหิต ทั้งหมดของผู้อาวุโสตระกูลหลี่ ถูกเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปจนหมดสิ้น จากนั้นเขาก็โบกสะบัดมือ และสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ของผู้อาวุโสตระกูลหลี่ก็ระเบิดออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“สังหารพวกมัน!” เมิ่งฮ่าวแผดร้อง ปลุกให้วิญญาณของศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นตื่นขึ้นมา พวกมันมีแค่ไม่กี่หมื่นคน กำลังจะเผชิญหน้ากับศัตรูนับแสน

แต่…การตกตายไปของผู้แข็งแกร่งขั้นต้นค้นหาเต๋าแห่งสำนักอีเจี้ยน, การตายไปของผู้อาวุโสตระกูลหลี่, การหลบหนีจากไปของหุ่นเชิดสำนักจินหาน พร้อมกับผู้ฝึกตนตัดวิญญาณที่พยายามจะหลบหนีไปทั้งหมด ได้ทำให้พลังของกองกำลังทั้งสี่สั่นสะท้านอย่างลึกล้ำ และเห็นได้ชัดว่าพวกมันสูญเสียความคิดที่จะต่อสู้ไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ร่างจำแลงโลหิตของเมิ่งฮ่าว ก็ยังคงพุ่งกระโจนไปยังผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่า ทำให้พวกมันตกตายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ได้บั่นทอนกำลังใจของศัตรูนับแสน นี่เป็นครั้งแรกที่สำนักเซี่ยเยา…ได้บังคับให้กองกำลังของศัตรูต้องล่าถอยออกไป!

ถ้าเปรียบกองกำลังของศัตรูเป็นกำปั้น เมิ่งฮ่าวก็ได้งัดให้กำปั้นนั้น…แบออก!

เมื่อได้เห็นสถานการณ์ที่ด้านล่างในตอนนี้ ชายชราชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยนที่อยู่สูงขึ้นไปกลางอากาศ ก็ตะโกนร้องออกมาด้วยโทสะ

“เด็กน้อย เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”

ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ก็แผดร้องอย่างกราดเกรี้ยวออกมาด้วยเช่นกัน พวกมันอยากจะพุ่งลงไปโจมตีเมิ่งฮ่าว แต่ก็เห็นได้ชัดว่าร่างจำแลงของปรมาจารย์อสูรโลหิตไม่ยอมจะปล่อยให้พวกมันกระทำเช่นนั้นได้ เสียงระเบิดดังก้องเต็มอยู่ในท้องฟ้า และอากาศก็บิดเบี้ยวไปมา

“บัดซบ!” ชายชราชุดเขียวจากสำนักอีเจี้ยนร้องออกมา “เซียนรุ่งอรุณ ท่านสัญญาว่าจะช่วย!”

ทันทีที่เสียงของมันดังก้องออกมา เสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาก็ได้ยินดังออกมาจากด้านบนขึ้นไป เสียงนั้นกวาดผ่านไปทั่วพื้นดิน ทำให้จิตใจของผู้ฝึกตนทั้งหมดหมุนคว้าง ทั้งศัตรูนับแสนและศิษย์สำนักเซี่ยเยา ต่างก็มีจิตใจที่สั่นสะท้าน และจากนั้นก็ว่างเปล่าไปโดยสิ้นเชิง

ดอกปี่อ้านทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว มีท่าทางดุร้ายอย่างน่าเหลือเชื่อ พร้อมกับกิ่งก้านที่สะบัดไปมาอย่างคลุ้มคลั่ง เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปในท้องฟ้า ดวงตาเต็มไปด้วยรังสีสังหารอันโหดเหี้ยม

ที่ด้านบนขึ้นไป มองเห็นเป็นหญิงสาว ขณะที่นางก้าวลงมาจากท้องฟ้า บุปผาก็เบ่งบานอยู่ที่ใต้เท้านาง และพลังอันน่าตกใจก็หมุนวนอย่างเลือนลางอยู่รอบๆ ร่างนาง

นางไม่ได้สวยงาม แต่ก็มีหน้าตาที่โดดเด่นไม่ธรรมดา สามารถจะทำให้ใครก็ตามที่มองมา ต้องรู้สึกว่านางมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างน่าทึ่ง

การปรากฏกายขึ้นของนาง ทันใดนั้นก็ทำให้สนามรบเกิดความปั่นป่วนขึ้นเล็กน้อย ร่างจำแลงของปรมาจารย์อสูรโลหิตมองขึ้นไป และสายตาทุกคู่ก็จ้องนิ่งไปยังหญิงสาว

“เซียนรุ่งอรุณ” ปรมาจารย์อสูรโลหิตกล่าว

“เซี่ยเยา! (อสูรโลหิต)” นางตอบกลับ

ร่างจำแลงทั้งหมดของปรมาจารย์อสูรโลหิตรวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นร่างจำแลงเดียว ซึ่งกระจายกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา และพลังนั้นก็กลายเป็นใบหน้าสีโลหิตขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ

“ร่างจำแลงอันกระจ้อยร่อย” ปรมาจารย์อสูรโลหิตกล่าว มองไปยังผู้แข็งแกร่งสำนักอีเจี้ยนและคนอื่นๆ “นี่ก็คือไพ่ไม้ตายของพวกเจ้า?” มันเบือนสายตากลับไปยังหญิงสาว “ข้าคิดว่าใบไม้ก่อนหน้านี้เป็นฝีมือของเจ้า”

“ภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกัน” นางกล่าวตอบ “ข้าอาจจะไม่สามารถทำอะไรท่านได้, ผู้อาวุโสเซี่ยเยา แต่ตอนนี้ท่านถูกผูกมัดด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ท่านอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก ถ้าข้าจำไม่ผิด เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตสามารถใช้ได้เพียงแค่รุ่นละหนึ่งคนเท่านั้น ท่านไม่ได้ใช้มันตลอดทั้งช่วงของการต่อสู้ที่ผ่านมา มีแต่เจ้าเด็กที่ด้านล่างเท่านั้นที่ใช้…แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด สิ่งที่ข้าต้องทำก็คือขัดขวางท่านเพียงชั่วครู่” ทันใดนั้นนางก็มองลงไปยังเมิ่งฮ่าวที่อยู่บนพื้นดินด้านล่าง

เมิ่งฮ่าวมองกลับไปยังนาง และจิตใจเขาก็ต้องสั่นสะท้านเมื่อสายตาของคนทั้งสองได้สบประสานกัน แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อจู่ๆ ก็กดทับลงมาในจิตใจ ราวกับว่าภูเขาทั้งลูกกำลังบดขยี้ลงมาที่เขา

ที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว ดอกปี่อ่านกำลังส่ายไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง

“เซียนอรุ่งอรุณ!!” เมิ่งฮ่าวคิด โซเซถอยไปด้านหลัง แม้จะมีโลหิตไหลซึมออกมาจากปาก เขาก็ยังคงจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ด้านบน เขาไม่เคยจะลืมความรู้สึกของสายตานั้น เป็นสายตาเดียวกับที่มองลงมา ตอนที่เขาอยู่ในทะเลเทียนเหอ!

หญิงสาวนางนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเป็นเซียนรุ่งอรุณผู้ลึกลับ ซึ่งเป็นเพียงแค่ร่างจำแลงเท่านั้น ไม่ใช่ร่างจริงของนาง!

“จิตส่วนดีของข้าได้มอบพลังชีวิตของนางให้กับเจ้า” หญิงสาวนางนั้นกล่าวเสียงราบเรียบ “ทายาทของข้าตอนนี้ได้กลายเป็นของวิเศษตัดวิญญาณของเจ้าแล้ว…เจ้าและข้าจริงๆ แล้วก็มีโชคชะตาที่เชื่อมต่อกัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!