ตอนที่ 895
มัน…กลับมาแล้ว!
“เจ็ดพันจ้าง!! ในรุ่นปัจจุบันนี้ของตระกูลฟาง มีอยู่ไม่ถึงสิบคนที่สามารถจะทำให้ลำแสงเจ็ดพันจ้างปรากฏขึ้นได้! วันนี้…มีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว! คนผู้นี้คือใครกัน?”
“มันต้องเป็นใครบางคนจากสายโลหิตรองอย่างแน่นอน ข้ามั่นใจแปดในสิบส่วนว่าเป็นเทาเอ๋อร์”
กลุ่มคนตระกูลฟางที่อยู่ด้านนอกประตูสวรรค์ตะวันออกต่างก็ประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปบนดาวตงเซิ่ง ระฆังครั้งที่เจ็ดได้ดังก้องเข้าไปในหูของกลุ่มคนตระกูลฟางทั้งหมด ในตอนนี้เองที่สือจิ่วซู (อาสิบเก้า) ของเมิ่งฮ่าว ซึ่งกำลังนั่งดื่มสุราอยู่ที่ข้างทะเลสาบจู่ๆ ก็สั่นสะท้านขึ้น ค่อยๆ วางขวดน้ำเต้าสุราลง และมองขึ้นไปในท้องฟ้า
“เสียงระฆังเจ็ดครั้ง…ใครกำลังก้าวเข้าไปในประตูตระกูลฟางเป็นครั้งแรก เป็นไปได้หรือไม่ว่า…นั่นก็คือฮ่าวเอ๋อร์?!?!” ทันใดนั้นสือจิ่วซูก็ลุกขึ้นมายืนและโบกสะบัดมือ บุรุษหนุ่มที่กำลังห้อยศีรษะลงมาอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ ส่งเสียงแผดร้องออกมา ขณะที่สือจิ่วซูคว้าจับตัวมันไว้และพาบินขึ้นไปในท้องฟ้า
“เตีย เตีย! ข้าผิดไปแล้ว! ข้าทำผิดไปจริงๆ…” บุรุษหนุ่มแผดร้องออกมา สือจิ่วซูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พามันพุ่งตรงไปยังประตูสวรรค์ตะวันออก ท่านต้องไปดูให้ได้ว่าคนที่มาใหม่ผู้นี้…คือเมิ่งฮ่าวจริงหรือไม่!
เวลาเดียวกันนั้นในคฤหาสน์โบราณตระกูลฟาง ห้องโถงหลักของวิหารอีกแห่งหนึ่งที่มีคนนั่งอยู่ด้านในสองคน หนึ่งเป็นชายชรา และอีกคนค่อนข้างจะมีอายุน้อยกว่า พวกมันนั่งขัดสมาธิ กำลังฟังเสียงที่ดังขึ้นมาของระฆัง
ดวงตาชายชราลืมขึ้นมา และกล่าวเสียงราบเรียบขึ้น “ไปดูว่าสายโลหิตของคนผู้นี้มาจากไหน ถ้ามันเป็นพวกเราก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าไม่ใช่…ก็ให้คนผู้นั้นมาที่นี่ เหล่าฟูจะต้อนรับมันในฐานะหลานปู่”
บุรุษวัยกลางคนมีใบหน้าที่สง่างาม และค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับฟางซิ่วเฟิง พยักหน้าจากนั้นก็เดินหายตัวไป เมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง มันก็อยู่สูงขึ้นไปในท้องฟ้า
ดวงตามันสาดประกายเจิดจ้า
“พรสวรรค์ที่มีลำแสงสูงเจ็ดพันจ้าง น้อยกว่าบุตรชายข้าเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้คนผู้นี้คู่ควรที่จะกลายมาเป็นน้องชายของมัน”
ในเวลาเดียวกันนั้น ลึกลงไปใต้พื้นดินด้านล่างคฤหาสน์โบราณตระกูลฟาง มีถ้ำแห่งเซียนอยู่ถ้ำหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยปราณเซียนอันเข้มข้น เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากว่าตลอดทั้งถ้ำแห่งเซียนนี้…ถูกสร้างขึ้นมาจากหยกเซียน!
บุรุษหนุ่มที่เปลือยหน้าอกนั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำแห่งเซียนนั้น ถูกห้อมล้อมด้วยชายชราที่แห้งเหี่ยวเก้าคน ชายชราเหล่านั้นถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่เหล็กซึ่งเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นค่ายกลเวท ชายชราทั้งหมดส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมา ขณะที่ปราณเซียนไหลออกมาร่างจากพวกมัน ผ่านเข้าไปในค่ายกลเวท และจากนั้นก็ถูกดูดซับเข้าไปโดยบุรุษหนุ่มผู้นั้น
ยังมีชายชราอีกสามคนกำลังยืนอยู่ในถ้ำ คอยเฝ้าสังเกตดูขั้นตอนนี้ด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
“กงจื่อ พื้นฐานฝึกตนของท่านเริ่มก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ แล้ว”
“เมื่อดูจากพรสวรรค์ของท่าน ท่านจะต้องมีชื่อเสียงมากที่สุดในขุนเขาทะเลที่เก้านี้อย่างแน่นอน สุดท้ายแม้แต่ผู้ถูกเลือกจากสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ ก็ไร้ทางเลือกนอกจากต้องก้มศีรษะให้กับท่านเท่านั้น”
“กงจื่อ ท่านมีความปรารถนาอันแรงกล้า คงอีกไม่นานแล้วที่ท่านจะกลายเป็นเซียนแท้ จากนั้นท่านก็สามารถจะกวาดล้างผู้ถูกเลือกในขุนเขาทะเลที่เก้าไปได้ทั้งหมด”
ในตอนนี้เองที่เสียงระฆังได้ดังขึ้นมาในหูของพวกมัน และสีหน้าของสามชายชราก็เปลี่ยนไป แต่บุรุษหนุ่มก็ยังคงเข้าฌาณต่อไป
คนที่ไม่ใช่สมาชิกของตระกูลฟางทั้งหมดบนดาวตงเซิ่งไม่อาจจะได้ยินเสียงระฆังนี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนของตระกูลฟางกำลังบินออกไปยังประตูสวรรค์ตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ ไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น กำลังมองไปยังลำแสงอันไร้ขอบเขตนั้น
“คนผู้นี้คือใครกันแน่…?”
“ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นไป พวกเราจะได้เห็นว่ามันคือใครในไม่ช้านี้แล้ว ในที่สุดศักดิ์ฐานะในตระกูลของคนผู้นี้ก็จะแตกต่างไปจากคนทั้งหมดอย่างแน่นอน!”
ภายในกลุ่มฝูงชน สือจิ่วซูของเมิ่งฮ่าวเพ่งมองไปยังเงาร่างที่อยู่ภายในประตูของตระกูลฟางด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน ไม่มีใครเคยเห็นเมิ่งฮ่าวมาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักเขา แต่สือจิ่วซูสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ดูคุ้นเคยเกี่ยวกับเงาร่างนั้น
“มันคือใคร?” บุรุษหนุ่มที่อยู่ด้านข้างสือจิ่วซูถามขึ้น จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “ใครกันที่มีลำแสงเจ็ดพันจ้าง?” บิดามันตอบคำถามนั้นด้วยการทุบตีไปที่ร่างมันอย่างแรง
“เตีย…” บุรุษหนุ่มครวญครางออกมาทำหน้ามุ่ย มันกำลังจะกล่าวอะไรออกมา แต่ทันใดนั้นเองที่เสียงกระหึ่มกึกก้องอีกเสียงก็ได้ยินขึ้น และลำแสงก็กระจายออกมาจากประตูของตระกูลฟาง…พุ่งสูงขึ้นไปมากกว่าเดิมอีกครั้ง
ตูมมมมม!
ลำแสงนั้นพุ่งจากเจ็ดพันจ้างไปจนถึงแปดพันจ้าง ภาพอันยิ่งใหญ่นี้ทำให้กลุ่มคนของตระกูลฟางทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกประตูสวรรค์ตะวันออกต้องจ้องมองไปด้วยความงุนงง
“สวรรค์! นั่น…นั่นกำลังเกิดอะไรขึ้น!?!?”
“แปดพันจ้าง ช่างน่าตกใจนัก…ที่มันพุ่งสูงขึ้นไปจนถึงแปดพันจ้าง! ลำแสงของเว่ยกงจื่อก็แปดพันจ้างด้วยเช่นกัน! สายโลหิตของคนผู้นี้เข้มข้นเทียบเท่ากับของเว่ยกงจื่อ!”
“ยังมีใครในตระกูลที่สามารถจะทำได้เช่นนี้อีก? เป็นไปไม่ได้! ถ้าข้าจำไม่ผิด ไม่มีคนในตระกูลใดๆ ที่จะมีสายโลหิตเช่นนี้อีกแล้ว!!”
ท่ามกลางความปั่นป่วนวุ่นวายทั้งหมดนั้น มีชายชราในกลุ่มฝูงชนจากตระกูลฟางอยู่ไม่กี่คน ที่สีหน้าพวกมันดูเคร่งเครียดขมขื่นและไม่กล่าวอะไรออกมา ทั้งหมดเป็นสายโลหิตหลักของตระกูลฟาง! ในกลุ่มฝูงชนมีผู้คนที่เป็นเช่นนี้อยู่ไม่มากนัก
ความรุ่งโรจน์ของพวกมันในตอนนี้ได้กลายเป็นเรื่องราวเมื่อในอดีตไปแล้ว ตอนแรกท่านตาของเมิ่งฮ่าวได้หายตัวไป จากนั้นบิดาเขาก็จากไปยังดาวหนานเทียน หลังจากนั้นท่านปรมาจารย์สายโลหิตหลักทั้งหมด ก็ไปนั่งเข้าฌาณตามลำพังและไม่เคยโผล่ออกมาอีกเลย สายโลหิตหลักเริ่มตกต่ำลง และสถานการณ์ในตอนนี้ก็มีแต่จะเลวร้ายมากลงไปเรื่อยๆ
เมื่อพวกมันมองเห็นแสงอันไร้ขอบเขตอยู่ที่เบื้องหน้า พวกมันก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น
“สายโลหิตของพวกเราเคยมีคนที่สามารถถือได้ว่าเป็นผู้ถูกเลือกที่แท้จริง!! น่าเสียดาย…มันน่าจะกลับมาเมื่อปีก่อน แต่…ตอนนี้พวกเราก็ยังไม่รู้ว่ามันจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว”
ยังมีอีกหนึ่งคนในกลุ่มฝูงชน เป็นคนที่เพิ่งจะมาถึง มันเป็นบุรุษวัยกลางคนที่ตั้งใจจะรับเมิ่งฮ่าวมาเป็นพวกของมันเอง เดิมทีมันได้ยืนอยู่ที่นั่นในท่ามกลางสมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลทั้งหมด กำลังยิ้มกว้างออกมา
แต่ตอนนี้เมื่อลำแสงได้พุ่งขึ้นไปจนสูงถึงแปดพันจ้าง ดวงตามันก็เบิกกว้าง และลึกลงไปในแววตาคู่นั้น ก็มองเห็นเป็นรังสีสังหารที่แวบขึ้นมา ไม่ว่าคนที่อยู่ด้านในประตูจะเป็นใคร แต่การที่ทำให้เกิดเป็นลำแสงแปดพันจ้างปรากฏขึ้นมาได้ ก็หมายความว่าคนผู้นี้ต้องเป็นภัยคุกคามต่อบุตรชายของมัน
ม่านตาของผู้เฒ่าสูงสุดฟางตงเทียนหดเล็กลงจนแทบจะมองไม่เห็น แต่สีหน้ามันก็ยังดูใจดีมีเมตตา แม้แต่ความตื่นเต้นก็ยังมีให้เห็นมากขึ้นกว่าเดิม
“ดี! ในที่สุดตระกูลฟางของพวกเราก็มีผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่คล้ายกับฟางเว่ยเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว!”
ตระกูลฟางตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย บนดาวตงเซิ่ง เสียงระฆังดังขึ้นมาแปดครั้ง และกลุ่มคนในตระกูลที่ยังไม่ได้บินขึ้นไปในอากาศต่างก็ประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหนุ่มที่อยู่ในทะเลทรายสีโลหิต หรือบุรุษวัยกลางคนที่กำลังฝึกฝนตนเองอยู่ในปล่องภูเขาไฟ หรือคนอื่นๆ พวกมันทั้งหมดต่างก็บินขึ้นไป
ย้อนกลับไปในคฤหาสน์โบราณ ชายชราที่ส่งบุตรชายของมันไปยังประตูสวรรค์ตะวันออก จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา และดวงตาทั้งคู่ก็สาดประกายด้วยแสงอันน่ากลัว
“แปดพันจ้าง นอกจากหลานชายข้าแล้ว ในตระกูลฟางรุ่นปัจจุบันนี้ไม่มีใครที่จะมีสายโลหิตที่เข้มข้นเช่นนี้อีก คนผู้นี้ต้องไม่ได้มาจากดาวตงเซิ่ง!”
“ต้องเป็นมัน…ต้องเป็นบุตรของเจ้าสารเลวนั่น!! มันยังไม่ได้ตายไป!” ตอนแรก รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาของมัน แต่จากนั้นมันก็ขมวดคิ้วและความรู้สึกหวาดกลัวก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ นี่คือดาวตงเซิ่ง และเนื่องจากกองหนุนเต๋าของตระกูลฟาง…ไม่ว่ามันจะมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งอยู่ในตระกูลอย่างไรก็ตามที แต่มันก็ยังไม่กล้าที่จะละเมิดกฎของตระกูลได้อย่างเปิดเผย
“บัดซบ มันกำลังทำให้เกิดเป็นเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้ขึ้น! มันต้องเป็นพวกที่มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างลึกล้ำแน่นอน!”
ตอนนี้คนทั้งหมดในตระกูลฟางกำลังสั่นสะท้าน ลำแสงของเมิ่งฮ่าวทำให้เขาเทียบได้กับผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งในตระกูล, ฟางเว่ย ด้วยสายโลหิตที่เข้มข้นเช่นนี้ทำให้ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
สมาชิกธรรมดาของตระกูลทั้งหมดต่างก็รู้สึกตื่นเต้น แต่สำหรับกลุ่มคนของตระกูลที่มีพื้นฐานฝึกตนที่ลึกล้ำ หรือพวกที่มีอิทธิพลอยู่ในตระกูลตอนนี้ ต่างก็มองไปด้วยสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป พวกมันดีใจที่ได้เห็นว่ามีผู้ถูกเลือกปรากฏขึ้น แต่ถ้าพลังของผู้ถูกเลือกนี้บรรลุถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว…ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าใดนัก
ถ้าคนผู้นี้เป็นภัยคุกคามต่อศักดิ์ฐานะของฟางเว่ย การต่อสู้ระหว่างมังกรและพยัคฆ์จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และผลลัพธ์ก็จะเป็นสมาชิกของตระกูลที่ต้องตายไป และอาจจะมีผลกระทบต่อการดิ้นรนต่อสู้เพื่ออำนาจของสาขาต่างๆ ในตระกูล ทำให้กลายเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นในประตูของตระกูลฟาง ดวงตาหลับลงแต่โลหิตกำลังพลุ่งพล่าน ขณะที่กำลังไหลเวียนไปทั่วร่าง รับรู้ได้ว่า…ยังมีพลังที่ถูกปิดกั้นอยู่ในโลหิตของเขาอีก
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และจากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาในทันที
“ถ้าข้ากำลังทำให้เกิดเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้น ข้าก็จะปลดปล่อยมันออกมาทั้งหมด!” พื้นฐานฝึกตนของเขาระเบิดพลังออกมา ทำให้โลหิตไหลเวียน และประตูทั้งบานก็เริ่มสั่นสะเทือน ลำแสงที่ด้านนอกเริ่มพุ่งสูงขึ้นไปในท้องฟ้ามากขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง
แปดพันห้าร้อยจ้าง, แปดพันเก้าร้อยจ้าง…เก้าพันจ้าง!!
เสียงหึ่งๆ ของการพูดคุยดังขึ้นมา แต่ก็เงียบลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่…ลำแสงยังคงไต่ทะยานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง!
เก้าพันหนึ่งร้อยจ้าง, เก้าพันสองร้อยจ้าง…เก้าพันห้าร้อยจ้าง…เก้าพันเจ็ดร้อยจ้าง จนกระทั่ง…
เก้าพันเก้าร้อยจ้าง!
หนึ่งหมื่นจ้าง!!
กลุ่มคนของตระกูลฟางทั้งหมดสะท้านใจอย่างถึงที่สุดไปโดยสิ้นเชิง แม้แต่ม่านตาของผู้เฒ่าสูงสุดก็ยังต้องยืดขยายออกด้วยความตกตะลึง ใบหน้ามันเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ้ากว้าง กลุ่มคนชราของตระกูลกำลังขมวดคิ้ว แต่สมาชิกธรรมดาของตระกูลกำลังร้องตะโกนออกมาด้วยความยินดี
“หนึ่งหมื่นจ้าง!! ยังมากกว่าเว่ยกงจื่ออีก! สายโลหิตของคนผู้นี้ช่างบริสุทธิ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!!”
“ลำแสงหนึ่งหมื่นจ้าง! ในบันทึกประวัติศาสตร์ของตระกูลในรอบหนึ่งหมื่นปีมานี้ ไม่เคยมีใครเป็นเช่นนี้มาก่อน!!”
“จากตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา มีแต่ท่านบรรพบุรุษในช่วงแรกๆ ของตระกูลเท่านั้น ที่มีลำแสงหนึ่งหมื่นจ้าง นั่นก็หมายความว่าสายโลหิตของคนผู้นี้…ได้ไปกระตุ้นให้บรรพบุรุษตื่นขึ้นมา!!”
สือจิ่วซูของเมิ่งฮ่าวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ดวงตาสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า
“ต้องเป็นฮ่าวเอ๋อร์อย่างแน่นอน มีแต่หลานปู่ของสายโลหิตหลักเท่านั้น ถึงจะมีสายโลหิตเช่นนี้ได้!!”
บนดาวตงเซิ่ง เสียงระฆังครั้งที่เก้าดังขึ้นมา และจากนั้นก็เป็นเสียงที่สิบ ขณะที่ดังก้องกังวานออกไป ชายชราที่อยู่ในคฤหาสน์โบราณจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมายืน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ลึกลงไปใต้พื้นดิน บุรุษหนุ่มที่อยู่ในถ้ำแห่งเซียน ซึ่งกำลังดูดซับปราณเซียนจากชายชราทั้งเก้าลืมตาขึ้นมาในทันที ม่านตามันเป็นสีม่วง และสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ
“มันกลับมาแล้ว…?” บุรุษหนุ่มพึมพำ
ในวันนี้ กลุ่มคนของตระกูลฟาง ตกอยู่ในความประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในวันนี้ กลุ่มฝูงชนมาออแน่นกันอยู่ที่ด้านนอกของประตูสวรรค์ตะวันออก
ในวันนี้ ผู้แข็งแกร่งทรงพลังทั้งหมดของตระกูลฟาง บินออกมายังประตูสวรรค์ตะวันออก
ในวันนี้ ผู้ฝึกตนที่มาต่อแถวอยู่ที่ด้านนอกประตูสวรรค์ตะวันออก ได้พบเห็นสิ่งที่พวกมันไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิต
ในวันนี้ เฝิงสวินได้เห็นสิ่งที่มันจะต้องจดจำไปชั่วชีวิต เป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นความฝัน ผู้ฝึกตนที่มันรู้จักในฐานะเมิ่งฮ่าว…ได้ก้าวเข้าไปในประตูของตระกูลฟาง และลำแสงสายโลหิตหนึ่งหมื่นจ้างก็พุ่งขึ้นไป เรื่องราวนี้จะกลายเป็นตำนานในไม่ช้า และบางทีอาจจะเป็นต้นกำเนิดของตำนานทั้งปวง
เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากประตูของตระกูลฟาง ขณะที่แสงอันเจิดจ้าค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ สายตาของพวกที่มุงดูอยู่ทุกคน จากสมาชิกทั้งหมดของตระกูลฟาง ต่างก็จ้องมองตรงไปยังประตู ในที่สุดสิ่งที่เริ่มมองเห็นได้อย่างชัดเจนนั้น เป็นบุรุษหนุ่มที่ดูไม่คุ้นหน้า กำลังเดินออกมายืนอยู่ที่เบื้องหน้าของคนทั้งหมด
เขามีรูปร่างที่สูงโปร่งสมส่วน สวมใส่ชุดยาวสีน้ำเงิน เส้นผมยาวสีดำพลิ้วไปมาในอากาศรอบๆ ตัว ใบหน้าค่อนข้างจะซีดขาวและผ่ายผอม อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น ก็ดูคล้ายกับกำลังยืนอยู่บนดวงตะวัน
ดวงตาเขาสาดประกายเจิดจ้าคล้ายดวงดาว และขณะที่ยืนอยู่ที่นั่น ก็มองไปรอบๆ ยังคนทั้งหมดด้วยรอยยิ้มที่เขินอายอยู่เล็กน้อย
“บิดาข้าคือฟางซิ่วเฟิง มารดาคือเมิ่งลี่ พี่สาวนามฟางอวี๋ ข้าใช้แซ่ตามมารดา และมีนามว่าเมิ่งฮ่าว ขอคารวะ ท่านปู่ ท่านย่า ท่านลุง ท่านอา น้องชายและน้องสาวทั้งหมด!”
เมิ่งฮ่าวประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ