ตอนที่ 913
การเปลี่ยนแปลงนำคำตอบมาให้!
“ความยากจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงจะนำคำตอบมาให้!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงแห่งความมุ่งมั่น คำกล่าวนี้เป็นสิ่งที่เขาจำได้จากตำราที่เคยอ่านมา ในตอนที่ยังเป็นนักศึกษา ซึ่งอาศัยอยู่ที่เชิงเขาต้าชิง
จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่ลืมถึงความหมายที่แท้จริงของประโยคเหล่านี้ แต่จากบุคลิกส่วนตัวของเขาเอง ทำให้เกิดเป็นความเข้าใจใหม่ๆ ขึ้น สำหรับเขาแล้วคำแรกของประโยคนี้…ได้กล่าวถึงการเป็นคนยากจน!
“ถ้าข้าไม่อาจจะหากำไรได้จากคะแนนความดี นั่นก็หมายความว่าข้ายากจน…ดังนั้นข้าจำเป็นต้องคิดหาวิธีอื่นที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้สามารถผ่านทางตันนี้ไปได้ หลังจากที่ผ่านไปได้ ข้าก็จะเริ่มได้รับคะแนนความดีขึ้นอีกครั้ง”
หลังจากที่ก้าวเท้าเข้าไปในชั้นแรกของศาลาโอสถ เมิ่งฮ่าวก็ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มหมอก เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้าขึ้น
“ในอดีตข้ามีหินลมปราณไม่มากนัก ด้วยจำนวนที่มากกว่าหนึ่งร้อยล้านก้อน ก็ไม่ถือว่าน้อยมากนัก…แต่ บัดซบ! ผลเนี่ยผานกลับกลืนกินหินลมปราณเป็นว่าเล่น! ทำให้ข้าแทบจะมีเหลืออยู่ไม่ถึงสามในสิบส่วน…”
“มันคล้ายกับเป็นก้นหลุมดำ! จากการที่ข้าใช้หินลมปราณไปกับพวกมันมามากแล้ว ทำให้ข้าไม่อาจจะหยุดได้ในตอนนี้ ต้องดำเนินการต่อไปเท่านั้น! ข้าสงสัยว่าผู้เฒ่าสูงสุดคงจะรู้ดีว่าข้ามีหินลมปราณอยู่มากมาย มันจึงใช้วิธีนี้มาทำให้ข้าต้องยากจนลง!”
“นักปรุงยาระดับเจ็ดนั่งอยู่ที่ด้านตรงข้ามข้า ให้คำบรรยายเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพร ตัดเส้นทางสู่ความร่ำรวยของข้า! นั่นถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันโดยตรง! มันมากเกินไปแล้ว!” เมิ่งฮ่าวมีโทสะขึ้นอย่างแท้จริง
ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นและโทสะ เขาเดินเข้าไปในชั้นแรกของศาลาโอสถ และถูกปกคลุมด้วยกลุ่มหมอกที่ม้วนตัวไปมาอยู่รอบๆ บริเวณนั้น ในชั่วพริบตาธูปสามดอกก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า
กลุ่มควันสีดำพุ่งขึ้นมาจากธูปดอกแรก หมุนวนไปทั่วในอากาศรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว อย่างน่าตกใจยิ่ง แสงอันเจิดจ้าปรากฏขึ้น รวมทั้งภาพของต้นสมุนไพรมากมายนับไม่ถ้วน
เพียงมองไปแค่แวบแรก ก็ดูเหมือนจะมีอยู่อย่างน้อยสิบล้านต้น ที่เกาะกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างไม่รู้จบ ต้องมองเข้าไปอย่างละเอียดเท่านั้น ถึงจะสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนขึ้น
ในช่วงเวลาหนึ่งอึดใจ ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะสามารถประทับพวกมันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ต้นสมุนไพรสิบล้านต้นนั้นจู่ๆ ก็แวบแสงขึ้นมา และจากนั้นก็เริ่มซ้อนทับซึ่งกันและกัน ในชั่วพริบตาพวกมันทั้งหมดก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน เพื่อก่อตัวกันเป็นตำราเล่มหนา
ตำรานั้นดูเหมือนจะเก่าแก่และโบราณ มีตัวอักษรสามตัวถูกเขียนไว้ที่หน้าปก
草木经 (เฉ่ามู่จิง ตำราพืชสมุนไพร)
ต่อจากนั้น เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องออกไปทั่วทั้งชั้นแรก
“ช่วงเวลาธูปไหม้หมดไปสามดอก ให้บอกชื่อต้นสมุนไพรหนึ่งหมื่นต้นแรก ที่อยู่ในตำราพืชสมุนไพรนี้ออกมา ถ้าเจ้าบอกผิดไปหนึ่งร้อยชื่อหรือมากกว่านั้น ผลก็คือไม่ผ่านการทดสอบ”
“ตอนนี้กฎได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว” เมิ่งฮ่าวคิด “การทดสอบนี้ยากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยจริงๆ” เขาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป เปิดดูที่หน้าแรกของตำราพืชสมุนไพร มองเห็นพืชสมุนไพรอยู่หนึ่งต้น
“ชิงหลิงฮวา! (ดอกปราดเปรียว)” เมิ่งฮ่าวคิด เขาสามารถบอกได้ในทันที ประทับชื่อมันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ และให้คำอธิบายเกี่ยวกับคุณสมบัติและการนำไปใช้เป็นตัวยาได้อย่างรวดเร็ว
ตำราพลิกไป และหน้าที่สองก็ปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ประทับลงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างช้าๆ เริ่มดูเหมือนจะมีสายลมอันรุนแรงกำลังพัดผ่านตำราที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว แผ่นกระดาษในตำราถูกพลิกขึ้นไปที่ละหน้าอย่างรวดเร็ว
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น ไม่พูดจา ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปปกคลุมตำราเล่มนั้นไว้ สำหรับเขาแล้ว การบอกชื่อของต้นสมุนไพรเหล่านี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนที่ธูปจะทันได้ไหม้ไปหมดดอก ก็ดูเหมือนกับว่าแผ่นกระดาษของตำรานั้นกำลังถูกพลิกไปอย่างรวดเร็ว จนมันไม่อาจจะเร็วมากไปกว่านี้ได้อีก ในชั่วพริบตาก็ถูกพลิกไปหลายสิบหน้า เมื่อก้านธูปถูกเผาไหม้หมดไปประมาณเก้าในสิบส่วน เมิ่งฮ่าวก็บอกชื่อต้นสมุนไพรออกมาได้หนึ่งหมื่นต้น โดยไม่ผิดพลาดเลยแม้แต่ต้นเดียว
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ถ้าเป้าหมายของเขาเพียงแค่ผ่านการทดสอบนี้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขากำลังทำการทดสอบนี้อยู่ เขาก็จะต้องทำด้วยความน่าตกใจ เพื่อให้มั่นใจว่าชื่อเสียงของเขาจะต้องกระจายออกไปไกลเป็นวงกว้าง นั่นคือหนทางเดียวที่จะมั่นใจได้ว่าการบรรยายเกี่ยวกับต้นสมุนไพรของเขาจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้
ดังนั้นเขาจึงทำการบอกชื่อต้นสมุนไพรต่อไป ในที่สุดหนึ่งร้อยหน้าก็ถูกพลิกไปในชั่วพริบตา ทันทีที่เมิ่งฮ่าวกวาดผ่านพวกมันไปด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ รูปภาพและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับต้นพืชสมุนไพรก็ปรากฏขึ้นอยู่ในจิตใจ
หนึ่งหมื่น สามหมื่น ห้าหมื่น หนึ่งแสน
เร็วขึ้นและเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ
เมื่อธูปเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น เมิ่งฮ่าวก็บอกชื่อพืชสมุนไพรออกมาได้หนึ่งล้านต้น โดยที่ไม่มีความผิดพลาดใดๆ กลุ่มหมอกที่อยู่รอบๆ ตัวพลุ่งพล่านปั่นป่วน และแสงอันเจิดจ้าก็แวบขึ้นมา แทบจะมองไม่เห็นว่ามีสัญลักษณ์เวทนับไม่ถ้วน กำลังหมุนวนอยู่รอบๆ ร่าง เพื่อตอบรับกับความสามารถที่น่ามหัศจรรย์นี้ของเมิ่งฮ่าว
ที่ด้านนอกของศาลาโอสถ ยากที่จะบอกได้ว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นอยู่ที่ด้านใน นักปรุงยามากมายและเด็กฝึกปรุงยา ต่างก็พูดคุยและคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีใครเชื่อว่าเมิ่งฮ่าวจะไม่ผ่านการทดสอบนี้ แต่จากนั้นพวกมันก็คิดว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ไปแล้ว จึงคิดว่าเขาอาจจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
นักปรุงยาระดับแปดที่เป็นชายชราสามคน มองหน้ากันไปมา และจากนั้นก็เริ่มพูดคุยกัน
“ทำไมเด็กผู้นี้ถึงได้ใช้เวลานานนัก?”
“ถ้ามันสนใจที่จะทำการทดสอบจริงๆ แล้ว มันก็น่าจะสามารถผ่านชั้นแรกนี้ไปได้ก่อนที่ธูปจะเผาไหม้หมดไป เมื่อมันยังไม่ออกมา นั่นก็หมายความว่า…เด็กผู้นี้กำลังพยายามจะหาช่องโหว่ในการทดสอบนี้จริงๆ?”
ย้อนกลับไปในศาลาโอสถ เมิ่งฮ่าวกำลังขมวดคิ้ว
“เวลากำลังจะหมดแล้ว ดูเหมือนว่าข้าจะช้าลงกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย” พร้อมดวงตาที่สาดประกาย ฉับพลันนั้นเขาก็ยื่นมือขวาออกไปคว้าจับหน้าปกด้านขวาของตำราไว้ ในเวลาเดียวกัน สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ระเบิดออก ผ่านเข้าไปในตำรา เมิ่งฮ่าวหลับตาลง
ในตอนนี้เองเมื่อเขาหลับตาลง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็กระจายเต็มอยู่ในตำราโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าต้นสมุนไพรนับไม่ถ้วนได้มาปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า ซึ่งเขาได้เริ่มบอกชื่อมันและประทับลงไปด้วยความรวดเร็วสูงสุดในทันที
หนึ่งล้าน, หนึ่งล้านห้าแสน, สองล้าน!
ในชั่วพริบตา เสียงกระหึ่มก็ได้ยินมา และกลุ่มหมอกรอบๆ ตัวก็กำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วนขึ้นอย่างรุนแรงและน่าตกใจยิ่ง แสงอันเจิดจ้ากระจายออกไป และสัญลักษณ์เวทก็ปรากฏออกมามากยิ่งขึ้น โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลางของพวกมันทั้งหมด
สามล้าน, สี่ล้าน, ห้าล้าน!
ธูปดอกที่สองกำลังจะไหม้หมดไป ทักษะในเรื่องพืชสมุนไพรของเมิ่งฮ่าว ช่างลึกล้ำอย่างถึงที่สุด ซึ่งเคยทำให้ตานกุ่ยต้องสะท้านใจเป็นอย่างมากในตอนที่เขาอยู่ในสำนักจื่อยิ่น เมื่อรวมเข้ากับประสบการณ์หลังจากนั้นของเขา ก็ยิ่งทำให้เขามีความแกร่งกล้ามากขึ้น ในตอนที่เขาเข้าไปในโลกแห่งภาพลวงตาของสำนักเซียนอสูรโบราณ เขาสามารถที่จะควบคุมเต๋าแห่งการปรุงยาของสำนักนั้นได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเช่นนั้น ทำให้ทักษะในเรื่องพืชสมุนไพรของเขามีความก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิม จนบรรลุถึงระดับที่น่ากลัวอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้
ตอนนี้ ความรู้ทั้งหมดที่เขารวบรวมไว้กำลังระเบิดออกมา ทำให้หน้ากระดาษของตำราถูกพลิกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนยากที่จะมองเห็นว่าแผ่นกระดาษกำลังเคลื่อนไหวอยู่ แผ่นกระดาษนับพันถูกพลิกไปในช่วงเวลาแค่กระพริบตาเท่านั้น
ธูปดอกที่สองเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น และดอกที่สามก็ถูกจุดขึ้นมา เมิ่งฮ่าวคว้าจับไปที่ปกอีกข้างของตำราด้วยมือซ้าย ในตอนนี้เองที่พลังของเซียนแท้แปดในสิบส่วนได้ระเบิดออกมา
ประกายแสงระยิบระยับสาดส่องออกไปในทั่วทุกทิศทาง และกลุ่มหมอกก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน เสียงที่คล้ายกับเสียงฟ้าผ่าดังก้องกระหึ่มขึ้น และสัญลักษณ์เวทก็หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวเขาอย่างไม่รู้จบ ในตอนนี้สถานที่แห่งนี้ดูไม่คล้ายกับเป็นศาลาโอสถอีกต่อไป แต่เป็นโลกแปลกๆ บางอย่างที่มีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่ง
ตอนนี้กระดาษหนึ่งหมื่นหน้าถูกพลิกไปในทุกๆ การกระพริบตาแต่ละครั้ง ไม่มีพืชสมุนไพรแม้แต่ต้นเดียวที่จะทำให้เมิ่งฮ่าวมีปัญหาได้ พวกมันทั้งหมดถูกห้อมล้อมโดยทักษะเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพรของเมิ่งฮ่าวไปเรียบร้อยแล้ว
ที่ด้านนอกศาลาโอสถ สีหน้างุนงงเริ่มมองเห็นได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าพวกมันไม่อาจจะมองเห็นภาพอันน่าตกใจที่อยู่ด้านในของศาลาโอสถได้ แต่พวกมันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ แม้แต่กลุ่มคนที่มีความรู้สึกไม่ดีต่อเมิ่งฮ่าว ก็ยังรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะผ่านชั้นแรกนี้ไปได้
แต่เวลาชั่วธูปสองดอกได้เผาไหม้หมดไปแล้ว เมิ่งฮ่าวก็ยังคงไม่โผล่ออกมาจากชั้นแรก คนทั้งหมดต่างก็รู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน
แต่นักปรุงยาระดับแปดทั้งสามคน ต่างก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้น ขณะที่พวกมันมองไปยังชั้นแรกของศาลาโอสถ สีหน้าตกตะลึงเริ่มมองเห็นได้บนใบหน้าของพวกมัน ถึงแม้ว่าพวกมันจะมองไม่เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ที่ด้านใน แต่ชายชราทั้งสามนี้ก็ค่อยๆ เริ่มตระหนักว่า ชั้นแรกนี้กำลังเริ่มสร้างแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อออกมา
“เด็กผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?!”
“แรงกดดันนั่นจะปรากฏขึ้น ก็ต่อเมื่อมีใครบางคนสามารถจะบอกชื่อพืชสมุนไพรออกมาได้มากกว่าหนึ่งล้านต้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าเด็กผู้นี้สามารถจะบอกชื่อพืชสมุนไพรได้มากกว่าหนึ่งล้านต้น ในชั่วเวลาธูปเผาไหม้หมดไปสองดอก?”
ขณะที่เหล่าชายชรามองไปด้วยความตกใจ เมิ่งฮ่าวเอามือจับไปที่ตำราไว้แน่น ดวงตาสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่ทำการบอกชื่อของพืชสมุนไพรทั้งหมดในตำราออกมา
หกล้าน, เจ็ดล้าน, แปดล้าน…
ธูปดอกที่สามยังคงลุกไหม้อยู่ แต่ก็หายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในที่สุดแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และเขาก็มองขึ้นไป มือค่อยๆ ปล่อยตำราไปอย่างช้าๆ ในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าสุดท้าย!
สิบล้าน!!
ทั่วทั้งชั้นแรกของศาลาโอสถกำลังส่งเสียงดังกระหึ่ม และแสงอันเจิดจ้าก็สาดประกายออกไปในทั่วทุกทิศทาง สัญลักษณ์เวทหมุนวนไปมา และบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นเสียงของบทเพลงแห่งเซียนก็ได้ยินลอยออกมา
ปกติแล้ว เมื่อมีใครผ่านชั้นแรกไปได้ ลำแสงก็จะปรากฏขึ้นที่ด้านนอก แต่เมื่อเมิ่งฮ่าวบรรลุถึงหน้าสุดท้ายของตำรา สิ่งที่กลุ่มคนด้านนอกมองเห็นคือ ทั่วทั้งชั้นแรกสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ราวกับว่าที่ชั้นแรกถูกอาบไล้ไปด้วยแสงอันลึกล้ำอย่างไร้ขอบเขต ซึ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทางแม้แต่บนท้องฟ้า ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้าน และแสงแปลกๆ ก็แวบผ่านขึ้นไปในท้องฟ้า
คนทั้งหมดที่อยู่ในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา เขตภูเขาด้านในทั้งหนึ่งหมื่นลูก และเขตภูเขาด้านนอกทั้งหมดหนึ่งแสนลูก ตอนนี้สามารถที่จะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้
“เกิดอะไรขึ้น!?!?”
“ทำไมถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในสวรรค์และปฐพีเช่นนี้!? เสาแห่งลำแสงนั่นคืออะไรกัน!?!?”
เด็กฝึกปรุงยาทั้งหมดที่กำลังรับฟังคำบรรยาย ต่างก็ตกตะลึงกันไปทั่ว ขณะที่พวกมันมองขึ้นไปในท้องฟ้ายังแสงที่ไร้ขอบเขตนั้น สำหรับนักปรุงยา สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึง
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีผู้อาวุโสบางคนกำลังทำการปรุงยาอยู่?”
“ไม่ถูกต้อง! ดูแสงนั่น! มันพุ่งขึ้นมาจากตำแหน่งที่เป็นศาลาโอสถ!”
แม้แต่กลุ่มคนของตระกูลที่อยู่ในคฤหาสน์โบราณ ก็สามารถมองเห็นแสงอันเจิดจ้า ที่พุ่งออกมาจากแผนกเต๋าแห่งการปรุงยานี้ได้ กลุ่มคนในตระกูลหลายคนได้ออกมาจากที่พักของพวกมัน และมองออกไปยังทิศทางนั้น ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก
ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังสั่นสะเทือน เด็กฝึกปรุงยาของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยานับไม่ถ้วน รวมทั้งนักปรุงยามากมาย ต่างก็จ้องมองไปด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกมันตระหนักว่าแสงนั้นกำลังพุ่งออกมาจากศาลาโอสถ พวกมันก็เริ่มบินตรงไป
ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ลำแสงหลากสีนับไม่ถ้วน เต็มอยู่บนท้องฟ้าของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา
กลุ่มฝูงชนที่อยู่ด้านนอกศาลาโอสถกำลังหอบหายใจออกมา จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน พวกมันตกตะลึงและไม่รู้ว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแท้จริง พวกมันไม่เข้าใจว่าการที่เมิ่งฮ่าวผ่านการทดสอบชั้นแรกไปได้ ทำไมถึงทำให้เกิดเป็นแสงอันไร้ขอบเขตเช่นนั้นปรากฏขึ้นมาได้
สามผู้อาวุโสระดับแปดสบตากันไปมา และมองเห็นได้ถึงความตกตะลึงในดวงตาของแต่ละคน
“มันบอกชื่อพืชสมุนไพรได้ทั้งสิบล้านต้น! เพราะว่ากฎได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน! ผลลัพธ์จากการที่มันผ่านชั้นแรกไปได้ด้วยวิธีการเช่นนี้ ก็คือเสาแห่งแสงเต๋าอันน่าเหลือเชื่อนี้!!”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฟางฮ่าวผู้นี้…จะมีพื้นฐานเรื่องพืชสมุนไพรได้อย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนี้!!”
“นั่นเทียบได้กับนักปรุงยาระดับสี่! บางทีอาจจะมากกว่านั้น! อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงไม่อาจที่จะไปเทียบกับนักปรุงยาระดับห้าได้”