ตอนที่ 916
ดอกบัวบานขึ้นในทุกย่างก้าว!
ขณะที่เวลาเลยผ่านไป มีอยู่ไม่กี่คนที่สังเกตเห็นว่าภายใต้สถานการณ์ที่ปกติ ชั้นที่ห้าควรจะต้องมีข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงมุ่งมั่นต่อไป
เห็นได้ชัดว่า ข้อจำกัดของเวลาได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ปล่อยให้เมิ่งฮ่าวใช้เวลาเท่าใดก็ได้ตราบเท่าที่เขาต้องการ
อย่างช้าๆ จำนวนต้นสมุนไพรที่เขาบอกชื่อได้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ก็ผ่านไปแล้วสามวัน
เมิ่งฮ่าวไม่เคยคาดคิดว่า เขาจะต้องใช้เวลาและพลังงานมากมายเช่นนี้มาก่อนบนชั้นที่ห้านี้ ดวงตาเขากลายเป็นสีแดงก่ำ และรู้สึกว่าจิตใจเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นและจิตวิญญาณก็เฟื่องฟูขึ้น
ท่ามกลางสองส่วนสุดท้ายมีต้นสมุนไพรอยู่มากมายหลายชนิดที่เมิ่งฮ่าวไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ละต้นต้องใช้เวลาและพลังเป็นอย่างมากในการวิเคราะห์ ก่อนที่เขาจะได้พบกับร่องรอยบางอย่าง เพื่อทำให้สามารถจะสืบหาข้อมูลได้มากขึ้น ในที่สุดเขาก็จะมีข้อมูลที่เพียงพอเพื่อทำการประทับลงไปด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์
รายละเอียดคำแนะนำของต้นสมุนไพรนั้นจะปรากฏขึ้นทุกครั้งที่เขาทำการประทับข้อมูล นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นฟองน้ำที่แห้งเหี่ยว เฝ้ารอคอยการดูดซับความรู้อันไร้ขอบเขตที่เกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพรไปเรื่อยๆ
เวลาอีกสามวันได้ผ่านไป…ไม่มีผู้ชมคนใดจากไป แต่กลับนั่งลงขัดสมาธิอยู่ในบริเวณนั้น ถ้าคนเหล่านี้คือผู้ฝึกตนธรรมดาทั่วไป พวกมันก็คงจะรู้สึกเบื่อหน่ายไปนานแล้ว แต่พวกมันคือนักปรุงยาและเด็กฝึกปรุงยา เป็นกลุ่มคนที่อุทิศตัวเองให้กับเต๋าแห่งการปรุงยา เมื่อได้เห็นการทดสอบของเมิ่งฮ่าวบนจอภาพ ซึ่งช่วยให้พวกมันได้เห็นต้นสมุนไพรที่ไม่เคยจะได้เห็นมาก่อนเช่นกัน ถือได้ว่านี่คือโอกาสอันน่าเหลือเชื่อนัก
คนทั้งหมดกำลังประทับข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปในจิตใจ ทำการศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
มีผู้คนเข้ามาร่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ พอถึงวันที่สิบ ก็มีกลุ่มคนเกือบสามแสนคนอยู่ในบริเวณนั้น รวมตัวเข้าด้วยกันอย่างหนาแน่น ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา
บนชั้นที่ห้า แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านร่างเมิ่งฮ่าวไป ขณะที่เขาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ของต้นพืชสมุนไพร ที่เบื้องหน้าเขาเป็นหน้าสุดท้ายของตำราโบราณนั้น
ในตอนนี้ ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดจากวันที่ผ่านมาได้ปกคลุมไปทั่วร่างเขา รู้สึกว่าศีรษะกำลังโป่งพอง และเริ่มเจ็บปวดขึ้นเป็นระยะ สำหรับเขาแล้วสิบวันที่ผ่านมานี้ ทำให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากกว่าตอนที่ได้ต่อสู้กับผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียนในชุดดำทั้งสามคนนั้นอีก
แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้หลับตาลง เขาตรวจดูตำรา ซึ่งเป็นผลงานที่อยู่ในชั้นนี้ได้ถูกเปิดเผยออกไป
เขาไม่ได้ให้ความสนใจต่อผลลัพธ์สำหรับสี่ชั้นแรก เพราะเขามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเขาไม่ได้ทำความผิดพลาดใดๆ แต่บนชั้นที่ห้านี้ เขาไม่มีความเชื่อมั่นเช่นนั้น
“ข้าพลาดไปมากกว่ายี่สิบครั้ง…ทั้งหมดนั้นอยู่ในพืชสมุนไพรสามร้อยล้านต้นสุดท้าย” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ในที่สุดก็หลับตาลงและโคจรหมุนเวียนพื้นฐานฝึกตนเพื่อฟื้นฟูสติ
เมิ่งฮ่าวไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์นี้เท่าใดนัก อย่างไรก็ตามเขาก็ได้รับคำแนะนำ เกี่ยวกับต้นสมุนไพรที่ไม่รู้จักมาอย่างมากมายในชั้นนี้ และทักษะเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพรของเขาก็เพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ
สำหรับกลุ่มผู้ชมที่ด้านนอก ผลลัพธ์นั้นน่าตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็รวมทั้งสามผู้อาวุโสระดับแปดด้วยที่รู้สึกเช่นนี้ คนทั้งหมดอ้าปากค้าง และจากนั้นเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ก็ดังขึ้น
“จากพืชสมุนไพรหนึ่งพันล้านต้น มันทำพลาดไปเพียงแค่สองร้อยกว่าครั้งเท่านั้น…มันไม่ใช่มนุษย์อย่างแท้จริง!!”
“นักปรุงยาระดับห้าใดๆ ก็ตาม จะผ่านได้โดยการบอกชื่อหนึ่งร้อยล้านต้นแรกมาให้ได้เท่านั้น แต่ฟางฮ่าวกลับทำได้มากกว่านั้น! มันบอกออกมาหมดทั้งหนึ่งพันล้านต้น จากสีหน้าของมัน ดูเหมือนว่าจะรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย”
เสียงพูดคุยในท่ามกลางกลุ่มผู้ชมสามแสนคน ราวกับเป็นเสียงฟ้าร้องที่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ได้ยินไปทั่วทั้งเด็กฝึกปรุงยาและนักปรุงยาในแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา พื้นดินสั่นสะเทือนและกลุ่มเมฆบนท้องฟ้าก็แตกกระจายไป
นักปรุงยาระดับแปดทั้งสามฝืนยิ้มออกมา ขณะที่สบตาซึ่งกันและกัน
“ตอนที่ข้าพยายามผ่านชั้นห้าในปีนั้น ข้าไม่อาจจะทำเรื่องเช่นนี้ได้”
“ไม่จำเป็นต้องพูดถึงตอนนั้น แม้แต่ตอนนี้ อาจจะมีแต่พวกเราเท่านั้นที่สามารถทำได้ แม้แต่นักปรุงยาระดับเจ็ด ก็อาจจะไม่สามารถทำสิ่งเช่นนี้ได้”
ลำแสงอันเจิดจ้าปรากฏขึ้นในที่ห่างไกลออกไป ขณะที่นักปรุงยาระดับแปดมาปรากฏตัวกันมากขึ้น แน่นอนว่าไม่มีใครในที่แห่งนั้นจะสามารถมองเห็นพวกมันได้ ขณะที่พวกมันมาถึง ก็มองไปยังศาลาโอสถ…และดวงตาก็เต็มไปด้วยความมุ่งหวัง
“ในที่สุด แผนกเต๋าแห่งการปรุงยาของพวกเราก็มี…ผู้ถูกเลือกที่แท้จริงแล้ว!”
ย้อนกลับไปยังชั้นห้าของศาลาโอสถ เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจางหายไป เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ยืนขึ้นและก้าวตรงไปยังตำราโบราณ จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ
“ขอบคุณมาก สำหรับการประทานความเมตตาให้กับข้าเช่นนี้!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา และทุกๆ คำพูดนั้นได้ออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ สำหรับผู้ฝึกตนของเต๋าแห่งการปรุงยาแล้ว ประสบการณ์ของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ คล้ายกับเป็นพรสวรรค์แห่งเต๋าอันน่ามหัศจรรย์ใจอย่างแท้จริง
ตำราหายไปหลังจากที่เมิ่งฮ่าวโค้งตัวลง และขั้นบันไดก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า ในเวลาเดียวกันนั้น นามของเขาก็เลื่อนจากตำแหน่งที่ชั้นสี่ขึ้นไปยังชั้นห้า ซึ่งก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ นามของเขาได้ไปอยู่ที่อันดับแรกของรายชื่อ!
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าที่เศร้าหมองขณะที่ก้าวเดินตรงไปยังขั้นบันได และเริ่มเดินขึ้นไปที่ชั้นหก เมื่อเขาไปถึง สิ่งที่มองเห็นคือความว่างเปล่า
ไม่มีต้นสมุนไพร ไม่มีตำรา ไม่มีกลุ่มหมอก แม้แต่แสงใดๆ ก็ไม่มี มีเพียงความมืดมิดเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะว่างเปล่า ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรอยู่ในที่แห่งนี้มาก่อน
เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง และไม่ใช่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ผู้คนที่อยู่ด้านนอกทั้งหมด ต่างก็จ้องมองไปยังจอภาพด้วยความประหลาดใจ
มีเพียงกลุ่มคนที่เป็นนักปรุงยาซึ่งเคยอยู่ที่ระดับหกมาก่อนเท่านั้น ใบหน้าพวกมันเคร่งเครียดขณะที่จ้องมองไปยังจอภาพอย่างละเอียด หญิงชราที่อยู่ในระดับเจ็ดมองไปด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ตอนนี้นางได้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่ไม่ใช่มนุษย์มากแค่ไหน นางรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้ นางได้ไปตอแยหาเรื่องเขา แต่นางก็รู้ว่าไม่อาจจะทำอะไรได้แล้วในตอนนี้ ดังนั้นนางจึงต้องมุ่งหน้าต่อไปเท่านั้น
นอกจากนี้จากมุมมองของนาง เขาอาจจะเป็นอมนุษย์ แต่ก็ไม่อาจจะเทียบได้กับคนในตระกูลที่มาขอความช่วยเหลือจากนาง ค่าตอบแทนที่พวกมันจะจ่ายให้ก็น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง
“ข้าคงไม่อาจจะทำในสิ่งที่มันทำบนชั้นที่ห้าได้” นางครุ่นคิดกับตัวเอง “แต่ก็ไม่เป็นไร ด้วยการเป็นนักปรุงยา ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ที่เกี่ยวกับต้นสมุนไพรอย่างลึกซึ้งเช่นนั้นก็ได้ มันเพียงพอที่จะทำให้ข้ากลายเป็นคนสนิทกับผู้ที่เจ้าก็รู้จักแล้ว”
“ข้าล้มเหลวมานับสิบครั้งในชั้นนี้ก่อนจะในที่สุดก็ผ่านมาได้ จึงไม่มีทางที่ฟางฮ่าวผู้นี้จะทำได้สำเร็จในครั้งแรก นอกจากนี้ชั้นที่หกก็ยังได้แตกต่างไปจากห้าชั้นแรกโดยสิ้นเชิง” นางยิ้มอย่างเย็นชาออกมา
นักปรุงยาระดับห้า, หกและเจ็ดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้นกำลังส่ายหน้าไปมา พวกมันทั้งหมดเคยทำการทดสอบที่ชั้นหกของศาลาโอสถนี้มาแล้ว ดังนั้นพวกมันจึงรู้ว่าชั้นนี้มีความยากลำบากเช่นไร
“ชั้นนี้คือชั้นแบ่งแยก” หนึ่งในผู้อาวุโสระดับแปดกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
“ห้าชั้นแรกต้องมีความรู้เกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพรที่เพียงพอ สี่ชั้นสุดท้ายจะแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง มีแต่จะยากมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น”
บนแท่นศิลาตัวอักษรที่อยู่ด้านนอกของศาลาโอสถ สามารถมองเห็นรายชื่อนับแสนอยู่ที่ชั้นแรก มีเพียงแค่หนึ่งแสนรายชื่ออยู่ที่ชั้นสอง ห้าหมื่นรายชื่ออยู่ที่ชั้นสาม สองหมื่นรายชื่ออยู่ที่ชั้นสี่ และไม่ถึงหนึ่งหมื่นรายชื่ออยู่ที่ชั้นห้า
สำหรับชั้นที่หก มีแค่ห้าพันคนเท่านั้นที่เคยผ่านไปได้
ชั้นที่เจ็ดมีหนึ่งพันรายชื่อ และชั้นที่แปดมีเพียงแค่สองร้อยคนเท่านั้น ชั้นสุดท้ายชั้นที่เก้า…มีเพียงแค่สิบรายชื่อเท่านั้น
ต้องไม่ลืมว่าจำนวนเหล่านั้น เป็นตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นต่างๆ ทั้งหมดที่มีมาตั้งแต่สมัยที่เริ่มก่อตั้งแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาของตระกูลฟาง ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะคาดคิดได้ว่า ศาลาโอสถนี้มีความยากมากแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไหร่ที่มีคนผ่านชั้นที่หกไปได้ สิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือ ระฆังเต๋าจะปรากฏขึ้นในท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์โบราณ คนภายนอกไม่อาจจะมองเห็นระฆังนั้นได้ และเมื่อมันเกิดเป็นเสียงดังขึ้น ก็มีแต่สมาชิกของตระกูลฟางที่อยู่บนดาวตงเซิ่งนี้เท่านั้น ที่สามารถจะได้ยินมันอยู่ในจิตใจ
ระฆังเป็นตัวแทนของเกียรติยศและศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง!
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนชั้นที่หกของศาลาโอสถ มองไปรอบๆ ยังความมืดมิดที่อยู่รอบๆ ตัว แม้แต่ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปแล้ว เขาก็ยังไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงสิ่งใดๆ นอกจากความมืดมิด หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วขณะ เขาก็ก้าวเท้าตรงไป
ทันทีที่เท้าของเขาเหยียบย่างลงไป เขาก็หยุดชะงักนิ่งและเงยหน้าขึ้น ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ตอนนี้เขาไม่ได้มองเห็นสิ่งใดๆ อยู่ในภายในความมืดมิดนั้น แต่สามารถได้กลิ่นหอมของต้นสมุนไพร บ้างก็เป็นกลิ่นที่เจือจาง บ้างก็เป็นกลิ่นที่เข้มข้น พวกมันทั้งหมดหลอมรวมเข้าด้วยกัน เต็มอยู่ในพื้นที่แห่งนั้นทั้งหมด และดูเหมือนจะมีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนี้เองที่เสียงอันเก่าแก่โบราณ ก็ดังก้องออกไปทั่วทั้งชั้นหก
“กลิ่นหอมวิเศษ คือหนึ่งในอาณาจักรทักษะเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพร เจ้าต้องเดินไปหนึ่งร้อยก้าว ในแต่ละก้าวนั้น เจ้าจะได้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันของต้นสมุนไพร”
“แยกแยะพืชสมุนไพรแต่ละต้นนั้นจากกลิ่นของมัน และประทับข้อมูลลงไปในความมืด ผิดพลาดแค่ครั้งเดียวก็หมายความว่าไม่ผ่าน”
ไม่ใช่เมิ่งฮ่าวเพียงคนเดียวที่ได้ยินเสียงนี้ แต่กลุ่มผู้ชมมากกว่าสามแสนคนที่โลกด้านนอก ต่างก็ได้ยินเช่นเดียวกัน ทำให้สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“แล้ว…แล้วจะให้คำตอบทั้งหมดได้อย่างไรกัน! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมชั้นที่หกถึงถูกถือว่ามีความยากมากที่สุด กลิ่นหอมวิเศษคืออาณาจักรในตำนานอย่างแท้จริง!”
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าการทดสอบนี้จะเกี่ยวข้องกับกลิ่นหอมวิเศษ! ข้าได้ยินเกี่ยวกับอาณาจักรนี้ตอนที่มาเป็นเด็กฝึกปรุงยาในครั้งแรก เมื่อคิดไปแล้วหลายหมื่นปีที่ผ่านมาของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาในตระกูลฟาง มีแค่ห้าพันคนเท่านั้นที่สามารถผ่านชั้นนี้ไปได้จริงๆ!”
โลกที่ด้านนอกตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายขนาดใหญ่ คนทั้งหมดคิดว่าการทดสอบนี้ยากมากที่สุด ซึ่งแตกต่างไปจากห้าชั้นก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
หญิงชราระดับเจ็ดหัวเราะหึๆ อย่างเย็นชา ขณะที่นางคิดย้อนกลับไปถึงความยากของชั้นนี้ นางรู้สึกว่ามันน่าตกใจอย่างแท้จริง
“ชั้นเจ็ดยิ่งยากไปกว่านี้อีก สำหรับนักปรุงยาใดๆ ก็ตาม” นางกระซิบกับตัวเอง “และที่ชั้นแปดนั่นก็เหมือนกับนรกดีๆ นี่เอง!”
ย้อนกลับไปบนชั้นหก เมิ่งฮ่าวเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ปล่อยให้กลิ่นหอมของต้นสมุนไพรนับไม่ถ้วนผ่านเข้ามาในจมูก ทันใดนั้นจิตใจเขาก็เกิดเป็นภาพของต้นสมุนไพรมากมายปรากฏขึ้น แต่ละต้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกลิ่นหอมที่เขาตรวจพบได้
มีไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นชนิด แต่ในชั่วพริบตาสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็กวาดผ่านออกไป และภาพของต้นสมุนไพรก็เริ่มปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าของความมืดรอบๆ ตัว
ยิ่งไปกว่านั้นเค้าโครงของดอกบัวภาพลวงตาก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่างเท้าของเมิ่งฮ่าว
เขาเดินออกไปเป็นก้าวที่สอง และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ อีกครั้ง แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่าง และอีกหนึ่งหมื่นภาพก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัว ดอกบัวดอกที่สองปรากฏขึ้นที่ด้านล่างเท้า
เดินต่อไปทีละก้าว ทีละก้าว…
เมิ่งฮ่าวมุ่งหน้าเดินไป แต่ละก้าวที่เขาเดิน เขาได้สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ หลังจากนั้นต้นสมุนไพรจำนวนมากมาย ก็จะปรากฏอยู่รอบๆ ตัว ทำให้โลกแห่งความมืดมิดนี้สว่างขึ้น จนดูคล้ายกับเป็นโคมไฟที่กำลังส่องสว่างอยู่
ยิ่งไปกว่านั้น ดอกบัวก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านล่างเท้าเขาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่เดินไปหกสิบเก้าก้าว ดอกบัวหกสิบเก้าดอกก็ปรากฏขึ้น และเมิ่งฮ่าวก็ถูกห้อมล้อมด้วยต้นสมุนไพรที่กำลังส่องแสงระยิบระยับอยู่นับล้านต้น
สำหรับคนทั้งหมดที่กำลังมองไป เมิ่งฮ่าวแทบจะคล้ายกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยต้นสมุนไพรที่หมุนวนไปมา ดอกบัวเบ่งบานขึ้นมาในแต่ละก้าวที่เขาเดินไป
“ดอกบัวบานขึ้นในทุกย่างก้าว!!” หญิงชราคิด พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง และหอบหายใจออกมา นางรู้ดีว่าชั้นหกที่มีความยากมากแค่ไหน และรู้ด้วยเช่นกันว่ามีทางเดียวที่ดอกบัวจะปรากฏขึ้น นั่นก็คือต้องบอกชื่อกลิ่นหอมของต้นสมุนไพรและประทับลงไปให้ถูกต้องได้ทั้งหมด
เมื่อนางผ่านชั้นหกไป นางทำได้แค่ทำให้ดอกบัวปรากฏขึ้นสามดอกเท่านั้น แต่เมิ่งฮ่าว…ช่างน่าตกใจยิ่ง…สร้างดอกบัวขึ้นมาในทุกย่างก้าวได้!
ไม่ใช่นางเพียงคนเดียวที่ตกตะลึงเช่นนี้ นักปรุงยาทั้งหมดที่คุ้นเคยกับชั้นหกต่างก็สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวบนจอภาพ และภาพที่พวกมันเห็นก็จะถูกประทับอยู่ในจิตใจไปตลอดกาล เป็นภาพที่พวกมันไม่อาจจะลืมเลือนไปได้ตราบชั่วชีวิตนี้