ตอนที่ 923
เมิ่งฮ่าวปรุงยา!
เด็กฝึกปรุงยามากมายที่อยู่ในเขตภูเขาด้านนอก กำลังรับฟังนักปรุงยาต่างๆ ให้คำบรรยายเกี่ยวกับต้นพืชสมุนไพร เมื่อเสียงกลองดังก้องออกมา เด็กฝึกปรุงยาทั้งหมดก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกมันตระหนักว่าเสียงกลองนั้นได้ดังออกมาจากศาลาเม็ดยา สีหน้าพวกมันก็เปลี่ยนไป
“เสียงกลองนั่นดังมาจากศาลาเม็ดยา! ใครบางคนกำลังพยายามจะปรุงหนึ่งในสามเม็ดยาในตำนานของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยา!!”
“ที่ง่ายมากที่สุดในพวกมันต้องใช้คะแนนความดีถึงหนึ่งล้านแต้ม! ถ้าไม่อาจจะปรุงเม็ดยาขึ้นมาได้สำเร็จ คะแนนความดีเหล่านั้นก็จะสูญเสียเปล่า!”
“คือใครกัน?”
เด็กฝึกปรุงยาที่อยู่ในเขตภูเขาด้านนอก ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้ นักปรุงยาที่อยู่ในเขตภูเขาด้านในก็ได้ยินเสียงกลองนั้นด้วยเช่นเดียวกัน และสีหน้าของพวกมันก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง ยังมีบางคนได้หัวเราะเยาะเย้ยออกมาอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย
“ไม่มีใครลองพยายามปรุงยาเหล่านั้นมานานหลายปีแล้ว ข้าอยากรู้นักว่านักปรุงยาคนไหนกำลังพยายามอยู่”
“คะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มช่างเสียเปล่านัก ช่างน่าเสียดายจริงๆ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ข้าจะต้องไปดูอย่างแน่นอน”
นักปรุงยามากมายบินขึ้นมาจากเขตภูเขาด้านใน แม้แต่นักปรุงยามากมายที่ยากจะพบเห็นในเขตพื้นที่ส่วนรวม ก็ยังบินตรงไปที่ศาลาเม็ดยา นอกจากนี้…นี่คือปรากฏการณ์ที่จะได้เห็นคะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มอีกด้วย
นักปรุงยาระดับเจ็ดในเขตภูเขาด้านใน บินขึ้นไปในอากาศด้วยดวงตาที่เจิดจ้า แม้แต่นักปรุงยาระดับแปดทั้งสิบเก้าคน เมื่อได้ยินเสียงกลอง ก็มีอยู่สองถึงสามคนที่บินตรงไปยังศาลาเม็ดยาในทันที
ตรงจุดศูนย์กลางของเขตภูเขาด้านใน ผู้เฒ่าโอสถฟางตานอวิ๋นนั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขาของท่าน จ้องมองตรงไปยังศาลาเม็ดยา ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงที่อยากรู้อยากเห็น
“ในที่สุดฟางฮ่าวก็พยายามจะปรุงเม็ดยาแล้ว”
เพียงไม่นานกลุ่มคนนับหมื่นก็มารวมตัวกันอยู่รอบๆ ศาลาเม็ดยา ลำแสงพุ่งตรงมายังที่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้คนมาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกลุ่มฝูงชนมองเห็นว่าเมิ่งฮ่าวกำลังยืนอยู่ที่ด้านนอกของศาลาเม็ดยา พวกมันก็ตกตะลึง
“มันคือฟางฮ่าว!”
“ตอนนี้ก็สมเหตุสมผลที่ใครบางคนจะสามารถจ่ายคะแนนความดีได้มากมายเช่นนั้น กลายเป็นว่ามันนั่นเอง! แต่…มันสามารถปรุงยาได้? ถึงแม้ว่ามันจะทำได้ แล้วมันจะกล้าไปปรุงเม็ดยาในตำนานเหล่านั้นได้อย่างไร? แม้แต่ผู้คนมากมายก็ยังต้องล้มเหลวมาก่อน จากหลายหมื่นปีที่ผ่านมา”
“มันมีคะแนนความดีมากเป็นอย่างยิ่ง ข้าคิดว่ามันก็แค่ต้องการจะนำคะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มออกมาโอ้อวด เพื่อดึงดูดความสนใจของแผนกเต๋าแห่งการปรุงยาทั้งหมด เพื่อให้มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นก็เท่านั้น”
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจกลุ่มฝูงชนที่กำลังมารวมตัวกัน ขณะที่เสียงกลองดังก้องออกไป เขาก็ยื่นเหรียญหยกแสดงตัวตนออกไป และคะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มก็หายไป
ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงกลองก็ดูเหมือนจะผ่านเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว และทันใดนั้นสูตรยาก็ปรากฏขึ้นมาในจิตใจ สูตรยานี้มีความลึกลับมากเป็นอย่างยิ่ง เขาสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่อาจจะจดจำไว้ในความทรงจำได้
เป็นไปไม่ได้ที่จะประทับมันลงไปบนแผ่นหยกด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ามันถูกปกป้องโดยเวทป้องกันที่โดดเด่นบางอย่าง อันที่จริงเมิ่งฮ่าวไม่ได้รู้สึกไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาเคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกันนี้ เมื่อตอนที่อยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณ
“พวกมันต้องการจะปกป้องไม่ให้สูตรยา กระจายออกไปยังด้านนอกของตระกูล” ดวงตาเขาแวบขึ้นขณะที่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกลองที่เบื้องหน้า ได้กระจายออกไปคล้ายกับเป็นระลอกคลื่น และต้นสมุนไพรหนึ่งชุดก็ลอยออกมา
มีทั้งหมดสิบสามชนิด
สมุนไพรแต่ละต้นสามารถจะถือได้ว่าเป็นของวิเศษอันล้ำค่า มีอยู่ห้าชนิดที่ทำให้เกิดเป็นกลิ่นหอมของต้นสมุนไพรออกมาอย่างน่าตกใจ ซึ่งได้กระจายออกไปยังทั่วทุกทิศทาง ในทันทีที่มันปรากฏขึ้น แม้แต่ม่านตาของเมิ่งฮ่าวก็ยังต้องเบิกกว้าง ยังมีอีกสองชนิดที่ทำให้เขาต้องตกตะลึงขึ้น
หนึ่งเป็นสีดำสนิทโดยสิ้นเชิง พร้อมกับดอกที่ประณีตงดงามอยู่หนึ่งดอก เพียงมองไปแค่แวบแรกก็เห็นได้ว่ามีกลิ่นอายแห่งความร้อนอย่างถึงที่สุด กำลังหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ดอกไม้นั้น
อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง พืชสมุนไพรอีกต้นก็คือ…ไท่หยางฮวา! (ดอกตะวันฉาย)
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาคิดว่าไท่หยางฮวาได้หายสาบสูญไปจากโลกด้านนอกมานานแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาพบกับมันในที่แห่งนี้ แต่น่าเสียดาย เมื่อนำไท่หยางฮวานี้ไปเปรียบเทียบกับดอกที่เขาเก็บเกี่ยวมาได้จากเศษซากเซียน ไท่หยางฮวานี้เสียหายและไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ยังคงเป็นไท่หยางฮวา
“เมื่อพิจารณาดูถึงสิ่งทั้งหมดนี้ คะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มเหล่านั้นก็คุ้มค่าอย่างแท้จริง…” เมิ่งฮ่าวคิด สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ แต่เขาก็รู้ว่าไม่อาจจะนำต้นสมุนไพรเหล่านี้จากไปได้ เขาต้องใช้พวกมันในที่แห่งนี้และตอนนี้ เพื่อปรุงเป็นเม็ดยาขึ้นมา
เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ที่เบื้องหน้าของศาลาเม็ดยา หลับตาลงเพื่อวิเคราะห์สูตรยา เวลาผ่านไป กลุ่มคนมาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็มีถึงห้าแสนคนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น
คนทั้งหมดจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว ภาพของใครบางคนที่ใช้คะแนนความดีหนึ่งล้านแต้มออกมาเพื่อปรุงยา เป็นภาพที่ไม่อาจจะพบเห็นได้อย่างง่ายดาย แต่ภาพเช่นนี้กำลังปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของพวกมัน ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะทำได้สำเร็จหรือไม่ พวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมดต่างก็มีความสุขที่สามารถได้เห็นภาพที่หายากเช่นนี้
สองชั่วยามหลังจากนั้น เมิ่งฮ่าวก็ลืมตาขึ้นมา และดวงตาทั้งคู่ก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า
“เม็ดยานี้…ไม่อาจจะปรุงได้ง่ายนัก ข้าไม่เคยเห็นสิ่งเช่นนี้มาก่อน…มันอาจจะไม่ยากเท่าการปรุงบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า แต่ก็ยังคงท้าทายความสามารถเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่า ถ้าข้าล้มเหลว ราคาที่จ่ายไปช่างมากมายมหาศาลเป็นอย่างยิ่ง!” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ขมวดคิ้วขึ้น
“วิธีการปรุงยามักจะเปลี่ยนไปตามสภาพของอากาศและเวลาในแต่ละวัน ยิ่งไปกว่านั้นมันต้องดูดซับปราณหยางจากทุกช่วงหนึ่งชั่วยามของแต่ละวันโดยที่ไม่มีการหยุดชะงัก จากนั้นเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ก็จะปรากฏขึ้น และกลายเป็นวิญญาณตะวัน!”
“แต่ก็ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น สามคำสุดท้ายในชื่อของเม็ดยา ‘ทุกชั้นฟ้า’ สำคัญยิ่ง เห็นได้ชัดว่ามันได้อ้างอิงถึงกลุ่มเมฆที่อยู่ด้านบนท้องฟ้าทั้งหมด…”
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วจนเป็นร่องลึก หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาก็ตบไปที่ถุงสมบัติหยิบเอากระถางปรุงยาออกมา มันเป็นสีดำสนิท และมองเห็นใบหน้าอยู่อย่างเลือนลางที่พื้นผิวของมัน ซึ่งจ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความดุร้าย
นี่คือกระถางปรุงยาที่เมิ่งฮ่าวได้รับมาเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขากลายเป็นเทพกระถางม่วง เมื่ออยู่ในสำนักจื่อยิ่น
เขาแตะไปที่กระถาง และเสียงกรอบแกรบที่ฟังได้ชัดเจนก็ดังก้องออกมา กระถางปรุงยาสั่นไปมา และใบหน้าที่ดุร้ายนั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวและเคารพนับถือขึ้นมาในทันที
เมื่อเสียงของกระถางปรุงยาดังก้องออกไป เด็กฝึกปรุงยาไม่ได้คิดมากนัก แต่สีหน้าของนักปรุงยาระดับห้าขึ้นไปทั้งหมดต่างก็เปลี่ยนไป ไม่มีใครมองดูเมิ่งฮ่าวด้วยความดูถูกอีกต่อไป แต่มองไปด้วยความจดจ่ออย่างเข้มข้น
เมื่อไหร่ที่ผู้เชี่ยวชาญเริ่มลงมือ ก็จะมองเห็นทักษะความสามารถขึ้นมาในทันที
นักปรุงยาระดับห้าขึ้นไปทั้งหมด ต่างก็บอกได้ว่าวิธีที่เมิ่งฮ่าวแตะไปที่กระถางปรุงยานั้น ประกอบไปด้วยเต๋าแห่งการปรุงยา!
“กระถางปรุงยาทั้งหมดจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อน! แม้แต่กระถางปรุงยาที่ถูกใช้มาแล้วนับล้านครั้งก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อม ก่อนที่พลังทั้งหมดของมันจะถูกปลดปล่อยออกมา แต่ฟางฮ่าวแค่แตะไปที่กระถาง…ก็ทำให้เกิดเป็นผลลัพธ์เช่นเดียวกันนั้นขึ้นมาได้! ช่างแยบยลนัก!”
“มันเป็นวิธีการเตรียมพร้อมของกระถางที่แตกต่างกันออกไป! ช่างกดขี่ข่มเหงนัก! มันได้ไล่ปราณยาที่อยู่ภายในกระถางออกไป ทำให้ง่ายที่จะสร้างเม็ดยาขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างได้!”
“การที่จะทำสิ่งเช่นนี้ให้สำเร็จได้ จำเป็นต้องมีทักษะในเต๋าแห่งการปรุงยาที่น่าเหลือเชื่อ!”
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจความคิดเห็นทั้งหมดที่ดังออกมาจากกลุ่มผู้ชม เพ่งสมาธิความสนใจทั้งหมดไปที่เม็ดยาที่เขากำลังจะปรุงขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องพยายามปรุงยาเม็ดนี้ขึ้นมาให้ได้ เพื่อที่จะแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนหินลมปราณของตัวเอง
“อันที่จริงข้าก็ไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถทำได้” หลังจากที่ครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ เขาก็ยื่นมือออกไปคว้าจับหนึ่งในต้นสมุนไพร ขณะที่ถืออยู่ในมือ ก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มมีชีวิตขึ้นมา สิ่งสกปรกมัวหมองทั้งหมดของมันกระจัดกระจายออกไป และกลายเป็นโปร่งใสราวกับเป็นแก้วผลึก จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็บดขยี้มันใส่เข้าไปในกระถางปรุงยา
การกระทำนี้ทำให้นักปรุงยาอื่นๆ ต่างก็สะท้านใจไปตามๆ กัน
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และมองขึ้นไปในท้องฟ้า จากนั้นก็วางมือซ้ายลงไปบนกระถางปรุงยา ทำให้มันลุกไหม้ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีเปลวไฟ แต่ต้นสมุนไพรก็เริ่มหลอมละลายกลายเป็นของเหลวไปในทันที
หนึ่งชั่วยามต่อมา ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้น และเขาก็เลือกต้นสมุนไพรอื่นมาอีก ในที่สุดก็ผ่านไปหนึ่งวัน สุดท้ายเขาก็ใส่ไท่หยางฮวา (ดอกตะวันฉาย) ผสมลงไป จากนั้นก็วางมือทั้งสองลงไปบนกระถางปรุงยา
คนทั้งหมดกำลังหอบหายใจขณะที่มองไป ในช่วงหนึ่งวันที่พวกมันมองดูเมิ่งฮ่าวทำงาน ทำให้สามารถจะรับรู้ถึงวิธีการปรุงยาของเขาได้ ผู้คนเริ่มมีความตกตะลึงมากขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อความเชี่ยวชาญในเต๋าแห่งการปรุงยาของเขา
“ถึงเวลาที่จะได้เห็นยาเม็ดนี้แล้ว!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามอยู่เหนือเสียงกระหึ่มที่ดังก้องออกมาจากภายในกระถางปรุงยา ทันใดนั้นฝากระถางก็เปิดออก และเม็ดยาก็ลอยขึ้นมา
ทันทีที่มันปรากฏขึ้น ก็ส่องแสงอันน่าเหลือเชื่อออกมาทั่วทุกทิศทางในรัศมีหนึ่งร้อยจ้าง ทำให้จิตใจของคนทั้งหมดหมุนคว้าง เสียงหอบหายใจดังก้องออกมา
“มันทำได้สำเร็จ?”
“มัน…ทำได้จริงๆ?”
เมิ่งฮ่าวหลับตาลง จู่ๆ เสียงแตกร้าวก็ได้ยินออกมาจากเม็ดยา และมันก็กระจัดกระจายไป กลายเป็นตะกอนสีดำที่ดูเหมือนจะมีพิษ ตะกอนนั้นค่อยๆ กลายเป็นกลุ่มควันสีดำลอยออกไป
ล้มเหลว
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ คนทั้งหมดก็ระเบิดเป็นเสียงพูดคุยกันขึ้นมา เมิ่งฮ่าวนั่งหลับตาครุ่นคิดอยู่ที่นั่น ในความเป็นจริง เขาก็รู้แล้วว่าต้องล้มเหลวในช่วงชั้นตอนการปรุงยาไปแล้วครึ่งทาง
อย่างไรก็ตาม การล้มเหลวนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง จากทักษะในเต๋าแห่งการปรุงยาของเขา การวิเคราะห์เกี่ยวกับสูตรยาของเม็ดยาวิญญาณตะวันทุกชั้นฟ้าได้บอกกับเขาว่า มีวิธีการปรุงมันขึ้นมาแตกต่างกันนับพันวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็ดูเหมือนว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ในเวลาเดียวกันก็ดูเหมือนจะนำไปสู่ความล้มเหลวด้วยเช่นกัน
หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาในทันที “สิ่งที่ข้าได้เรียนรู้มาจากความล้มเหลว เมื่อวิเคราะห์ไปมากกว่านี้ก็เห็นได้ว่า วิธีที่จะทำได้สำเร็จยังมีอยู่อีกเจ็ดร้อยเก้าสิบเอ็ดวิธีในตอนนี้”
ด้วยเช่นนั้น เขาจึงยื่นมือออกไปตีกลองขึ้นอีกครั้ง เสียงกลองดังก้องออกไป และคะแนนความดีอีกหนึ่งล้านแต้มก็หายไป อีกครั้งที่ต้นสมุนไพรสิบสามชนิดลอยออกมา
กลุ่มผู้ชมมองเห็นเมิ่งฮ่าวพยายามขึ้นอีกครั้ง และคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บปวดใจที่ต้องใช้คะแนนความดีไปมากมายเช่นนั้น แต่ก็ยังคงตัดสินใจที่จะลองพยายามอีกครั้ง
สิบสองชั่วยามหลังจากนั้น กระถางปรุงยาก็สั่นสะท้าน และเม็ดยาก็ลอยออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันส่องแสงออกไปไกลถึงหนึ่งพันจ้าง ตัวเม็ดยามีสีม่วงทอง และดูเหมือนกับของวิเศษอันล้ำค่า อย่างไรก็ตามไม่นานต่อมา เสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา และยาเม็ดนั้นก็พังทลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำไป
“เหมือนที่คิดไว้ จากสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้ในครั้งนี้ ทำให้สามารถลดวิธีการปรุงได้จนเหลือแค่สองร้อยสิบหกชนิด!” เมิ่งฮ่าวคิด โดยที่ไม่ยอมหยุดพัก เขาตีกลองขึ้นอีกครั้ง จ่ายคะแนนความดีไปอีกหนึ่งล้านแต้ม ได้รับพืชสมุนไพรมาอีกสิบสามต้น และเริ่มพยายามปรุงยาเป็นครั้งที่สาม
กลุ่มผู้ชมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เมื่อพวกมันเห็นเขาใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายเช่นนั้น แม้แต่พวกมันก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในจิตใจ
“มันมีคะแนนความดีมากมายเท่าใด ให้ใช้จ่ายอย่างอิสระสุรุ่ยสุร่ายเช่นนั้นได้? ตลอดหลายปีมานี้ ไม่เคยมีใครปรุงเม็ดยานั่นได้สำเร็จมาก่อน อะไรที่ทำให้มันคิดว่าสามารถทำได้?”
“ถ้ามันคิดว่ามันมีคะแนนความดีมากเกินไป ก็น่าจะนำมามอบให้กับข้าบ้าง…”
หลังจากสิบสองชั่วยามผ่านไป เสียงกระหึ่มก็ได้ยินมาอีกครั้ง การปรุงยาครั้งที่สามของเมิ่งฮ่าวล้มเหลวเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม สีหน้าเขาก็ไม่ได้เศร้าสลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ในความเป็นจริงแล้ว ดวงตาเขากำลังสาดประกายอยู่
“จากการล้มเหลวครั้งที่สามนี้ ทำให้ตอนนี้มีวิธีที่นำไปสู่ความสำเร็จอยู่แค่สิบเจ็ดวิธีเท่านั้น!” เมิ่งฮ่าวตีกลองเป็นครั้งที่สี่ ทำให้คนทั้งหมดต้องตกตะลึง แม้แต่นักปรุงยาระดับหกก็ยังคิดว่าเขาคงบ้าไปแล้ว
หลังจากผ่านไปอีกสิบสองชั่วยาม ด้วยการปรุงยาติดต่อกันมาสี่วัน เขาก็ล้มเหลวอีกครั้ง
“จากการล้มเหลวครั้งที่สี่นี้ ทำให้ตอนนี้ข้าสามารถจำกัดวิธีที่เป็นไปได้ทั้งหมดเหลือเพียงแค่สามวิธีเท่านั้น!” ด้วยการสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปโดยสิ้นเชิง เขาตีกลองไปอีกครั้ง
เสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวเริ่มทำการปรุงยาเป็นครั้งที่ห้า
สิบสองชั่วยามหลังจากนั้น เม็ดยาก็ลอยออกมาจากกระถางปรุงยา สาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้าและจากนั้นก็แตกกระจายไป จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ลุกขึ้นมายืน
“ข้าเข้าใจแล้ว!” พร้อมกับดวงตาที่สาดประกาย เขาตีกลองไปเป็นครั้งที่หก!