ตอนที่ 996
การต่อสู้ดำเนินต่อไป!
ฟางซิ่วเฟิงและเมิ่งลี่ยืนอยู่ในเจดีย์แห่งถังบนดาวหนานเทียน มองไปยังกลียุคที่เกิดขึ้นในตระกูลฟางบนดาวตงเซิ่ง ดวงตาเมิ่งลี่เบิกกว้าง และสั่นสะท้านไปทั้งร่างขณะที่จับไปที่แขนของฟางซิ่วเฟิงจนแน่น
“ท่านรู้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ใช่หรือไม่!?” นางถามขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เมื่อเห็นว่าเมิ่งฮ่าวกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้น สิ่งที่นางกังวลใจไม่ใช่การที่ตระกูลฟางต้องถูกทำลายล้าง แต่นางกังวลถึงความปลอดภัยของบุตรชาย
ฟางซิ่วเฟิงมองไปยังภาพนั้นและพยักหน้าให้อย่างช้าๆ
“ท่านต้องเชื่อมั่นในตัวข้า และต้องเชื่อมั่นในฮ่าวเอ๋อร์ ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงในไม่ช้า” ฟางซิ่วเฟิงกล่าวตอบด้วยเสียงแผ่วเบา ความรักของบิดาของท่านไม่ใช่สิ่งที่จะแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับของเคออวิ๋นไห่ ความรักของท่านได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจ ท่านคือบิดาของเมิ่งฮ่าว และอย่างน้อยก็ยอมที่จะได้รับบาดเจ็บเอง ดีกว่าที่จะปล่อยให้บุตรชายต้องบาดเจ็บ
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้…เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
บนดาวตงเซิ่ง สายตาของฟางเว่ยและเมิ่งฮ่าวจ้องนิ่งซึ่งกันและกัน จากนั้นเสียงกระหึ่มอย่างไร้ตัวตนก็ดังเต็มอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้หายไป มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่คือคนทั้งสอง
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบรังสีสังหารขึ้น เขาไม่มีทางจะคาดคิดได้ว่าเหตุการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนี้ เขาไม่อาจจะทำอะไรกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตระกูลฟางได้ และจริงๆ แล้วในส่วนลึกของจิตใจ เขารู้สึกว่าค่อนข้างจะสูญเสียอยู่ไม่น้อย
รอยยิ้มอันชั่วร้ายมองเห็นได้บนใบหน้าของฟางเว่ย ขณะที่มันบินฝ่าอากาศมาคล้ายกับเป็นดาวตก มุ่งหน้าตรงมายังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ บดขยี้ความรู้สึกสับสนที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตใจไป การต่อสู้กับฟางเว่ยของเขายังไม่จบลง ผลเนี่ยผานของเขายังไม่ได้กลับคืนมา ด้วยเช่นนั้น…ก็ถึงเวลาที่จะต่อสู้ต่อไป!
ดวงตาแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร เขาบินขึ้นไปในอากาศ คนทั้งสองพุ่งฝ่ากลุ่มฝูงชนคล้ายกับเป็นดาวตก เข้ามาใกล้ซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว
คนทั้งสองมีความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่ากลุ่มคนในตระกูลฟางทั้งหมดกำลังต่อสู้กันอยู่ แต่พวกมันก็ยังต้องหันหน้าไปมองยังเมิ่งฮ่าวและฟางเว่ย ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าก็จ้องมองไปยังคนทั้งสองด้วยเช่นกัน ขณะที่ต่างคนต่างก็เข้าใกล้กันและกันไปเรื่อยๆ
เมื่อคนทั้งสองกระแทกเข้าหากันในกลางอากาศ เสียงระเบิดอย่างน่าตกใจก็ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง ทำให้อากาศแตกกระจายไป และสีสันก็แวบผ่านขึ้นไปในท้องฟ้า
เมิ่งฮ่าวโจมตีไปด้วยพลังของชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดอย่างเต็มกำลัง สวรรค์ทั้งสามสิบสามชั้นส่งเสียงดังกระหึ่ม และสายโซ่ของภูเขาจำนวนมากได้ปรากฏขึ้น ศีรษะอสูรโลหิตแผดร้องคำรามออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และสายลมอันรุนแรงก็กรีดร้องออกมา
ฟางเว่ยขยับมือร่ายเวท ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง มีรูปปั้น, รูปแบบของการเกิดใหม่, น้ำพุเหลืองปรากฏขึ้น รวมทั้งวิชาเวทอื่นๆ ที่เมิ่งฮ่าวไม่คุ้นเคย รูปปั้นหมุนวนไปเป็นวงกลมอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว ปลดปล่อยการโจมตีออกมาอย่างไร้จุดสิ้นสุด
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ระลอกคลื่นอาณาจักรโบราณอันน่ากลัว ที่กระจายออกมาจากร่างฟางเว่ยได้หายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ว่าฟางเว่ยมีความแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
อย่างช้าๆ เมิ่งฮ่าวเริ่มรับรู้ได้ถึงระลอกคลื่นที่อยู่ภายในร่างฟางเว่ย ทำให้รู้สึกได้ถึงอันตรายที่เต็มอยู่ในจิตใจ
“มันไม่ใช่ฟางเว่ย!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาแวบขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา
ฟางเว่ยกำลังระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมามากกว่าก่อนหน้านี้ หนึ่งรำพึงเต๋าอเวจีถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างกันออกไป เสียงกระหึ่มได้ยินมาขณะที่น้ำพุเหลืองม้วนกวาดออกไป โจมตีตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในกลางอากาศ
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป ขณะที่คนทั้งสองปะทะกันไปมามากกว่าหนึ่งร้อยครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าทำได้ทั้งหมด?” ฟางเว่ยถามขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชาน่ากลัว “นี่คือผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียน!?” มันขยับร่ายเวทด้วยมือขวา ทำให้น้ำพุเหลืองกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นมังกร พุ่งทะยานตรงไปยังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเคร่งเครียดขึ้น แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา ผลักมือออกไปขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ถูกปลดปล่อยออกไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ชีพจรเซียนสองร้อยสี่สิบเอ็ดจุดของฟางเว่ยก็ปรากฏขึ้น อย่างไรก็ตาม…การปรากฏขึ้นนี้ยังไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้! ทันใดนั้น…ชีพจรเซียนของมันก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีก!
สองร้อยห้าสิบเอ็ด, สองร้อยหกสิบเอ็ด, สองร้อยเจ็ดสิบเอ็ด…
เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่กลิ่นอายของฟางเว่ยระเบิดออกไป สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าซึ่งกำลังเฝ้ามองดูอยู่ทั้งหมด
“ฟางเว่ย…ชีพจรเซียนของมัน…กำลังเพิ่มมากขึ้น!!”
“ช่างน่าเหลือเชื่อนัก นี่…กำลังเกิดอะไรขึ้น!?” ผู้ฝึกตนตกอยู่ในความงุนงง แต่เหล่าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าเพียงแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น พวกมันเริ่มนำชิ้นส่วนของภาพที่กำลังเกิดขึ้นนี้มาเชื่อมต่อรวมกัน
“มันถูกยึดร่าง…”
“หลังจากที่มันกลายเป็นเซียน ก็ถูกยึดร่างไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์นักก็ตามที นอกจากนี้ผู้คนที่สามารถจะบรรลุถึงจุดสูงสุดของชีพจรเซียน ก็เป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาในจิ่วต้าซานไห่ (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่) มีความเป็นไปได้ว่าต้องมีใครบางคน นำเมล็ดเต๋ามาใส่ไว้ในร่างของฟางเว่ยอย่างแน่นอน คล้ายกับเป็นการพนัน ซึ่งคนผู้นั้นได้วางเดิมพันไว้ขณะที่ฟางเว่ยเติบโตขึ้น มันก็จะมีโอกาสทำได้สำเร็จ”
“นั่นคือส่วนสำคัญอันดับสองเท่านั้น เงื่อนไขหลักก็คือว่าพวกมันจะต้องมีสายโลหิตเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันทั้งคู่จะต้องมีการฝึกฝนวิชาเดียวกัน ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่าพวกมันทั้งคู่จะต้องมีหยดโลหิตจากตระกูลอเวจีในตำนาน!” เหล่าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋ารักษาความเงียบของพวกมันไว้ ขณะที่มองไปยังฟางเว่ยด้วยสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็นและตกตะลึง
ย้อนกลับไปบนดาวตงเซิ่ง ชีพจรเซียนของฟางเว่ยยังคงปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!
สองร้อยแปดสิบเอ็ด, สองร้อยเก้าสิบเอ็ด, สามร้อย!!
เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังก้องออกไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น ขณะที่ชีพจรเซียนของฟางเว่ยเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะตกตะลึง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต้องลังเลใจแม้แต่น้อย เขาโบกสะบัดมือ กลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีทอง ในเวลาเดียวกันนั้น ภูเขาจำนวนมากก็บดขยี้ลงไปยังฟางเว่ย ซึ่งกำลังหัวเราะเป็นเสียงดังก้องออกมา ขณะที่พลังของมันยังพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว กลิ่นอายแห่งความทระนงพุ่งออกมา และพื้นฐานฝึกตนของผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรเซียนก็ระเบิดเป็นพลังออกไป ศิลาดวงดาวหายออกไปจากดวงตาข้างซ้ายของเขา กลายเป็นแสงดาวอยู่ในฝ่ามือ ซึ่งได้ปกคลุมไปทั่วร่างเขา ขณะที่เวทหนึ่งรำพึงกลายเป็นดวงดาวถูกปลดปล่อยออกไป เปลี่ยนร่างเขาให้กลายเป็นดวงดาวขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังฟางเว่ย
เกิดเป็นเสียงแหลมเล็กแหวกฝ่าอากาศออกไป ขณะที่ดวงดาวกระจายแรงกดดันอันน่าตกใจปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่ง ก้อนหินดินทรายแตกกระจายไป และจากนั้นก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ผู้ฝึกตนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในบริเวณนั้น ถูกกระแทกให้ถอยห่างออกไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งนี้
ดวงดาวขนาดหนึ่งพันจ้างกำลังพุ่งฝ่าอากาศ เต็มไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ ในชั่วพริบตาก็ไปอยู่เหนือร่างฟางเว่ย
แต่ทันใดนั้นเอง ดวงตาฟางเว่ยก็สาดประกายขึ้นด้วยความเย่อหยิ่ง ผลักสองมือออกไป พร้อมกับแผดร้องคำรามออกมา
ทันใดนั้น ชีพจรเซียนของมันก็ระเบิดเป็นพลังขึ้น ขณะที่ชีพจรเซียนได้เพิ่มขึ้นมาอีก!
สามร้อยสิบชีพจร!
สามร้อยยี่สิบชีพจร!
ทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่เก้าสั่นสะเทือน กลุ่มคนทั้งหมดของตระกูลฟางตกตะลึง ความสนใจทั้งหมดได้มุ่งเน้นไปที่ฟางเว่ย
สามร้อยสามสิบชีพจร!!
อย่างน่าตกใจยิ่ง ชีพจรเซียนสามร้อยสามสิบจุดได้ปรากฏขึ้นในร่างฟางเว่ย ซึ่งก็คือขั้นสูงสุดสำหรับเซียนที่ไม่ได้ยืนกรานเต๋าของตนเอง เมื่อชีพจรเซียนสามร้อยสามสิบจุดปรากฏขึ้น วิญญาณเซียนสามสิบสามดวงก็มาอยู่ที่ด้านหลังของฟางเว่ย เช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าวที่มี…สวรรค์สามสิบสามชั้น!
“ตาย!” มันตวาดขึ้น ผลักสองมือตรงไปยังดวงดาวที่ใกล้เข้ามา ขณะที่มันผลักมือออกไป ชีพจรเซียนสามร้อยสามสิบจุดของมันก็กลายเป็นน้ำพุเหลืองสามร้อยสามสิบแห่ง จากนั้นก็หลอมรวมเข้าด้วยกันจนเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนั้น วิญญาณเซียนสามสิบสามดวงของมันก็ไม่ใช่ตุลาการโลกันต์อีกต่อไป แต่กลายเป็นยินหลัวหวัง! (พญายมราช) แรงกดดันอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ซึ่งเป็นของขั้นสูงสุดอาณาจักรเซียนได้กระจายออกมาจากร่างมัน
เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจกระจายออกไปทั่วทั้งดาวตงเซิ่ง ขณะที่เซียนขั้นสูงสุดทั้งสองเริ่มต่อสู้กันไปมา เมื่อทั้งสองกระแทกเข้าหากัน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกไป เสียงแตกร้าวได้ยินมาขณะที่ดวงดาวเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และน้ำพุเหลืองก็กระจัดกระจายกันออกไป ภายในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ เสียงกึกก้องดังแสบแก้วหูของการพังทลายลงไปก็ได้ยินมาขณะที่ดวงดาวระเบิดออก เมิ่งฮ่าวปรากฎตัวขึ้น ด้วยใบหน้าที่ซีดขาว สีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุดราวกับเป็นกระบี่อันคมกริบ เขากระอักโลหิตออกมา ขณะที่ลอยละลิ่วปลิวผ่านพื้นดินไปทางด้านหลัง ราวกับว่ากำลังถูกผลักออกไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้สูญเสียความแหลมคมที่คล้ายกับใบมีดไปแม้แต่น้อยนิด
“ขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียน สามสิบสามสวรรค์ หือ…” เมิ่งฮ่าวกวาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก และความเย็นชาในดวงตาก็ลุกโชนขึ้นด้วยความต้องการต่อสู้อย่างเข้มข้น
ที่ด้านบนขึ้นไป น้ำพุเหลืองแตกกระจายไป และสามสิบสามยินหลัวหวังก็พังทลายลงไป ฟางเว่ยกระอักโลหิตออกมาด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าดวงตาข้างขวาของมันจะเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แต่สัญญาณของการตะเกียกตะกายดิ้นรนก็มองเห็นได้อยู่ในดวงตาข้างซ้าย นั่นคือ…วิญญาณของฟางเว่ยกำลังต่อสู้ที่จะกลับคืนมา!
ทันใดนั้น เสียงของฟางเว่ยตัวจริงก็ดังก้องออกมา เต็มไปด้วยความตั้งใจที่แท้จริงของมันเอง “ข้าคือคนของตระกูลฟาง และความฝันของข้าก็คือการนำตระกูลฟางไปสู่ความรุ่งเรือง ท่านพ่อ! ท่านปู่! ท่านปรมาจารย์! ถ้าพวกท่านตัดสินใจทรยศต่อตระกูล ข้า…ไม่เห็นด้วย!”
อย่างไรก็ตาม แทบจะในทันทีที่เสียงของฟางเว่ยตัวจริงได้ยินมา ปรมาจารย์รุ่นหกก็แผดร้องขึ้น “กลับลงไป!” และสะกดข่มมันไว้อย่างรวดเร็ว ดวงตาข้างซ้ายกลับมาเป็นปกติขึ้นอีกครั้ง และฟางเว่ยก็กระอักโลหิตออกมาอีก จากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าว
“ฟางฮ่าว!” ฟางเว่ยปาดเช็ดโลหิตจากมุมปาก และก้าวเท้าตรงมา สามสิบสามสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และพลังเซียนอันไร้ขอบเขตก็ระเบิดออกมา
“สิ่งที่ข้าต้องการ…ก็คือความรู้สึกนี้! ในที่สุดข้าก็ทำได้! ในที่สุด ข้าก็มีร่างที่สมบูรณ์นี้!! นี่คือหุ่นเชิดของข้า! ในอนาคต ข้าจะมีร่างที่แท้จริงของตนเอง ฟางเว่ย เจ้าคือลูกหลานของข้า ซึ่งก็หมายความว่านี่คือเกียรติของเจ้า!” มือขวาของฟางเว่ยยกขึ้นไป และสามสิบสามสวรรค์ก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างน่ากลัว
“ข้ากำลังจะช่วยเจ้าสังหารคนผู้นี้ไป เพื่อเติมเต็มความตั้งใจของเจ้า!”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น เขามองไปยังฟางเว่ยอย่างเย็นชาชั่วขณะ จากนั้นก็เริ่มก้าวเดินตรงไป ยกมือขวาขึ้นและสามสิบสามสวรรค์ของเขาก็ปรากฏขึ้น
“สุดยอดสะพาน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
ในทันทีที่เขาพูดจบ เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในสวรรค์และปฐพี อย่างน่าตกใจยิ่ง สามสิบสามสวรรค์ของเมิ่งฮ่าวได้กลายเป็นภาพของสุดยอดสะพาน ชีพจรหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดปรากฏขึ้นที่ด้านหลังสะพาน ขณะที่พุ่งตรงไปยังฟางเว่ย
“ของสิ่งนั้นอีกแล้ว? ตี้ฝู่เจี้ย! (นรกโลกันต์)” ฟางเว่ยโบกสะบัดมือขวา ทำให้น้ำพุเหลืองปรากฏขึ้นในทันที นอกจากนั้นภาพลวงตาของนรกก็ปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง และเริ่มกลายเป็นของจริงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ทั้งสองกระแทกเข้าหากัน ฟางซิ่วซานก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้น และหลบหนีออกมาจากการต่อสู้กับสือจิ่วซูของเมิ่งฮ่าว จากนั้นมันก็ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อย มุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ดวงตาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร โบกสะบัดมือทำให้พื้นฐานฝึกตนอาณาจักรโบราณของมันระเบิดขึ้นไปด้วยพลังทำลายล้างของตะเกียงวิญญาณที่ดับไปแล้วสองดวง หัตถ์ยักษ์ปรากฏขึ้นตบฟาดลงไปยังร่างเมิ่งฮ่าว
“ตาย!”
อย่างน่าตกใจยิ่ง มันรวมพลังเข้ากับฟางเว่ยเพื่อพยายามสังหารเมิ่งฮ่าวไปทั้งร่างกายและวิญญาณให้จงได้!
ในช่วงวิกฤตนี้เอง เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือขวา และสุดยอดสะพานก็ตกลงมาปิดกั้นทั้งฟางเว่ยและฟางซิ่วซานไว้ เสียงระเบิดได้ยินมาขณะที่สุดยอดสะพานเริ่มพังทลายลงไป เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลัง และสีหน้าก็ไร้ความตื่นตระหนกใดๆ แต่กลับเต็มไปด้วยความต้องการสังหารที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง!
เขายกมือขวาขึ้นมา และในฝ่ามือก็มีผลไม้ลูกเล็กๆ ซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครมองเห็นได้นอกจากตัวเขาเอง
มันคือ…ผลเนี่ยผานของท่านปรมาจารย์รุ่นแรก!
พร้อมกับผลเนี่ยผานที่อยู่ในมือ รังสีสังหารของเขาพุ่งขึ้นกระจายออกไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ทุกสรรพสิ่งเริ่มหนาวเย็น ฟางเว่ยและฟางซิ่วซานมองไปยังแววตาของเมิ่งฮ่าว และพวกมันก็เริ่มสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไร้เหตุ