Skip to content

King of Gods 21

King Of Gods
BC

บทที่ 21 : ขั้นหลอมรวม

แน่นอนว่าคำกล่าวของจ้าวฟงได้สร้างความไม่พอใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเจ็ด เกือบทั้งหมดใช้สายตาเกลียดชังจ้องมองไปยังเขา

C

“ฮึ่ม! เจ้าหมอนี่นับว่าหยิ่งยโสเกินไปแล้ว”

“จ้าวเฉินกาง! จัดการหมอนั่นเลย!”

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเรียกสายตาของผู้คนรอบๆ ไป

“วิชาระดับพื้นฐาน? ค่อนข้างน่าสนใจ” เด็กสาวผู้ที่ยืนเงียบๆ แย้มรอยยิ้มขณะมองไปยังต้นเหตุด้วยสายตาสนอกสนใจ นางคือจ้าวชิ่น ผู้ที่ครองอันดับสี่ในบรรดาศิษย์สายใน

ในฐานะของศิษย์สายใน นางไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมรอบคัดเลือก ด้วยระดับขั้นการฝึกตนของนาง นางสามารถเอาชนะทุกคนในที่นี้ได้ กระทั่งเมื่อเทียบกับจ้าวเยว่ ความแตกต่างก็ยังนับว่ามากเกินไป

“ดี… ดี… ดี! ข้าจะคอยดู… ว่าวิชาระดับพื้นฐานของเจ้าจะแข็งแกร่งสักเพียงใด!” ใบหน้าของจ้าวเฉินกางทะมึนทึม การกระทำของอีกฝ่ายราวกับตบเข้าที่ใบหน้าของเขา!

“หมัดถลาลม!” จ้าวเฉินกางกดความโกรธเกรี้ยวลงและใช้วิชาระดับสูง หมัดถาลม

วิชาหมัดนี้ใช้ทั้งพลังและความเร็วในการเอาชนะคู่ต่อสู้ การโจมตีของมันนั้นราวกับพายุอันบ้าคลั่ง

ความแข็งแกร่งของจ้าวเฉินกางนั้นอยู่ในความคาดหมายของผู้ชม พลังของเขานั้นใกล้เคียงกับขั้นเสมือนผู้ฝึกตนและมันไม่ได้สร้างความผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ทว่าผู้คนส่วนมากล้วนเพ่งความสนใจไปยังจ้าวฟง เผชิญหน้ากับอันดับเจ็ดของศิษย์สายนอกเช่นนี้ เขาจะยังคงใช้วิชาระดับพื้นฐานนั่นหรือไม่?

จ้าวฟงใช้การกระทำยืนยันคำพูดของเขา

“หมัดเหล็กเพลิง!” หมัดธรรมดาๆ ส่องประกายสีแดง

วิชาระดับพื้นฐานอีกแล้ว!

“วิชาหมัดเหล็กเพลิงอีกแล้ว!”

“เขายังใช้วิชาระดับพื้นฐานนั่น?” ศิษย์ตระกูลจ้าวอึ้งตะลึงไป พวกเขาส่วนมากคิดว่าเด็กหนุ่มเพียงแค่พูดตลกไร้สาระและคงไม่ทำเช่นนั้น

ทว่าความจริงเขากลับเสียสติกว่าที่คิด!

“ผู้ฝึกตนขั้นสามโดยทั่วไปคงไม่อาจรับหมัดนั่นได้แม้แต่ครั้ง”

“ไม่เลว หมัดถลาลมเข้าระดับต่ำแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะฝึกฝนอย่างหนัก!” กระทั่งผู้อาวุโสบางคนยังผงกศีรษะ

ปั่ก!

ร่างทั้งสองเข้าปะทะกัน หมัดกระแทกหมัด

“ร่วงไปซะ!” จ้าวเฉินกางเค้นพลังของเพลงหมัดของเขาจนเข้าขั้นสูงสุด หากเขาใช้วิชาระดับสูงแต่ยังคงไม่อาจเอาชนะจ้าวฟงได้ เช่นนั้นเขาจะสามารถครองหนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์สายนอกได้อย่างไร?

ตูม!

ความร้อนส่งผ่านหมัดของจ้าวเฉินกางกระทั่งกำปั้นของเขาชาหนึบ ร่างผงะถอยไปสองก้าว ในขณะที่จ้าวเฟิงเพียงแค่สะท้านเล็กๆ ไม่แม้กระทั่งขยับสักก้าว

“…เป็นไปได้อย่างไร?” จ้าวเฉินกางผวา เขาคิดว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ในหมัดเดียว ทว่าในความเป็นจริงนั้นคือการที่เขาถูกป้องกันได้ด้วยเพียงวิชาระดับพื้นฐาน!

“เกิดอันใดขึ้น!” ศิษย์โดยรอบแข็งค้าง

“ข้าไม่เชื่อ… มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ! มันเพียงแค่บังเอิญโดนเข้าที่จุดอ่อนของกระบวนท่าข้าเท่านั้น” จ้าวเฉินกางคำรามขณะที่ใช้เพลงหมัดถลาลมของเขาออกไปอีกครั้ง

ปั่ก!

อีกครั้งที่ร่างที่ของจ้าวเฉินกางถูกผลักถอยไป แม้ว่าสองกระบวนท่าแรกจะเสมอ ทว่าเด็กหนุ่มกลับรู้สึกราวกับถูกบีบบังคับ

“มันเป็นวิชาระดับพื้นฐานจริงๆ… มันทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”

“เหตุใดวิชาระดับพื้นฐานจึงเหนือกว่าวิชาระดับสูงเช่นนี้?”

เหล่าศิษย์พรรคจ้าวเต็มไปด้วยความฉงน

กระบวนท่าที่หนึ่ง…กระบวนท่าที่สอง… กระบวนท่าที่สาม…

ทุกครั้งจ้าวเฉินกางเป็นฝ่ายถูกผลักถอยออกไป

เมื่อสองคนที่มีระดับขั้นเดียวกันประลองกัน นับเป็นเรื่องปกติที่จะมีฝ่ายหนึ่งเหนือกว่า ทว่าการใช้วิชาระดับพื้นฐานปะทะกับวิชาระดับสูงเป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

เกิดอันใดขึ้นกัน?

จ้าวเฉินกางบ้าคลั่งขึ้นเมื่อเขาใช้พลังจนหมด

สายตาหลายคู่จับจ้องไปยังผู้ตัดสินและเหล่าผู้อาวุโสของพรรค

“ทักษะและสัญชาตญาณในการต่อสู้ของจ้าวฟงเหนือกว่าจ้าวเฉินกาง” ผู้ตัดสินเอ่ยอย่างคลุมเครือ การตัดสินของเขาไม่ได้สร้างความพอใจให้กับฝูงชน

“ฮี่ฮี่ เจ้าเด็กนั่นฝึกวิชาระดับพื้นฐานกระทั่งเข้า ‘ขั้นหลอมรวม’ ” น้ำเสียงแหบชราดังขึ้นจากใจกลางของกลุ่มคน ผู้พูดเป็นชายชราที่มีเคราสีขาว เขาเป็นผู้ตัดสินหลักของการประลองครั้งนี้

ขั้นหลอมรวม?

ผู้ตัดสินบางส่วนรีบผงกศีรษะ ทุกคนรู้ว่ายิ่งระดับของวิชาสูงเท่าใด พลังโจมตีของมันก็มากขึ้นเท่านั้น ทว่ามันอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป!

ตัวอย่างเช่น เมื่อคนผู้หนึ่งฝึกวิชาระดับต่ำจนกระทั่งเข้าขั้นสูง และอีกคนหนึ่งฝึกวิชาระดับสูงจนกระทั่งเข้าขั้นต่ำ วิชาระดับสูงนั่นจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับวิชาระดับต่ำ

ตามปกติแล้ว ระดับขั้นของวิชาคือ พื้นฐาน ต่ำ สูง และสุดยอด

ขั้นสุดยอดนั้นหมายถึงประสิทธิภาพของวิชามีมากถึง 90% หรือมากกว่านั้น

โดยทั่วไป ผู้ที่สามารถฝึกวิชาจนกระทั่งเข้าขั้นสุดยอดนับว่าหายากแล้ว ทว่าขั้นสุดยอดไม่ได้หมายความว่ามันถึงขีดจำกัด เหนือขั้นสุดยอดยังคงมีขั้นหลอมรวม!

ขั้นหลอมรวมนั้นหมายถึงวิชาได้ถูกฝึกจนกระทั่งสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ถึง 99% หรือมากกว่า สามารถเรียกได้ว่าเข้าขั้น ‘สมบูรณ์’

“แม้ว่าระหว่างขั้นสุดยอดและขั้นหลอมจะดูเหมือนเป็นเพียงช่องว่างเล็กๆ รวม แต่ความจริงแล้วความแตกต่างของมันนั้นราวกับสวรรค์กับนรก! ความแตกต่างนั่นมากเสียกว่าวิชาระดับต่ำกับวิชาระดับสูงเสียอีก!” ผู้ตัดสินหลักยิ้มบาง

“ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น จ้าวฟงก็ทำได้เพียงเสมอกับจ้าวเฉินกางนี่ขอรับ” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ

อย่างไรก็ตาม วิชาระดับสูงนั้นมีระดับมากกว่าวิชาระดับพื้นฐานสามระดับ และจ้าวเฉินกางยังฝึกวิชาระดับสูงจนกระทั่งเข้าขั้นต่ำ

“เจ้ากล่าวถูกต้อง! วิชาระดับพื้นฐานขั้นหลอมรวมนั้นทำได้เพียงปะทะอย่างเท่าเทียมกับวิชาระดับสูงขั้นต่ำ ทว่าเช่นที่เจ้าเห็น ความแข็งแกร่งของร่างกาย ปฏิกิริยาตอบโต้ สัญชาตญาณการต่อสู้ และอื่นๆ ของจ้าวฟงนั้นเหนือกว่าจ้าวเฉินกางนัก” ชายชราเอ่ยชม ด้วยคำอธิบายของเขา เหล่าผู้คนจึงได้เข้าใจ

ในตอนนั้นเองที่การต่อสู้บนประลองที่เจ็ดได้เปลี่ยนไป

“จ้าวฟงเริ่มโจมตีแล้ว!”

“สวรรค์! ความเร็วอันใดกัน!”

ปั่ก! ปั่ก! เพี้ยะ!

สายตาของเหล่าผู้ชมถูกดึงดูดไปยังลานประลองที่เจ็ด เพียงแค่เห็นจ้าวฟงเปลี่ยนจากการป้องกันเป็นโจมตี พลังหมัดของเขานั้นเหนือกว่าขั้นที่หมัดเหล็กเพลิงจะสามารถแสดงออกมาได้ไปแล้ว

ความเร็ว พลัง ทุกการจู่โจมล้วนมุ่งตรงไปยังจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ จ้าวเฉินกางที่เสียสติไปแล้วเหวี่ยงหมัดไปทั่วก่อนถูกโจมตีด้วยหมัดหมัดหนึ่งของเด็กหนุ่ม

ปั่ก

จ้าวเฉินกางกรีดร้องออกมาเมื่อหัวไหล่ของเขาหลุดออกจากเบ้า

“หมายเลข 188 ชนะ!” ผู้ตัดสินประจำลานประลองที่เจ็ดเอ่ยขึ้นขณะที่ถอนลมหายใจ

เฮือก!

กลุ่มที่เจ็ดตกลงสู่ความโกลาหลในทันใด

“จ้าวฟงเอาชนะจ้าวเฉินกางได้โดยใช้เพียงวิชาระดับพื้นฐาน!”

“เป็นไปไม่ได้! จ้าวเฉินกางถือเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม…”

จ้าวฟงชนะการประลองรอบที่สิบห้า นั่นหมายความว่าบัดนี้เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มแล้ว

ในตอนนั้นเองที่จ้าวเยว่ จ้าวยี่จาง และจ้าวหยูเฟ่ยมองไปยังลานประลองที่เจ็ด

“ขั้นหลอมรวม? ตอนที่ผู้ฝึกตนผู้นั้นมาแนะทาง ข้ารู้สึกราวกับทุกกระบวนท่าของหมัดเหล็กเพลิงหายไปจากสมองของข้า… อาจเป็นเพราะเหตุนี้” เด็กหนุ่มเข้าใจในทันที

เมื่อเขากลับมาจากการแนะทาง เขารู้สึกว่าวิชาระดับพื้นฐานของเขาได้เข้าสู่ขั้นสุดยอดที่สามารถรับมือได้กระทั่งผู้มีพลังขั้นเสมือนผู้ฝึกตน และความสามารถของจ้าวเฉินกางนั้นเพียงเกือบจะเข้าขั้นนั้นเท่านั้น

“ไม่เลว ดูเหมือนว่าศิษย์สายนอกจะมีม้ามืดแล้ว” ผู้ตัดสินหลักแย้มยิ้ม

“วิชาระดับพื้นฐาน… แม้ว่าเขาจะฝึกจนกระทั่งเข้าขั้นหลอมรวม แต่เขาจะยังคงแพ้ต่อบุตรชายของข้า จ้าวยี่จาง ไม่ว่าอย่างไรระดับพื้นฐานก็คือระดับพื้นฐาน!” ชายวันกลางคนแย้มรอยยิ้มบาง

“โฮ่?” ผู้ตัดสินหลักเบนสายตาสนใจไปยังชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนผู้นั้นคือบิดาของจ้าวยี่จาง เขาหัวเราะออกมาขณะมองไปยังบุตรชายด้วยสีหน้ามั่นใจ

“จริงอยู่… ความสามารถของวิชาระดับพื้นฐานนั้นมีจำกัด… จ้าวฟงอาจใช้เวลาอย่างมากในการฝึกมันจนกระทั่งเข้าขั้นหลอมรวม นั่นหมายความว่าเขาย่อมไม่มีเวลาที่จะฝึกฝนวิชาอื่น… น่าเสียดายอันใดเช่นนี้” เมื่อเอ่ยขึ้นถึงตอนนี้ ชายชราก็สั่นศีรษะ

“ฮึ่ม! วิชาระดับพื้นฐานขั้นหลอมรวม?” จ้าวยี่จางมองไปยังจ้าวฟงด้วยสายตาเหยียดหยาม ในสายตาของเขาวิชาระดับพื้นฐานนั้นเป็นเพียงแค่ขยะ

เด็กสาวชุดขาวมองไปยังจ้าวฟงด้วยความตื่นตะลึง

“พี่ยี่จาง ท่านต้องเอาชนะเขาให้ได้นะ”

“ซุ่ยเอ๋อร์ อย่าได้กังวล ข้าลำบากอย่างมากก็เพียง 3-10 กระบวนท่า! แต่ข้าจะไม่ปล่อยมันไปง่ายๆ เช่นนั้น ข้าจะฉีกหน้ามัน” จ้าวยี่จางเอ่ยอย่างมั่นใจ น้ำเสียงของเขานั้นดังจนกระทั่งผู้คนโดยรอบได้ยินมัน

ในตอนนั้นเองที่สายตาของจ้าวฟงจับจ้องไปยังทั้งสอง

สายตาสองคู่สบกัน ดวงตาของจ้าวยี่จางเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ ในขณะที่ดวงตาของจ้าวฟงปรากฏรอยยิ้มอยู่ภายใน

“ 188 vs 233!”

การประลองกลุ่มยังคงดำเนินต่อไป

หลังจากที่จ้าวฟงเอาชนะจ้าวเฉินกางก็ไม่มีคู่ต่อสู้คนใดที่จะสามารถรับมือเขาได้อีก

16… 17… 18…

คนส่วนมากที่เผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มล้วนยอมแพ้ และผู้ที่กล้าบ้าบิ่นพอที่จะสู้จะถูกจัดการในหมัดเดียว

“น่าอับอายยิ่งที่ต้องพ่ายแพ้ด้วยวิชาระดับพื้นฐานเช่นนี้!”

เหล่าศิษย์ตระกูลจ้าวมองไปยังจ้าวฟงด้วยสายตาราวกับเด็กหนุ่มมีโรคร้าย

18… 19… 20ครั้งติดต่อกัน!

ในที่สุดจ้าวฟงก็ชนะติดต่อกัน 20 ครั้งและผ่านเข้ารอบต่อไป!

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!