บทที่ 298 : จอมโจรฉุ่ยเยว่
ถ้ำสุสานที่ยิ่งใหญ่สั่นสะท้านราวกับจะพังถล่มลงมากลับสู่ความสงบดังเดิม
โลงศพจื่อถง ชั้นที่สาม
ทุกอย่างเงียบสงัด ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กลั้นลมหายใจ สายตาจับจ้องไปยัง ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ ในมือของจ้าวเฟิง
รูปลักษณ์ของ ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ เป็นตำราเก่าแก่ ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้น ราวกับสามารถแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ
“ไอ้หนู… หยุด!”
โจรเถาชานเฟ่ยคำรามเสียงดัง ดวงตาแดงก่ำ นี่มันคือเคล็ดวิชามารชั้นจิตวิญญาณ จู่ๆ จะทำลายมันได้อย่างไร?
ฉานเซว่ตูอิง ผู้ฝึกตนเฒ่าชุดเขียว สตรีในชุดสีสด และคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าลนลาน
‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ เป็นเคล็ดวิชามารชั้นจิตวิญญาณ สามารถทำให้พลังหยินหยางสมดุล สามารถฝึกฝนพลังได้อย่างรวดเร็วเกินธรรมดา
เคล็ดวิชานี้เป็นสิ่งที่ทำให้จอมโจรฉุ่ยเยว่สามารถท่องทะยานไปทั่วทั้งอาณาจักรได้
“นี่เจ้า… เจ้าจะทำลายมันจริงๆ…”
อาจารย์เฮยหยุนรู้สึกยากจะทำใจให้เชื่อถือได้
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าจ้าวเฟิงจะกล้าหาญเพียงนี้ กระทั่งจะทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ ทิ้งในคราเดียว
ดวงตาของปี้เฉี่ยวยู่วาววับไปได้น้ำตาที่เอ่อขึ้น มองไปยังเด็กหนุ่มหนุ่มผู้สง่างามจิตใจของนางเต็มไปด้วยความสั่นไหวและซาบซึ้ง
ความจริงนางได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะยอมสละร่างกายของนางช่วยเหลืออีกฝ่ายแล้ว
ทว่าการกระทำของจ้าวเฟิงได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน ไม่หวาดกลัวที่จะทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’
หากถ้ำสายธารจันทราจะถล่มลงมา เช่นนั้นก็ปล่อยให้มันถล่มลงมาเสีย
เมื่อดวงตาเทพเจ้าวิวัฒนาการขึ้นอีกครั้งหนึ่ง บุคลิกของเด็กหนุ่มก็เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจมากขึ้น ไร้ซึ่งศีลธรรมใดๆ ยิ่งขึ้น
ดวงตาข้างซ้ายของเขาส่องแสงสีฟ้าเย็นเยียบ ราวกับบ่อน้ำเย็นเยียบไร้จุดสิ้นสุด
กร๊อบ!
ฝ่ามือของจ้าวเฟิงปรากฏกรแสไฟฟ้าสว่างวาบ ภายใต้สายตาของผู้คน ทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ จนกลายเป็นฝุ่นผง
หลังจากที่ทำลายถุงร้อยบุปผาไปแล้ว เด็กหนุ่มยังทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ เคล็ดวิชาที่สะท้านสะเทือนไปทั่วทั้งอาณาจักรอีก
สองในสี่สมบัติสายธารจันทราได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของจ้าวเฟิง
“เจ้า…”
โจรเถาชานเฟ่ยนิ่งอึ้ง ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน อารมณ์โกรธแค้นปะทุทะลักล้นออกมาอย่างไร้จุดสิ้นสุด
พรวด!
มุมปากของเขาปรากฏหยาดเลือดสายหนึ่งไหลริน
เขาใช้ทุกวิถีทางเพื่อในการครอบครองถุงร้อยบุปผา รวมทั้ง ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ ทว่ากลับถูกเด็กหนุ่มผู้นี้ทำลายลงต่อหน้าต่อตาทุกครั้ง
“เจ้า… เจ้าทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’! ”
เสียงของนายท่านปี้ปรากฏความติดขัด ลมหายใจกระท่อนกระแท่น
ฉานเซว่ตูอิง ผู้ฝึกตนเฒ่าชุดเขียว และคนอื่นๆ ต่างนิ่งอึ้งไปโดยสิ้นเชิง
“ข้าทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ แล้ว ถ้ำสายธารจันทราแห่งนี้จะถล่มลงมาหรือว่า…”
สายตาจ้าวเฟิงส่องประกายระริกอย่างไม่มั่นใจ
หากเขามองไม่ผิด จุดศูนย์กลางของกลไกทั้งหมดของถ้ำสายธารจันทราคงจะอยู่ที่ ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ เล่มนี้
ครืนนนนน
ถ้ำสายธารจันทราและโลงศพจื่อถงได้สั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างไม่สามารถทรงตัวได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เสียงหัวเราะยาวนานพลันดังก้องขึ้นทั่วทั้งถ้ำสายธารจันทรา
จิตใจของทุกคนเย็นวาบ เสียงนี่ไม่ได้ดังมาจากผู้ใดที่ยืนอยู่ในนี้
“อาจารย์… ท่านอาจารย์…”
ผู้ฝึกตนเฒ่าชุดเขียวสั่นไปทั้งตัว จ้องมองไปยังโลงแก้วอย่างไม่ละสายตา
เสียงหัวเราะยาวนานนั้นดังมาจากโลงแก้ว
ศพของจอมโจรฉุ่ยเยว่ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง สายตาส่องประกายระริกราวกระแสไฟฟ้า สร้างแรงกดดันที่น่าตื่นตะลึงออกมาอีกครั้ง พลังนั้นแทบไม่ด้อยไปกว่าขั้นนายเหนือแท้
ท่านอาจารย์!
โจรเถาชานเฟ่ยและสตรีในชุดสีสดคุกเข่าลงที่พื้นพร้อมเพรียงกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวลนลาน
“สหายผู้มากวาสนาเอ๋ย ความกล้าหาญของเจ้าทำให้ข้าต้องนับถือแล้ว!”
จอมโจรฉุ่ยเยว่ค่อยลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า กลิ่นอายแห่งชีวิตในร่างได้เพิ่มขึ้นอย่างแปลกประหลาด
“ท่านอาจารย์ ท่านฟื้นคืนชีพแล้ว!”
พวกโจรเถาชานเฟ่ยและทั้งสองต่างตกใจ
ฟื้นคืนชีพ!
จ้าวเฟิงไม่อาจทำใจให้เชื่อถือได้ จอมโจรฉุ่ยเยว่ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ หรือ?
อาจารย์เฮยหยุนสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ จ้องมองไปยังจอมโจรฉุ่ยเยว่ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ต่างไปจากผู้ที่ยังไม่สิ้นลมหายใจในยามนี้
ดวงตาของจอมโจรฉุ่ยเยว่เต็มไปด้วยสติปัญญา มันไม่ใช่ “คืนแสงแปลงตะวัน” ตามปกติ
“ข้าเป็นผู้คิดค้นและวางกลนี้ ได้กับดักไว้สองประเภท หนึ่งคือกลไกชัดเจนและอีกหนึ่งคือกลไกหลบซ่อน กลไกชัดเจนนั้นคือการนำโลหิตหยินมาบูชายัญย่อมได้ครอบครอง‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ เพื่อสืบทอดตำนานของข้าต่อไป สองคนที่ “โชคดี” หนีออกไปจากสุสานได้นับเป็นเจตนาของข้าเอง”
สายตาของจอมโจรฉุ่ยเยว่ส่องประกายเจ้าเล่ห์
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของนายท่านปี้และฉานเซว่ตูอิงพลันปรากฏความอับอายขึ้นบางส่วน
ที่แท้ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่จอมโจรฉุ่ยเยว่ได้วางเอาไว้แล้ว
สองคนนั่นที่หนีออกไปจากสุสาน คนหนึ่งนำแผนที่ขรุขระไม่ชัดเจนออกไป อีกคนหนึ่งนำข่าวของโลหิตหยินออกไป
“ทว่า นี่เป็นเพียงกลไกที่วางไว้อย่างชัดเจน นับแต่บัดนี้ ในแผ่นดินนี้ก็จะปรากฏ ‘จอมโจรฉุ่ยเยว่’ ขึ้นอีก”
จอมโจรฉุ่ยเยว่มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มเหน็บแนม
ทุกคนต่างตื่นตะลึง
จอมโจรฉุ่ยเยว่ท่องทะยานไปทั่วทั้งอาณาจักรเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ชื่อเสียงโด่งดัง ย่อมต้องพึงพอใจ
ด้วยความสำเร็จระดับนี้ หรือว่าเจ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกริษยากัน?
“ทว่าในชีวิตของข้า ความสำเร็จที่สูงสุดนั้นไม่ใช่การหนีรอดจากการถูกไล่ล่าจากเหล่านายเหนือแท้ ครอบครองสมบัติวิเศษมากมาย และเลื่องชื่อในวิชามาร แต่สุดท้ายแล้วก็มิใช่ราชา!”
จอมโจรฉุ่ยเยว่สูดลมหายใจลึก ดวงตาส่องประกายประหลาด
สายตาของเขากวาดมองไปยังลูกศิษย์ทั้งสองคน ก่อนหยุดลงที่จ้าวเฟิง
“ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของข้า สานต่อแนวทางของข้า สุดปลายทางนี้นั้นไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อกรของราชาได้ สุดท้ายแล้วข้าจึงได้ตกลงสู่กำมือของฉินหวางเฟย”
จอมโจรฉุ่ยเยว่จ้องมองไปยังจ้าวเฟิงอย่างลึกล้ำ
จ้าวเฟิงมีสีหน้าระมัดระวัง เอ่ยว่า “เช่นนั้นกลไกหลบซ่อนที่เจ้าวางไว้…”
“เจ้าก็เห็นว่ากลไกที่ถูกวางไว้กลางอากาศนั้นมีรูปแบบเล็กนัก ดังนั้นข้าจึงได้วางกลไกหลบซ่อนเอาไว้อีกทางหนึ่ง มีเพียงแต่ผู้ที่ฉลาดหลักแหลมและกล้าหาญเพียงพอที่จะทำลาย ‘คัมภีร์บุปผาลึกลับ’ ทำลายทุกหลักเกณฑ์ เมื่อนั้นความสำเร็จในอนาคตจึงจะเหนือกว่าข้า สมบัติสายธารจันทรานับเป็นเพียงขั้นบันไดให้เขาเหยียบย่ำเท่านั้น”
จอมโจรฉุ่ยเยว่มองไปยังจ้าวเฟิงอย่างลึกซึ้ง
กลไกชัดเจนและกลไกหลบซ่อน สองรูปแบบ
หนึ่งคือการสืบทอดเจตนารมณ์ อีกหนึ่งคือการก้าวข้ามเจตนารมณ์!
เมื่อเทียบกันแล้ว อย่างหลังนับว่ายิ่งใหญ่กว่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิตของทุกคนต่างก็สั่นไหว
โจรเถาชานเฟ่ยสีหน้าเผยความละอายออกมา
หากด้วยนิสัยของเขาแล้ว มากที่สุดคือการสืบทอดเจตนารมณ์ของผู้เป็นอาจารย์
ผู้กล้าหาญที่แท้จริงคือเด็กหนุ่มผู้นี้ที่กล้าสัมผัสกลไกหลบซ่อนของจอมโจรฉุ่ยเยว่
“ท่านอาจารย์ เช่นนั้นท่านฟื้นคืนชีพได้อย่างไร?”
สตรีชุดสีสดเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“นี่คือเคล็ดวิชาลับจากมรดกความลับสวรรค์ เป็นเคล็ดวิชาที่เหนือกว่าเคล็ดวิชาทั้งมวลที่ปรากฏอยู่ในทวีปแห่งนี้ ก่อนสิ้นชีพนำพลังชีวิตมาปิดผนึกไว้ในส่วนที่ลึกสุดของร่างกายชั่วคราว เปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบอื่น กระทั่งผู้ฝึกตนในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดก็ไม่อาจมองออกได้ ในอนาคต เมื่อมีสิ่งเร้าเฉพาะร่วมกับ ‘วิชาคืนแสงแปลงตะวัน’ อาจารย์จึงสามารถคืนชีพกลับมาได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง”
จอมโจรฉุ่ยเยว่อธิบาย
จ้าวเฟิงสังเกตเห็นชัดเจนว่าลมหายใจของจอมโจรฉุ่ยเยว่ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ ราวกับคนใกล้ตาย
คุณสมบัติของเคล็ดวิชาลับนี้คือ ย้าย ‘อายุขัย’ ของคนผู้หนึ่งไปยังหลังช่วงเวลาที่สิ้นชีพไปแล้ว นับว่าไม่ผิดกฎเกณฑ์ของสวรรค์
เมื่อรู้ความจริงแล้ว สามยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้ริงก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาอย่างช่วยไม่ได้
หากจอมโจรฉุ่ยเยว่สามารถฟื้นคืนชีพได้จริง ต่อให้สามยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงร่วมมือกันก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
“มรดกความลับสวรรค์นั้นควรค่าแก่ที่ได้รับคำเรียกขานว่าเก่าแก่ที่สุดและลึกลับที่สุดนัก กระทั่งมีเคล็ดวิชาเช่นนี้”
อาจารย์เฮยหยุนก้มหน้าลงเล็กน้อย
พรึบ
ร่างของจอมโจรฉุ่ยเยว่แปรเปลี่ยนไปเป็นเงาจางหายไป
จากนั้น
เขาได้ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าจ้าวเฟิง ค่อยๆ ยกมือข้างหนึ่งขึ้น
จ้าวเฟิงไม่ได้รู้สึกถึงความมุ่งร้าย มองตรงเข้าไปในตาของจอมโจรฉุ่ยเยว่
พลังชีวิตของจอมโจรฉุ่ยเยว่ หมดลงอย่างรวดเร็ว ไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้นาน
มือข้างหนึ่งของจอมโจรฉุ่ยเยว่สัมผัสไปยังร่างของจ้าวเฟิง พลังบริสุทธิ์อันไร้ที่สิ้นสุดได้ไหลบ่าเข้าสู่ร่างของเด็กหนุ่มในทันที
“อันใดกัน! นั่นมันแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้!”
“มิคาดว่าท่านอาจารย์จะเก็บแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้ของตนเองเอาไว้”
โจรเถาชานเฟ่ยและคนอื่นๆ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
สิ่งที่ถูกเรียกว่าแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้ก็คือแหล่งกำเนิดพลังของยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริง แหล่งกำเนิดปราณจิตวิญญาณ
พลังฝึกตนในอดีตของจอมโจรฉุ่ยเยว่นั้นได้เข้าใกล้ขั้นนายเหนือแท้ แหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้ได้ถูกผนึกไว้กว่าร้อยปี แม้พลังกว่าครึ่งจะเล็ดรอดออกไป มันก็ยังคงเหนือกว่าขั้นผู้วิเศษแท้ทั่วไปมากนัก
“อย่าได้บอกข้าว่านี่คือการถ่ายทอดพลังในตำนาน?”
จ้าวเฟิงไม่ได้ขยับตัว ดวงตาเทพเจ้าเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงภายในร่างทุกรายละเอียด
จอมโจรฉุ่ยเยว่ไม่ได้นำแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้ส่งเข้าไปในภายในร่างกายของจ้าวเฟิงตรงๆ เพราะการทำเช่นนั้นจะมีผลกระทบกับแหล่งกำเนิดพลังของเด็กหนุ่ม
เขาใช้แหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้พัฒนาจุดตันเถียนของจ้าวเฟิงก่อนเพื่อชะล้างสิ่งปฏิกูลภายในร่างกาย
ปราณส่วนมากของแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้ได้ถูกผนึกไว้ที่ส่วนที่ลึกที่สุดของจุดตันเถียนของเด็กหนุ่ม วิชาผนึกต้องห้ามนี้ลึกลับนัก สามารถเปลี่ยนแปลงพลังให้กลายเป็นรูปแบบอื่นได้ชั่วคราว
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าปราณครึ่งจิตวิญญาณของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปถึงห้าส่วนในทันที
การทำแบบนี้จะไม่สร้างผลกระทบต่อแหล่งกำเนิดพลังของจ้าวเฟิง
อย่างแรกคือ ขอบเขตจิตวิญญาณของจ้าวเฟิงมีระดับสูงเพียงพอแล้ว แม้จะเป็นปราณจิตวิญญาณจริงๆ ตราบเท่าที่ปริมาณไม่มากจนเกินไป เขาก็ยังสามารถควบคุมได้
อย่างที่สอง จอมโจรฉุ่ยเยว่ได้เปิดจุดชีพจร ขยายจุดตันเถียน รวมทั้งพัฒนาคุณสมบัติของร่างกาย
“ขอบเขตจิตวิญญาณของเจ้าสูงมากนัก หากเจ้าต้องการ ข้าสามารถช่วยให้เจ้าทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงได้ในยามนี้”
จอมโจรฉุ่ยเยว่เอ่ยด้วยสีหน้ายินดี
“ยังมิใช่ตอนนี้”
เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นในสมองของจอมโจรฉุ่ยเยว่
ค่อยๆ ก้าวออกไปทีล่ะก้าว พึ่งพาความพยายามของตนในการพัฒนา พื้นฐานย่อมมั่นคง หัวใจสงบนิ่ง
จอมโจรฉุ่ยเยว่ชะงักไปก่อนจะหัวเราะเสียงลั่น “ดี ดี ดี นับว่าข้าดูแคลนเจ้าแล้ว ทั้งแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง ทั้งยังมีสายเลือดดวงตา แม้ไม่มีสมบัติสายธารจันทรา ความสำเร็จของเจ้าในอนาคตก็สามารถก้าวข้ามข้าไปได้อย่างง่ายดาย”
ไม่ช้า
จอมโจรฉุ่ยเยว่ได้ใช้แหล่งกำเนิดจิตวิญญาณแท้จากทั้งชีวิตของตัวมัน ใช้วิธีการพิเศษผนึกเข้าไปในร่างของจ้าวเฟิง
ปราณครึ่งจิตวิญญาณภายในร่างของจ้าวเฟิงได้เปลี่ยนแปลงไปห้าถึงหกส่วนจากสิบส่วน เหนือกว่าอาจารย์เฮยหยุน
ในยามนี้
กลิ่นอายชีวิตของจอมโจรฉุ่ยเยว่หายไปกว่าแปดเก้าส่วนแล้ว
“มรดกลับชิ้นสุดท้าย อย่าใช้พลังจิตของเจ้าต่อต้าน”
เสียงของจอมโจรฉุ่ยเยว่ดังขึ้นในสมองของจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงผนึกพลังจิตของตนเองเอาไว้ ในยามนั้นเองที่ข้อมูลจำนวนมากได้ไหลเข้าสู่สมองของเขา
ข้อมูลเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับมรดกความลับสวรรค์ รวมทั้งพิมพ์เขียวกลไกและแผนที่
“แผนที่ความลับสวรรค์!”
จ้าวเฟิงตกใจจนเกือบจะเอ่ยปากออกไป
“นี่คือแผนที่ความลับสวรรค์ที่ข้าขโมยมาได้จากตำหนักของราชวงศ์ยามที่ยังมีชีวิตอยู่ แผนที่ความลับสวรรค์นั้นได้สืบทอดมาทั้งหมดสี่สิบแปดแผ่น แต่ล่ะแผ่นมีความลับของมรดกความลับสวรรค์บางส่วนอยู่”
จอมโจรฉุ่ยเยว่อธิบาย
เมื่อทำทั้งหมดนี้แล้ว
แววตาของจอมโจรฉุ่ยเยว่จึงค่อยๆ หม่นแสงลง ลมหายใจค่อยๆ หมดไปจนถึงขีดสุด
เขากลับไปยังโลงแก้ว สายตากวาดมองไปยังชายหนุ่มชุดทองและสตรีในชุดสีสด “จิ้นเอ๋อร์ เยว่เออร์”
“ท่านอาจารย์”
โจรเถาชานเฟ่ยและสตรีในชุดสีสดต่างกระวนกระวายใจ
แม้ว่าจอมโจรฉุ่ยเยว่จะสิ้นชีพแล้วจริงๆ ทว่าเกียรติยศศักดิ์ศรีเมื่อยามที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
“เจ้าสองคนอย่าคิดเป็นศัตรูกับเขาเด็ดขาด หากเจ้ายินยอมก็ไปเป็นข้ารับใช้ของเขาเสีย นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่อาจารย์จะแนะนำ”
เมื่อเอ่ยจบ ลมหายใจที่เหลืออยู่ของจอมโจรฉุ่ยเยว่ก็หมดสิ้นลง เขาได้หลับตาลงในทันใด
ครื่นนนนน
ทันใดนั้น ทั่วทั้งถ้ำสายธารจันทราก็เริ่มสั่นสะเทือนและพังทลายลงอีกครั้ง
เหนือศีรษะของทุกคนปรากฏบานประตูสัมฤทธิ์ที่เปิดออก ส่องแสงสว่างจ้า
“อย่าเป็นศัตรูกับเขาเด็ดขาด?”
“ให้พวกเราเป็นข้ารับใช้ไอ้เด็กนั่น จะเป็นไปได้อย่างไร!”
ชายหนุ่มชุดทองและสตรีชุดสีสดที่คุกเข่าครึ่งหนึ่งอยู่บนพื้น สายตาส่องประกายเย็นเยียบเหยียดหยาม
คำแนะนำสุดท้ายของผู้เป็นอาจารย์ พวกเขาไม่ได้นำมาใส่ใจ