ตอนที่ 114 การบรรจบกันของแม่น้ำหมื่นสาย
“อะไรกัน เฉิงเจียง? ที่เขาพูดมันจริงรึเปล่า ผมสาธิตทักษะให้คุณชม แล้วคุณก็ฉกวิชามือพันด้ายน้ำแข็งของผมไปเนี่ยนะ?”
“บ้าที่สุด ถึงว่าทำไมผมไม่เห็นหน้าคุณอีกเลยหลังงานเลี้ยงนั่น สารภาพมา คุณแอบดูรายงานของผมตอนไหน?”
“เฉิงเจียง เราก็เป็นนักปรุงยารุ่นเดียวกัน ถ้าคุณอยากเรียนวิธีปรุงยาของผม คุณน่าจะบอกตามตรง ผมก็จะสอน นี่คุณหลอกล่อลูกมือของผมเพื่อเอาวิชาสอดประสานร้อยกระบวนท่า มันไม่เจ้าเล่ห์ไปหน่อยเหรอ?”
ทุกคนที่นี่เป็นสมาชิกของสมาคมนักปรุงยาและแลกเปลี่ยนศิลปะการปรุงยากันเสมอ ถ้าเขาสนใจจะเรียนวิธีการปรุงยาจริงๆก็สามารถแจ้งความจำนงได้ จะมีการจัดสาธิตขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้เป็นทั้งผู้สาธิตและผู้ติชม รวมถึงเรียนรู้ทักษะของกันและกัน ด้วยวิธีนี้ก็จะไม่กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ ทุกคนยังเป็นเพื่อนกัน
อย่างไรก็ตาม การแอบเรียนอย่างลับๆถือเป็นการขโมยวรยุทธของผู้อื่น มันเป็นข้อห้ามใหญ่หลวงที่ไม่ควรมีใครฝ่าฝืน
“ทุกคน อย่าไปฟังเรื่องเหลวไหลนั่น…” สัมผัสได้ถึงบรรยากาศร้อนระอุ ความโกรธและความกลัวฉายวาบบนใบหน้าของเฉิงเจียงขณะที่เขาลนลานแก้ข้อกล่าวหา
“ผมพูดเหลวไหลงั้นเหรอ?” จางเซวียนเดินออกมาข้างหน้า เขายิ้มมุมปาก “ตอนนี้ ในการปรุงยาจวีซี นักปรุงยาเฉิงใช้สมุนไพร 23 ชนิด ผมว่าผมไม่น่าผิดนะ”
“ถูก”
นักปรุงยาทุกคนรู้จำนวนยาสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยาจวีซี มันไม่ใช่ความลับ จึงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิเสธ
“ตอนที่คุณผสมหญ้าบัวขาว รากวิสทีเรีย และดอกแม่น้ำสีทองเข้าด้วยกันน่ะ นิ้วก้อยของคุณกระดกไปข้างหลัง ในขณะที่ตามตำราให้กระดกไปข้างหน้า ทำเหมือนเก็บดอกไม้ ถ้าผมพูดไม่ผิด วิธีการนี้อ้างอิงมาจากของนักปรุงยาไป๋หมิง เรียวกว่ากลวิธี [มือแพรไหม]”
“จากนั้น ตอนคุณสกัดหยดดวงอาทิตย์เขียว นิ้วมือทั้งห้าของคุณกางออก ปล่อยให้ความเย็นจากน้ำแข็งเข้ามา และไม่กล้าใส่พละกำลังเข้าไปมากนัก ส่วนนี้น่าจะอ้างอิงจากวิธีการของนักปรุงยาหลินมู่ [มือพันด้ายน้ำแข็ง]”
“เมื่อคุณใส่หญ้าออสมุนด์และดอกเมนสีขาวเข้าไป เพื่อไม่ให้คุณสมบัติของทั้งสองสิ่งปะทะกัน คุณตั้งใจวนมันรอบหม้อต้มยาสองรอบก่อนจะโยนลงไป ด้วยวิธีการนี้ ไม่เพียงแต่คุณสมบัติทางยาจะแสดงออกได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ไม่สูญเสียฤทธิ์รุนแรงตามธรรมชาติของมันอีกด้วย เพราะฤทธิ์ของพวกมันจะไม่ตีกัน ในส่วนนี้ วิธีการของนักปรุงยาจินเฉิง [เมฆเหินใบไม้ไหวสีทอง] น่าจะเป็นตัวอ้างอิงของคุณ”
“ตอนที่กำลังปรุงยา เพื่อป้องกันไม่ให้ยาสัมผัสกับหม้อที่กำลังร้อนจัด คุณใช้พลังปราณสร้างช่องว่างของอากาศด้วยสองมือ แม้การเคลื่อนไหวของคุณจะไม่เป็นที่สังเกต แต่ถ้าจับตาดูก็จะรู้ นักปรุงยาตู้หม่านครับ… นี่ดูเหมือนวิธี [สอดประสานร้อยกระบวนท่า] ของคุณไหม?
จางเซวียนไม่เปิดโอกาสให้ใครแย้ง เขาหยุดชั่วขณะแล้วยิ้มกว้าง “ถ้า…นักปรุงยาเฉิงคิดว่าที่ผมพูดนั้นเหลวไหล ผลึกบันทึกก็ได้บันทึกทุกอย่างไว้แล้ว เราจะกลับไปดูเมื่อไหร่ก็ได้ จะได้เห็นว่าผมไม่ได้พูดเหลวไหล!”
“แก…”
เฉิงเจียงหน้าซีด ร่างสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ เขารู้ว่าที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็นความจริงทั้งหมด!
นักปรุงยามีโรงเรียนและผู้สืบทอดวิชาของตัวเอง เพื่อจะอัพเกรดวิชาแบบด่วนๆ เขาตระเวนฉกฉวยเทคนิคของคนเหล่านั้น แต่ก็คิดว่าได้ทำอย่างลับๆแล้วนี่…แล้วหมอนี่รู้ได้อย่างไร?”
ยิ่งไปกว่านั้น รู้หมดจดจากหัวยันหางเลย!
ในพริบตานั้น เขารู้สึกเหมือนกำลังยืนแก้ผ้าต่อหน้าทุกคน ความกลัวแผ่ซ่านขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ว่าอย่างไร ยังคิดว่าผมพูดจาเหลวไหลอีกไหม?” จางเซวียนไม่สนใจหน้าซีดระดับสิบของอีกฝ่าย เขาก้าวออกมา “ถ้าคุณคิดว่าที่ผมพูดมายังมีข้อผิดพลาด…วิธีการปรุงยาที่คุณ ‘คิดค้นขึ้นเอง’ ด้วยการไปฉกเอาวิชาของคนอื่นมาเนี่ย ควรจะเรียกว่า ‘การบรรจบกันของแม่น้ำหมื่นสาย’ ดีไหม?”
“แกเป็นปีศาจ…” นักปรุงยาเฉิงเจียงโงนเงนและทรุดฮวบลงกับพื้น
ชื่อที่เขาคิดไว้ก็คือชื่อนั้นจริงๆ [การบรรจบกันของแม่น้ำหมื่นสาย]!
เขาเพิ่งตั้งชื่อนี้ได้แค่สองสามวันและยังไม่ได้บอกใคร แม้แต่ลูกมือของเขาก็ไม่รู้ แล้ว…หมอนี่เป็นคนนอก รู้ได้ไง?
มองทะลุปรุโปร่งทุกเรื่อง ทุกรายละเอียด ที่เขาไปฉกเคล็ดวิชาของใครต่อใครมาก็ไม่เล็ดรอดสายตาไปได้…หมอนี่เป็นปีศาจรึเปล่า?
“เป็นแบบนี้ได้อย่างไร…” เฉิงเจียงสะพรึงยิ่งนัก
“การบรรจบกันของแม่น้ำหมื่นสาย-คุณใช้หลากหลายวิธีการเพื่อปรุงรวมกันเป็นแม่น้ำของคุณเอง ช่างกล้าดีอะไรอย่างนั้น มันจะต้องเป็นวิธีการปรุงยาที่น่าทึ่งแน่!”
“ขโมยเคล็ดวิชาของพวกเราไป เอาไปรวมกันแล้วทึกทักว่าคิดค้นวิธีการใหม่ได้ด้วยตัวเอง เฉิงเจียง คุณแน่ใจแล้วเหรอว่าทำได้แค่นี้!”
“ผมเห็นคุณเป็นพี่ชาย เป็นเพื่อนรัก ในเมื่อทำแบบนี้กับผม ได้เห็นดีกันแน่!”
“จากนี้ไป เราขาดกัน!”
เมื่อได้เห็นสีหน้าของเฉิงเจียงและนึกทบทวนการเคลื่อนไหวของเขาขณะปรุงยาแล้ว คงโง่เง่าสิ้นดีถ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ ใบหน้าของบรรดานักปรุงยาต่างแดงก่ำอย่างเดือดดาล สายตาโกรธเกรี้ยวจับจ้องที่เฉิงเจียง
พวกเขาไม่ได้เป็นนักปรุงยาชั้นยอด และวิธีการปรุงยาของพวกเขาก็ไม่ใช่ความลับที่ไม่ควรแพร่งพรายออกไป แต่เจ้านักปรุงยาคนนี้… ถ้าเขาแสดงความจำนงจะเรียนวิธีการปรุงยาก็ทำได้ การฉกฉวยลับหลังเช่นนี้เป็นสิ่งที่นักปรุงยาไม่ควรทำเลย!
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้านี้ยังคุยโม้โอ้อวดด้วยว่าตัวเองได้คิดค้นวิธีการใหม่ คิดค้นเหรอ หัวอย่างแกนี่นะ! เอาวิธีการของพวกเราไปต้มจับฉ่าย แล้วแกเรียกสิ่งนี้ว่าวิธีการใหม่?
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกคนก็คิดค้นวิธีการใหม่ได้ทุกวันนั่นแหละ
แล้วยังกล้าตั้งชื่อว่า การบรรจบกันของแม่น้ำหมื่นสาย…
หน้าไม่อายอะไรอย่างนั้น!
มาถึงตอนนี้ ไม่มีใครมองเจิงเฉียงในฐานะเสมอกันอีกแล้ว มีแต่ความรังเกียจเหยียดหยามในสีหน้าของพวกเขา
“ใจเย็นๆก่อน”
เห็นความโกรธเคืองของฝูงชน จางเซวียนยิ้ม เขาขัดจังหวะความชุลมุนเหล่านั้นแล้วหันไปมองเฉิงเจียงที่ยังอยู่ในสภาพเมาหมัด “นักปรุงยาเฉิงเจียง ตกลงผมชนะรึยัง?”
“แก-แก…”
เห็นรอยยิ้มของจางเซวียน เฉิงเจียงตัวสั่น “แกชนะ…ฉันยอมแพ้!”
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับความพ่ายแพ้ ความสามารถในการมองทะลุของอีกฝ่ายนั้นราวกับภูตผีปีศาจ เขากลัวว่าถ้าขืนดันทุรังต่อไป จะต้องถูกเปิดโปงความลับมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นก็ทำได้แค่ก้มหัว
มาถึงตอนนี้ เขาเสียใจนักที่ตั้งใจทำเรื่องให้ยาก ขนาดอีกฝ่ายชี้ข้อบกพร่องของเมิ่งเหยียนและเฉินเสี่ยวไปแล้ว เขาก็ยังกล้า นี่เท่ากับวิ่งเข้าไปให้คนอื่นตบหน้าอย่างจัง เปิดโปงความลับดำมืดของตัวเองต่อธารกำนัล…
ทำนายได้เลยว่าเมื่อเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เขาจะกระเด็นจากตำแหน่งของตัวเองในสมาคมนักปรุงยาของอาณาจักรเทียนเซวียนแน่ ใครต่อใครคงหลบหน้าและพากันดูถูกเขา
ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงทั้งหมดที่สั่งสมมานานปีจะพังพินาศ ทุกคนจะต้องเห็นเขาเป็นวายร้าย
จางเซวียนยิ้มให้กับการศิโรราบของเฉิงเจียง
อันที่จริงเขาไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครในที่นี้ ไม่เคยข้องเกี่ยวกับความด่างพร้อยของใคร แต่หมอนี่พยายามเอาดีเข้าตัวด้วยการต้อนเขาให้จนมุม!
‘อยากดูหมิ่นเรานักใช่ไหม? เข้ามา!’
‘ในฐานะนักทะลุมิติที่มีแหวนทองคำในมือ ฉันจะปล่อยให้แกเหยียดหยามเช่นนี้ได้อย่างไร?’
‘ในเมื่อแกตัดสินใจดับเครื่องชน ก็อย่าโทษฉันที่เล่นใหญ่ ฉันแค่อยากใช้แกเป็นเครื่องเตือนใจคนอื่นๆ ว่าฉัน…จางเซวียน…ไม่ได้มาเล่นๆ!”
“นักปรุงยาเฉิงเจียงยอมแพ้แล้ว!”
จางเซวียนมองไปรอบๆ “มีใครอีกไหม?” ทั้งห้องเงียบกริบในพริบตา