ตอนที่ 163 : หลากหลายปัจจัย
อะไรนะ…?
ไคลน์ตกตะลึงกับคำถามโรแซน มันพยายามเรียบเรียงเรื่องราวอธิบาย
“เมื่อราวเดือนก่อน ลุงนีลล์ได้พาผมไปเยี่ยมบ้าน ภายในห้องรับแขกมีเปียโนหลังใหญ่วางอยู่ เขาชี้และพูดว่า ภรรยาผู้ล่วงลับของตนหลงรักในเสียงดนตรีมาก…”
ขณะกำลังเล่า ไคลน์พลันฉุกคิดถึงประเด็นไม่น่าอภิรมย์
โรแซนขมวดคิ้วอันน่ารักน่าชังพลางพูดตะกุกตะกัก
“บางทีฉันอาจจำผิด…ไม่สิ ไม่ผิดแน่นอน ตอนนั้นมาดามโอเรียนน่าก็อยู่ด้วย พวกเราไปเยี่ยมบ้านของลุงนีลล์เมื่อราวครึ่งปีก่อน ไม่มีเปียโนวางอยู่ในห้องรับแขก…ฉันจำได้แม่นว่าเคยถามเขา ถึงสาเหตุว่าทำไมต้องครองโสดตามลำพังโดยไม่แต่งงาน ลุงนีลล์ตอบว่าเขาจะแต่งงานก็ต่อเมื่อได้พบหญิงสาวในอุดมคติเท่านั้น”
ไม่มีเปียโนในช่วงครึ่งปีก่อน…? แถมยังตอบคำถามว่าทำไมตัวเองถึงครองโสด…
ไคลน์ขมวดคิ้วจนแทบชนกัน มันเค้นเสียงทุ้มต่ำถามอีกฝ่าย
“โรแซน พวกคุณไปเยี่ยมลุงนีลล์ครั้งสุดท้ายเมื่อไร…?”
“ไม่ได้ไปนับตั้งแต่โคเฮนรี่กลายเป็นสมาชิกเหยี่ยวราตรี และวิโอล่าลาออกจากพนักงานพลเรือน ฉันไม่ได้อดหลับอดหนอนหรือสูดน้ำมันสกัดรัตติกาลเข้าไปสักหน่อย จะเอาเวลาตอนไหนไปเยี่ยมเยียนลุงนีลล์ได้บ่อยนัก…ครั้งสุดท้ายคงเป็นช่วงมิถุนายน”
โรแซนสับสนน้อยหลังจากได้ยินคำถาม แต่ก็ยอมตอบด้วยดี
หัวใจไคลน์พลันดิ่งวูบเมื่อตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากล
ชายหนุ่มรีบหยิบเหรียญทองแดงครึ่งเพนนีออกมาถือโดยใช้นิ้วโป้งและนิ้วกลางหนีบไว้
มันกลั้นหายใจพร้อมกับหลับตาลง ปากพึมพำประโยคนายซึ่งถูกคิดฉุกละหุก
“สถานการณ์ปัจจุบันของลุงนีลล์มีปัญหา”
“สถานการณ์ปัจจุบันของลุงนีลล์มีปัญหา”
…
สีนัยน์ตาดำของไคลน์ทวีความเข้มอย่างรวดเร็วขณะเพ่งจิตเข้าฌาน
กริ๊ง!
มันดีดนิ้วโป้งเพื่อส่งเหรียญทองแดงลอยหมุนในอากาศหลายตลบ
แปะ!
เหรียญร่วงกระทบกับฝ่ามือเปลือยเปล่า
ปรากฏพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์จอร์จลำดับสามในลักษณะหงายขึ้น
ผลทำนายตรงตามประโยค…มีบางสิ่งผิดปรกติเกิดขึ้นกับลุงนีลล์!
ขณะมันใช้มือกำเหรียญแน่น ไคลน์พลันย้อนนึกถึงวันแรกของกลายเป็นผู้วิเศษ
ในช่วงทดสอบใช้เนตรวิญญาณ มันบังเอิญเห็นดวงตามายาไร้สีกำลังจ้องมองนีลล์ด้วยสายตาอำมหิตด้านหลัง
นีลล์เล่าว่า ดวงตาดังกล่าวเกิดจากการประกอบพิธีกรรมบ่อยครั้ง ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติสำหรับผู้วิเศษ
ไม่ใช่แค่นั้น ภายในเหตุการณ์ดังกล่าว ตนยังได้พบกับเงาลางของมนุษย์ซึ่งรูปร่างไม่ชัดเจนปรากฏตัวแถวประตูห้องลับ…
รวมถึงเมื่อครั้งย่อยโอสถนักทำนายสมบูรณ์ ขณะเปลี่ยนวิธีเปิดเนตรวิญญาณเป็นการกระทบกรามซ้าย ลุงนีลล์พลันไออย่างรุนแรงเมื่อตนหันไปจ้องมอง
ฉากแล้วฉากเล่าจากอดีตย้อนปรากฏในห้วงความคิดจนชายหนุ่มแสดงสีหน้าดำมืด
โรแซนยืนมองด้วยท่าทีสั่นกลัว
“ลุงนีลล์คลุ้มคลั่งหรือ…? ไม่มีทาง ถึงเขาจะขี้งกและพยายามเบิกค่าใช้จ่ายทุกชนิด แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนดีและใจเย็นมาก ไม่มีทางคลุ้มคลั่งแน่…ไม่ทาง”
“ผมก็ไม่แน่ใจ…แต่หลากหลายปัจจัยบ่งชี้ว่าเขาใกล้คลุ้มคลั่งเต็มทีแล้ว”
ไคลน์พูดให้ความหวังโรแซน ก่อนจะเดินผ่านฉากกั้นไปเปิดประตูห้องทำงานหัวหน้า
ดันน์·สมิทถูกรบกวนฉับพลันโดยไม่มีการส่งสัญญาณเตือน มันแทบพ่นกาแฟใส่โต๊ะทำงาน
“เกิดอะไรขึ้น…?” ดันน์มิได้ตำหนิไคลน์
เพียงแสดงสีหน้าขึงขังคล้ายกับตระหนักถึงความไม่ปรกติ
ชายหนุ่มตอบซื่อตรงโดยไม่ปิดบัง
“หัวหน้า…ผลการทำนายของผมระบุว่าสถานการณ์ของลุงนีลล์ไม่ปรกติ เมื่อเดือนก่อน ผมไปเยี่ยมบ้านลุงนีลล์ เขาบอกว่าภรรยาผู้ล่วงลับของตนหลงรักเสียงเพลงมาก แต่โรแซนกลับบอกว่าลุงนีลล์ไม่เคยแต่งงาน ย้อนกลับไปสมัยผมดื่มโอสถนักทำนาย ขณะฝึกเนตรวิญญาณ ผมมองเห็นดวงตามายาไร้สีปรากฏด้านหลังลุงนีลล์ แถมยังมีมนุษย์เกือบล่องหนยืนตรงประตู เขาเพียงอธิบายว่าสิ่งเหล่านี้คือผลพวงจากพิธีกรรม หลายปัจจัยไม่ปรกติทำให้ผมต้องทำนายหาสถานการณ์ปัจจุบันของลุงนีลล์”
เมื่อฟังจบ ดันน์ลุกยืนโดยไม่มีรอ
ขณะเดินไปยังราวแขนเสื้อโค้ต มันหันมาถามด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
“แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำนายว่า ลุงนีลล์ประสบภาวะคลุ้มคลั่งหรือไม่…?”
“ตลอดเดือนผ่านมา ลุงนีลล์ทำตัวเหมือนกับผู้วิเศษปรกติทุกประการ แถมยังเคยร่วมมือกับผมปราบผู้คลุ้มคลั่งซึ่งเป็นลูกน้องบอสสเวย์น ผมคอยสังเกตสีออร่าเป็นครั้งคราว และพบว่าไม่ผิดไปจากปรกติมากนัก มีเพียงสัญญาณความแก่ชราเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของผู้สูงอายุ สรุปคือ ผมเชื่อว่าลุงนีลล์ยังไม่คลุ้มคลั่งเต็มตัว แต่อาจใกล้มากแล้ว ดังนั้นการทำนายเจาะจงว่าคลุ้มคลั่งหรือไม่ ผลคงออกมาเป็นเชิงปฏิเสธ”
ไคลน์พรั่งพรูอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดภายในหนึ่งลมหายใจ
ดันน์รีบสวมหมวกดำและเสื้อกันลมตัวเก่ง ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ชายหนุ่ม
“สันนิษฐานได้สมเหตุสมผล…พวกเรารีบไปเยี่ยมลุงนีลล์กัน แล้วก็…ไม่ควรทำให้เขาตื่นตกใจจนเกินไป จากนั้น พวกเราต้องพยายามควบคุมเขาให้ไม่อาละวาด บางทีพิธีกรรมเวทมนตร์อาจช่วยยับยั้งไม่ให้อาการไม่แย่ลงจากเดิม”
ควบคุม…ไคลน์พลันผุดไอเดีย
“หัวหน้า พวกเราใช้ 3-0611 ได้ไหม?”
ก่อนหน้านี้ ไคลน์กำลังกระวนกระวายและสับสน ส่งผลให้ประมวลผลได้ไม่ถี่ถ้วน คิดเพียงหาวิธีช่วยนีลล์ให้รอดจากสถานการณ์เลวร้าย แต่คำพูดของดันน์ช่วยกระตุกให้ฉุกคิดไปถึงสมบัติวิเศษ
เมื่อสมองโปร่งก็พบทางออกทันที
หมายเลข : 0611
ชื่อ : เส้นผมสุขสงบ
ระดับอันตราย : 3 ค่อนข้างอันตราย ต้องใช้อย่างระมัดระวัง สามารถเบิกได้ก็ต่อเมื่อมีเหยี่ยวราตรีร่วมปฏิบัติการสามคนขึ้นไป
ระดับการเข้าถึง : สมาชิกเหยี่ยวราตรี
วิธีการผนึก : ห้ามสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตโดยตรง
คำอธิบาย :
– เส้นผมสีดำจำนวนมากถูกมัดเป็นเกลียว
– เมื่อสัมผัสเข้ากับสิ่งมีชีวิต เป้าหมายจะสูญเสียอารมณ์และความปรารถนาทั้งหมดไป ประกอบด้วยความรู้สึกเหล่านี้ ความหิว ความโกรธ ความเศร้า ความเจ็บปวด ความริษยา ความหึงหวง ความเกลียดชัง ความปีติ ความพึงพอใจ ความโลภ ฯลฯ
– ได้รับการยืนยันแล้วว่า หากสิ่งมีชีวิตใดสัมผัสเข้ากับพลังของ 0611 เป้าหมายจะเฉื่อยชาและไม่คิดสลัดมันให้พ้นตัว อยู่ในสภาพแน่นิ่งเช่นนั้นจนจบชีวิตลงเนื่องจากขาดอาหารนานเกินไป
– หากมีบุคคลภายนอกช่วยดึงออก เป้าหมายจะฟื้นฟูอารมณ์กลับมาได้ในภายหลัง แต่นั่นต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า เป้าหมายสัมผัสกับ 0611 ยังไม่ถึงสองชั่วโมง
– หากเกินกว่าสองชั่วโมง เป้าหมายจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไร้อารมณ์ตลอดกาล
ลำดับผู้วิเศษร่วมทดสอบสูงสุด : 5
– สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงได้หลายวิธี เช่นสวมถุงมือ
– ไม่ปรากฏสัญญาณชีพในมัดเส้นผม และไม่พบความพยายามการดิ้นรนให้หลุดจากผนึก
ภาคผนวก : เส้นผมซึ่งเกิดจากการเลื่อนลำดับล้มเหลว ขณะหัวหน้าหน่วยเหยี่ยวราตรีผู้หนึ่งเลื่อนเป็นลำดับหกไม่สำเร็จ
ดันน์นัยน์ตาเทาผงกศีรษะเห็นพ้อง
“แนะนำได้ดี…ผมเกือบลืมไปแล้วว่าพวกเรามี 3-0611 อยู่ด้วย คุณไปตามรอยัลในห้องนันทนาการ เดี๋ยวผมจะลงไปเบิก 3-0611 เรื่องใบเบิกค่อยกลับมาจัดการภายหลัง”
มัวเสียเวลาไม่ได้แล้วสินะ…
ไคลน์ไม่ยืดยาด มันเดินตรงไปยังห้องนันทนาการและส่งเสียงเรียกผู้ไร้หลับรอยัล
“ภารกิจคือ?” เธอถามไร้อารมณ์
ไคลน์สูดลมหายใจก่อนเริ่มอธิบายด้วยสีหน้าขึงขัง
“เยี่ยมลุงนีลล์”
“เยี่ยมลุงนีลล์? หรือว่าเขา…”
ดวงตารอยัลพลันเบิกโพลง เธอสามารถตระหนักถึงลางร้ายได้จากประโยคสั้นๆ ของไคลน์
“ยังไม่แน่ชัด” ไคลน์ส่ายศีรษะ
รอยัลไม่กล่าวสิ่งใดต่อ คนทั้งสองรวมทีมกันด้วยบรรยากาศอึมครึม
ผ่านไปสามนาที ดันน์·สมิทกลับขึ้นมาจากห้องใต้ดิน ฝ่ามือสองข้างสวมถุงมือหนังสีดำปกปิดมิดชิด ข้างหนึ่งกำลังถือมัดเกลียวเส้นผมดำสนิท
เมื่อเทียบกับตราศักดิ์สิทธิ์แห่งสุริยันแล้ว เส้นผมตรงหน้าไม่มีปรากฏความพิเศษแม้แต่น้อย หากโยนไว้พบพื้นถนน ผู้คนคงเดินผ่านไปมาและเหยียบย่ำโดยไม่คิดมาก
ดันน์เรียกใช้งานซีซาร์ให้ช่วยขับรถม้า ทั้งสี่คนเริ่มออกเดินทางไปยังบ้านนีลล์โดยไม่รีรอ
ล้อรถม้ากลิ้งไปบนถนนจนเกิดเสียงกุกกักตลอดทาง แต่ภายในห้องโดยสารกลับเงียบงันยิ่งกว่าป่าช้ายามค่ำคืน
ไม่มีใครทราบว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่งดันน์เป็นฝ่ายเริ่มถอนหายใจ
“ในอดีต ลุงนีลล์เคยมีคู่ชีวิตคนหนึ่ง ทั้งสองกำลังจะหมั้นหมายกัน แต่เธอเกิดล้มป่วยหนักอย่างกะทันหัน…ลุงนีลล์พยายามใช้พิธีกรรมช่วยเหลือเธออย่างสุดความสามารถ ถึงขั้นเกือบเปิดเผยความลับของเหยี่ยวราตรี แต่พิธีกรรมก็ล้มเหลว… ลุงนีลล์ในตอนนั้นเพิ่งเป็นผู้วิเศษได้ไม่นาน”
“จากบันทึกของเหยี่ยวราตรี ทุกคนกลัวว่าลุงนีลล์จะคลุ้มคลั่งเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เขากลับหายเป็นปรกติในภายหลัง และไม่เผยอาการแปลกปลอมออกมาอีกเลย”
ขอให้เราคิดไปเองคนเดียว… ขอให้คิดผิด!
ไคลน์สวดภาวนาอย่างสิ้นหวัง ทำได้เพียงวาดจันทร์แดงกลางหน้าอกพร้อมกับอธิษฐาน
“ขอให้เทพธิดาคุ้มครองเขา”
ดันน์และรอยัลทำตามพร้อมกัน
“ขอให้เทพธิดาคุ้มครองเขา”
…
ท้องฟ้าเริ่มสว่างเมื่อเมฆดำเคลื่อนคล้อย กลุ่มเหยี่ยวราตรีเดินทางมาถึงหน้าบ้านเดี่ยวของลุงนีลล์
หลังจากบอกให้ซีซาร์ขับรถม้าไปจอดยังจุดห่างไกล ดันน์สำรวจตัวเองเป็นหนสุดท้าย ก่อนจะเดินตรงไปทางประตูรั้วโดยถือไม้ค้ำในมือซ้ายและ 3-0611 ในมือขวา
ไคลน์ใช้มือขวากดหมวกพลางก้มหน้า มันและรอยัลเดินตามหลังดันน์ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ สองข้างทางมุมสายตาเป็นแปลงมินต์ทองอร่าม
เมื่อหยุดยืนหน้าประตูบ้าน ไคลน์ก้าวขาออกไปและใช้มือกระตุกเชือกกระดิ่งบ้าน
แกร๊ง!
เสียงระฆังดังกังวานทำลายความเงียบงัน
แกร๊ง! แกร๊ง!
ไคลน์ดึงซ้ำอีกสองครั้งก่อนจะถอยกลับมายืนรอด้วยมาดสุขุม
สามเหยี่ยวราตรียืนรอหน้าประตูสักพัก แต่ก็ไม่มีเสียงฝีเท้าใดวิ่งออกมาต้อนรับ
“ลุงนีลล์อาจไปพบแพทย์ จึงไม่อยู่บ้าน…”
ไคลน์ฝืนยิ้มแห้ง
ยังไม่ทันจบประโยค เปียโนภายในบ้านพลันบรรเลงเพลงเศร้าดังแว่วลอยตามสายลม มอบบรรยากาศคล้ายทะเลสาบเงียบสงบปกคลุมด้วยหมอกจางใต้แสงจันทร์
สีหน้าดันน์พลันบิดเบี้ยว
ด้านไคลน์หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
ขณะชายหนุ่มกำลังจะทำนายหาความเป็นไปได้ของนีลล์ สายตาเหลือบเห็นของเหลวปริศนาไหลออกจากช่องว่างใต้ประตู
ในตอนแรก ของเหลวมีสีใสบริสุทธิ์ แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ มันถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดงฉานเหมือนกับ…
เลือด…เลือดมนุษย์เข้มข้น
……………………