Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 164

Lord of the Mysteries 164

ตอนที่ 164 : สิ่งมีชีวิตน่าสงสาร

สีเลือดสดส่องสะท้อนในดวงตาไคลน์ขณะทุกคนกำลังก้มหน้าจ้องมองของเหลวปริศนา

ทันใดนั้น เสียงไอกระแอมของนีลล์ดังจากด้านในพร้อมกับประโยคคำถาม

“ดันน์…เจ้ามาทำอะไร?”

นัยน์ตาสีเทาลุ่มลึกของดันน์สงบลง มันตอบกลับอีกฝ่ายด้วยเสียงนุ่มนวล

“ได้ยินว่าคุณไม่สบาย พวกเราจึงแวะมาเยี่ยมไข้”

เกิดความเงียบงันขึ้นภายในบ้านสักพัก แต่ไม่กี่วินาทีถัดมา นีลล์แผดเสียงคำรามใส่

“ไม่จริง! เจ้ากำลังโกหก!”

โดยไม่เปิดโอกาสให้ไคลน์และคนอื่นพูด เสียงจากด้านในเริ่มอ่อนโยน

“ฉันรู้ว่าสภาพของตัวเองไม่ปรกติ…”

ลุงนีลล์…

ไคลน์หลับตาลง ขณะเดียวกัน ของเหลวสีแดงยังคงไหลซึมออกจากช่องประตูไม่หยุด

นีลล์ขึ้นเสียงอีกครั้ง

“ตลอดเวลา… ฉันไม่เคยสร้างความเสียหายให้ใคร และไม่เคยคิดทำร้ายใครสักครั้ง! ไม่เคยแม้กระทั่งเปิดเผยความลับของเหยี่ยวราตรี…อย่างมากสุดก็เพียงเบิกค่าใช้จ่ายบ่อยกว่าคนอื่น แต่ไม่เคยก่อเรื่องชั่วร้าย!”

“ไคลน์!” มันตะโกน

“หลักปฏิบัติของผู้ส่องความลับ…จงทำตามใจ แต่ต้องไม่เดือดร้อนใคร ฉันประพฤติตามอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ฉันเลือกอดทนอย่างเจ็บปวด ดีกว่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำและทำร้ายผู้อื่น…”

เมื่อพูดจบ นีลล์ขอร้องด้วยเสียงสั่นเครือ

“ดันน์ รอยัล ไคลน์ ได้โปรดกลับไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปทำงานตามปรกติอีกครั้ง ขอสาบานต่อหน้าเทพธิดา ฉันจะกลับเป็นปรกติและไม่ทำร้ายใคร…ฉันพูดความจริง!”

ดันน์หลับตาลงซักถามเสียงอ่อนโยน

“คุณวางแผนอะไรอยู่ ตลอดเวลาผ่านมา คุณคิดจะทำอะไร?”

“ฉันหรือ?” นีลล์ย้อนถามเสียงสับสน

ก่อนจะตอบกลับอย่างมีความหวัง

“ฉันพยายามชุบชีวิตเซเลสต์ขึ้นมาใหม่ ตอนนี้พบวิธีแล้ว และกำลังเดินมาถูกทาง! เจ้าคงเคยได้ยินมาบ้าง สมัยอดีต ฉันเคยพยายามใช้พิธีกรรมรักษาอาการป่วยของเธอ แต่มันล้มเหลว ฉันช่วยชีวิตเธอไม่ได้ นั่นเป็นเพราะความรู้เกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับยังมีไม่มากพอ แต่ปัจจุบัน ฉันมีทั้งประสบการณ์และความรู้ ผลลัพธ์ต้องสำเร็จแน่! …มันคงง่ายกว่านี้หากฉันตระหนักถึงตัวอย่างจากดาลี่ย์และหลักปฏิบัติของผู้ส่องความลับได้ตั้งแต่ยังหนุ่ม การเป็นผู้วิเศษขั้นสูงจะทำให้พิธีกรรมลุล่วงไปด้วยดี…”

ขณะเล่า เสียงนีลล์เจือความเศร้า

“ฉันถอยไม่ได้อีกแล้ว…ได้โปรดดันน์ วันนี้พวกนายกลับไปก่อน ฉันขอร้อง”

ไคลน์ขบกรามแน่นด้วยสีหน้าเจ็บปวด ส่วนดันน์·สมิทเปิดปากถาม น้ำเสียงเจือปนอารมณ์หลากหลาย

“คุณคิดจะชุบชีวิตเซเลสต์ด้วยวิธีใด?”

นีลล์ตอบอย่างตื่นเต้น

“ฉันจะใช้เทคนิค ‘เสริมแกร่งชีวิต’ เพื่อสร้างกายอมตะให้เธอ…ดันน์ นายอาจไม่ทราบ แต่ผู้วิเศษลำดับสี่ ของโบสถ์พระแม่ธรณีเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาก รวมถึงผู้วิเศษเส้นทางนักปราชญ์ซึ่งมีพลังคล้ายคลึงกัน ใช่แล้ว…พิธีกรรมของฉันจะสำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์! จากนั้น ฉันจะอัญเชิญดวงวิญญาณของเธอจากโลกวิญญาณและสวดภาวนาให้พระองค์ช่วยประสานวิญญาณและกายาเข้าด้วยกัน! ฟังดูยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหม”

มุมปากดันน์พลันกระตุก มันฝืนตอบ

“ใช่…มันยอดเยี่ยมมาก… ดังนั้นนีลล์ ช่วยเปิดประตูให้พวกเราเข้าไปข้างในก่อน เผื่อจะมีอะไรช่วยเหลือคุณได้บ้าง”

“…ดันน์ ยังไม่ยอมปล่อยฉันไปอีกหรือ”

นีลล์ขอร้องอ้อนวอน

“ได้โปรดกลับไป…พรุ่งนี้ฉันจะหายเป็นปรกติ ขอสัญญา! ดันน์ ฉันสาบานว่าจะไม่ขโมยเมล็ดกาแฟของนาย ไคลน์ รอยัล ฉันสัญญาว่าจะไม่รบกวนพวกนายอีก!”

ขณะดวงตาของดันน์และรอยัลเริ่มพร่ามัว ดันน์ก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนเงยขึ้น

“ลุงนีลล์ คุณกำลังเข้าใจผิด เรามาเยี่ยมบ้านคุณเพราะเป็นห่วงจากใจ เมื่อเพื่อนร่วมงานป่วยไข้ไม่สบาย ก็ต้องมาเยี่ยมไข้ไม่ใช่หรือ ได้โปรดเปิดประตูให้เราเข้าไปด้านใน หากคุณไม่เป็นอะไรจริง พวกเราสามคนจะรีบกลับทันที คุณคงทราบดีแล้ว เหยี่ยวราตรีมีงานยุ่งมากในช่วงหลัง ไหนจะต้องผลัดเวรจับตามองโรงพยาบาลจิตเวช”

นีลล์ลังเลเล็กน้อย

“สภาพของฉันไม่ได้ร้ายแรงเลยสักนิด พรุ่งนี้ก็จะหายเป็นปรกติแล้ว”

ของเหลวสีแดงคล้ายโลหิตเริ่มไหลซึมไปไกลถึงทางเดินและแปลงสมุนไพร

“ลุงนีลล์ พวกเรารู้จักกันมานานกว่าสิบห้าปีแล้วใช่ไหม ผ่านภารกิจด้วยกันมากมาย ผมเป็นห่วงคุณจากใจจริง…ได้โปรดให้ผมเห็นสภาพปัจจุบันด้วยตาตัวเองก่อน ถึงจะกล้ากลับไปอย่างหมดห่วง”

ดันน์พูดอย่างนุ่มนวล

“…ก็ได้” นีลล์ยอมถอย

“สภาพของฉันไม่ได้ร้ายแรงสักหน่อย”

แอ๊ด… เสียงประตูไม้ถูกเปิดออก

ไคลน์รีบเช็ดน้ำตาเพื่อจะได้ไม่พลาดรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อย

และภาพแรกในการมองเห็นคือ…

พรมเช็ดเท้าขนาดใหญ่ในห้องรับแขกกำลังชุ่มฉ่ำด้วยของเหลวสีแดงสด ลักษณะเหนียวข้นและมีเศษเส้นผมปะปนจำนวนมาก

ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นมองและพบว่า ผนังและเพดานห้องนั่งเล่นทั้งหมด รวมถึงเปียโนหลังใหญ่ ล้วนถูกของเหลวเหนียวชนิดนี้ปกคลุมถ้วนทั่วด้วยบรรยากาศน่าขยะแขยง

ศีรษะนีลล์ลอยอยู่ใจกลางบ้านโดยเชื่อมกับของเหลวซึ่งไหลลงจากเพดาน สองข้างแก้มรวมถึงหน้าผาก ปรากฏเนตรปริศนาไร้ขนตาจำนวนสี่ดวงเหมือนกับในความทรงจำไคลน์

เปียโนหลังใหญ่กำลังบรรเลงเพลงโดยไม่มีใครควบคุม ภาพคีย์บอร์ดยุบพองด้วยตัวเองได้ทำให้ไคลน์เย็นเฉียบไปถึงกระดูกสันหลัง

“เห็นไหมดันน์…ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก”

นีลล์กล่าวพลางฉีกยิ้มสดใส

“รอยัล ไคลน์ พวกเจ้าก็กำลังคิดแบบเดียวกันใช่ไหม?”

ขณะนีลล์พะงาบปาก ไคลน์เหลือบเห็นของเหลวสีแดงลักษณะเดียวกันอยู่ข้างใน

“ลุงนีลล์ คุณเรียนเทคนิคเสริมแกร่งชีวิตและศาสตร์การคืนชีพมาจากไหน”

นีลล์อธิบายอย่างตื่นเต้น

“ฉันได้ยิน…เป็นเสียงจากในหัว มันคือของขวัญจากพระองค์! ท่านคอยอธิบายทุกขั้นตอนอย่างละเอียด พระองค์มีนามว่า…”

นีลล์พลันชะงัก เว้นวรรคไปนานกว่าสิบวินาทีก่อนจะเล่าต่อ

“พระองค์มีนามว่า…ปราชญ์เร้นลับ”

ปราชญ์เร้นลับ…? นั่นคือชื่อเทพนามธรรมนอกรีตของนิกายมอสส์ไม่ใช่หรือ?

ข่าวลือสุดท้ายเกี่ยวกับปราชญ์เร้นลับคือ มันคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งและสร้างความเสื่อมทรามไปทั่วโลก…

นิกายมอสส์ถือครองเส้นทางสมบูรณ์ของผู้ส่องความลับ…

หัวสมองไคลน์รีบประมวลผลด่วนจี๋

ขณะเอ่ยนาม ‘ปราชญ์เร้นลับ’ คล้ายกับลุงนีลล์เพิ่งได้สติกลับมา มันรีบมองไปรอบตัวด้วยสายตาเหม่อลอย

ท่ามกลางความเงียบงันอันอึดอัดไร้คำบรรยาย ดวงตาทั้งหกของนีลล์จ้องมองดันน์ด้วยสีหน้าขื่นขม

“…ดูเหมือนฉันจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วสินะ”

โดยไม่เปิดโอกาสให้ดันน์และคนอื่นได้พูด นีลล์ฉีกยิ้มเจืออารมณ์หลากหลาย มีทั้งหวาดกลัว หวาดผวา และขี้ขลาด

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ…ฉันจะรีบหนีเข้าไปอยู่ในหุบเขาลึกปราศจากผู้คน จะไม่ทำร้ายมนุษย์ ขอให้ฉันได้ทดสอบพิธีกรรมชุบชีวิตเซเลสต์อีกสักครั้ง ถือว่าเป็นคำขอร้องสุดท้าย”

ทันใดนั้น ไคลน์รู้สึกเหมือนกับภาพการมองเห็นตรงหน้าแตกละเอียดคล้ายเศษกระจก

ในเวลาเดียวกัน สี่เนตรอำมหิตไร้ขนตาพลันจ้องมองดันน์·สมิทอย่างอาฆาตแค้น

“เจ้าพยายามดึงฉันเข้าสู่ความฝัน! เปล่าประโยชน์! เนตรของฉันสามารถมองทะลุได้ทุกสิ่ง!”

เลือดเหนียวซึ่งปกคลุมผนัง พื้น และเพดาน เริ่มซัดโถมเข้าใส่สามเหยี่ยวราตรีหน้าประตูคล้ายปากอสูรยักษ์กำลังเขมือบเหยื่อ

ในสายตาไคลน์ ศีรษะนีลล์เริ่มพร่ามัวประหนึ่งภาพมายาซ้อนทับ

ชายหนุ่มไม่ได้คลำหาปืนพก มือของมันรีบล้วงกระเป๋าเสื้อไปตรงช่องยันต์หลับใหล

แต่ยังไม่ทำกระทำสิ่งใด เหตุการณ์ตรงหน้าพลันชะงักงันและสงบนิ่ง ของเหลวเหนียวข้นสีแดงเข้าสู่ภาวะเฉื่อยชาประหนึ่งผิวทะเลสาบราบเรียบ

ไม่มีใครทราบได้ว่า ดันน์แอบโยน 3-0611 เข้าไปในกองเลือดของนีลล์ตั้งแต่ตอนไหน

เนตรไร้ขนตาสี่ข้างบนใบหน้านีลล์เริ่มปิดตัวลงทีละนิด คล้ายกับไร้ความปรารถนาจะเปิดค้างไว้

หากสิ่งมีชีวิตเป้าหมายสัมผัสกับ 3-0611 โดยตรง มันจะสูญเสียอารมณ์และแจงจูงใจทั้งหมด ก่อนจะจบชีวิตลงในสภาพสงบนิ่ง

ดันน์ ไคลน์ และรอยัลชักปืนออกมาพร้อมกัน พวกมันเดินตรงไปใกล้กับศีรษะนีลล์

ขณะเดียวกัน ชายชรากำลังเผยสีหน้าหวาดผวาสุดขีด มันหวังดิ้นรนให้พ้นจากการครอบงำอันรุนแรงจาก 3-0611

เนตรลึกลับสี่ข้างจางหายไปโดยสมบูรณ์ เหลือเพียงรอยย่นมุมปากและใต้ดวงตา เส้นผมสีขาวโพลน นัยน์ตาแดงแฝงความขุ่นมัวคล้ายกับเมื่อครั้งพบไคลน์วันแรก

“ดันน์…ฉันเคยช่วยชีวิตเจ้า ยังจำได้ไหม”

“รอยัล ฉันเคยช่วยครอบครัวของเจ้าจนกลับมาใช้ชีวิตได้ปรกติ…”

“ไคลน์ ฉันเคยสอนศาสตร์เร้นลับทุกเช้า เคยสอนวิธีการเบิกงบจำเป็นสำหรับเหยี่ยวราตรี เคยชงกาแฟบดมือให้ดื่ม… พวกเราเคยร่วมสู้กับผู้คลุ้มคลั่งของหน่วยทูตพิพากษาด้วยกัน…ยังจำได้ไหม”

เสียงอ้อนวอนร้องขอชีวิตจากนีลล์ดังกังวานไปทั่วบ้าน มือขวาไคลน์ซึ่งกำลังถือปืนพลันสั่นระริก ชายหนุ่มพบว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงพอจะเหนี่ยวไกในวินาทีนี้

ปัง! ปัง!

กระสุนปราบมารสองนัดแหวกอากาศเจาะทะลวงศีรษะของนีลล์ในเวลาไล่เลี่ย

ไคลน์มองเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ใบหน้าซึ่งได้พบเกือบทุกเช้า กำลังเผยสีหน้าสิ้นหวังเมื่อคำอ้อนวอนไม่เป็นผล

กะโหลกศีรษะมนุษย์ถูกเจาะจนเกิดรูโหว่ พร้อมกับเลือดแดงฉานพุ่งกระเซ็นทุกทิศทาง

ของเหลวเหนียวข้นทั่วบ้านเริ่มไหลย้อนกลับเข้าหาศีรษะของชายชราอย่างเชื่องช้า

เพียงไม่นาน หัวของนีลล์ไร้วิญญาณตกกระทบพื้นพร้อมกับหยุดแน่นิ่งโดยสมบูรณ์

บรรยากาศพลันเงียบงันปราศจากสุ้มเสียง

ไคลน์จ้องมองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างไม่กะพริบตา วัตถุคล้าย ‘ศพ’ นีลล์กลายเป็นเพียงก้อนเนื้อเน่าเปื่อย เหลือทิ้งไว้แค่นัยน์ตาหนึ่งคู่ ลักษณะคล้ายผลึกคริสตัลสีแดง ท่ามกลางเศษเนื้อหนังกระจัดกระจาย

ไคลน์รู้สึกเหมือนกับเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน…

ไม่สิ…มันต้องการให้เป็นแค่ความฝัน

ชายหนุ่มไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้าคือจุดจบชีวิตคนใกล้ตัว

ขณะกำลังยืนตะลึง ไคลน์เห็นดันน์ก้าวไปหยุดข้างศพพร้อมกับคุกเข่าลงหนึ่งข้าง

หัวหน้าเหยี่ยวราตรีมองไปยัง ‘ศพ’ นีลล์พร้อมกับเปล่งเสียงพึมพำในลำคอ

“พวกเราคือผู้พิทักษ์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งมีชีวิตน่าสงสาร ต้องคอยรับมือภัยคุกคามและความบ้าคลั่งของโลกตลอดเวลา”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!