Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 298

Cover Renegade Immortal 1

298. ภาพมายา

หลังเก็บกระบี่โบราณแล้วเขาตรวจสอบมันด้วยสัมผัสวิญญาณและตื่นเต้นทันที หวังหลินสูดหายใจลึกก่อนจะเก็บกระบี่เข้าไปในกระเป๋าของตนเอง

กระเบี่เล่มนี้แข็งแกร่งทรงพลังมาก ทว่าเขาไม่คิดว่าโครงสร้างกระบี่จะคล้ายคลึงกับธงกฎเกณฑ์ไปได้ มีกฎเกณฑ์นับไม่ถ้วนวางไว้บนตัวกระบี่และทั้งหมดเป็นกฎเกณฑ์โจมตีอย่างเดียว ซึ่งทำให้กระบี่เล่มนี้ทรงพลังมากและมีประโยชน์ต่อหวังหลินทีเดียว

หวงหลินมองผ่านอย่างเผินๆและสังเกตได้ว่ากฎเกณฑ์ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน กฎเกณฑ์พวกนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่สามเนื่องจากมีทั้งหมดสามร้อยกลุ่ม

กฎเกณฑ์จำนวนมากพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่หวังหลินสามารถเรียนรู้ได้ในช่วงเวลาอันนั้น เขากำชับตนเองให้เรียนรู้พวกมันทันทีและนำเอากระเป๋าของเซียนชุดเขียวออกมา

หวังหลินตรวจสอบมันด้วยสัมผัสวิญญาณและจากนั้นใบหน้าเผยประหลาดใจอีกครั้ง

หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่เขาพลันถอนหายใจ “สังหารผู้คนในดินแดนสวรรค์เพื่อสมบัตินับว่าเป็นสิ่งล่อตาล่อใจจริงๆ”

มีเพียงของสามอย่างในกระเป๋า ชิ้นแรกเป็นหินหยก ชิ้นที่สองเป็นหม้อหวนคืนและชิ้นสุดท้ายเป็นหินวิญญาณระดับสูงหนึ่งห่อ มีหินวิญญาณระดับสูงหลายร้อยก้อนในนั้น

แม้กระทั่งด้วยความสามารถของหวังหลินจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะตื่นเต้นกับหินวิญญาณนับร้อยเบื้องหน้า เขามองสิ่งของจึงช่วยไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตนเอง

“ดูเหมือนความสามารถของข้ายังไม่ดีเพียงพอ”

ความจริงมันยากนักที่จะตำหนิหวังหลินได้เพราะหินวิญญาณระดับสูงเป็นสิ่งหายาในดาวเคราะห์ซูซาคุ อีกทั้งหินวิญญาณระดับสูงบนดาวเคราะห์ของสำนักต้าโหลวไม่ได้มีมากนักแต่สำนักต้าโหลวเป็นสำนักเก่าที่มีอายุหลายหมื่นปีดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะเก็บตุนไว้ไม่น้อย

หลังอ่านหินหยก หวังหลินเข้าใจสถานการณ์ในทันที

สำนักต้าโหลวค้นพบชิ้นส่วนดินแดนสวรรค์ทั้งหมดสามสิบเจ็ดแปดหลังจากเข้าไปได้หลายครั้งแล้ว พวกเขาวางค่ายกลเคลื่อนย้ายไว้อย่างลับๆในแต่ละแห่ง

ทว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกสร้างในดินแดนสวรรค์ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถกระตุ้นใช้งานได้โดยหินวิญญาณธรรมดา นี่จึงเป็นเหตุผลที่เซียนชุดเขียวได้พกหินวิญญาณระดับสูงในตัวเองมากขนาดนั้น

นอกจากนี้หวังหลินเข้าใจได้ว่าเซียนจำนวนมากที่เข้ามาในดินแดนสวรรค์เป็นของสำนักใหญ่เช่นสำนักต้าโหลวและมีค่ายกลเคลื่อนย้ายของตนเองที่จัดตั้งไว้รอบๆ มีเพียงเหล่าคนที่มาเป็นครั้งแรกเท่านั้นหรือเซียนอิสระที่เหาะเหินและร่อนลงบนชิ้นส่วนของแดนสวรรค์แบบสุ่ม

ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นขณะมองไปที่หม้อหวนคืน หน้าที่ของหม้อหวนคืนชิ้นนี้คือกลับไปดวงดาวที่พวกเขาจากมา ดังนั้นหากหวังหลินใช้มัน เขาจะกลับไปซูซาคุหรือสำนักต้าโหลวกันแน่?

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเก็บมันออกห่างและให้แน่ใจว่าเก็บหม้อหวนคืนของตัวเองไว้อย่างดี หากเกิดอุบัติเหตุใช้ผิดอันขึ้นมาและเขาเคลื่อนย้ายไปที่สำนักต้าโหลวจริงๆนับว่าอันตรายมาก

หลังเสร็จเรื่องทั้งหมดหวังหลินโยนหินหยกที่ถือไว้ไปเบื้องหน้าและเคลื่อนร่างเข้าไปพร้อมกับสัมผัสวิญญาณ ทันใดนั้นหินหยกเริ่มส่องแสงเป็นค่ายกลพร้อมด้วยช่องจำนวนสองรูปรากฎขึ้น เป็นเรื่องชัดเจนแล้วว่าช่องทั้งสองนี้มีไว้เพื่อหินวิญญาณ

หวังหลินนำหินวิญญาณระดับสูงออกมาสองก้อนและโยนเข้าใส่รูทั้งสองอย่างแม่นยำ ค่ายกลเริ่มเคลื่อนไหวขณะที่หินหยกเรืองแสงสว่างจ้า ภาพแผนที่หนึ่งปรากฎขึ้นมา

รูปภาพนี้ไม่ได้แปลกต่อหวังหลิน มันเป็นฉากเหตุการณ์เดียวกันทีทุกคนเห็นขณะเข้ามาในดินแดนสวรรค์ซึ่งตอนนี้มันดูราวกับกระจกแตกเป็นเสี่ยงๆ

รูปภาพนี้มีชิ้นส่วนสามสิบเจ็ดชิ้นที่กำลังเรืองแสงตัดกับชิ้นส่วนสีเทานับไม่ถ้วน

หวังหลินมองไปที่รูปภาพและรำลึกถึงชิ้นส่วนที่เขาตกลงไป แววตาเคลื่อนอย่างรวดเร็วและพบตำแหน่งที่เขาอยู่ในปัจจุบัน

ฝ่ามือขวาชี้ไปที่หนึ่งในชิ้นส่วน รูปภาพหายไปและค่ายกลถูกกระตุ้นจากนั้นร่างหวังหลินหายวับไปทันที

บนหนึ่งในชิ้นส่วนที่อยู่สุดขอบของดินแดนสวรรค์ สายลมรุนแรงมากและมีรอยแยกขนาดใหญ่ในท้องฟ้า ลมหนาวพัดออกมาจากรอยแยกและเข้าไปในชิ้นส่วนแห่งนั้นราวกับตลอดทั้งชิ้นส่วนถูกห่อหุ้มด้วยพลังของรอยแยก

สถานที่แห่งนี้ไม่มีภูเขาใดๆราวกับเป็นสถานที่แห่งแล้ง เดิมทีมันมีภูเขาและแม่น้ำแต่เนื่องจากการล่มสลายของดินแดนสวรรค์ หนึ่งในสมบัติของเหล่าเทวดาได้หล่นลงที่นี่และสร้างรอยแยกนั้นขึ้น

ส่วนสมบัตินั้นมันแตกกระจายหลังจากสร้างรอยแยกและกลายเป็นพายุลมรุนแรงพัดผ่านทั้งพื้นที่ส่วนนี้

ขณะนี้ใจกลางลมพายุรุนแรง ค่ายกลหนึ่งปรากฎในอากาศ ค่ายกลได้สร้างเสาแงป้องกันสายลมแต่เสาแห่งนี้สั่นอย่างรุนแรง ราวกับสามารถแตกกระจายได้ทุกเมื่อ

ร่างหวังหลินปรากฎตัวในค่ายกล เขามองไปรอบๆและขมวดคิ้ว พื้นที่ส่วนนี้แตกต่างอย่างมากจากที่เขาอยู่เมื่อครู่ หากที่เดิมนับว่าสมบูรณ์แล้ว เช่นนั้นที่นี่นับว่าถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง

ตามตรรกะแล้วที่นี่ไม่ควรจะมีเหตุผลให้สำนักต้าโหลววางค่ายกลไว้ หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยเขามองเสาที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงดังนั้นจึงพุ่งออกค่ายกลไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่หวังหลินเดินออกมาจากเสา เขาพลันสัมผัสคมมีดสายลมปะทะกับร่างกาย หลังจากออกมาจากค่ายกลได้หวังหลินจึงซ่อนตัวเองโดยใช้วิธีการพิเศษ

มีเพียงแค่เสียงเดียวที่เขาได้ยินคือเสียงสายลมหอน เสียงของมันราวกับมีคนจำนวนมากกำลังร้องไห้ ขณะที่หวังหลินร่อนลงไป เสียงก็ยิ่งดังขึ้น

ขณะที่ร่อนไปบนพื้นทราย หวังหลินตื่นตัวทันที เขาหันกลับมาและเห็นว่าภายในสายลมหอนแห่งนั้นมีร่างสีดำนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นทีละคน

หวังหลินตกใจเมื่อเห็นร่างสีดำพวกนั้นแต่สัมผัสวิญญาณเขาไม่รู้สึกสิ่งใดเลย เขาตบกระเป๋าและนำธงกฎเกณฑ์ออกมา

ณ ตอนนี้ร่างสีดำชัดเจนขึ้นทำให้ใบหน้าหวังหลินประหลาดใจเนื่องจากร่างทั้งหมดนี้เป็นสตรีสุดสวยทรงเสน่ห์

สตรีเหล่านี้สวมชุดเดรสสวยงามสีรุ้งหลากสีและด้านหลังเป็นกลุ่มเด็กชายถือถาดผลไม้สวรรค์และไวน์รสเลิศ

มีผู้คนกำลังพูดคุยและหัวเราะกันขณะที่เดินเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินขมวดคิ้วหนัก เขาเห็นว่าคนพวกนี้กำลังพูดคุยกันแต่กลับไม่มีเสียงออกมาจากพวกเขา รอบด้านยังคงเต็มไปด้วยเสียงลมหอนและไม่มีสิ่งใดอื่น

ผู้คนเหล่านี้ค่อยๆเข้าใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้นจนหวังหลินสังเกตได้ว่าร่างสีดำหลายจุดได้ปรากฎเหนือพวกเขา ร่างทั้งหมดคือชายหนุ่มที่กำลังเหาะบนก้อนเมฆ พวกเขาดูราวกับองครักษ์ป้องกันสตรีเหล่านี้ขณะที่ตรวจสอบรอบด้านไปด้วย

หวังหลินสูดหายใจลึกและนำธงกฎเกณฑ์เก็บไป ในตอนนี้ผู้คนอยู่เบื้องหน้าเขาแต่หวังหลินไม่หลบหรือหลีกเลี่ยง ปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านหวังหลินไป

หนึ่งในเด็กชายเดินตรงเข้ามาผ่านร่างหวังหลิน

หลังกลุ่มคนพวกนี้หายไปไกล หวังหลินยิ้มอย่างขมขื่นเขารับรู้ได้ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงภาพมายา

หวังหลินเดาได้ว่ามีพลังลึกลับบนพื้นที่ชิ้นส่วนนี้ที่สามารถสร้างเหตุการณ์มายาที่เป็นดินแดนสวรรค์ก่อนที่มันจะแตกกระจาย

หวังหลินมองผู้คนที่พึ่งจากไปและรู้สึกเศร้าเสียใจ คนเหล่านี้ต้องมีอยู่ในช่วงเวลาสำคัญแต่ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้หายไปพร้อมกับสายลมและสิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือภาพมายา

ดินแดนสวรรค์เกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงได้ทำลายไปจนขั้นนี้ได้?

คำถามนี้ปรากฎขึ้นในใจหวังหลินอีกครั้ง หลังครุ่นคิดชั่วขณะหวังหลินจึงติดตามภาพมายาไป

คนพวกนี้เดินไกลออกไปและไกลออกไปจนในที่สุดก็อยุดลงที่แห่งหนึ่ง หวังหลินมองไกลๆและพลันสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้ทันที สิ่งก่อสร้างปรากฎขึ้น มีโต๊ะข้างในหลายชุดพร้อมกับผลไม้และไวน์วางอยู่

มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งรอบๆโต๊ะพลางพูดคุยกันและกัน จากตอนนี้พวกเขาได้สะบัดนิ้วตนเองและวิชาหลายอย่างปรากฎขึ้นราวกับกำลังโต้วาทีเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง

หวังหลินสังเกตฉากเหตุการณ์นี้ ให้ความสนใจทั้งหมดที่วิชาที่พวกเขาแสดงออกมาโดยเฉพาะ เขาสูดหายใจลึก คนพวกนี้ไม่ได้ใช้คำร่ายหรือผนึกใดๆ เพียงแค่โบกสะบัดแขนเพื่อใช้วิชาเซียน ราวกับพลังของสวรรค์อยู่ในฝ่ามือพวกเขาและสามารถใช้ได้ตามที่ต้องการ

หนึ่งในคนพวกนั้นพลันยืนขึ้นและตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวไปที่คนผู้หนึ่ง จากนั้นเขายื่นมือออกมาสร้างเป็นบอลสายฟ้าขนาดยักษ์สีม่วง เขาชี้ขึ้นไปและบอลสายฟ้าม่วงขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ

หวังหลินติดตามบอลสายฟ้าไปแต่ในเวลาเดียวกันท้องฟ้าสว่างพลันเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เส้นสายฟ้าสีดำรวบรวมเป็นกำปั้นและกระแทกใส่บอลสายฟ้าม่วง

บอลสายฟ้าม่วงพลันแตกกระจายและกำปั้นสายฟ้าคล้อยลงมาโดยไม่มีการชะลอตัว

ใบหน้าของผู้คนข้างในพลันเปลี่ยนไปทันที มีสองคนตอบสนองอย่างรวดเร็วและออกไปข้างนอกเพื่อตรวจสอบแต่กำปั้นสายฟ้าได้ตกลงมาเรียบร้อยแล้ว

พลังอำนาจของหนึ่งกำปั้นได้ลบล้างร่างของเทวดาทั้งหมดที่อยู่ข้างในหายไปทันที รวมถึงสิ่งก่อสร้างด้วย มีเพียงคนสองคนที่ลอยออกมาจึงจะสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยลำแสงสีรุ้งหลากสี

ท่าทางของทั้งคู่เปลี่ยนไปมากและขณะนั้นปราณกระบี่สีฟ้าลอยข้ามผ่านน่านฟ้าและเกิดเป็นรอยแยกขนาดยักษ์แห่งหนึ่งพร้อมกับคลื่นลมอันหนาวเย็นพัดออกมาจากรอยแยก

หลังจากนั้นไม่นานฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งปรากฎในท้องฟ้าและบีบกระบี่ที่อยู่ข้างในปราณกระบี่สีฟ้าอย่างเบามือ กระบี่แตกสลายและหายเข้าไปในรอยแยก แต่ด้ามกระบี่ไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย มันยังคงลอยคว้างข้ามผ่านท้องฟ้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!