Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 775

Cover Renegade Immortal 1

775. หลุมดำ

หวังหลินมองแผ่นจารึกแตกหักชิ้นนั้นด้วยสีหน้าเป็นปกติ เขากระโดดเข้าไปและมาถึงด้านหน้าแผ่นจารึก

ลี่หยวนตามมาติดๆและมองแผ่นจารึกอย่างละเอียกก่อนจะมองไปยังซากปรักหักพัง จากนั้นก็ยิ้ม “พี่ซิ่ว หากข้าเดาไม่ผิด ปราสาทต้อนรับเทพแห่งนี้ครั้งนึงเป็นจุดแลกเปลี่ยนสำหรับเหล่าเทพ”

หวังหลินพยักหน้าและเดินเข้าหาซากปรักหักพังด้วยท่าทีสุขุม ระหว่างทางเขาร่องรอยการทำลายหลายอย่างจากสิ่งก่อสร้างมากมาย ปราสาทแห่งนี้ใหญ่มากเกือบเท่ากับขนาดของเมืองทั่วไป

ซากปรักหักพังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงสายลมพัดผ่านเป็นบางครั้งเท่านั้น เสียงสายลมยังเหมือนกับมีคนกำลังร้องไห้

สายลมพัดผ่านไปก่อเป็นพายุหมุนเล็กๆเตะฝุ่นผงให้ลอยขึ้น

มีตำหนักหลายแห่งที่เหลือแต่ซากจำนวนมากตามถนนหนทาง พวกมันได้รับความเสียหายหนักและมีเศษกฏเกณฑ์ที่ผันผวนออกมาด้วย

หลังจากค้นซากปรักหักพังอย่างละเอียด หวังหลินพบว่าไม่มีอะไรประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าผู้คนมาที่นี่แล้วหลายครั้งนับตั้งแต่มีการเปิดแดนสวรรค์

“ร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในปราสาทแลกเปลี่ยนที่นี่มักจะอยู่ทางตะวันออก!” หลี่หยวนมองไปทางตะวันออก

ซากปรักหักพังของปราสาททางตะวันออกรุนแรงยิ่งกว่า เหลือแต่เพียงกำแพงเท่านั้นจนดูไม่ออกว่าเป็นร้านค้าอีก

ลี่หยวนเดินอย่างรวดเร็วและมาถึงสิ่งก่อสร้างหักพังทางตะวันออก นั่งย่อเข่าลงหยิบเศษหินบางส่วนขึ้นมาและตรวจสอบอย่างละเอียดราวกับกำลังคำนวณ

หวังหลินมาถึงพลันใช้สัมผัสวิญญาณออกมาแต่กลับไม่พบอะไร

หลังจากนั้นไม่นานดวงตาลี่หยวนก็ขมวด เขาชี้ไปที่จุดหนึ่ง “พี่ซิ่ว โจมตีจุดนี้ด้วยวิชา!”

หวังหลินไม่เสียเวลาเปล่า ยกแขนขึ้นมายิงสายฟ้าสีม่วงออกไปดุจมังกรเข้าหาจุดที่ลี่หยวนชี้ สายฟ้าสีม่วงกระทบเสียงดังปังและพื้นดินสั่นไหวทำให้เศษหินเศษดินขยับ

รูปแบบหนึ่งปรากฏขึ้นบนพื้นโดยไม่มีแรงผันผวนใดๆ ดูเหมือนจะเป็นค่ายกลที่แกะสลักไว้บนพื้น

หวังหลินเผยสายตาประหลาด

ลี่หยวนก้าวมาข้างหน้าสองสามก้าวและมาถึงถัดกับค่ายกล หลังจากมองมันเขาก็ยิ้ม “พี่ซิ่ว ตามที่ข้ารู้ แม้แต่ร้านค้าของเหล่าเทพยังต้องมีห้องลับ ดูเหมือนร้านค้าแห่งนี้ก็เว้น”

หวังหลินพยักหน้า “ข้าเชื่อว่าค่ายกลที่จัดการเกี่ยวกับห้องลับนี้ใช้งานมานานจนพลังปราณสวรรค์หมดลง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีความผันผวนออกมาเลย”

ลี่หยวนนั่งย่อเข่าและกวาดฝุ่นผงออก เขาคำนวณเล็กน้อยและจึงพยักหน้า “ถูกต้องแล้ว จากที่มองฝุ่นนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครมาที่นี่นานแล้ว เป็นตามที่พี่ซิ่วพูด ค่ายกลนี้สูญเสียพลังปราณสวรรค์ทั้งหมด ค่ายกลจึงปิดตาย”

จากนั้นอธิบายต่อ “ค่ายกลปิดตายเป็นแบบนี้ เมื่อพลังปราณสวรรค์สูญสิ้นไปมันก็ไม่สามารถเปิดขึ้นได้อีก ทว่าข้ามีทางฟื้นฟูมัน! พี่ซิ่ว ข้าต้องใช้เวลาสักครู่ โปรดรอสักพัก” สิ้นคำลี่หยวนก็คุกเข่าลง กัดนิ้วมือซ้าย สูดหายใจลึกและกดนิ้วเข้ากับค่ายกล

พลังดั้งเดิมโผล่ออกมาจากแขนซ้าย โลหิตไหลออกมาจากบาดแผลและเข้าสู่ค่ายกลก่อนที่มันจะค่อยๆแพร่กระจายกันออกไป

หวังหลินยืนอยู่ข้างๆอย่างสงบนิ่งและรู้สึกเศร้าใจเมื่อมองความเสียหาย แดนสวรรค์อัสนีต้องรุ่งเรืองมากเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีร้านค้าแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่เช่นนี้

มีร้านค้าหลายแห่งในปราสาท เมื่อยืนอยู่ที่นี่หวังหลินอดที่จะจินตนาการถึงเมื่ออดีตไม่ได้ เหล่าเทพมาพร้อมกับสมบัติเทพและอสูรเทพ และแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการกันที่นี่เหมือนคนธรรมดา

เหล่าเทพเมื่อตอนนั้นคงนึกไม่ถึงว่าแดนสวรรค์จะล่มสลาย

ขณะกำลังขบคิดเงียบๆหวังหลินก็ถอนหายใจ เขานึกถึงตราประทับฝ่ามือขนาดใหญ่ที่เห็นแดนสวรรค์พิรุณ! วิชาประทับฝ่ามือนั้นสามารถทำให้พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆได้เลย

‘น่าเสียดายที่ลี่หยวนไม่สามารถเข้าไปแดนสวรรค์พิรุณได้ ข้าสงสัยว่าเข้าจะสามารถย้อนคืนโครงสร้างวิชาเทพนั้นได้หรือไม่’

ขณะที่เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า สีหน้าลี่หยวนก็ค่อยๆซีดขึ้น โลหิตจากนิ้วซ้ายค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วค่ายกล ค่ายกลถูกเติมด้วยพลังงานและจากนั้นเกิดระลอกคลื่นบอบบางออกมา

สายตาลี่หยวนส่องสว่าง จากนั้นชี้จุดระหว่างคิ้วตนเองยิงเส้นสีดำประทับไปบนค่ายกล ฝ่ามือเคลื่อนไหวรวดเร็วและกำลังจะปลดปล่อยกฏเกณฑ์จำนวนมาก

ทว่าในจังหวะที่เส้นสีดำสัมผัสค่ายกล ลำแสงหนึ่งสายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ลำแสงปรากฏแทบในเสี้ยววินาทีและมองเห็นได้ชัดจากระยะไกล

ลี่หยวนตกตะลึง ก่อนจะส่งกฏเกรฑ์ในมือออกไป มันก็หายไปแล้ว

“เป็นไปได้อย่างไร…นี่เป็นครั้งแรกที่ค่ายกลเทพถูกเปิด…มันเป็นการเปิดครั้งแรก…” หลี่หยวนตกตะลึงกับลำแสงสนั้น สายตาส่องสว่างขึ้นและสว่างขึ้น

หวังหลินหันกลับมาชำเลืองมองลำแสง มันปรากฏฉับพลันโดยไม่มีคำเตือนดังนั้นจึงไม่มีเวลาหยุดมัน ดูจากสีหน้าลี่หยวน ราวกับเขาก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน

หวังหลินเอ่ยอย่างสงบ “น้องลี่!”

ลี่หยวนสูดหายใจลึก ลำแสงหมองหม่นและกำลังจะหายไปในไม่ช้า หวังหลินกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและรับรู้บางอย่างได้ทันที

พลังปราณสวรรค์ที่ระงับเอาไว้ดูเหมือนระเบิดออกมาจากลำแสงนั้น

ลี่หยวนจ้องลำแสงที่กำลังจางหายและเอ่ยขึ้นมา “หากค่ายกลเทพถูกเปิดขึ้นอย่างถูกต้องมันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกเปิด จิตวิญญาณของค่ายกลจึงจำเป็นต้องปลดปล่อยก่อนที่มันจะเปิดขึ้นมาได้!”

“ครั้งแรก?” หวังหลินขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว นี่ควรจะเป็นครั้งแรกที่ค่ายกลนี้ถูกเปิดขึ้นมาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง…เมื่อลำแสงนี้หายไปแล้วเราจะสามารถเข้าไปดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในได้!” ลี่หยวนจ้องค่ายกลและเลียริมฝีปาก

หวังหลินพยักหน้า เขามองออกไปไกลพร้อมกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันที หวังหลินเห้นลำแสงกระบี่สองเส้นกำลังเข้ามาและพวกมันปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์รุนแรง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นลำแสงนี้และต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้น

หวังหลินถอนสายตา ฝ่ามือขวายื่นเข้าหาพื้นดิน ก้อนหินจำนวนมากลอยขึ้นและระเบิดเป็นฝุ่นฝน จากนั้นหวังหลินกระจัดกระจายฝุ่นออกไปทุกทิศทาง

ในเสี้ยววินาทีฝุ่นก็ก่อตัวเป็นวงแหวนรัศมีหนึ่งหมื่นฟุต แยกพื้นที่ภายในออกจากข้างนอก

สายตาหวังหลินร่อนลงบนลำแสงที่กำลังจางหายและเอ่ยขึ้นมา “คนที่เข้ามาจะต้องตาย!”

แม้น้ำเสียงนุ่มนวลแต่เมื่อตกลงในหูของทั้งสองคนราวกับเป็นเสียงสายฟ้าคำราม ทั้งสองคนเป็นเซียนขั้นเทวะระดับกลางดังนั้นความคิดจึงถูกเข่า แม้กระทั่งลำแสงกระบี่ใต้ฝ่าเท้าก็พลันไม่มั่นคงขึ้นมา สองคนนั้นหยุดอยู่ข้างนอกวงแหวนและไม่กล้าล้ำเส้นแม้เพียงครึ่งก้าว

ทั้งสองมองหน้ากันเองด้วยสีหน้าซีดเผือดก่นจะเก็บกระบี่ของตัวเองกลับไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นอย่างเคารพ “เราสองคนเป็นผู้น้อยจากตระกูลจ้าวทางเขตตะวันตก เราจะเชื่อฟังคำสั่งผู้อาวุโสและไม่ก้าวล้ำเข้าไปข้างใน”

ลำแสงเริ่มเลือนหายไปเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ดวงตาลี่หยวนส่องสว่างพลันก้าวมาข้างหน้าและเข้ามาใกล้ค่ายกลยิ่งขึ้น รอคอยให้ลำแสงหายไปอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งเซียนสองคนด้านนอกยังเบิกตากว้างและมองอย่างละเอียด พวกเขาไม่เคยเห็นฉากเหตุการณ์แบบนี้ แต่หลังจากขบคิดเล็กน้อยพวกเขาเดาได้ว่ามีสมบัติปรากฏขึ้นที่นี่!

แม้พวกเขาจะไม่กล้าขโมยไป พวกเขาไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดลอย

นั่นก็เพราะการปลดปล่อยจิตวิญญาณของค่ายกลเป็นเรื่องใหญ่โตที่เหล่าเซียนทั้งหมดบนชิ้นส่วนนี้จะมองเห็น จังหวะที่เซียนทุกคนเห็นแสงนี้ ความคิดแรกก็คือสมบัติปรากฏขึ้นมาแล้ว!

เซียนทั้งหมดรวมตัวกันเข้าหาลำแสงนี้ด้วยความคิด ส่วนสองคนจากตระกูลจ้าวมาถึงก่อนแล้ว พวกเขาจึงเป็นกลุ่มแรกที่มาถึง

หลังจากนั้นไม่นานนักลำแสงหลายเส้นก็โผล่ออกมาจากทุกทิศทาง ทั้งหมดมีระดับแตกต่างกันออกไปแต่ไม่มีใครเป็นขั้นมายาหยิน ส่วนใหญ่เป็นขั้นเทวะระดัยปลายสูงสุด

ยามที่คนเหล่านี้มาถึง พวกเขาเห็นวงแหวนที่สร้างขึ้นจากฝุ่นทันที พวกเขาหยุดลงและไม่กล้าเคลื่อนเข้าไปใกล้ ทว่าสายตายังคงตกลงบนลำแสงที่กำลังจางหาย สายตาแต่ละคนเผยความโลภออกมา

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นหวังหลิน สีหน้าอาการก็เปลี่ยนทันที พวกเขาสามารถสัมผัสถึงพลังดั้งเดิมจากร่างหวังหลินได้จึงทำให้ทั้งหมดต้องล่าถอย ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ภายในระยะหนึ่งหมื่นฟุต

หวังหลินไม่ได้ให้ความสนใจกับคนพวกนั้นอีก แม้แต่ลี่หยวนก็ไม่สนใจนัก วินาทีถัดมาลำแสงก็หายวับ

ชั่วขณะที่ลำแสงหายไป หลุมดำปรากฏขึ้นบนพื้นผิวค่ายกล คลื่นพลังปราณสวรรค์ออกมาจากข้างใน แม้แต่คนที่ห่างออกไปหมื่นฟุตยังรู้สึกถึงมันได้ชัดเจน

สายตาแห่งความโลภรวมกันไปบนหลุมดำทันที กลิ่นอายลึกลับปรากฏออกมาจากเซียนทั้งหมดที่อยู่ห่างออกไปหมื่นฟุต

หากหวังหลินไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเขาคงพุ่งเข้ามาทันที สิ่งล่อตาล่อใจจากหลุมดำนั้นเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับเหล่าเซียน!

ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่เพราะสิ่งนี้ความรู้สึกเจือจางก็ค่อยๆรุนแรงขึ้น

ชั่ววินาทีนั้นปราณกระบี่หนึ่งสายพร้อมกับพลังดั้งเดิมได้โผล่ออกมาจากเส้นขอบฟ้า มันมุ่งตรงเข้าหาแสงราวกับวงแหวนนั้นไม่มีตัวตน!

สายตาของเซียนที่ห่างออกไปหมื่นฟุตพลันเผยแสงประหลาด พลังดั้งเดิมจากปราณกระบี่นั่นหมาความว่าเซียนอีกคนเป็นระดับสองได้มาถึง!

ขณะที่พลังดั้งเดิมแพร่กระจาย ร่างสีเหลืองโผล่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วขณะที่ยืนบนปราณกระบี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!