ตอนที่ 1274 เนรเทศ…
“ให้สิ่งที่คงอยู่จงอยู่ต่อไป ให้ผู้ลาลับ…หวนคืนสู่อากาศธาตุ…” ใบหน้าน้ำวนพูดพึมพำ มันปล่อยให้สายฟ้าสีแดงทะลวงผ่าน ทันทีที่ปะทะกับใบหน้าน้ำวนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ต่อมาเป็นมือใหญ่ห้าสี ช่วงที่มันปะทะกับน้ำวนพร้อมเกิดเสียงดังสนั่นนั้น มันกลับหายไปอย่างเงียบๆ เหมือนหวนคืนสู่อากาศธาตุจริงๆ
ดวงตาซูหมิงวาววับ เขาถอยหลังไปหลายก้าว คิ้วขมวดขึ้น
ตอนนี้ตัวเขาอีกคนของโลกนี้หลังน้ำวนนั้นหรือชายหนุ่มบุตรแห่งซางกระอักเลือดซ้ำหน้าขาวซีด แต่ในดวงตากลับเป็นประกายวาว
“ไม่มีประโยชน์ ข้าเรียกสายเลือดผู้ไว้อาลัยออกมา เชื่อมต่อกับดวงจิตข้า และก็เชื่อมต่อกับดวงจิตซางเซียง เจ้าไม่มีทางทำลายมันได้ ทำได้เพียงถูกมันกินแล้ว หลอมรวมกับข้า” ซูหมิงอีกคนในโลกนี้กล่าวขึ้นพร้อมประสานมุทราด้วยสองมือชี้ไปข้างหน้า ใบหน้าน้ำวนยักษ์นั้นพลันลืมตาขึ้นแล้วพุ่งไปหาซูหมิง
ระหว่างที่พุ่งทะยานเข้าไปมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจก็ใหญ่เกือบพันจั้ง แผ่ขยายออกเข้าไปใกล้ซูหมิงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ดวงจิต ไม่มีประโยชน์
อภินิหาร ไร้ผล
วิชา ยากจะทำอันตรายมันได้
ต่อให้เป็นของวิเศษก็จะหายไปเพราะเดิมทีมันคงอยู่ เหมือนกับคำพูดพึมพำของใบหน้าน้ำวนนั้นจริงๆ เพราะมันไม่มีอยู่ จึงยังคงอยู่
เป็นหนึ่งในสามบุตรแห่งซางของมหาโลกซางเซียง พูดได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดนอกจากดวงจิตซางเซียงในมหาโลกซางเซียงแล้ว ความแกร่งของสามคนนี้ไม่ใช่ เพราะพลัง แต่เป็นเพราะพวกเขาใช้ดวงจิตซางเซียงได้ อีกทั้งตอนที่พวกเขาเป็น บุตรแห่งซางก็ได้รับอภินิหารประหลาดจากซางเซียงด้วย
มิหนำซ้ำซูหมิงของโลกนี้ สิ่งที่เขาได้รับในตอนนั้นคือความคิดของผู้ไว้อาลัยที่เขาร้องขอ! อัญเชิญเผ่าไว้อาลัยที่ถูกดวงจิตซางเซียงลบไปให้มาเยือนกลางฟ้า พลังนี้กวาดล้างผู้ฝึกฌานได้ทุกคน ต่อให้เป็นขั้นไม่อาจกล่าวก็ยังต้องถูกลบไป
เว้นแต่…จะใช้กลอุบายพิเศษบางอย่างก็อาจจะสำเร็จ มิเช่นนั้นแล้ว หากคิดจะยึดร่างตัวเองอีกคนที่เป็นบุตรแห่งซางในโลกนี้นั้นสำเร็จยากยิ่ง ถึงอย่างไรที่นี่คือ มหาโลกซางเซียง และดวงจิตซางเซียงก็ไม่มีทางยอมง่ายๆ แน่ที่จะให้บุตรแห่งซางที่เชื่อมต่อกับมันถูกคนจากสามรกร้างหลอมรวม
นี่คือการต่อสู้แห่งโชคชะตา พูดได้ว่าก่อนการต่อสู้ซูหมิงมีความมั่นใจมาก แต่ขณะเดียวกันตัวเขาอีกคนในโลกนี้ก็มีความมั่นใจมากเช่นกัน เมื่อลงมือ เมื่อเริ่มการต่อสู้ ความมั่นใจก็มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนซูหมิงคิ้วขมวด มีสีหน้าทะมึนทึบ
เห็นใบหน้าน้ำวนขยายใหญ่อย่างต่อเนื่องและเข้ามาใกล้ตนเรื่อยๆ แล้วนั้น ซูหมิงถอยหลังไปอีกหลายก้าว
‘เผ่าผู้ไว้อาลัยนี้น่าทึ่งจริงๆ มิน่าดวงจิตซางเซียงถึงได้ลงมือลบเผ่านี้…ตอนนี้ข้ามีดวงจิตเทียบเท่ากับของสองโลกแท้จริง ไม่อาจเทียบได้กับสามรกร้างหรือซางเซียง ดังนั้นเลยยากจะลบมันได้
แต่ว่า…การจะรับมือเผ่าไว้อาลัยก็ไม่ใช่แค่ต้องปะทะอย่างเดียว ยังใช้วิธีอื่นได้อีก!’ ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาว ในความคิดส่องแสงประกายสว่างจ้า ตอนที่ถอยไป เขาหลับตาลงทันที
‘ขอแค่เชื่อทุกอย่างก็จะคงอยู่’ ในความคิดเขาลอยขึ้นมาเป็นพลังประหลาดนั้นที่เขาตระหนักรู้ตอนอยู่ทะเลดาราต้นกำเนิดจิต พลังนี้เป็นมายา หากไม่มีอยู่ก็จะหายไป แต่หากเชื่อ มันจะต้องคงอยู่แน่นอน
“ข้าเชื่อว่าในจักรวาลนี้ นอกจากสามรกร้างกับซางเซียงแล้ว จะต้องมีมหาโลกอื่นอีกแน่!”
“ข้าเชื่อเช่นกันว่ามหาโลกข้างนอกจะต้องเหนือกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับ เงามืดรุ่งอรุณ ในผืนฟ้าที่ห่างจากที่นี่ไปไกลมากมีฟ้าดินอีกแห่งหนึ่ง”
“ข้ายังเชื่อว่ากลางฟ้าดินนั้นมีสิ่งมีชีวิต ทุกสิ่งมีชีวิตที่ถูกพาไปที่นั่นจะไม่มีทางกลับมาได้ไปชั่วชีวิต ทำได้เพียงอาศัยอยู่ที่นั่น เจริญรุ่งเรื่องตามกาลเวลาหรือไม่ก็ สิ้นสูญไป…”
ระหว่างที่ซูหมิงพึมพำ เขายกสองมือโบกไปรอบๆ ดวงจิตแผ่ขยายออกทันที ดวงจิตนี้ไม่อาจลดกำลังของใบหน้าน้ำวนได้ แต่ตัวมันคือการสะท้อนให้เห็นถึงพลังที่แกร่งที่สุดในมหาโลกนี้ ดังนั้นขณะที่ซูหมิงกล่าว ภายใต้ดวงจิตเขา ในเจตนารมณ์สวรรค์ของเขา มือขวาคลายออก คว้าเอาไว้พร้อมเกิดน้ำวนลอยขึ้นมา จากนั้นน้ำวนกลายเป็นหลุมดำที่ดูดกลืนได้ทุกสรรพสิ่ง
หลุมดำสูบดวงจิตที่แผ่กระจายออกของซูหมิงในพริบตา ชั่ววูบเดียวก็ขยายใหญ่ขึ้น น้ำวนในนั้นหยั่งลึก ไม่รู้ว่าเชื่อมไปที่ใด ยืดยาวไปอย่างไร้ขีดจำกัด
“ข้าเชื่อว่าสายเลือดเผ่าไว้อาลัยจะต้องผงาดขึ้นในโลกที่ห่างไกลนั้นแน่ แต่หลังจากผงาดขึ้นแล้วก็จะต้อง…สูญสิ้นไป! นี่คือโชคชะตา นี่คือชะตาที่ข้าซูหมิงลิขิตเอาไว้ให้เจ้าเผ่าไว้อาลัย!” ซูหมิงลืมตาขึ้น นัยน์ตาเผยประกายประหลาด ดวงตาซ้ายกลายเป็นผืนฟ้า นั่นคือ โลกดาราสัจธรรม!
ดวงตาขวากลายเป็นมวลอากาศ นั่นคือ โลกพรรคเซียน
ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก เหมือนหลอมรวมระหว่างโลกดาราสัจธรรมกับพรรคเซียนเข้าด้วยกันจนเปล่งแสงสว่างพร่างพราว หล่อหลอมเข้าไปในน้ำวนตรงหน้า ทำให้น้ำวนนี้ขยายใหญ่ขึ้น ภายใต้การแผ่ขยาย มันไม่ใช่ทรงกลม แต่เป็นสายตั้งขึ้นเหมือนกับปากใหญ่มวลอากาศถูกฉีก และยังเผยคมเขี้ยวไปทางผืนฟ้า
“ข้าเชื่อว่าที่นั่นต่างหากคือที่พักพิงของพวกเจ้า เผ่าไว้อาลัยต้องถูกเนรเทศ ต้องถูกขับไล่ออกจากซางเซียง ต้องไม่มีอยู่ในโลกสามรกร้าง!” ดวงตาซูหมิงเผย จิตสังหารรุนแรง คำพูดสุดท้ายดังก้องปานฟ้าผ่า รอยแยกตรงหน้าเขาขยายใหญ่ อีกครั้ง ตอนที่ใบหน้าน้ำวนเข้ามาใกล้จึงถูกกินไปในบัดดล
ซูหมิงอีกคนในโลกนี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างเร็วไว ขณะจะห้ามก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าในโลกแท้จริงดาราโบราณ ดังก้องไปทั่วทุกสารทิศทั้ง โลกแท้จริง กระทั่งยังดังไปถึงโลกแท้จริงอื่น ยามที่มองไปจะเห็นชัดว่าซูหมิงใช้พลังที่เชื่อก็จะคงอยู่หลอมรวมกับดวงจิตสองโลกที่เป็นรองเพียงดวงจิตสามรกร้างกับ ซางเซียง แล้วเปลี่ยนมันเป็นปากอากาศธาตุยักษ์
ปากนี้ข้ามผ่านมวลอากาศ เชื่อมกับโลกที่ไม่รู้ว่าห่างจากที่นี่เท่าไร โลกนั้น อาจจะมีอยู่หรืออาจจะไม่มีก็ได้ แต่ซูหมิงเชื่อว่านอกสามรกร้างกับซางเซียง นอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณจะต้องมีโลกแบบนี้อยู่แน่
ใช้ความคิดของโลกนี้เป็นรากฐาน ใช้ดวงจิตสองโลกเป็นตัวชี้นำ ใช้พลังที่เชื่อก็จะคงอยู่นั้นเป็นโครงสร้าง สร้างเป็นอภินิหารนี้ขึ้นมา วิชานี้ไม่ได้มีพลังสังหารน่าตกใจ ต่อให้เป็นคนธรรมดาก็ยังยากจะถูกลบหายไป ทว่า…
การใช้งานเพียงอย่างเดียวของวิชานี้คือเนรเทศเหมือนอย่างที่ซูหมิงพูดไว้ก่อนหน้านี้!
ในเมื่อซูหมิงใช้ดวงจิตลบใบหน้าน้ำวนที่รวมขึ้นจากเผ่าไว้อาลัยไม่ได้ ใช้พลังต่อต้านไม่ได้ ใช้อภินิหารก็ไม่อาจทำอันตรายมันได้แม้แต่น้อย เขาเลยจะเปลี่ยนวิธี เปิดรอยแยกที่ขอแค่เชื่อก็จะคงอยู่ ให้มันกินใบหน้าน้ำวนเข้าไป เนรเทศมันไปยังโลกที่ซูหมิงเชื่อว่ามีอยู่
เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนแก้วหู ใบหน้าน้ำวนยักษ์นั้นถูกรอยแยกที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดเขมือบเข้าไป ถูกเนรเทศไปยังโลกที่ซูหมิงเชื่อว่ามีอยู่
“ข้าขอสาป ใช้นามของข้าซูหมิงสาปให้เผ่าไว้อาลัยรุ่งเรืองและต้องตกต่ำ!” นี่คือคำพูดสุดท้ายของซูหมิงก่อนที่รอยแยกนั้นจะหายไป คำพูดนี้ดังเข้าไปในรอยแยก ผ่านรอยแยกนั้นเข้าไปในโลกนั้น ประทับตราอยู่ในกฏของโลกนั้น ประทับอยู่ในโชคชะตาของเผ่าไว้อาลัย
นี่คือคำสาปที่แปลงจากดวงจิตโลกแท้จริงสองดวงของซูหมิง คำสาปนี้แกร่งขึ้นตามดวงจิตในภายภาคหน้าของเขา มันจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็น… การลิขิตโชคชะตาอย่างแท้จริง
โครม!
รอยแยกหายไปอย่างไร้ร่องรอย กลายเป็นรอยเส้นหนึ่งกลางอากาศ เมื่อมัน มัวหมองลงก็หายไปในทันใด ที่เหลืออยู่มีเพียงซูหมิงกลางฟ้า กำลังสบตากับตัวเขา อีกคนที่ไม่มีใบหน้าน้ำวนปกป้อง
ตอนนี้ซูหมิงอีกคนที่เป็นบุตรแห่งซางเงียบ จ้องซูหมิงตาเขม็งด้วยใบหน้ามืดทะมึน แววตาเหลือเชื่อ และยังมีความสิ้นหวังและไม่ยอม
“ตอนนี้ไม่มีคนนอกมารบกวนแล้ว ถึงเวลาต่อสู้แห่งโชคชะตาสุดท้ายระหว่างข้ากับเจ้าแล้ว เพียงแต่ข้าจะช่วยเจ้า เพราะสุดท้ายเจ้าก็คือข้า ดังนั้นข้าจึงอวยพรให้เผ่าไว้อาลัยเจริญรุ่งเรือง และเพราะตอนนี้เจ้ายังไม่ใช่ข้า ข้าถึงสาปให้เผ่าไว้อาลัยตกต่ำ”
ซูหมิงมีสีหน้าเย็นชา ขณะกล่าวยังเดินหน้าไปหนึ่งก้าว พุ่งไปหาตัวเองอีกคนในพริบตา
ชายหนุ่มบุตรแห่งซางหรือซูหมิงของโลกนี้ถอยไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าทะมึนทึบในทันทีที่ซูหมิงเข้ามาใกล้ นัยน์ตาเป็นประกายจิตสังหาร ก่อนยกสองมือขึ้น มือหนึ่งวางตรงหน้าอก อีกมือหนึ่งวางตรงระหว่างคิ้ว
“พลังแห่งซางเซียง ด้วยความคิดของข้าบุตรแห่งซาง ขออัญเชิญซางเซียง ปรากฏกาย!”
สิ้นเสียง ทั้งโลกแท้จริงดาราโบราณสั่นสะเทือน มีดวงจิตมหึมาลงมาเยือนยังตัว ซูหมิงอีกคนพร้อมเสียงครึกโครม ดวงจิตนี้มาพร้อมกับความบ้าอำนาจและโอหัง ซ้ำยังมีความบ้าคลั่งที่ตัวข้าเป็นใหญ่ในจักรวาล ตอนที่ลงมือเยือน ปรากฏปีกยักษ์ สองอันขึ้นข้างหลังซูหมิงอีกคน ปีกนี้มีสีสันหลากสี เปล่งแสงสว่างพร่างพราว
ขณะเดียวกันซูหมิงอีกคนในโลกนี้เงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า ท่ามกลางเสียงตะโกน พลังเขาปะทุขึ้น ดวงจิตมหึมาเชื่อมต่อไปทั่วร่าง น้ำวนหมุนโคจร เหนี่ยวนำผืนฟ้าทั้งโลกแท้จริงดาราโบราณให้หมุนโคจรไปด้วยกัน
ผืนฟ้าเหลือคณานับหมุนโคจร หินผุพังมากมายหมุนวน ทั้งผืนฟ้าในตอนนี้ล้วนหมุนโคจรรอบตัวบุตรแห่งซางร่างแปลงผีเสื้อ
เขาก็คือใจกลาง คือโอรสสวรรค์ที่ยามนี้สว่างจ้าเด่นตาที่สุดในโลกแท้จริงนี้
“ได้ตามที่เจ้าต้องการ การต่อสู้แห่งโชคชะตาระหว่างข้ากับเจ้าจะต้องมีจุดจบ! หากข้าชนะ ข้าจะตอบรับคำร้องขอของเจ้าหนึ่งข้อ หากเจ้าชนะ…เจ้าต้องรับคำร้องขอของข้าหนึ่งข้อ!” บุตรแห่งซางเอ่ยเสียงดังกังวาน ฟังแล้วเหมือนกับทั้งโลกแท้จริงกำลังตะโกน
“ได้!” ชั่วขณะที่ซูหมิงตอบกลับอย่างไม่ลังเลนั้น ดวงจิตเขาปะทุออกมา แล้วตามด้วยเงามายาโลกแท้จริงพรรคเซียนกับโลกแท้จริงดาราสัจธรรมโผล่ขึ้นนอกตัวเขาทันที