บทที่ 276 ขอเวลาสักหนึ่งก้านธูปเพื่อผนึกกายาไร้เทียมทาน! (ปลาย)
ยังไม่ทันไร เสียงของหลิงฮั่นพูดมาจากด้านข้างสวนขึ้นว่า “พี่ใหญ่ ท่านไปช่วยทางพี่เยี่ยก็แล้วกัน ทางนี้พวกเราจะระมัดระวัง!” หญิงสาวเหลือบตาไปทางเยี่ยฉวนขณะทำท่าขยับจะออกจากที่ ทันใดนั้น เยี่ยฉวนกระพือเปลือกตาเปิดพรึ่บ
ฉับ! ฉับ! รัศมีกระบี่สองลำแสงประทุระเบิด พุ่งวาบออกจากดวงตาทั้งสองข้างทันที!
พลันที่ร่างปะทะสองลำแสง ร่างของขุนศึกเต๋าแห่งฉางมู่สองร่างถูกพลังผลักออกไปไกลนับสิบสิบจั้ง และทันทีที่ร่างสองร่างหยุดนิ่งกับที่ เยี่ยฉวนซึ่งทะยานตามติดมาทางด้านบนเขาเงื้อกระบี่มหากาฬและเสี้ยววินาทีถัดมาก็ตวัดขวับลงฉับพลัน!
ถึงกระนั้นในเวลาเดียวกันขุนศึกห้าหรือหกคนปรากฏออกขวางหน้าเยี่ยฉวน และเป็นจังหวะเดียวกันทั้งห้าคนไสทวนยาวพรวดตรงสู่บริเวณจุดตายบนร่างกายของชายหนุ่มรวดเร็ว ซึ่งเยี่ยฉวนมิได้เบี่ยงหลบกลับปล่อยให้ทวนทั้งห้ากระแทกใส่ลำตัวถนัดถนี่!
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าทวนทั้งหมด ไม่สามารถแทงเข้าทำอันตรายเนื้อหนังของเยี่ยฉวนได้เลยแม้สักทวน! เสื้อเกราะแห่งปฐพี ในขณะนั้น พลังเกราะอ่อนสีทองฉายฉาบทับเนื้อหนังภายใต้เสื้อผ้า ซึ่งพลังเกราะอ่อนสีทองนี่เองที่แผ่กำบังให้เยี่ยฉวนเมื่อทวนทั้งห้าพุ่งเข้าปะทะ!
เหล่าขุนศึกเต๋าทั้งห้าเมื่อเห็นว่าทวนของตนถูกพลังต้านทานของอีกฝ่าย แต่ละคนจึงสีหน้าเปลี่ยนวูบ ช่วงจังหวะต่อมาปรากฏกระบี่ตวัดวาบสะบั้นเอาศีรษะของขุนศึกเต๋าคนหนึ่งกระเด็นหลุดจากบ่ารวดเร็วยิ่งนัก!
พลันโลหิตแดงฉานทะลักพรวดราวสายน้ำ! การณ์ที่เกิดต่อหน้าทำให้สี่ขุนศึกเต๋าผงะถอยห่างรวดเร็วออกไปกว่า 15 จั้ง ขณะนั้น แววตาของคนที่รอดมองตรงมายังเยี่ยฉวน ทั้งตะลึงทั้งหวาดหวั่น!
เยี่ยฉวนหยุดยืนนิ่ง สีหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึก ณ เวลานั้นก็จริง ทว่า ภายในกายใต้เสื้อผ้าที่สวมทับเกราะอ่อนสีทองบัดนี้บิดเบี้ยวผิดรูปร่าง อีกทั้งเนื้อตัวบางส่วนมีร่องรอยบาดเจ็บเช่นกัน
หากมองในแง่ความกล้าแกร่งแห่งสมรรถนะทางกายของเยี่ยฉวน ด้วยกฎแห่งเต๋าทำให้เพิ่มพูนขึ้นกว่าสามในสิบส่วน ถึงกระนั้นยังไม่อาจเสริมให้พลังเกราะแห่งปฐพีแข็งกล้าพอที่จะต้านทานยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพซึ่งกระหน่ำจู่โจมมาในคราวเดียวได้ทั้งหมด และที่หนักกว่านั้นเป็นการจู่โจมโดยคนห้าคน เกราะแห่งปฐพีสามารถยืนหยัดได้ถึงเพียงนี้นับว่ามหัศจรรย์มากแล้ว
พวกขุนศึกเต๋าคนอื่นที่เหลือซึ่งมองดูจากในระยะไกลต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม ด้วยไม่คาดคิดว่าเยี่ยฉวนจะสามารถต้านทานการผสานจู่โจมโดยพลังห้าขุนศึกเต๋า ทั้งยังสังหารคนหนึ่งในห้าได้อีกด้วย!
จังหวะนั้นเอง เยี่ยฉวนหายวับไปจากที่ ทำให้ขุนศึกเต๋าที่จับตาดูหน้าตื่นเล็กน้อย หากไม่คิดถอยหนีแต่กลับเคลื่อนที่พุ่งตรงมารวดเร็ว!
ชายหนุ่มเวลานั้นเขาเก็บกระบี่มหากาฬ และดึงกระบี่หลิงซิ่วออกมาแทน! ในด้านพลังอำนาจอันกระบี่มหากาฬมิได้ด้อยกว่า หากแต่ขาดความว่องไวในฐานะอาวุธ! เมื่อมีกระบี่หลิงซิ่วกระชับอยู่ในมือ เยี่ยฉวนเคลื่อนที่ด้วยความว่องไว ทำให้ร่างคนปรากฏแว่บวาบไปมาในระหว่างขุนศึกเต๋าทั้งเจ็ด ขณะเดียวกันรังสีกระบี่เป็นประกายแปลบปลาบไปทั่วทั้งบริเวณ
ในตอนนั้นภาพที่ปรากฏคือการเคลื่อนที่ขึ้นลงสลับไปมาในการต่อสู่ระหว่างเยี่ยฉวนและขุนศึกเต๋า! อีกฟากของลาน ลู่ป้านจวงและพวกก็กำลังปะทะดุเดือดกับขุนศึกเต๋าด้วยเช่นเดียวกัน!
หญิงสาวมิได้เคลื่อนไหวไปมาด้วยนางกำลังถูกสกัดด้วยเหล่ามือสังหารซึ่งโผล่ออกมาจากมุมมืดที่ซุ่มซ่อน!
ตามที่เยี่ยฉวนเคยบอกไว้ให้นางคอยสกัดพวกมือสังหารแห่งดินแดนอันธกาล ดังนั้นอีกด้านหนึ่งลู่ป้านจวงจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเยี่ยฉวน ส่วนนางจะต้องสยบเหล่ามือสังหารพวกนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นหลิงฮั่นและคนอื่นอาจมีอันตราย!
ในลานกว้างจึงเห็นคนทั้งสิบสองกำลังต่อสู้พันตูกับคน 19 คน! ชั่วขณะนั้น การต่อสู้จึงเป็นลักษณะของการคุมเชิงกัน!
ณ ที่แห่งหนึ่งไกลออกไปบนเทือกเขาสลับซับซ้อน นกเหยี่ยวฝูงหนึ่งส่งเสียงคำรามกึกก้องสะท้านภูเขา เหยี่ยวขนาดใหญ่เหล่านั้นแต่ละตัวมีความยาวไม่ต่ำกว่าสิบจั้ง ด้วยพวกมันเป็นนกเหยี่ยวขั้นพลังสันโดษ!
ส่วนตัวที่ดูท่าว่าจะเป็นหัวหน้าฝูงยิ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่น เพราะความยาวไม่ต่ำกว่า 18 จั้ง นัยน์คมกริบดังใบมีด ปีกสองข้างทรงพลังยิ่งเมื่อกระพือปีก ทำให้เกิดลมหมุนด้วยพลังกระแสลมที่พัดแรง
บนนกเหยี่ยวยักษ์บุรุษหนึ่งภายนอกดูบุคลิกหยาบกระด้าง ยืนนิ่งอยู่บนหลังของนก อายุอานามไม่อ่อนไม่แก่ราวยี่สิบเศษแต่ไว้หนวดเครารกรุงรัง
พลันคนท่าทางหยาบกระด้างหันไปส่งเสียงคำรามใส่คนอื่นที่ตามหลัง “เฮ้ยมัวอืดอาดยืดยาด เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวมาหรือไง? ให้ไวๆ!”
ว่าแล้วคนพูดหันกลับมาทอดตามองไปในที่ไกลสุดขอบฟ้า เสียงพูดด้วยความฉุนเฉียว “พวกฉางมู่ ดินแดนอันธกาล ถ้าน้องสาวข้าเป็นไรไป บอกเลยคนอย่างลู่คว่าง จะตามจองล้างจองผลาญพวกเจ้าให้ถึงที่สุด!”
ในซอกหลืบของขุนเขาสลับซับซ้อน ใครคนหนึ่งขี่มาบนหลังของสุนัขป่าใหญ่ยักษ์ซึ่งกำลังทะยานอย่างรวดเร็ว ขนาดลำตัวของมันใหญ่โตเป็นสองเท่าของวัวปกติก็ว่าได้ ท่าที่ทะยานผ่านเทือกเขาลำเนาไพร ผ่านเทือกเขาลูกแล้วลูกเล่า หนทางแสนจะคดเคี้ยวขึ้นลงทว่ามันกลับวิ่งมาอย่างง่ายดายราวกับวิ่งอยู่บนเส้นทางราบเรียบกระนั้น!
คนที่ขี่ควบอยู่บนหลังเป็นชายหนุ่ม เขาทำท่าทางเข่นเขี้ยว “หลิงฮั่น คนห่วยแตก ไอ้ขี้แพ้……เกิดมาเป็นจุดบอดของตระกูลหลิงแท้ๆ เอาไว้เจอหน้าเมื่อไร จะอัดให้ตายคามือ!”
ณ กลางแม่น้ำสายหนึ่ง สตรีสวมชุดสีเขียวกำลังวิ่งมาบนผิวน้ำประหนึ่งเป็นบนพื้นดินราบเรียบ สายตานางจับจ้องมองตรงแน่ว มุมปากบิดยกเล็กน้อย “แม่สาวน้อยลู่ คราวนี้เจ้าเสร็จข้าแน่ ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียเงินจ้างคนจากทำเนียบแห่งยอดคนไม่น้อยกว่าร้อยเหรียญทองเชียว ฮิฮิ……”
…
ทางด้านลานต่อสู้ เยี่ยฉวนและพวกยังคงต่อสู้กันอิรุงตุงนัง
อีกฟากหนึ่งมู่ซ่วนชิงจับตาดูการต่อสู้ของเยี่ยฉวนและคนอื่นอยู่ไม่วางตา ในที่สุด เขาก็ยกมือขึ้นทันทีและค่อยสะบัดลงตรงเบื้องหน้า
พลันกองทหารม้าหนักนับพันแห่งแคว้นถังเผ่นโผนโจนทะยานออกจากที่ตรงเข้ามาทางกลุ่มเยี่ยฉวนทันที ในเวลาเดียวกัน ยอดยุทธ์ผสานเทพกว่าสามสิบคนปรากฏกายตรงเข้าโอบล้อมคนทั้งกลุ่ม นอกจากนั้นที่บริเวณรอบนอกยังมีเงาปีศาจซ่อนเร้นล้อมกรอบวงนอกอีกชั้น!
“ฮ่าฮ่า……” ในตอนนั้นเสียงหัวเราะลอยมาจากทางด้านหนึ่งในจำนวนพวกที่กำลังโอบล้อม “เยี่ยฉวนคือคนไหน? ออกมาให้ข้าอู๋เยี่ยเด็ดหัวเสียดีๆ!”
อู๋เยี่ย! อันดับสามแห่งทำเนียบผู้เยี่ยมยุทธ์! เมื่อได้ยินเสียงประกาศกร้าว มู่ซ่วนชิงเหยียดมุมปากอมยิ้มอย่างพึงพอใจ ภาพที่ปรากฏมีคนเดินออกจากทุกทิศทุกทาง เวลานี้มีผู้คนมาที่นี่เป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้าไม่มีใครกล้าจู่โจม ทว่าเมื่อเห็นสถานศึกษาฉางมู่ออกปะทะเต็มตัว พวกมันจึงละทิ้งความกระดากใจและเริ่มเคลื่อนไหว!
เยี่ยฉวนทันทีที่เห็นคนมากมายรายล้อม ชายหนุ่มชักสีหน้าเครียดเคร่ง เขาเหลือบไปทางลู่ป้านจวงพลางว่า “เจ้าช่วยระวังหลังให้ข้าสักเดี๋ยว ขอเวลาผนึกกายาไร้เทียมทานหนึ่งก้านธูป!” เมื่อพูดจบ เยี่ยฉวนดึงกระบี่มหากาฬออกมา ขณะนั้นเองเขาจัดการผนึกกระบี่สีดำเข้าสู่กาย!
ตู้ม! ฉับพลันกระบี่มหากาฬกลายสภาพเป็นพลังประหลาดและเริ่มไหลหลากซึมซาบสู่กายา วินาทีที่หลังจากกระบี่ซึมซาบไปจนหมดสิ้น พลันรังสีประหลาดเปล่งประกายเจิดจ้าพุ่งออกมาจากร่างกายของเยี่ยฉวน แม้แต่กระบี่หลิงซิ่วยังสั่นรุนแรงอยู่ที่ภายใน หากรังสีชนิดนั้นมิได้ลดทอนกำลังลงกลับยิ่งส่องแสงสุกสว่างแจ่มจรัสมากขึ้น……
“คุ้มกันพี่เยี่ย!” เสียงของหลิงฮั่นระเบิดขึ้นจากที่ใดที่หนึ่ง พลันคนทั้งสิบเอ็ดกระจายเป็นวงล้อมรอบเยี่ยฉวน!
— จบตอน —



