Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1276

ตอนที่ 1276 เรื่องสงครามสามรกร้าง

มหาโลกสามรกร้างเกิดเปลวเพลิงสงครามครั้งใหญ่ ผู้ฝึกฌานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณใช้ระบบการฝึกฝนที่พิเศษกับขั้นพลังที่พวกเขาคุยโวว่า ของจริงบุกมายังช่องโหว่สามรกร้าง ตอนที่ปะทะกับกองกำลังปกป้องโลกกลุ่มแรกที่ รวมพลจากผู้ฝึกฌานสามโลกแท้จริงนั้น…

ด้วยความได้เปรียบที่เปรียบได้ว่าถือไพ่เหนือกว่าส่งผลให้ผู้ฝึกฌานจากสามโลกบาดเจ็บล้มตายกันอย่างหนัก ผู้ฝึกฌานจากสามโลก…ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย!

ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้ฝึกฌานของยุคสมัยที่สี่ แต่ผู้ฝึกฌานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณสืบทอดมรดกมาจากยุคสมัยที่สอง ตรงกลางไม่มีขาดตอน ไม่มีการขาดหายของระบบขั้นพลังระหว่างยุคสมัย แต่ผู้ฝึกฌานจากมหาโลกสามรกร้างต่างออกไป พวกเขาผ่านมาหลายยุคสมัย จนยุคสมัยนี้ระบบขั้นพลังดูเหมือนสมบูรณ์ แต่กลับขาดจิตวิญญาณไป มีเพียงสายเลือดไม่มีดวงจิต

การต่อสู้ครั้งนี้…ดำเนินไปเพียงสามวัน ผู้ฝึกฌานจากสามโลกก็แทบจะตายตกจนหมดสิ้น…โลหิตอาบนองโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เศษซากแขนขาเต็มไปหมด เสียงคำรามแหลมเคยดังถึงขีดสุด ตอนนี้ค่อยๆ ปิดฉากลง เหลือเพียงกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นที่กระจายไปรอบๆ เป็นการยืนยันสงครามน่าอนาถครั้งนี้

สงครามครั้งนี้…ผู้ฝึกฌานสามโลกจากสามรกร้างแทบไม่มีใครถอยเลย ไม่มีใครคิดถอย อาจจะเคยมี แต่ข้างหลังพวกเขาคือบ้าน จึงต้องเผชิญหน้ากับเสียง หัวเราะเยาะของผู้บุกรุก มองคนนับไม่ถ้วนข้างกายตาแดงก่ำ ถึงจะมีการระเบิดตัวเองเพื่อขวางการบุกรุก แต่ก็…ไม่มีใครถอย

ต่อให้ถอยไปสุดหล้าฟ้าเขียว หากทั้งสามรกร้างไม่อยู่ รอดตายไปจะมีประโยชน์อะไร คำว่ามีจิตใจเข้มแข็งที่เป็นนามธรรมนี้กลายเป็นรูปธรรมในสงครามครั้งนี้ กลายเป็นต้นกำเนิดความบ้าคลั่งของผู้ฝึกฌานสามโลกจากสามรกร้าง

เกิดการระเบิดตัวเองอย่างต่อเนื่อง เข่นฆ่ากันไม่หยุด ตายตกกันไปเรื่อยๆ… แม้ผู้ฝึกฌานสามโลกสามรกร้างจะตายกันหมดในสงครามนี้ แม้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณจะเสียหายไม่มาก แต่ความบ้าคลั่งของผู้ฝึกฌานสามรกร้างกลับสร้างความตื่นตะลึงแก่พวกเขาฝังลึกลงไป

นั่นคือ…ความบ้าคลั่งที่ยอมตายแต่ไม่ยอมศิโรราบ ยอมตายแต่ไม่ยอมก้มหัว นั่นคือ ความกล้าหาญที่จ่ายได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องทุกสิ่งที่ตนใส่ใจ!

พวกเขายืนหยัดมาสามวันก็แทบจะตายตกจนสิ้น ตอนที่ของวิเศษทั้งหมดพังลง ในที่สุดภายใต้การถ่วงเวลาของสามวันนี้ กองกำลังผู้ฝึกฌานระลอกที่สองจากสามโลกของสามรกร้างก็มาถึง

สงครามที่เหมือนจะยืดยาวไปไม่จบสิ้นจุดเพลิงขึ้นในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม และด้วยความที่ผู้ฝึกฌานสามรกร้างชินกับพายุหมุนในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเล็กน้อยแล้ว ดังนั้นในบางด้านจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ปกป้องสามรกร้าง แต่สำหรับ ผู้ฝึกฌานฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณที่ไม่ค่อยชิน พายุหมุนนี้จัดการ ยากยิ่ง

แต่ด้วยความต่างของขั้นพลังโดยรวมระหว่างสองฝ่ายกลับเป็นร่องหุบเขาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง มันลิขิตไว้แล้วว่าสงครามที่คร่าชีวิตผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนครั้งนี้ ฝ่ายที่ชนะไม่มีทางเป็นของสามรกร้าง

ในด้านขั้นพลังโดยรวม สามรกร้างสู้ไม่ได้ ในด้านจำนวนผู้ฝึกฌาน เทียบกับ ผู้ฝึกฌานที่ไร้ขีดจำกัดของสองโลกแล้ว สามรกร้างก็สู้ไม่ไหว…พวกเขามีเพียงสิ่งเดียวคือความมั่นใจที่สู้จนตัวตายอย่างไม่ยอม

ชนะ สามรกร้างก็ยังเป็นสามรกร้าง แพ้ ผู้ฝึกฌานสามรกร้างทั้งหมดจะกลาย เป็นทาส เป็นทาสไปทุกยุคสมัย ไม่มีวันได้เงยหน้าขึ้นชั่วชีวิต เป็นตายไม่มีสิทธิ์เลือก!

จะเลือกอย่างไร…ไม่มีทางเลือกแล้ว!

กองกำลังผู้ฝึกฌานสามโลกระลอกที่สองยืนหยัดไปสี่วันก็แตกพ่ายอีกครั้ง ตายตกจนสิ้นไป ทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมกลายเป็นสีโลหิต เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง พายุหมุนยังไม่อาจสลายกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นนี้ได้ ทำได้เพียงวนเวียนและตกตะกอนไปไม่มีหมดสิ้น

ระลอกที่สาม ระลอกที่สี่ ระลอกที่ห้า…

ผู้ฝึกฌานห้าระลอกถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละระลอกจะแกร่งขึ้น ของวิเศษ น่าทึ่งขึ้น แต่ก็ถ่วงเวลาของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณได้แค่มากกว่าครึ่งเดือนเท่านั้น

เมื่อเทพโบราณปรากฏตัว เมื่อสัตว์ร้ายขนาดใหญ่จากฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณราวกับเทพโบราณเดินออกมาจากช่องโหว่ ทั้งฟ้าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเกิดระลอกคลื่นไม่มีสิ้นสุด สงครามนี้…ความจริงสิ้นสุดตรงนี้แล้ว

การปรากฏของเทพโบราณกับสัตว์ร้ายเงามืดรุ่งอรุณ และยังมีพวกแปดขั้วเต๋าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนที่ลงมาเยือนอย่างโอหัง รวมถึงสิบยอดฝีมือเหี้ยมโหดจาก ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณที่ปรากฏกายอย่างดุร้าย ทำให้ตาชั่งพลังที่เดิมทีเสียสมดุลไป ตอนนี้เสียสมดุลไปอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นตาชั่งยังหายไป

ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บสาหัส ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกแท้จริงที่สี่สิ้นชีพไป เมื่อสองผู้แข็งแกร่งตายไปหนึ่งขึ้นไป จึงเหมือนกับฝุ่นละอองตกลงพื้นดิน ระฆังมรณะตีดังในมหาโลกสามรกร้าง!

หลังจากกองกำลังผู้ฝึกฌานระลอกที่ห้าแตกพ่าย ก็ไม่มีระลอกที่หก อันดับแรกโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์เปิดยอดวงแหวนอาคมผนึก ปิดตายทั้งโลกแท้จริง หยินศักดิ์สิทธิ์ ไม่ยอมส่งผู้ฝึกฌานออกไปอีก แต่ใช้การผนึกโลกแท้จริงตัวเอง เป็นพื้นฐาน ทำการป้องกันอย่างหนาแน่น

พวกเขาเสียขวัญในการทำสงครามต่อไปแล้ว มองไม่เห็นความหวังแม้แต่น้อย ตอนนี้พวกเขาหวังเพียงอย่างเดียวคือเสริมพลังของวงแหวนอาคมให้แกร่งขึ้น ลองใช้วงแหวนอาคมที่เตรียมการมาหลายปีต่อต้านพลังจากฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับ เงามืดรุ่งอรุณ

ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกแท้จริงนี้กับผู้แข็งแกร่งจำนวนมากล้วนใช้การผู้ฝึกฌานทั้งหมด ให้วงแหวนอาคมของพวกเขาไม่มีข้อบกพร่อง นี่คือการเลือกถูกกระทำ แต่ว่า… พวกเขามองไม่เห็นทางในอนาคตแล้ว

หลังโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ผนึกโลก ทางฝั่งโลกแท้จริงที่สี่เงียบก่อนเลือก ปิดโลกเช่นกัน ไม่ส่งผู้ฝึกฌานออกไปอีก…

ตอนนี้ เหมือนไม่ว่าพลังใดก็ไม่อาจขวางฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณ ได้แล้ว ผู้ฝึกฌานจากสองโลกที่ไม่มีสิ้นสุดกระจายกันเป็นวงกว้าง หลังสร้างเป็นสองฐานใหญ่แล้วก็ยึดครองโลกดาราสัจธรรมไปทั้งหมด ทำให้ที่นี่ไม่ใช่ของสามรกร้างอีก

ผู้ฝึกฌานจำนวนมากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าร่วมสำนักดาราสัจธรรมแต่กระจัดกระจายกันอยู่ข้างนอก พวกเขาทำสงครามดุเดือดกับผู้ฝึกฌานนอกโลกเป็นบางครั้ง ทว่านี่เป็นเพียงประกายไฟเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่ก่อให้เกิดไฟร้อนแรง

ทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเป็นซากปรักหักพัง…มีเพียงกลิ่นคาวเลือดกับโลหิต

มองไม่เห็นแผ่นดินหมานภายในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เพราะขณะเดียวกับ ที่สงครามปะทุขึ้น ศิษย์พี่รองที่ได้รับดวงจิตโลกแท้จริงจึงได้รับข่าวจากซูหมิงเป็นคนเปิดวงแหวนอาคมเคลื่อนย้ายที่ใกล้กับแผ่นดินหมานมากที่สุดด้วยตัวเอง จากนั้นเคลื่อนย้ายชาวเผ่าหมานเข้าไปในสำนักดาราสัจธรรมในอดีตซึ่งเป็นสำนักยอดเขาลำดับเก้าในปัจจุบัน

เมื่อฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณลงมาเยือนจำนวนมาก ทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรมแทบกลายเป็นผืนฟ้าของสองโลกนี้ อีกทั้งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์กับโลกแท้จริงที่สี่ยังจำใจปิดโลก ดังนั้นสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับ เงามืดรุ่งอรุณจึงมีเพียงห้าสถานที่!

หนึ่ง โลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก สอง สำนักดาราสัจธรรม สาม…วงแหวนอาคมธูปสวรรค์ สี่ วิหารเหล่าเทพ ห้า…น้ำวนมรณะหยิน!

พูดได้ว่าตอนที่เกิดสงครามขึ้น โลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกเลือกปิดโลกเป็นฝ่ายแรก ผู้ฝึกฌานในนั้นจึงอยู่ครบถ้วน เหมือนว่าเป็นอิสระ ไม่ติดต่อกับโลกอื่นๆ ใน สามรกร้างเลย

ส่วนวงแหวนอาคมธูปสวรรค์ก็เป็นจุดที่ฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณลงมาเยือนก่อนที่สุด แต่การมอดดับของธูปสวรรค์ทำให้พวกเขาไม่ได้รับพลังชีวิตใดๆ เลย ที่เตรียมการมาก่อนหน้านี้เป็นอันต้องยกเลิก

ส่วนน้ำวนมรณะหยินก็เป็นที่สนใจของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณ แต่ผู้ฝึกฌานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนไปคนแรกสุด เหมือนว่าในสัญญาครอบคลุมกับ เงามืดรุ่งอรุณจะมีเส้นแบ่งเขตกันอยู่ ดังนั้นฝ่ายเงามืดรุ่งอรุณเลยไม่ได้ตามมา

มีเพียงวิหารเหล่าเทพที่มีผู้ฝึกฌานจากฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณโอบล้อมอยู่รอบอักขระยักษ์ที่ลอยอยู่กลางฟ้า ต่างฝ่ายต่างส่งผู้ฝึกฌานมาจำนวนมาก ทำการศึกษาและลองเปิด

สุดท้ายถึงเป็นสำนักดาราสัจธรรมหรือก็คือสำนักยอดเขาลำดับเก้า ที่นี่…แทบจะกลายเป็นจุดที่ฝึกกองทัพของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกับเงามืดรุ่งอรุณ ผู้ฝึกฌาน สองโลกนี้เหมือนจะไม่ได้รีบร้อนบุกสามรกร้างมากนัก แต่ตั้งฐานทัพอยู่ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม

ด้านหนึ่งศึกษาวิหารเหล่าเทพ อีกด้านหนึ่งเสริมช่องโหว่ให้มั่นคง ทำให้ช่องโหว่ขยายใหญ่ขึ้นแทบจะตลอดเวลา ในเวลาเดียวกันก็ใช้สำนักยอดเขาลำดับเก้าฝึกฝนกองทัพโดยการโจมตีวงแหวนอาคมของยอดเขาลำดับเก้าอย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนนี้ผ่านไปราวหนึ่งเดือน วงแหวนอาคมยอดเขาลำดับเก้าเสียหายอย่างหนัก แต่กลับไม่พังลง ทว่าผู้ฝึกฌานสองโลกที่ล้อมโจมตียอดเขาลำดับเก้ากลับมีพลังที่แกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนว่า…ในหนึ่งเดือนกว่านี้ พวกเขาเริ่มชินกับสามรกร้าง คล้ายว่าที่พวกเขาตั้งฐานหนึ่งเดือนกว่านี้ก็เพราะพวกเขาต้องการเวลาในการปรับตัวกับที่นี่

พอปรับตัวได้ พอพวกเขาแผ่ขยายพลังออกมาโดยไม่กักเอาไว้แม้แต่น้อยได้ ฝันร้าย…ถึงเพิ่งเริ่มขึ้น

โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์เป็นของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน โลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกเป็นของเงามืดรุ่งอรุณ กองทัพผู้ฝึกฌานที่โจมตีสองโลกแท้จริงนี้เปิดฉากสงครามสะเทือนฟ้าดิน…

กลับกันในโลกแท้จริงที่สี่ เหมือนว่าจะถูกจงใจมองข้ามไป ไม่ว่าฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนหรือเงามืดรุ่งอรุณล้วนไม่มีใครล่วงเกินมากนัก ทว่ายอดเขาลำดับเก้าใน โลกแท้จริงดาราสัจธรรมไม่ได้โชคดีอย่างโลกแท้จริงที่สี่ แต่เมื่อวงแหวนอาคมถูกลดกำลังเรื่อยๆ ก็เริ่มเกิดเค้าลางจะพังลง

ข้างนอก ผู้ฝึกฌานจากนอกโลกจำนวนมากปิดล้อม พวกเขาไม่ได้รีบร้อนจะทำลายวงแหวนอาคมของยอดเขาลำดับเก้า ความจริงต่อให้รีบร้อนก็ไม่มีประโยชน์ วงแหวนอาคมยอดเขาลำดับเก้าสร้างด้วยมือหู่จื่อเอง หากแค่นี้อาจจะไม่พอ แต่ว่าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมคือร่างแยกของซูหมิง ตอนนี้ด้วยความที่ซูหมิงอยู่มหาโลกซางเซียง ร่างแยกนี้จึงเสียความปราดเปรียวไปเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้ดวงจิตของ หนึ่งโลกแท้จริงปกป้องหนึ่งวงแหวนอาคมได้อยู่ดี

หลังผู้ฝึกฌานเคลื่อนไหวเป็นกองกำลังใหญ่ หลังโลกจักรพรรดิยมโลกกับ หยินศักดิ์สิทธิ์ถูกจู่โจมด้วยไฟสงคราม ตอนนี้นอกวงแหวนอาคมประตูสำนักยอดเขาลำดับเก้า ข้างหลังผู้ฝึกฌานนอกโลกที่ปิดล้อมอยู่จำนวนมากมีร่างเงาชายหญิงคู่หนึ่ง สองคนนี้กำลังมองวงแหวนอาคมของยอดเขาลำดับเก้าด้วยแววตาเย็นชา

“ข้าไม่เข้าใจจริงๆ กับอีแค่วงแหวนอาคมเล็กจ้อยกับสำนักเล็กๆ แบบนี้ เหตุใด ผู้สูงศักดิ์ของสองโลกของเราถึงสนใจขนาดนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะยังไม่ให้พวกเราโจมตี…มิเช่นนั้นแล้ว ขอเพียงเชิญผู้สูงศักดิ์สามท่านก็ทำลายวงแหวนอาคมนี่ได้ในเวลาสั้นๆ” หญิงคนนั้นงดงามยิ่ง ตอนนี้ม้วนเส้นผมขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงไพเราะ แต่กลับแฝงไว้ด้วยความเฉยชา

“ข้าเองก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ผู้สูงศักดิ์เหล่านั้นของฝ่ายข้ากับเจ้าเป็นรองเพียงผู้สูงส่งหวนคืนกับจักรพรรดิรุ่งอรุณเท่านั้น ซ้ำยังเป็นทูตที่สนิทสนมกับ ผู้สูงส่งหวนคืนกับจักรพรรดิรุ่งอรุณอีก

ความประสงค์ของพวกเขาจะต้องมาจากท่านผู้สูงส่งหวนคืนกับจักรพรรดิรุ่งอรุณแน่ เจ้ากับเขาไม่จำเป็นต้องดื้อหรอก แต่มานึกดูแล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าเห็นหรือไม่ว่าโลกแท้จริงดาราสัจธรรมนี้…มักจะทำให้ข้าใจไม่สงบ” ชายวัยกลางคนข้างกายหญิงคนนั้น สวมชุดคลุมฟ้าทั้งตัว ตอนนี้ขมวดคิ้ว มองวงแหวนอาคมยอดเขาลำดับเก้าพลาง พูดขึ้นช้าๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!