บทที่ 107 : กายผันแปรที่แท้จริง
การปรากฏตัวของกวานเฉินทำให้จ้าวเฟิงคนอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจเล็กๆ
เจ้าเมืองกว่านจวินยังคงเยือกเย็น
“อย่าได้กังวล เขาเป็นเพียงศิษย์ที่อยู่ในระดับนภาสามแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ และเขาไม่มีพลังมากพอที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทดสอบ”
บนแท่นหินนั้น ผู้คุมกฎชิวกวาดตามองเหล่าศิษย์ด้วยสายตาตักเตือน ศิษย์เหล่านี้ราวกับโดนสายฟ้าฟาดและพลันถอยร่นไปในระยะหนึ่งและเงียบไป
แม้ว่ากวานเฉินจะทำเช่นนั้น เขาก็ดูราวกับหวาดกลัวผู้คุมกฎชิวเช่นกัน
ในสำนักจันทร์สลาย ผู้คุมกฎนับเป็นระดับกลางในพรรค ไม่เพียงแค่มีอำนาจมาก ทั้งยังอยู่ในขอบเขตก่อกำเนิดปราณอีกด้วย
“การทดสอบแรก ‘แท่งผลึกจิตวิญญาณนภา’ ทดสอบพรสวรรค์ของพวกเจ้า เห็นแท่งผลึกทรงกลมนั่นหรือไม่? นั่นคือสิ่งที่จะใช้ตรวจวัดพรสวรรค์ของพวกเจ้า” เจ้าเมืองกว่านจวินเอ่ยแนะนำ
จ้าวเฟิงและอีกสองคนหันไปทางแท่งผลึกที่สูงกว่า 5 เมตร มันคล้ายคลึงกับคริสตัลทรงกลมที่ผู้เป็นอาจารย์ให้เมื่อก่อนหน้า ทว่าดีกว่ามากนัก
ไม่ช้า เหล่าเด็กหนุ่มสาวก็ได้รับแผ่นป้ายที่มีข้อมูลพื้นฐานของพวกเขาอยู่ด้านใน
“การทดสอบแรก ‘แท่งผลึกจิตวิญญาณนภา’ เริ่มต้น หมายเลข 1 ซางอวิ๋นเฉิน” ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยประกาศ
บนแท่นหินนั้น ผู้คุมกฎชิวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขาเป็นคนทำงานทุกอย่าง
ไม่ช้า หมายเลข 1 ซางอวิ๋นเฉินก็เดินขึ้นไปบนแท่นหินและไปถึงยังเบื้องหน้าแท่งผลึกจิตวิญญาณนภา วิธีการทดสอบนั้นเป็นเช่นเดียวกับคริสตัลกลม รวบรวมพลังจิตและใส่มันลงไปในแท่งผลึก
วิ้ง
ชั้นแสงสีขาวปรากฏขึ้นบนแท่งผลึกและสูงราวๆ 2 เมตร
แท่งผลึกทั้งแท่งนั้นสูง 5 เมตร 0.5 เมตรสี่ชั้นแรกนั้นหมายถึงกายมนุษย์ระดับต่ำ กลาง สูง สุดยอด พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มนั้นสูงถึง 2 เมตร ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นกายมนุษย์ขั้นสุดยอด
“กายมนุษย์กระทั่งต้องการเข้าร่วมสำนัก? ฝันไปเถอะ! ออกไปจากที่นี่!”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังก้องไปทั่วแท่นหิน เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะทดสอบเดินลงจากแท่นหินด้วยท่าทางราวกับสูญเสียวิญญาณไปแล้วและถูกนำตัวไปโดยศิษย์ของสำนัก
ภาพนั้นทำให้จ้าวเฟิงและอีกสองคนมองหน้ากันเองด้วยความตกตะลึง ทุกคนควรรู้ว่าอัจฉริยะเช่นจ้าวหลินหลงเป็นเพียงแค่กายมนุษย์ระดับสูง กระทั่งด้วยพรสวรรค์เช่นเขายังถูกส่งกลับบ้านไปเช่นนี้
ความจริงนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้ทดสอบพรสวรรค์ของพวกเขาก่อนเมื่อพวกเขาไม่มีคริสตัลเช่นเจ้าเมืองกว่านจวิน
ไม่ช้า เด็กหนุ่มสาวบางคนก็ขึ้นไปทดสอบ เด็กหนุ่มคนที่สองได้คะแนนที่ดีกว่าคนแรกเมื่อชั้นแสงของเขาได้สูงถึง 2.5 เมตร แสดงถึงกายจิตวิญญาณระดับต่ำ
“กายจิตวิญญาณระดับต่ำ ผ่าน 2 แต้มสำหรับการทดสอบแรก”
ตามกฎนั้น ตราบเท่าที่พรสวรรค์ของคนผู้นั้นเลย 2 เมตรขึ้นไป พวกเขาจะผ่านและได้รับคะแนนตามความสูงของพรสวรรค์ของพวกเขา
2.25 เมตรได้รับ 1 คะแนน แทนที่กายครึ่งจิตวิญญาณ
2.5 เมตรได้รับ 2 คะแนน แทนที่กายจิตวิญญาณระดับต่ำ
2.75 เมตรได้รับ 3 คะแนน และพรสวรรค์ที่กายจิตวิญญาณระดับต่ำถึงกลาง
หากพรสวรรค์ของคนผู้หนึ่งมากถึง 3.5 เมตร พวกเขาจะได้รับคะแนน 6 คะแนนในฐานะของกายจิตวิญญาณระดับสูง
6 แต้มนั้นเป็นคะแนนเต็มในการทดสอบ เพราะหากพรสวรรค์ของคนผู้หนึ่งสูงส่งเช่นเป่ยโม่ย พวกเขาจะได้รับ 10 คะแนนและเข้าร่วมสำนักได้โดยตรงโดยไม่ต้องเข้ารับการทดสอบที่เหลือ
การทดสอบแรกนั้นสำคัญที่สุด
“หมายเลข 27 เซี่ยวซุน!” ศิษย์คนหนึ่งตะโกนเรียก
เด็กหนุ่มสาวทุกคนพลันมองไปยังเจ้าของชื่อซึ่งเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าสู่ขั้นเก้าได้
วิ้ง
แสงบนแท่งผลึกนั้นส่องสว่างยิ่งจนกระทั่งผู้ที่อยู่ห่างออกไปนับลี้ก็ยังอาจสังเกตเห็นมันได้
3.25 เมตร!
เด็กหนุ่มสาวเบื้องล่างจ้องมองมันอย่างอึ้งตะลึง
“3.25 เมตร ผ่าน 5 คะแนน”
คะแนนของเซี่ยวซุนนั้นเกือบจะสมบูรณ์แบบ เป็นเพราะผู้ที่ได้คะแนนมากกว่า 6 คะแนนในบททดสอบแรกล้วนแล้วแต่ถูกรับเข้าโดยไม่ต้องสงสัย
การทดสอบยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ 1 ใน 3 ของผู้สมัครถูกกำจัดออกไป
“หมายเลข 33 อวิ๋นเมิ่งเซียง!”
ในตอนนี้ สายตาของเหล่าเด็กหนุ่มได้ถูกดึงดูดไปโดยเด็กสาวสูงศักดิ์ผู้นี้ นางเป็นองค์หญิงแห่งจักรวรรดิเมฆา อวิ๋นเมิ่งเซียง
วิ้ง!
แสงของแท่งผลึกนั้นสูงสามเมตร พรสวรรค์ของนางนั้นคือกายจิตวิญญาณระดับกลาง
“ 3 เมตร ผ่าน 4 คะแนน”
พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มสาวส่วนมากนั้นค่ำกว่า 3 เมตร และในฐานะขององค์หญิงผู้ซึ่งมีรูปลักษณ์งดงามและพรสวรรค์สูงส่ง อนาคตของนางนั้นไม่อาจจินตนาการได้
จ้าวเฟิงผงกศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ เด็กหนุ่มสาวที่เขาสนใจล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์ที่ดี
“หมายเลข 41 หลิวเยว่เอ๋อร์!”
เด็กสาวใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มลอยขึ้นไปบนแท่นหิน และจากท่าทางมั่นใจนั้น นางอาจมีพรสวรรค์ที่ดี
วิ้งง!
แสงที่สว่างจากแท่งผลึกนั้นเจิดจ้าเสียจนทุกคนในระยะสามสิบลี้สามารถมองเห็นมันได้
โอ้ สวรรค์!
เด็กหนุ่มสาวเบื้องล่างต่างตะลึงงัน แสงนั้นสูงถึง 3.5 เมตร!
3.5!!!
“ดี! กายจิตวิญญาณระดับสูง! 3.5เมตร! นี่เป็นผลที่ดีที่สุดเท่าที่ทดสอบมา หมายเลข 41 หลิวเยว่เอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องเข้ารับการทดสอบที่เหลือและสามารถเข้าสำนักได้โดยตรง”
กระทั่งดวงตาของผู้คุมกฎชิวยังเปล่งประกาย
กายจิตวิญญาณระดับสูง!
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เริ่มทดสอบมา
“เจ้าเมืองชางตี้ ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าหลานสาวของท่านจะมีพรสวรรค์สูงส่งเช่นนี้” สีหน้าของเจ้าเมืองกว่านจวินแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ฮ่าฮ่า เช่นกัน ศิษย์ของท่าน ‘จ้าวเฟิง’ ย่อมไม่ห่างไกลจากเยว่เอ๋อร์เท่าใด” เจ้าเมืองชางตี้แย้มยิ้ม
เป็นเพราะอายุของเด็กหนุ่มนั้นใกล้เคียงหลิวเยว่เอ๋อร์ และพลังฝึกตนของพวกเขานั้นเองก็อยู่ที่ราวๆ เดียวกัน เจ้าเมืองชางตี้จึงคาดเดาไปโดยอัตโนมัติว่าศิษย์ผู้นี้ของอีกฝ่ายย่อมคล้ายคลึงกับหลิวเยว่เอ๋อร์
เจ้าเมืองกว่านจวินแย้มยิ้มตอบทว่ายังคงไม่เอ่ยสิ่งใด
หลังจากการทดสอบของหลิวเยว่เอ๋อร์ แทบจะไม่มีผู้ใดเหนือกว่านาง มีเพียงบางคนที่มีกายจิตวิญญาณระดับกลาง เพราะว่ามันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างกายจิตวิญญาณระดับกลางและต่ำ
“หมายเลข 49 จ้าวเฟิง!” เสียงของศิษย์ของสำนักผู้หนึ่งดังขึ้น
เป็นตาของจ้าวเฟิงแล้ว เจ้าเมืองกว่านจวินและเจ้าเมืองชางตี้เพ่งความสนใจไปยังเขา
ไม่ห่างไกลออกไปนัก หลิวเยว่เอ๋อร์ได้ส่งสายตายั่วยุไปทางเด็กหนุ่ม ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะนางได้ในตอนนี้ จ้าวเฟิงเหลือบตามองอีกฝ่ายอย่างผ่านๆ ก่อนจะเดินอย่างมั่นใจขึ้นไปบนแท่นหิน
หลิวเยว่เอ๋อร์และเจ้าเมืองชางตี้ต่างตะลึงไป ในสายตาของเด็กหนุ่มนั้น พวกเขารับรู้ได้ถึงความเหยียดหยาม ราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้เห็นเด็กสาวอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“ฮ่าาา! เช่นนั้นมาดูกันว่าพรสวรรค์ของเจ้าเป็นเช่นไร!”
หลิวเยว่เอ๋อร์หายใจหอบถี่อย่างกราดเกรี้ยว ทว่าเมื่อเห็นท่าทีไม่ใส่ใจและท่าทางมั่นใจของเด็กหนุ่ม นางก็มีความรู้สึกย่ำแย่
พรสวรรค์องเขาจะดีกว่าข้าหรือไม่?
กระทั่งเจ้าเมืองชางตี้ยังมีสีหน้าเคร่งเครียด จ้าวเฟิงเดินขึ้นไปบนแท่นหินและวางมือของเขาลงบนแท่งผลึกจิตวิญญาณนภา
วิ้ง!
แสงในแท่งผลึกนั้นพุ่งขึ้นไปยัง 1 เมตร ก่อนจะสั่นสะท้านอย่างแผ่วเบาและพุ่งไปยัง 2.5 เมตร เมื่อมันสูงถึง 2.5 เมตร แสงนั้นก็เกือบจะหยุดนิ่ง
จ้าวฟิงรู้สึกว่าดวงตาของเขากระตุก ทว่าเขาไม่ได้เปิดความสามารถของมัน หรือไม่เช่นนั้นแสงในแท่งผลึกย่อมพุ่งไปยัง 4 เมตรอย่างง่ายดาย ในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ฝึกฝนการควบคุมพรสวรรค์ของเขาด้วยคริสตัลกลม
“2.5 เมตร กายจิตวิญญาณระดับต่ำ ผ่าน! 3 แต้ม!”
คะแนนของบททดสอบแรกขงเด็กหนุ่มถูกประกาศออกมา
พรสวรรค์ของจ้าวเฟิงนั้นธรรมดายิ่งนัก และเขาไม่ได้เข้าตาผู้ใด
“เพียงแค่กายจิตวิญญาณระดับต่ำ? ฮ่าฮ่า”
หลิวเยว่เอ๋อร์หัวเราะเยาะเด็กหนุ่ม ในเวลาเดียวกัน เจ้าเมืองชางตี้และตัวนางต่างถอนลมหายใจออก ปู่และหลานทั้งสองนั้นได้ผวาไปกับท่าทางมั่นใจของจ้าวเฟิง
เด็กหนุ่มเดินลงจากแท่นหินและมองไปยังหลิวเยว่เอ๋อร์ด้วยท่าทางหยอกล้อ
“ไอ้เด็กเหลือขอน่ารังเกียจนี่พยายามทำตัวเท่รึอย่างไร!”
หลิวเยว่เอ๋อร์นั้นโกรธเกรี้ยวเสียจนร่างเริ่มสั่นสะท้าน และในที่สุดนางก็ตระนักได้ว่านางถูกปั่นหัวโดยอีกฝ่าย เจ้าเมืองชางตี้ไม่มีสิ่งใดจะเอ่ยเช่นกัน เขาเองก็ได้คิดว่าเด็กหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์แสนยอดเยี่ยมเพราะความเงียบของเจ้าเมืองกว่านจวินก่อนหน้า
กวานเฉินที่เฝ้ามองอยู่ได้เผยรอยยิ้มหยามหยันออกมา
“กายจิตวิญญาณระดับต่ำ? คนเช่นเขาไม่อาจถูกเลี้ยงดูโดยสำนักเสียด้วยซ้ำ เขาถูกกำหนดมาให้อยู่ระดับต่ำสุดของสำนัก”
กระทั่งกวานเฉินก็ไม่ได้เห็นพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มอยู่ในสายตา เช่นนั้นแล้วเหล่าผู้อาวุโสเล่า?
การทดสอบยังคงดำเนินต่อไปและความสามารถของจ้าวเฟิงนั้นไม่ได้สร้างความสนใจให้ผู้อื่น เจ้าเมืองกว่านจวินพ่นลมหายใจออกเมื่อขั้นตอนแรกของแผนผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
หยางชิงชั่นและหนานกงฟั่นต่างขึ้นไปทดสอบและพรสวรรค์ของพวกเขานั้นอยู่ที่ 3 เมตร และ 2.75 เมตรตามลำดับ
จ้าวเฟิงนั้นไม่ได้คิดว่าหยางชิงชั่นจะมีกายจิตวิญญาณระดับกลางและหนานกงฟั่นจะอยู่ที่ระหว่างกายจิตวิญญาณระดับต่ำและระดับกลาง
“กายจิตวิญญาณระดับกลาง? ไม่เลว ทว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะคุกคามท่านอาจารย์ หืม… ดูเหมือนว่าเราควรจะให้ความสนใจกับหยางชินชั่นผู้นี้เสียหน่อย…”
ความสามารถของหยางชิงชั่นได้ดึงดูดความสนใจของกวานเฉิน ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงมีท่าทางสบายอารมณ์เช่นเคย
บททดสอบแรกเข้าสู่จุดสิ้นสุดแล้ว
“หมายเลข 72 ซุนหยวนเฮา!”
ชื่อนั้นได้ดึงดูดความสนใจของจ้าวเฟิง เด็กหนุ่มอายุ 13-14 ขวบปีเดินขึ้นไปบนแท่นหิน เขานั้นกระทั่งเด็กกว่าจ้าวเฟิง ทว่าเขาได้เข้าสู่ขั้นแปดแห่งหนทางผู้ฝึกตนแล้ว
ความสามารถของเขานั้นกระทั่งเข้าตาของผู้คุมกฎชิว
ซุนหยวนเฮาวางมือของเขาลงบนแท่งผลึกจิตวิญญาณนภาอย่างกระสับกระส่าย
วิ้ง
แสงนั้นหยุดลงที่ 1.25 เมตรหรือราวๆ นั้น
หืม?
กลุ่มคนที่เฝ้ามองอยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กๆ เพราะซุนหยวนเฮานั้นได้มีพลังฝึกตนสูงยิ่งในช่วงอายุของเขา
วิ้ง! วิ้ง!
แสงบนแท่งผลึกจิตวิญญาณนภาพลันพุ่งขึ้นลงและไม่แน่นอนยิ่งนัก
ทันใดนั้นแสงที่สูงราว 1.25 เมตรได้พุ่งขึ้นไปที่ 2.5 เมตร ก่อนจะลดต่ำลงไปที่ 1 เมตร
แปลก!
ภาพนั้นทำให้จ้าวเฟิงนึกถึงยามที่จ้าวหยูเฟ่ยได้ทดสอบพรสวรรค์ของนางด้วยคริสตัล เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นเองก็ไม่มั่นคงเช่นนี้เช่นกัน ทว่าครานี้ พวกเขาได้ทดสอบกับแท่งผลึกจิตวิญญาณนภาซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า
วิ้งงง
แสงนั้นพุ่งขึ้นไปที่ 3 เมตร เกือบจะเท่ากับ 3.5 เมตร
โอ้ สวรรค์!
เกิดอันใดขึ้น?
ฝูงชนนิ่งงันไป
“นี่… จะใช่กายผันแปรที่หายากยิ่งนั่นหรือไม่?” ผู้คุมกฎชิวเอ่ยขึ้น
ควิ้ง ฟุ่บ
ทันใดนั้น แสงก็ได้ระเบิดออกและสูงถึง 4 เมตร ให้แสงสว่างเจิดจ้าเสียจนทุกสิ่งในระยะหลายสิบลี้ถูกปกคลุมด้วยแสงนั้น
4 เมตร!
ดวงตาของฝูงชนนั้นแทบจะหลุดออกจากเบ้า
กรามของกวานเฉินนั้นแทบจะร่วงหล่นลง
“พรสวรรค์ของเขานั้นกระทั่งใกล้เคียงเป่ยโม่ย!”
สุดยอดอัจฉริยะอีกหนึ่งคน!
“… นี่คือกายผันแปรที่แท้จริง”
จ้าวเฟิงเยือกเย็นลงจากความตะลึงและตื่นเต้น ในขณะที่เจ้าเมืองกว่านจวินที่ยืนเคียงข้างเขามีสีหน้าสงสัย