Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 708

ตอนที่ 708

ตัดจิตมาร ค้นหาเต๋า!

ในความคิดเห็นของพวกมัน ไม่มีทางที่เมิ่งฮ่าวจะยินดีสร้างศัตรูไปทั่วทั้งสำนักเซี่ยเยา ค่าตอบแทนสำหรับการทดสอบก็ถูกจ่ายออกไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกมันจะพูดขึ้นมา เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง

ดังนั้นพวกมันจึงตัดสินใจที่จะไปกังวล ถึงเรื่องการพูดคุยกับเมิ่งฮ่าวในภายหลัง ในความคาดคิดของพวกมัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อมาก็คือ ปรมาจารย์อสูรโลหิตจะปรากฏกายขึ้น และเรื่องราวก็จะราบรื่นไปเอง

บนยอดเขาห้า หญิงสาวเยาว์วัยผู้น่ารัก ยกมือขึ้นมาทาบอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ รวดเร็วมากจนทำให้นางเกิดความประทับใจขึ้นลึกๆ อยู่ภายใน สำหรับชายชราหลังค่อม มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ กระแอมไอออกมา และจากนั้นก็กล่าวเสียงราบเรียบ “ปรมาจารย์อสูรโลหิตจะปรากฏกายขึ้นในตอนนี้ และเรื่องราวก็จะได้ข้อสรุปแล้ว อา, เจ้าสำนักน้อยผู้นี้…ยังเยาว์วัยจริงๆ ช่างหุนหันพลันแล่นนัก ข้ามีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนานและ…”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ…

เมิ่งฮ่าวไม่สนใจซากศพที่เหลวแหลกอยู่ที่แทบเท้าโดยสิ้นเชิง หันหน้ามองไปยังยอดเขาสอง ความโหดเหี้ยมราวน้ำแข็งในดวงตาเริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

“ข้าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าในตอนนี้เป็นอย่างไร!” เขากล่าว พร้อมกับความไม่อยากจะเชื่อของพวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมด เขาเริ่มเคลื่อนที่ตรงไปยังยอดเขาสอง!

ทันใดนั้นสำนักเซี่ยเยาก็ตกอยู่ในความเงียบราวกับเป็นสุสาน

บนยอดเขาสอง สีหน้าของผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับสลดลง

“บ้า!” มันคิด “เจ้าบัดซบผู้นี้เป็นคนบ้า!”

สีหน้ามันเปลี่ยนไป ถอยไปด้านหลัง “ข้า…ข้าแค่พูดไปโดยไม่ทันคิด แต่มันก็…บัดซบ!”

สามผู้เฒ่าไฟอสูรบนยอดเขาสี่ ต่างก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน กัดฟันแน่น พวกมันบินออกมาตามลำดับตรงไปยังยอดเขาที่สอง

เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นเพียงไม่นานเขาก็เข้าไปใกล้ ยกมือขวาขึ้น และไข่มุกสีดำขาวก็ปรากฏ หมุนวนอยู่รอบๆ ขุนเขาที่เก้า ขณะที่พวกมันลอยอยู่เหนือยอดเขาสอง ท้องฟ้าสะท้านพื้นดินสะเทือน

ศิษย์สำนักเซี่ยเยาต่างก็ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เสียงหอบหายใจได้ยินมา ขณะที่พวกมันมองขึ้นไปยังเจ้าสำนักน้อยผู้ไร้เทียมทาน!

“ไม่จำเป็นต้องลงมาเพื่อบดขยี้ข้า, ข้าจะขึ้นไปบดขยี้พวกเจ้าทั้งหมดเอง!”

“ข้าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าในตอนนี้เป็นอย่างไร!”

“นั่นก็คือสิ่งที่เจ้าสำนักน้อยกล่าวมา! ช่างมีอำนาจอย่างถึงที่สุด! มันเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักเซี่ยเยาของพวกเราจริงๆ!”

ตอนนี้ศิษย์ทั้งหมดของผู้เฒ่าต่างๆ ในสำนัก ต่างก็หอบหายใจออกมา ขณะที่ตระหนักว่า เจ้าสำนักน้อยของพวกมันช่างมีอำนาจอย่างแท้จริง ดวงตาพวกมันเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว

การมีเจ้าสำนักน้อยเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าประทับใจนัก

แต่กลับกัน ผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับแห่งยอดเขาสอง รวมทั้งศิษย์ทั้งเจ็ดของมัน ต่างก็มีใบหน้าซีดขาวและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนหน้านี้พวกมันเยาะเย้ยเมิ่งฮ่าว และดูถูกดูแคลนต่อความเยาว์วัยของเขา แต่ตอนนี้พวกมันถึงได้เข้าใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากจ้องมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ

สำหรับบุรุษเยาว์วัยที่ถือพัดอยู่ในมือบนยอดเขาสี่ ใบหน้ามันซีดขาวด้วยความตกตะลึง ทันใดนั้นมันก็ตระหนักว่าเจ้าสำนักน้อย…อาจจะมีท่าทางที่ไร้พิษสงใดๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นผู้ที่เอาแต่ใจโดยสิ้นเชิงเมื่อถูกกระตุ้นท้าทาย

เขาจะไม่ให้โอกาสเป็นครั้งที่สอง เมื่อตัดสินใจที่จะลงมือแล้ว ก็ต้องกระทำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์

เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปยังยอดเขาสอง และเมื่อเหยียบย่างเท้าลงไป ทั่วทั้งภูเขาก็สั่นไหวไปมา เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้นชี้นิ้วตรงไปยังผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับที่กำลังล่าถอยออกไป

“เจ้าต้องการค่าตอบแทน? นี่ก็คือค่าตอบแทนของข้า เป็นค่าตอบแทนที่ข้าจะมอบให้กับยอดเขาสอง เพื่อหวังโหย่วฉาย” เหตุผลที่เมิ่งฮ่าวเลือกมายังยอดเขาสองจริงๆ แล้วก็คือหวังโหย่วฉาย

เมิ่งฮ่าวได้สังเกตเห็นถึงการปฏิบัติต่อหวังโหย่วฉายของยอดเขาสองก่อนหน้านี้ และรู้สึกไม่พอใจ ขณะที่เขาชี้นิ้วออกไป สายลมก็พุ่งขึ้นมาราวกับจะตัดแยกสวรรค์ ไข่มุกดำขาวและขุนเขาที่เก้ากลายเป็นความเลือนลาง ขณะที่พุ่งตรงไปยังเด็กชายในชุดนักศึกษา ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับ

สีหน้าผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับสลดลง และทันใดนั้นมันก็ขยับมือร่ายเวท แสงสีโลหิตก็กระจายออกมาอยู่รอบๆ ตัวมัน กลายเป็นใบมีดสีโลหิต กรีดเฉือนตรงไปยังสายลมที่เกิดจากนิ้วของเมิ่งฮ่าว

ใบมีดที่กรีดเฉือนลงไปนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งวงจรอันยิ่งใหญ่ของตัดวิญญาณครั้งแรก พลังระเบิดที่ปรากฏขึ้นแทบจะเกือบเท่ากับพลังของตัดวิญญาณครั้งที่สอง

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงออกมา และชี้นิ้วตรงไปอีกครั้ง

“เจ้ากล้า!?” หนึ่งในสามผู้เฒ่าไฟอสูรแผดร้องออกมา เป็นชายชราที่กระจายกลิ่นอายของตัดวิญญาณครั้งที่สองออกมา “เมิ่งฮ่าว มากเกินไปแล้ว! เจ้าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่ง เพราะอยู่ในขั้นตัดวิญญาณครั้งที่สอง? แล้วจะอย่างไร!?”

เมิ่งฮ่าวไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองยังพวกมัน เขาแค่โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ขณะที่พลังโจมตีจากนิ้วกระแทกเข้าไปในใบมีดสีโลหิต ใบมีดนั้นแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ ในทันที และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับ ขณะที่ร่างมันสั่นสะท้านลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง ราวกับว่าวที่ถูกตัดสายป่าน นิ้วที่สองของเมิ่งฮ่าวก็กระแทกเข้าไปที่ร่างมัน

เสียงระเบิดดังก้องออกมาอีกครั้ง และผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา ขณะที่ร่างของมันครึ่งตัวระเบิดออก แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของมันลอยออกไป ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ที่สามผู้เฒ่าไฟอสูรจากยอดเขาสี่ก็มาถึง

“เมื่อพวกเจ้ามาแล้ว ข้าก็คิดว่าจะมอบค่าตอบแทนให้กับพวกเจ้าด้วยเช่นกัน” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบก้าวเท้าตรงไป

คนทั้งสามตกตะลึง แต่ผู้เฒ่าตัดวิญญาณครั้งที่สอง ซึ่งมีอายุมากที่สุดในสามผู้เฒ่าไฟอสูร โบกสะบัดมือทำให้ทะเลแห่งโลหิตปรากฏขึ้น

“ทำไมเจ้ามุ่งแต่โจมตีพวกเรา?! เจ้าเป็นสายลับจากสำนักอื่นหรืออย่างไร? เจ้าหลอกลวงปรมาจารย์อสูรโลหิตอยู่ ใช่หรือไม่!?”

“สิทธิ์ในการสังหารของข้า ยังเหลืออยู่อีกเจ็ดสิบแปดคนในปีนี้” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบเสียงเยือกเย็น

ทันทีที่คำพูดหลุดออกจากปากเขา ทั่วทั้งสำนักเซี่ยเยาก็หายใจด้วยความยากลำบาก แม้แต่สามผู้เฒ่าไฟอสูร ก็มีดวงตาที่เบิกกว้าง สำหรับแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของผู้เฒ่าอสูรสวรรค์ลี้ลับ สีหน้ามันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ศิษย์ที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ส่งเสียงกันอย่างอึกทึกวุ่นวายในทันที เมื่อได้ยินคำพูดอันน่าตกใจของเมิ่งฮ่าว

“สิทธิ์ในการสังหาร?!?!?”

“เจ้าสำนักน้อยมี…อย่าบอกข้านะว่ามันมีสิทธิ์ในการสังหาร!?”

“อา สวรรค์, สิทธิ์ในการสังหารนั้นครอบคลุมทุกพื้นฐานฝึกตนหรือไม่?”

“มันแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง! ชีวิตของศิษย์ทั้งหมดอยู่ในกำมือมันแล้ว!”

บนยอดเขาห้า ชายชราหลังค่อมยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงง ข้างกายมัน ดวงตาของหญิงสาวเยาว์วัยผู้น่ารักเบิกกว้าง และนางกำลังหอบหายใจอยู่

“ท่านอาจารย์ สิทธิ์ในการสังหารคืออะไร?”

โดยที่ไม่แม้แต่จะขบคิด ชายชราเริ่มพูดขึ้น “อะแฮ่ม, ไม่จำเป็นต้องกังวลไป ข้ามีชีวิตอยู่มานานหลายปี และนี่ก็เป็นแค่การทดสอบ มันไม่…”

มันพูดไปได้แค่ครึ่งทาง แต่เมื่อสังเกตเห็นศิษย์ของมันกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาแปลกๆ มันก็กระแอมไอขึ้นอีกครั้ง

“ท่านอาจารย์ ท่านกล่าวเหมือนกับในตอนแรก แต่ฉางอี่ก็ถูกสังหารไปแล้ว หลังจากที่ท่านพูดซ้ำอีก ยอดเขาแรกก็ถูกบดขยี้…เมื่อท่านพูดเช่นเดียวกันอีก ยอดเขาสองและสี่ก็เริ่มลงมือ”

“ตอนนี้ ท่านกำลังพูดเหมือนเดิมอีกแล้ว…” เสียงของหญิงสาวเยาว์วัยค่อยๆ จางหายไป และไม่กล่าวต่อไปอีก

ในเวลาเดียวกับที่เสียงของนางจางหายไป เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ ทำให้ขุนเขาที่เก้าปรากฏขึ้น และพุ่งตรงไปยังสามผู้เฒ่าไฟอสูร

ขณะที่ภูเขากดทับลงไปยังพวกมัน สีหน้าของสามผู้เฒ่าไฟอสูรก็เคร่งเครียดจริงจังอย่างถึงที่สุด พวกมันปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมาในทันที

สำหรับผู้ฝึกตนตัดวิญญาณครั้งที่สอง มันทำให้ลูกไฟแยกออกมาจากทะเลแห่งเปลวไฟสีโลหิต เปลวไฟโลหิตพุ่งไปมาอยู่รอบๆ ร่างมัน กลายเป็นศีรษะของกวางขนาดใหญ่ในทันที

ศีรษะกวางถูกสร้างขึ้นมาจากเปลวไฟ และมีเขาขนาดใหญ่สองข้าง มันพุ่งตรงไปยังขุนเขาที่เก้าซึ่งใกล้เข้ามา ขณะที่มันพุ่งฝ่าอากาศไป อีกสองผู้เฒ่าไฟอสูรก็รวมพลังเข้าด้วยกัน ทำให้ร่างของกวางก่อตัวขึ้นมาอยู่รอบๆ พวกมัน จากนั้นก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับศีรษะกวาง

กวางขนาดใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ กระโดดตรงไปยังไข่มุกสีดำขาวและขุนเขาที่เก้า พลังของการตัดวิญญาณครั้งที่สอง ซึ่งอยู่ห่างจากพลังของตัดวิญญาณครั้งที่สามเพียงแค่ปลายเส้นผมเท่านั้น กระจายเป็นระลอกคลื่นอันน่าเหลือเชื่อออกมา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยความเย็นชา โดยไม่ลังเลเขาโบกสะบัดมือขวา ทำให้พลังของพื้นฐานฝึกตนระเบิดออก รอยแตกปรากฏขึ้นในอากาศรอบๆ ตัว สายลมพลุ่งพล่านกลุ่มเมฆปั่นป่วน เสียงกระหึ่มดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง ขณะที่ไข่มุกดำขาวและขุนเขาที่เก้าทันใดนั้นก็ขยายขนาดและทรงพลังมากขึ้นเป็นสองเท่า

การเพิ่มขึ้นนั้นทำให้เกิดเป็นแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อกระจายออกไป ภายในตัวกวาง ใบหน้าของสามผู้เฒ่าไฟอสูรเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ตูม!

ขุนเขาที่เก้ากระแทกลงไปยังกวางยักษ์ ทำให้เกิดเป็นแรงระเบิดขนาดใหญ่ กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง เขาของกวางฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ และสามชายชราที่อยู่ด้านในกระอักโลหิตออกมา ขณะที่พวกมันลอยละลิ่วปลิวฝ่าอากาศไปทางด้านหลัง พื้นฐานฝึกตนของพวกมันปั่นป่วนวุ่นวาย ใบหน้าซีดขาว และจิตใจก็เต็มไปด้วยคลื่นแห่งความตกใจ

“นี่เป็นไปไม่ได้!”

“มันแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง!! แม้แต่การรวมพลังกันของพวกเราทั้งสามก็ยังไม่อาจจะทำอะไรมันได้เลย!”

ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้นที่ไม่อยากจะเชื่อ ศิษย์ทั้งหมดในสำนักเซี่ยเยาต่างก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน แม้แต่หลี่ซือฉี ซึ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวมาบ้าง ก็ยังต้องตกตะลึงไป

นางไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่งจนถึงระดับที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น นางก็รู้เพียงแค่เล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสำนักชิงหลัวเท่านั้น

ไม่มีใครรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเมิ่งฮ่าว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะปรมาจารย์หกเต๋า, สำนักชิงหลัวก็คงจะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

ชายชราหลังค่อมบนยอดเขาห้า มีสีหน้าที่เคร่งเครียดจริงจังอย่างน่าเหลือเชื่อ ดวงตาสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ

“ข้าชราแล้ว ชราแล้วจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาพบกับผู้เหี้ยมโหดในตำนานโดยไม่รู้ตัว…เห็นได้ชัดว่ามันเป็นผู้โหดเหี้ยมตัดวิญญาณ!”

“มีผู้ฝึกตนที่ยากจะพบเห็นซึ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากซับซ้อน จนทำให้มันต้องตายไปหรือแม้แต่สวรรค์ยังต้องสั่นสะเทือน เมื่อมันเติบโตขึ้น ก็จะสามารถสังหารขั้นค้นหาเต๋าได้ โดยที่มันยังอยู่ในขั้นตัดวิญญาณเท่านั้น!”

“บุคคลเช่นนั้นถูกเรียกว่า…ตัดเต๋า!”

“ความโหดเหี้ยมของมันได้กลายเป็นเจตจำนงแห่งพญามารไปแล้ว…เมื่อมารและเต๋ามาเชื่อมต่อกัน ก็จะประกอบด้วยเจตจำนงแห่งความดื้อรั้น ทำให้เกิดเป็นความสำเร็จขึ้นอย่างสูงสุด”

“เส้นทางของตัดเต๋ายากลำบากมากมาย เมื่อตัดเต๋าได้ ก็จะกลายเป็นมาร!”

“แน่นอนว่า การตัดมารก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่ง และยังยุ่งยากลำบากกว่าอีกด้วย เมื่อตัดมารได้ ก็จะบรรลุเต๋า!! ท่านปรมาจารย์ นั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมท่านถึงได้ทำให้มันกลายเป็นเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักเซี่ยเยา?”

“ตัดเต๋าต้องใช้จิตใจเต๋า ตัดมารต้องใช้เจตจำนงแห่งมาร!”

“ตอนนี้ข้าตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แล้ว…ว่าจะอยู่จนถึงวันที่มันสามารถตัดจิตมารได้!”

“ตัดจิตมาร ค้นหาเต๋า!” ขณะที่ชายชราพึมพำกับตนเองบนยอดเขาห้า ดวงตามันก็เปล่งประกายเจิดจ้า และหันหน้ามองไปยังภูเขาอสูรโลหิต

บนภูเขาอสูรโลหิต ปรมาจารย์อสูรโลหิตนั่งขัดสมาธิอยู่ในสระโลหิต ดวงตามันเปล่งประกายด้วยความลึกล้ำ ภายในดวงตามองเห็นกระแสแห่งกาลเวลาที่ไร้จุดสิ้นสุดไหลไปมา

“ตัดจิตมาร ค้นหาเต๋า!” มันพึมพำ

“เมิ่งฮ่าว เจ้าไม่อาจตำหนิข้า ข้าได้ปลูกเมล็ดมารอยู่ในร่างเจ้า แต่เหตุผลก็คือว่า เส้นทางของพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรไม่ถูกต้อง…ข้าจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ช่วยให้เจ้าสร้างเจตจำนงแห่งมารขึ้นมาให้ได้ และจากนั้นก็จะรอคอยจนกว่าเจ้า…ตัดจิตมารได้…”

“นั่นก็คือค้นหาเต๋า!”

“ตัดจิตมารค้นหาเต๋า จากนั้นก็ตัดเซียน จะมีอะไรที่ยากไปกว่านี้อีก?!”

“เมื่อถึงเวลา เจ้าก็จะมีเมล็ดกรรมอันยิ่งใหญ่ร่วมกับอสูร เมื่อวันนั้นมาถึงซึ่งเจ้าได้บรรลุจุดสูงสุดอย่างแท้จริง…ก็อย่าได้ลืมดวงชะตาอสูรของเจ้า”

“รอข้าก่อน เม่ยเหม่ย (น้องสาว), สหายของข้า พวกเราจะได้พบกันอีกครั้งในไม่ช้า…อีกไม่นานข้าก็จะไปอยู่ร่วมกับพวกเจ้าอีกครั้ง…” กลิ่นอายแห่งความตายซึ่งปกคลุมอยู่รอบๆ ร่างมันเริ่มเข้มข้นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!