ตอนที่ 743
เจ้าเรียกมัน, มันตอบหรือไม่?
ทันทีที่คำพูดของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป ผู้ฝึกตนฝ่ายศัตรูนับแสนคนส่วนใหญ่ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันที
“มันพูดว่าอะไร? เป่าเป้ย? กลับบ้าน?”
“เจ้าเมิ่งฮ่าวกลายเป็นบ้าไปแล้ว?”
“ช่างน่าขันนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นผู้แข็งแกร่งกลายเป็นบ้า!”
หกเต๋าก็หัวเราะเป็นเสียงดังด้วยเช่นเดียวกัน “ข้ามีชีวิตอยู่มานาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้ากับคนบ้าเช่นเจ้า!”
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยน ก็ยังต้องส่งเส้นใยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันออกไป เพื่อสังเกตดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ หลังจากที่มันเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น มันก็ส่ายหน้าและหัวเราะออกมา
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังกระเพื่อมออกไป ความคิดเห็นที่ถากถางเยาะเย้ยต่างๆ ได้ยินมา ตอนแรกที่พวกมันพูดคุยกัน กระบี่ไม้กำลังใกล้จะกรีดเฉือนลงมา อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางเสียงเยาะเย้ยเหล่านั้น สีหน้าประหลาดใจก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแต่ละคน
นั่นเป็นเพราะว่า…กระบี่ไม่ได้กรีดเฉือนลงมา แต่ถลาไปหยุดนิ่งอยู่
เมื่อกระบี่ถลาไปหยุดชะงักนิ่ง ก็ดูเหมือนว่าจิตใจของผู้ฝึกตนนับแสนก็ถลาไปหยุดนิ่งอยู่เช่นเดียวกัน
ดวงตาหกเต๋าเบิกกว้าง และศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่อยู่ด้านในของเกราะป้องกันชั้นที่สอง ก็ดูเหมือนแทบจะลืมหายใจ พวกมันจ้องมองไปยังเจ้าสำนักน้อย ที่กำลังยืนอยู่ที่ด้านนอกเกราะป้องกัน กำลังกวักมือเรียกของวิเศษล้ำค่าอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งก็คือกระบี่ไม้เล่มนั้น ด้วยสีหน้าที่งุนงง
สูงขึ้นไปในกลางอากาศ ปรมาจารย์ชุดเขียว ซึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับปรมาจารย์อสูรโลหิต ที่เดิมทีมีความยินดีอย่างถึงที่สุด แต่ทันใดนั้นเอง เมื่อกระบี่ที่ด้านล่างหยุดชะงักลง จิตใจมันก็เริ่มเต้นรัว
กระบี่ไม้หยุดนิ่งห่างจากเมิ่งฮ่าวประมาณสิบจ้าง พลังแห่งกาลเวลากระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างแห้งเหี่ยวไป แม้แต่เกราะป้องกันชั้นที่สองก็กำลังเกิดเป็นระลอกคลื่นและบิดเบี้ยวไปมา ด้วยเช่นนี้ก็ดูเหมือนว่าเพียงแค่แตะสัมผัสไปโดนมันเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้ต้องแตกกระจายไปในทันที
แต่เมิ่งฮ่าว…ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากกระบี่ไม้ แม้แต่น้อยนิด
ดูเหมือนว่ากระบี่ไม้จะมีจิตวิญญาณของมันเอง และเห็นได้ชัดว่ากำลังลังเล หลังจากที่หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ แสงอันเจิดจ้าก็ดูเหมือนจะเต้นไปมาอยู่ทั่วคมกระบี่
สีหน้าหกเต๋าเปลี่ยนไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ สิ่งที่มันกำลังมองเห็นนี้ เกินกว่าขีดจำกัดความคาดคิดของมันโดยสิ้นเชิง ไม่สำคัญว่ามันจะเคยอยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า หรือเป็นปรมาจารย์แห่งสำนักใหญ่ เหตุการณ์ที่มันกำลังเป็นสักขีพยานด้วยสองตาของตนเอง ทำให้มันต้องสะท้านใจไปโดยสิ้นเชิง
มันไม่อาจแม้แต่จะเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ทำไมมรดกวิเศษอันล้ำค่าของสำนักอีเจี้ยน…ถึงได้หยุดนิ่งอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว? ยิ่งไปกว่านั้น ยังดูเหมือนว่ามันกำลังลังเลอยู่
มันไม่อาจจะสรุปได้คำอธิบายใดๆ ถึงแม้ว่าจะขบคิดซ้ำไปซ้ำมากี่ครั้งก็ตามที
“เป็นไปไม่ได้!” มันคิด กัดฟันแน่น และทำให้พื้นฐานฝึกตนของมันสั่นสะท้านด้วยพลัง มันใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มี พยายามจะควบคุมกระบี่ไม้ แต่ก็ไร้ปฏิกิริยาใดๆ แม้แต่น้อย กระบี่ไม่สนใจมันโดยสิ้นเชิง และที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่า การเชื่อมต่อระหว่างมันก็ถูกตัดขาดไป
เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ สีหน้าของหกเต๋าก็ยิ่งสลดลงไปมากยิ่งขึ้น
ผู้ฝึกตนนับแสนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ยังภาพที่พวกมันไม่มีทางจะได้พบเห็นอีกครั้งในชั่วชีวิตนี้ ผู้ที่ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุดก็คือเหล่าผู้ฝึกตนจากสำนักอีเจี้ยน
กระบี่ไม้เป็นมรดกวิเศษอันล้ำค่าของสำนักอีเจี้ยน เป็นทั้งสัญลักษ์และรากฐานของสำนักพวกมันทั้งหมด!
ยังมีใครบางคนที่รู้สึกตกตะลึงมากยิ่งกว่าศิษย์ธรรมดาทั่วไป ชายชราชุดเขียวที่อยู่สูงขึ้นไปในกลางอากาศ แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ จิตใจมันรู้สึกราวกับว่ามีสายฟ้ากำลังฟาดลงมาอยู่ด้านใน ทำให้มันไม่อาจจะต่อต้านกับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ปรมาจารย์อสูรโลหิตโจมตีมา มันถูกกระแทกลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง โลหิตกระจายออกมาจากปาก กลุ่มหมอกโลหิตของปรมาจารย์อสูรโลหิตปกคลุมไปรอบๆ ตัวมัน ทำให้มันไม่อาจจะพุ่งเข้ามาโจมตีได้ สิ่งที่มันสามารถจะทำได้ในตอนนี้ก็คือ ขยับสองมือร่ายเวท และจากนั้นก็ชี้ตรงไปยังกระบี่ไม้
“กระบี่ไม้ไผ่เดียวดาย กลับมา!” มันแผดร้องออกมา ทำท่าร่ายเวทอย่างต่อเนื่อง
กระบี่ไม้สั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่ากำลังตอบรับชายชรา ซึ่งจิตใจกำลังจมลงไปในทันที ความรู้สึกที่เลวร้ายมากๆ พุ่งขึ้นมา ถ้าอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้ว เมื่อมันร่ายเวทและชี้นิ้วออกไป ก็จะทำให้กระบี่ไม้ไผ่ลอยกลับมายังมันในทันที แต่ตอนนี้สิ่งที่กระบี่ไม้ทำอยู่ก็แค่สั่นไปมาเท่านั้น
“บัดซบ! กำลังเกิดอะไรขึ้น?!?!” มันขยับมือร่ายเวทอีกครั้ง และยังได้พ่นโลหิตออกมาเพิ่มอีกด้วย แล้วมันจะไม่รู้สึกกระวนกระวายใจได้อย่างไร? นี่เป็นของวิเศษอันล้ำค่าของสำนักอีเจี้ยน ถ้ามันปล่อยให้ใครมาหยิบฉวยไป ก็คงจะเป็นบาปอันยิ่งใหญ่ต่อสำนัก
“เจ้าถูกกลั่นสกัดขึ้นมาโดยสำนักอีเจี้ยน! พวกเราได้เจ้ามาจากทะเลสาบเต๋าโบราณ! เจ้าถูกสร้างขึ้นมาเป็นกระบี่โดยบรรพบุรุษแห่งสำนักอีเจี้ยน! เจ้าเป็นของพวกเรา!!”
“กระบี่ไม้ไผ่เดียวดาย กลับมาที่นี่!!” ชายชราในชุดเขียวแผดร้องออกมาด้วยโทสะ โลหิตกระจายออกมาจากปากมัน ในที่สุดการเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นระหว่างมันและกระบี่ ในที่สุดก็ดูเหมือนจะทำงานขึ้น กระบี่ไม้เริ่มสั่นไปมา และจากนั้นก็เคลื่อนที่ไปทางด้านหลังหลายจ้าง
ขณะที่ชายชราชุดเขียวถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา จู่ๆ กระบี่ไม้ก็หยุดนิ่งลงอีกครั้ง และจิตใจของชายชราก็เริ่มเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าถือกำเนิดในสำนักอีเจี้ยน! หลายปีมานี้ พวกเราศิษย์สำนักอีเจี้ยนได้ทำพิธีบวงสรวงจนทำให้เจ้ามีจิตวิญญาณขึ้นมา! พวกเราได้ใช้สิ่งของมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อทำให้เจ้าทรงพลังและแหลมคมมากยิ่งขึ้น! ทั่วทั้งสำนักของพวกเราได้ทำเพื่อช่วยเจ้า!!”
“จะ-จะ-เจ้า…กลับมาเดี๋ยวนี้!!” ถึงแม้จะมีความวิตกกังวล ชายชราชุดเขียวที่ถูกตรึงอยู่กับที่ด้วยกลุ่มหมอกโลหิต ได้ส่งเสียงแผดร้อง จากนั้นก็พ่นโลหิตออกมามากขึ้น โดยไม่สนใจว่าอายุขัยของมันต้องสูญเสียไปมากน้อยเท่าใด ขณะที่ชี้ตรงไปยังกระบี่ไม้อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ ไร้ปฏิกิริยาใดๆ จากกระบี่ไม้…
“เล่นพอแล้วหรือไม่?” เมิ่งฮ่าวกล่าว ด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงที่ดุ “ถ้าเจ้ายังไม่กลับมาในตอนนี้ ก็คอยดูว่าข้าจะลงโทษเจ้าอย่างไร หลังจากที่พวกเรากลับบ้านไป!”
ขณะที่คำพูดของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป กระบี่ไม้ก็สั่นไปมาอยู่ในกลางอากาศ จากนั้นมันก็ตัดการเชื่อมต่อกับชายชราชุดเขียว และพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว เพียงชั่วพริบตา มันก็ไปหมุนวนอยู่รอบๆ ร่างเขา เกิดเป็นเสียงหึ่งๆ ดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง แทบจะดูเหมือนว่ามันกำลังกรีดร้องด้วยความยินดี, กระดิกหางไปมา แสดงให้เห็นว่ามันกำลังคิดถึงเขามาก
ใครก็ตามที่มองดูอยู่ ก็สามารถบอกได้ในทันทีว่ากระบี่นี้…เป็นของเมิ่งฮ่าว!
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ นับแสนอ้าปากค้าง รู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน
ศิษย์สำนักอีเจี้ยนอ้าปากค้าง ขณะที่ของวิเศษอันล้ำค่าน่าภาคภูมิใจอย่างไร้ที่เปรียบของสำนัก หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสุข เห็นได้ชัดว่า…มันจดจำได้ว่าเมิ่งฮ่าวเป็นเจ้านายของมัน
“ข้าคงฝันไปอย่างแน่นอน…”
“นั่น…นั่นคือมรดกวิเศษอันล้ำค่าของพวกเรา?”
“เกิด…เกิดอะไรขึ้น…?” จิตใจศิษย์สำนักอีเจี้ยนกำลังหมุนคว้าง แต่ผู้ที่ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุดก็คือชายชราชุดเขียวที่อยู่สูงขึ้นไปในกลางอากาศ
แววตามันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและรู้สึกไม่ยุติธรรม จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น มันกำลังจะอ้าปากเพื่อกล่าวอะไรออกมา แต่โลหิตก็พุ่งออกมาและเห็นได้ชัดว่ามันเริ่มแก่ชราลง
มันแค่ไม่อาจจะเข้าใจหรือรับรู้ได้ว่าทำไมกระบี่ ถึงได้จดจำเมิ่งฮ่าวในฐานะเจ้านายของมัน!
มันแค่ไม่อยากจะเชื่อ โลกของมันกำลังหมุนกลับด้าน ราวกับว่ามีคลื่นยักษ์กำลังสาดซัดผ่านจิตใจมันไป
“เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร!?!?” มันแผดร้องอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะทะลวงผ่านหมอกโลหิต เพื่อออกไปคว้าจับกระบี่ไว้ในมือ และถามจิตวิญญาณของกระบี่ว่าทำไมถึงได้กระทำเช่นนี้ ทำไมถึงได้ทรยศต่อสำนักอีเจี้ยน ทำไมถึงจดจำเมิ่งฮ่าวในฐานะที่เป็นเจ้านายของมัน ในเมื่อมันเพิ่งจะเคยเห็นเมิ่งฮ่าวเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น?
“กระบี่เล่มนั้นเป็นของสำนักอีเจี้ยน!!!”
“มันเป็นของเจ้า?” เมิ่งฮ่าวถามเสียงราบเรียบ “เจ้าเรียกมัน มันตอบหรือไม่?” เขายื่นมือออกไป และกระบี่ก็ลอยลงมาอยู่บนฝ่ามือ และยังได้เต้นไปมาอีกด้วย เห็นได้ชัดว่ามันมีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้า!!” ปรมาจารย์สำนักอีเจี้ยนแทบจะกระอักโลหิตออกมาอีก อันเนื่องมาจากเปลวไฟแห่งโทสะที่เผาไหม้อยู่ในจิตใจของมัน ในตอนนี้ไม่สำคัญว่ามันจะมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าหรือไม่ แม้แต่เซียนก็ยังไม่อาจจะยอมรับเพลิงโทสะเช่นนี้ ที่ต้องสูญเสียของวิเศษเช่นนั้นไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…เมื่อได้เห็นกระบี่ไม้กำลังเล่นอย่างมีความสุขเช่นนั้น ชายชราชุดเขียวก็รู้สึกราวกับว่ากำลังมีใบมีดทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจมันอย่างโหดร้าย นั่นเป็นเพราะว่าตัวมันเองจำเป็นต้องเทิดทูนบูชากระบี่ แต่ก็ไม่เคยจะได้เห็นกระบี่แสดงปฏิกิริยาเช่นนี้มาก่อน
เมิ่งฮ่าวก็รับรู้ได้ด้วยเช่นกันว่ากระบี่นี้ เป็นหนึ่งในหลายเล่มที่เขาได้ฝังไว้เมื่อนานมาแล้ว ทำให้มันมีจิตวิญญาณแห่งกระบี่ขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ความผูกพันธ์ตั้งแต่ตอนต้นก็ยังคงมีผลอยู่ ไม่ว่ากระบี่นี้จะผ่านมากี่มือก็ตามที เมื่อไหร่ที่มันเห็นเขา มันก็จะรู้ว่าเขาคือเจ้านายเดิมของมัน
“เลิกโวยวายได้แล้ว ไปสังหารมัน!” เมิ่งฮ่าวพูดชี้ไปยังปรมาจารย์หกเต๋า
จิตใจหกเต๋ากำลังเต้นรัว สีหน้ามันสลดลง รีบหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็วในทันที แต่ก่อนที่มันจะทันไปได้ไกล กระบี่ไม้ก็พุ่งตรงมาที่มันด้วยความรวดเร็วอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ และยังได้กระจายพลังแห่งกาลเวลาอันน่าตกใจออกมา ทำให้ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นกลายเป็นระลอกคลื่นและบิดเบี้ยวไปมา ผู้ฝึกตนใดๆ ที่อยู่ใกล้มากไปก็จะแห้งเหี่ยวลงไปในชั่วพริบตา ราวกับว่าได้ผ่านกาลเวลาไปแล้วหลายปีจนนับไม่ถ้วนในทันใด แม้แต่บางคนก็ยังได้ตกตายไปอีกด้วย
“บัดซบ!” ปรมาจารย์หกเต๋าคิด สีหน้าสลดลง ส่งเสียงแผดร้องออกมา ทุ่มเทพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกมาอย่างเต็มกำลัง แต่โชคร้ายที่มันยังคงติดอยู่ระหว่างขั้นต้นและขั้นกลางค้นหาเต๋า จึงไม่มีพลังเพียงพอ และมันก็ไร้ทางเลือกนอกจากต้องเรียกกระถางธูปให้มาขวางกั้นกระบี่ไม้ไว้ เสียงระเบิดดังก้องออกไป และกระบี่ไม้ก็แทงตรงเข้าไปในกระถางธูป
เมื่อเสียงระเบิดได้ยินมา รอยแตกร้าวก็กระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของกระถางธูป รู้สึกได้ถึงความเก่าแก่โบราณ และมองเห็นสัญญาณแห่งการผุพัง จิตใจหกเต๋าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็ไม่กล้าจะเรียกกระถางธูปกลับไป นั่นเป็นเพราะมันสังเกตเห็นว่าระลอกคลื่นของกระบี่ กำลังทำให้มันแก่ชราลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ถ้ากระบี่แทงเข้ามาในร่าง มันก็พอจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอายุขัยของมัน มันคงจะถูกกำจัดไปโดยสิ้นเชิง
มันพุ่งถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว ใช้วิชาลับเฉพาะเพื่อเกื้อหนุนพื้นฐานฝึกตนของมัน สิ่งที่มันหวาดกลัวมากที่สุดก็คือ…การถูกกำจัดไปโดยพลังแห่งกาลเวลา
ผู้ฝึกตนนับแสนที่อยู่รอบๆ ต่างก็ประหลาดใจและสะท้านใจขึ้นเช่นเดียวกัน พวกมันไม่กล้าจะก้าวไปข้างหน้า แต่กระทำตรงกันข้ามล่าถอยออกไป เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ตามลำพังที่ด้านนอกเกราะป้องกันชั้นที่สอง หนึ่งคน หนึ่งกระบี่…ทำให้กองกำลังของศัตรูล่าถอยออกไปหนึ่งพันจ้าง
“บัดซบ!!” รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของกระถางธูปมากขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นปรมาจารย์หกเต๋าก็แผดร้องออกมา “สหายเต๋าเจี้ยนจุน, ปรมาจารย์จินหาน, หลี่หยวนเหลย ถ้าพวกท่านไม่ช่วยข้า ก็คงจะบังคับให้ข้าต้องเรียกวิญญาณไร้ร่างมาปกป้องตัวเองแล้ว!!”
ขณะที่คำพูดสุดท้ายหลุดออกมาจากปากมัน กระถางธูปก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ กระบี่ไม้พุ่งต่อไป และหกเต๋าก็เงยหน้าขึ้นแผดร้องออกมา ทันใดนั้นร่างมันก็ระเบิดออก ทำให้กระบี่ไม้พุ่งผ่านมันไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีเส้นใยวิญญาณหลงเหลืออยู่ จากนั้นก็กลายเป็นแม่น้ำแห่งวิญญาณ ซึ่งประกอบไปด้วยวิญญาณไร้ร่างหนึ่งแสนดวง!
ขณะที่หนึ่งแสนวิญญาณไร้ร่างลอยออกไป ชายชราชุดเขียวแห่งสำนักอีเจี้ยนก็กลายเป็นเปลวไฟ นี่เป็นเปลวไฟพลังชีวิตของมัน ขณะที่เปลวไฟลุกไหม้อยู่นั้น พื้นฐานฝึกตนของมันก็ระเบิดพลังขึ้น ทำให้มันกลายเป็นริ้วแห่งแสงที่ยาวเหยียด พุ่งออกไปจากภายในกลุ่มหมอกโลหิตของปรมาจารย์อสูรโลหิต ไม่สนใจอาการบาดเจ็บใดๆ พุ่งตรงมายังกระบี่ไม้ของเมิ่งฮ่าว ตัวมันเองได้กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับกระบี่ขณะที่พุ่งฝ่าอากาศมา
“เจ้าเด็กน้อยเมิ่งฮ่าว จงตายไปให้กับข้า!!”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น เขาไม่มีเวลาที่จะไปสังหารหนึ่งแสนวิญญาณไร้ร่างของหกเต๋า กระบี่ไม้บินกลับมาที่เขาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปรมาจารย์ในชุดเขียวของสำนักอีเจี้ยนใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวถอยกลับเข้าไปอยู่ที่ด้านหลังเกราะป้องกันชั้นที่สอง
อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์สำนักอีเจี้ยนก็ไม่ยอมช้าลงแม้แต่น้อย กลับเพิ่มความเร็วขึ้น ขณะที่พุ่งตรงเข้าไปยังเกราะป้องกัน
“แยกออก!!”
ดวงตาปรมาจารย์อสูรโลหิตแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร แต่ร่างจำแลงของเซียนรุ่งอรุณก็ทำให้มันรู้สึกปวดศีรษะขึ้นอย่างแท้จริง นางไม่ได้อยู่ที่ขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า แต่สูงมากไปกว่านั้น จนสามารถเทียบได้กับเซียนเทียม
ขณะที่ร่างจำแลงของมันขมวดคิ้วอยู่ ลึกลงไปในถ้ำของภูเขาอสูรโลหิต ดวงตาร่างจริงของมันลืมขึ้นมา จู่ๆ หยดโลหิตก็ลอยขึ้นมาจากภายในสระโลหิต จากนั้นก็ลอยออกไปจากถ้ำแห่งเซียน และกระจัดกระจายไป อย่างน่าตกใจ เกราะป้องกันชั้นแรกและชั้นที่สองถูกย้อมเป็นสีแดงไปในทันที
ตูม!
เกราะป้องกันสีแดงขัดขวางการโจมตีอย่างดุร้ายของปรมาจารย์ชุดเขียวสำนักอีเจี้ยนได้อย่างง่ายดาย