Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 795

ตอนที่ 795

ครึ่งก้าวสู่เซียนแท้!

บุรุษในชุดสีม่วงซึ่งดูคล้ายกับเป็นปีศาจอสูรที่มีผิวหนังปกคลุมไปด้วยเกล็ดแม้แต่ใบหน้ามันก็เปลี่ยนแปลงไป ดวงตามันจมลึกลงไป ขณะที่มีกรามยื่นออกมา เผยให้เห็นเขี้ยวอันน่ากลัวอยู่เต็มปากมันมีเขาที่ยาวขึ้นไปพร้อมกับส่วนปลายที่แหลมคมราวกับใบมีดและมีหางที่คล้ายกับแส้

มันสั่นสะท้านไปทั้งร่างอันเนื่องมาจากเมิ่งฮ่าวแต่ตอนนี้ก็ไร้ทางเลือกใดๆ นอกจากต้องโจมตีไปเท่านั้นมันแผดร้องคำราม ขณะที่ร่างกายระเบิดออกกลายเป็นเปลวไฟทำให้พื้นฐานฝึกตนก้าวข้ามไปเกินกว่าสามแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นในทันทีกลายเป็นลมพายุพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ขณะที่มันใกล้เข้ามาก็ผลักสองมือออกไปที่ด้านข้างทำท่าฉีกกระชาก

“แยกสวรรค์!”มันแผดร้องคำรามทำให้ทุกสรรพสิ่งรอบๆ ตัวมันสั่นสะท้าน รอยแยกขนาดใหญ่ฉีกขาดออกในกลางอากาศ ราวกับเป็นปากยักษ์ที่ต้องการจะกลืนกินเมิ่งฮ่าวลงไปทั้งตัวอย่างไรก็ตามขณะที่รอยแยกนั้นเกือบจะมาถึงร่างเมิ่งฮ่าวเขาก็มองไปยังทิศทางของชายชราผู้นั้นอย่างเย็นชา

เพียงมองไปแค่ครั้งเดียวมองอย่างเรียบง่าย

รอยแยกพังทลายลงและชายชราในรูปแบบอสูรก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา สายตาเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นเทพเจ้า แรงกดดันอย่างยากจะอธิบายออกมาได้กดทับลงไปบนร่างชายชราทำให้ตอนแรกเป็นมือของมันและจากนั้นก็เป็นแขนทั้งสองข้าง ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิต

ดวงตามันเป็นสีแดงก่ำและกระดกศีรษะขึ้นพยายามที่จะใช้เขาของมัน แทงผ่านแรงกดดันที่กระจายออกมาจากดวงตาของเมิ่งฮ่าว บางทีมันอาจจะไม่สามารถสังหารเมิ่งฮ่าวแต่อย่างน้อยก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้บ้าง

อย่างไรก็ตามเมื่อเขานั้นดูเหมือนกำลังจะแทงไปยังเมิ่งฮ่าวเขาก็ยื่นมือออกมาและจับมันไว้ สีหน้าเขาสงบเยือกเย็นแต่ก็ดูเหมือนว่าจะนึกขึ้นได้ถึงภาพอันโหดร้าย ที่ชายชราได้ทำการสังหารผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ไปก่อนหน้านี้ เมิ่งฮ่าวบิดมือและเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมาขณะที่เขานั้นหักสะบั้นไป

ชายชราแผดร้อง พยายามจะโจมตีกลับไปด้วยหางของมันแต่ก่อนที่มันจะทันเข้าไปใกล้ เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ทั่วร่าง จากนั้นก็เริ่มแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆความหวาดกลัวไหลท่วมท้นอยู่ในจิตใจทำให้มันจมลงไปโดยสิ้นเชิง แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของมันพุ่งออกมาด้วยความหวาดกลัวและพยายามจะหลบหนีจากไป ขณะที่ทำเช่นนั้น สองคำก็ปรากฏขึ้นในจิตใจมัน

“ไร้พ่าย…”

บนพื้นด้านล่างผู้ฝึกตนอ้าปากค้างคนทั้งหมดมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อ

ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าสี่ในห้าคนแห่งดินแดนทางเหนือ ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่นอกจากแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมเมิ่งฮ่าวถึงไม่ได้ทำลายพวกมันไป ถ้าเขาต้องการจะทำ สี่คนนี้ก็คงจะตายไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับเมิ่งฮ่าวเขามีท่าทางที่สงบนิ่งมั่นคงและไร้ผู้ต่อต้าน!!

คนสุดท้ายที่เหลืออยู่คือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่ง ซึ่งทรงพลังมากที่สุดแห่งดินแดนทางเหนือผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ ซึ่งยังคงอยู่ในรูปแบบของมังกรสายฟ้าแห่งบรรพกาลมันแผดร้องคำรามออกมาจนสุดเสียงเป็นเสียงแผดร้องที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล, สิ้นหวังและแม้แต่…ความต้องการอยากจะตกตายไป

“ตายยยยย!”มันแผดเสียงออกมา สายฟ้าปะทุขึ้นขณะที่มันพุ่งฝ่าอากาศมา ทะเลสาบแห่งสายฟ้าปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวเป็นสายฟ้าที่ถูกเรียกมาจากสวรรค์ชั้นสูงสุดเห็นได้ชัดว่ามันปรารถนาที่จะตกตายไปพร้อมกับเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้อากาศที่อยู่ด้านหลังเมิ่งฮ่าวฉีกขาดออก ท้องฟ้าที่ด้านบนส่งเสียงดังกระหึ่มและพื้นดินที่ด้านล่างสั่นสะเทือนทั่วทั้งโลกแห่งนี้ดูเหมือนจะขยับตัวเคลื่อนไหวทำให้เมิ่งฮ่าวดูโดดเด่นขึ้นมา

ปราณเซียนภายในร่างเขาเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นมายืนอย่างเต็มตัว ถูกปกคลุมด้วยแสงเจิดจ้าอย่างไร้ขีดจำกัด ขณะที่มองไปยังผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิซึ่งใกล้เข้ามา ทันใดนั้นที่ด้านหลังสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ทั้งหมดได้หมุนวนเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็น…ยักษ์!

ยักษ์นั้นดูเหมือนกับเมิ่งฮ่าวในทุกส่วนแต่มีความสูงจนไม่อาจจะคาดคิดได้ ศีรษะของมันอยู่สูงขึ้นไปในท้องฟ้า สองเท้าตรึงแน่นอยู่บนพื้น ร่างกายกระจายแรงกดดันอันน่าตกใจออกมา จนทำให้พื้นดินต้องสั่นสะเทือนผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนพื้นด้านล่าง ต่างก็ตกตะลึงกันไปโดยสิ้นเชิงเมื่อพบว่าพื้นฐานฝึกตนของพวกมันถูกสะกดข่มไว้

อย่างช้าๆ กฎธรรมชาติทั้งหมดในบริเวณนั้นเริ่มหมุนวนอยู่รอบๆ เงาร่างขนาดใหญ่ที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว แสงดาวจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งอยู่ที่ด้านนอกของกระแสน้ำวนที่ด้านบนขึ้นไปสาดแสงลงมายังมัน อาบไล้ด้วยแสงอันเจิดจ้าทำให้มันมีพลังอย่างลี้ลับพิสดาร

ดูคล้ายกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่!

ภาพขนาดใหญ่ที่ด้านหลังดูเหมือนจะเป็นภาพที่ผู้ฝึกตนค้นหาเต๋าสามารถเรียกมาได้โดยปกติทั่วไปแต่ก็แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ภาพที่ถูกเรียกมาโดยผู้ฝึกตนค้นหาเต๋าเป็นภาพลวงตาเป็นสิ่งที่ทรงพลังจากในสมัยโบราณซึ่งถูกเรียกผ่านทางวิชาเวทแต่ภาพที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าวแตกต่างออกไปมันคล้ายเป็นภาพสะท้อนของตัวเขาเอง!

สำหรับภาพทั้งสองชนิดนี้ หนึ่งเป็นภาพลวงตาและอีกหนึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของจริงทั้งคู่แต่ความแตกต่างในความสามารถระหว่างทั้งสองก็คล้ายกับเป็นสวรรค์และปฐพี

อันที่จริงในวันใดวันหนึ่งถ้าเมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่งเพียงพอ ใครก็ตามที่ได้รับการยินยอมจากเขาก็จะสามารถเรียกภาพเช่นเดียวกันนี้ออกมาได้โดยการตะโกนนามเขาออกมาเท่านั้น

นั่นเป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่ภาพของเขาจะแตกต่างออกไป

ภาพนี้ถูกเรียกด้วยนามเฉพาะตัวของมันเอง…

ภาพแห่งธรรม!

“มันคือภาพแห่งธรรม!!”

“มัน…มันเรียกภาพแห่งธรรมออกมาได้จริงๆ!!”

“มีแต่เซียนเท่านั้นถึงจะเรียกภาพแห่งธรรมออกมาได้! คาดไม่ถึงว่ามันก็สามารถเรียกมาได้!!”

ทันทีที่ภาพแห่งธรรมปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว ทุกสรรพสิ่งเริ่มสั่นสะเทือน ดินแดนแห่งดาวหนานเทียนทั้งหมดสั่นสะเทือน

ผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าแห่งดินแดนทางเหนือ, ทะเลทรายตะวันตกและดินแดนด้านใต้ต่างก็หอบหายใจออกมาในดินแดนตะวันออก เสียงหอบหายใจด้วยความไม่อยากจะเชื่อได้ยินออกมาจากสำนักโบราณทั้งหมด

“มันเพิ่งจะก้าวเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋าแต่ข้าก็ไม่อาจจะมองเห็นพื้นฐานฝึกตนของมันได้! นั่นเกิดขึ้นแต่ในตำนานที่ทั้งกายเนื้อและพื้นฐานฝึกตนต่างก็อยู่ในขั้นค้นหาเต๋าเท่านั้น!!คนผู้นั้น…คนผู้นั้นไม่น่าจะมีกายเนื้อค้นหาเต๋า, ใช่หรือไม่?!เป็นไปไม่ได้!!”

“ปราณเซียนมันมีปราณเซียนอยู่จริงๆ!และไม่ใช่เป็นปราณเซียนเทียมแต่เป็นเซียนแท้! ปราณเซียนแท้!!แม้แต่อาณาจักรเซียนอันไร้ขอบเขตมันก็ยังไม่ได้ก้าวเข้าไปด้วยซ้ำแต่มันก็มีกลิ่นอายนั่นแล้ว!”

“วิถีแห่งเซียนเปิดออกทุกๆ หมื่นปีเป็นไปได้หรือไม่ว่าเซียนแท้เพียงคนเดียวในดาวหนานเทียนรุ่นนี้ก็คือคนผู้นั้น!?!?”

“มันสร้างภาพแห่งธรรมขึ้นมาได้จริงๆ นั่นคือ…นั่นคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์อันเนื่องมาจากในตำนาน ซึ่งเป็นของเซียนเพียงเท่านั้นเด็กผู้นั้น…เด็กผู้นั้นอยู่ห่างจากเซียนแท้เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น!! นอกจากตระกูลจี้และสิ่งลี้ลับอื่นๆ เพียงไม่กี่อย่างแล้วเด็กผู้นั้นก็ถือได้ว่าโดดเด่นเหนือคนทั้งปวง!!”

สำนักอันยิ่งใหญ่แห่งดินแดนตะวันออกต่างก็สั่นสะท้านไปทั้งหมด เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ในอากาศเหนือสนามรบ ใบหน้าเรียบเฉยและกลิ่นอายก็ว่างเปล่าไร้สิ่งใดๆ เจือปนแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาดูคล้ายกับเป็นนักศึกษา ที่มาจากโลกมนุษย์ธรรมดาเขาสวมใส่ชุดยาวสีเขียวและเส้นผมก็ไม่ได้เป็นสีขาวอีกต่อไปแต่เป็นสีดำสนิท

ดวงตาเขาสาดประกายเจิดจ้า ภาพแห่งธรรมขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง กระจายแรงกดดันที่ทำให้คนทั้งหมดในบริเวณนั้นแทบจะต้องกลั้นหายใจ

ข้างกายเขาเป็นร่างจริงที่สอง ซึ่งกระจายเปลวไฟมารอันดุร้ายออกมาดูน่ากลัวอย่างถึงที่สุด เต็มไปด้วยความชั่วร้ายที่ต้องการเข่นฆ่ามันมองไปรอบๆ บริเวณนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา

“ตาย!!”ผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิแผดร้องออกมา ขณะที่มันโยนความระวังตัวทั้งหมดทิ้งไปกับสายลม กดทับลงไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยร่างในรูปแบบมังกรสายฟ้าแห่งบรรพกาลของมัน

เมิ่งฮ่าวมองไปยังมันและจากนั้นก็ชี้นิ้วออกไป

ขณะที่ทำเช่นนั้น ภาพแห่งธรรมที่ด้านหลังก็ชี้นิ้วไปด้วยเช่นกันดูเหมือนว่ามันจะบดบังไปทั่วทั้งท้องฟ้าทำให้กลายเป็นดินแดนขนาดใหญ่ที่ตกลงมา กระแทกเข้าไปยังมังกรสายฟ้าแห่งบรรพกาล

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป มังกรสายฟ้าแห่งบรรพกาลพังทลายกลายเป็นชิ้นๆผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิกระอักโลหิตออกมาและโซเซลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง สีหน้ามันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อไปหยุดอยู่ในที่ห่างไกลออกไปนับร้อยจ้าง จากนั้นก็กระอักโลหิตออกมาอีกเจ็ดถึงแปดคำ ร่างกายอ่อนแอลงไปอย่างเห็นได้ชัด

“เจ้า…”มันกล่าวด้วยใบหน้าที่ซีดขาวอย่างน่ากลัว ตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่ง จนถึงขั้นที่ชี้นิ้วออกไปก็ทำให้มันต้องบาดเจ็บอย่างสาหัส จากนั้นสายตาเมิ่งฮ่าวก็ตกกระทบไปบนร่างมันทำให้มันรู้สึกว่าจิตใจกำลังหมุนคว้าง ขณะที่แรงกดดันอันรุนแรงอย่างยากที่จะอธิบายออกมาได้กดทับลงมา รู้สึกราวกับว่าสายฟ้านับไม่ถ้วนกำลังจะฟาดลงมาบนร่างมัน

“กระถางใบนั้นของเจ้าได้เชื่อมต่อกับข้าด้วยโชคชะตา” เมิ่งฮ่าวกล่าวด้วยสีหน้าที่เขินอาย โบกสะบัดมือทำให้กระถางสายฟ้าของผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ ลอยลงมาบนฝ่ามือ

ใบหน้าผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิยิ่งซีดขาวมากขึ้นกว่าเดิมและกระอักโลหิตออกมาอีกครั้งดูเหมือนว่ามันจะแก่ชราลงไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา ดวงตามันสาดประกายด้วยความสิ้นหวัง ด้านหลังมันเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดค้นหาเต๋าคนอื่นๆ จากดินแดนทางเหนือ ทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ขณะที่พวกมันมองมายังเมิ่งฮ่าว

สายตาเขากวาดผ่านไปยังพวกมันและพวกมันก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ซึ่งดูเหมือนว่าแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของพวกมัน แทบจะระเบิดออกไปได้ทุกเมื่อ

ในที่สุดสายตาเขาก็เลื่อนไปยังกองกำลังจากทะเลทรายตะวันตกและผู้พิทักษ์ต้วนหนาน “สหายเต๋าจากทะเลทรายตะวันตก ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือความเมตตานี้…จะเป็นที่จดจำของดินแดนด้านใต้จากรุ่นไปสู่อีกรุ่นไม่มีทางจะลบลืมเลือนตลอดไป!”

ด้วยเช่นนั้นเขาก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ

ทันใดนั้นผู้พิทักษ์ต้วนหนานก็โค้งตัวกลับคืนมาให้ด้วยความเคารพสูงสุดเช่นเดียวกับผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกทั้งหลายความกล้าหาญและพลังอันน่าเหลือเชื่อของเมิ่งฮ่าว รวมทั้งเหตุการณ์เมื่อหลายปีที่ผ่านมาทำให้ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกมองว่า เมิ่งฮ่าวคือพวกเดียวกัน

“สงครามนี้ยังไม่จบลง” เมิ่งฮ่าวกล่าวมองออกไปยังผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือ

“ทำการสังหารต่อไปเป็นสิ่งที่ไร้ความหมายไม่มีเส้นทางให้พวกเจ้ากลับไปที่บ้านได้อีกแล้ว ดังนั้นพวกเจ้าจะต้องอยู่ในดินแดนด้านใต้ ค่าตอบแทนที่พวกเจ้าต้องจ่ายให้กับการรุกรานครั้งนี้คือพื้นฐานฝึกตนของพวกเจ้าต้องถูกผนึกไว้ นับจากรุ่นนี้เป็นต้นไป สายโลหิตของพวกเจ้าจะไม่มีพื้นฐานฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งต่อไปอีก วิถีแห่งเซียนของพวกเจ้าจะถูกทำลายไป นับจากนี้ไป…พวกเจ้าคือพลเมืองชั้นสองของดินแดนด้านใต้” เสียงเมิ่งฮ่าวราบเรียบแต่คำพูดเหล่านี้ราวกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงมาทำให้เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขาจะต้องถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัดเมื่อเขากล่าวว่า ‘พลเมืองชั้นสอง’ คำพูดนั้นก็ถูกประทับลึกลงไปในจิตใจของผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือและพวกมันก็รู้ว่าคำพูดนี้จะเป็นตัวตนสำหรับคนรุ่นหลังจากนี้

ยิ่งไปกว่านั้นในท่ามกลางผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือมากกว่าหนึ่งแสนคนผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้าน ขณะที่วิญญาณแรกก่อตั้งของพวกมันแตกกระจายไปในทันทีพื้นฐานฝึกตนของพวกมันตกลงมาในชั่วพริบตาก็ไม่มีผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งเหลืออยู่อีกแม้แต่คนเดียวในท่ามกลางกองกำลังดินแดนทางเหนือ

ต่อมา เมิ่งฮ่าวก็หันหน้าไปยังผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋า

“สำหรับพวกเจ้า…สงครามของพวกเจ้าได้ทำให้ดินแดนด้านใต้ต้องแตกกระจายไปผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนต้องตายไปและพลังลมปราณของดินแดนแห่งนี้ก็เริ่มเบาบางลงพวกเจ้าทั้งห้าจะต้องถูกสะกดไว้และจะกลายเป็นรากฐานของผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้รุ่นต่อไปในอนาคต พลังแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าจะถูกดึงออกมาเพื่อชดเชยพลังลมปราณที่สูญเสียไปของดินแดนด้านใต้!” ขณะที่เขาพูดก็กวาดมือออกไปทำให้ขุนเขาที่เก้า ซึ่งกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ ที่ด้านล่างเผยให้เห็นหญิงสาว ซึ่งมีโลหิตไหลซึมออกมาจากปาก หลงเหลือพลังชีวิตอยู่แค่เล็กน้อยเท่านั้น

จากนั้นภูเขาก็พุ่งตรงไปยังห้าผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋า

“นับจากนี้ไป ภูเขานี้จะถูกเรียกว่า บาปทางเหนือ!”

เวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในตระกูลจี้ในสถานที่อันลึกลับ ปรมาจารย์เด็กหนุ่มที่ไร้แขนสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆความเสียใจปรากฏขึ้นในดวงตาและมันก็ส่ายหน้าไปมา พึมพำขึ้น

“ตระกูลฟาง…บุตรแห่งผู้ถูกเลือกด้วยพลังแห่งเซียนแท้แค่ห้าในสิบส่วน ครึ่งก้าวจากเซียนแท้…เครื่องหมายนั่นบนมือของมัน…ต้องเป็น…เครื่องหมายนั่นอย่างแน่นอน” แสงแปลกๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาและมันก็ยิ้มออกมาเห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งจะระลึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้

“น่าสนใจนัก ข้าเพิ่งจะนึกได้ว่าสาขาหลักของตระกูลฟางบนดาวตงเซิ่ง (ชัยชนะตะวันออก) มีผู้ถูกเลือกที่ไร้พ่ายนามว่าฟางเว่ย ถ้าคนทั้งสองได้พบกัน ข้าอยากรู้นักว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ในเวลาเดียวกันนั้น บุรุษสตรีทั้งสองที่อยู่บนเจดีย์แห่งถังต่าง ต่างก็มีสีหน้าตื่นเต้นคนทั้งสองสบตากัน จากนั้นก็กุมมือก้าวเท้าตรงไปข้างหน้า

“ถึงเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกันแล้ว…”

“พวกเราเฝ้ารอคอยวันนี้มานานมากแล้ว…”

“ทัณฑ์เจ็ดปี อา, ทัณฑ์เจ็ดปี บุตรชายข้าเอาชนะทัณฑ์นั้นได้แล้ว ตอนนี้มัจฉาได้พุ่งทะยานขึ้นจากน้ำกลายเป็นมังกรไปแล้ว!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!