Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1143

ตอนที่ 1143

ต่อสู้ลำดับขั้น

เมิ่งฮ่าวมองไปยังผู้ยิ่งใหญ่ชุดดำ และกลิ่นอายอันน่ากลัวที่ปกคลุมไปทั่วร่างนั้นจนดูเหมือนกับเป็นแหล่งรวมความตาย ทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่อันไร้ที่เปรียบ, เป็นใครบางคนที่สูงส่งอย่างน่าเหลือเชื่อ, ที่ถูกซ่อนไว้ภายในคือร่องรอยแห่งความว่างเปล่า แต่ก็เป็นความสับสนที่แปลกๆ ซึ่งไม่อาจจะทำให้พลังที่สวรรค์ยังต้องสั่นสะเทือนของบุรุษผู้นี้ลดน้อยลงไปได้

คนผู้นั้นเดินห่างไกลออกไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็ก้าวเท้าเข้าไปในความว่างเปล่าที่ด้านนอก ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องของเต้าเทียนก็ดังก้องออกมา

“เมิ่งฮ่าว!! เอาเวทผู้ยิ่งใหญ่กลับคืนมาให้ข้า!! เอาอาจารย์ข้ากลับมา!!”

ใบหน้าเต้าเทียนบิดเบี้ยวด้วยโทสะ พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ใช้สองมือขยับร่ายเวท ทำให้เปลวไฟสีดำพุ่งออกมาทั่วทั้งร่าง กระจายออกไปอยู่รอบๆ ตัว จนเกิดเป็นทะเลแห่งเปลวไฟสีดำขึ้นมา สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จำนวนมากปรากฏขึ้นอยู่ภายใน ส่งเสียงแผดร้องคำรามอย่างดุร้ายคล้ายกับเป็นสัตว์อสูรจากห้วงบรรพกาล

สัตว์อสูรมีทั้งหมดสิบแปดตัวร่วมโจมตีมาพร้อมกับเต้าเทียน ขณะที่เข้ามาใกล้มันก็โบกสะบัดมือ และสิบแปดสัตว์อสูรก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าตกใจออกมา ทำให้สรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง จนดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ แทบจะคล้ายกับว่าพวกมันกำลังพุ่งออกมาจากในสมัยโบราณเพื่อมากำจัดเมิ่งฮ่าวไป

ในเวลาเดียวกันนั้นหลินชงก็กัดฟันแน่น และบอกกับตัวเองอีกครั้งว่ามันไม่ยอมจะพ่ายแพ้อีกแล้ว เมื่อได้รับความรู้แจ้งของสามพันแก่นแท้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพ่ายแพ้

มันค้นพบเส้นทางแห่งพลังของตัวเอง พบว่าเส้นทางนั้นสอดคล้องกับการฝึกฝนเต๋าแห่งเซียนของมันมากที่สุด!

“ข้าจะไม่พ่ายแพ้!!”

“เต๋าแห่งน้ำพุเหลือง เปิดดินแดนยมโลก!” มันแผดร้องออกมา ยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปในอากาศ และแยกออกจากกันไปคนละด้าน เกิดเป็นเสียงฉีกขาดดังก้องขึ้นมา ขณะที่อากาศถูกฉีกให้ขาดสะบั้นออกจากกัน และแม่น้ำน้ำพุเหลืองก็พุ่งออกมา ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าในทันที ภายในน้ำพุเหลืองเป็นวิญญาณพยาบาทนับไม่ถ้วน ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวออกมา

ตรงจุดสิ้นสุดที่อยู่ห่างไกลของแม่น้ำเป็นเมืองภาพลวงตา ดูน่ากลัวโดยสิ้นเชิง เหมือนจะเก่าแก่โบราณอย่างน่าเหลือเชื่อ และที่ถูกเขียนไว้บนประตูหลักของมันเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัว

ฟงโตว! (ยมโลกของจีน)

เมืองนั้นดูแข็งแกร่งและสูงใหญ่ และน้ำพุเหลืองก็ม้วนตัวพุ่งขึ้นมา ดินแดนยมโลกเปิดออก ปลดปล่อยแรงกดดันขนาดใหญ่ออกมา ราวกับว่าพลังทั้งหมดของนรกกำลังถูกปลดปล่อยออกมา หลินชงคว้าจับมันไว้คล้ายกับเป็นแส้และสะบัดฟาดออกไปเหนือศีรษะ ทำให้เกิดเป็นแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อกดทับลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าว

ที่ด้านข้างออกไป หานชิงเหลยปาดเช็ดโลหิตออกจากปากและแผดร้องขึ้น

“เมิ่งฮ่าว ถึงเวลาที่เจ้าต้องตายแล้ว!!”

สายฟ้าสีเขียวหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัวมัน และทั่วทั้งร่างก็เริ่มกลายเป็นสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นสายฟ้า เลือดเนื้อของมันแห้งเหี่ยวลงไปจนกระทั่งกลายเป็นโครงกระดูก

มันดูดพลังทั้งหมดของเลือดเนื้อตนเองเข้าไปในโครงกระดูก และจากนั้นก็กวัดแกว่งสายฟ้าสีเขียวนั้น พลังของมันพุ่งขึ้นไป และสายฟ้าก็ฟาดลงมา ขณะที่มันพุ่งทะยานตรงมายังเมิ่งฮ่าว นอกจากทั้งหมดนี้ก็ยังใช้พิษอันชั่วร้ายโจมตีลงไปบนศีรษะเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าต้องการจะกำจัดวิญญาณของเขาไป!

สามผู้ฝึกตนลำดับขั้นร่วมมือกัน ทุ่มออกมาจนสุดตัว ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เต้าเทียนไม่ยอมเหลือที่ว่างไว้ให้ถอยกลับไปได้อีก มันเกลียดชังเมิ่งฮ่าวจนลึกลงไปถึงกระดูก!!

หลินชงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ใดๆ อีก มันต้องการจะลบล้างเงาร่างของเมิ่งฮ่าวไปจากจิตใจ ใช้การต่อสู้นี้เพื่อกวาดล้างเขาออกไป

ความทระนงในเกียรติของหานชิงเหลย ไม่ปล่อยให้มันยอมรับความพ่ายแพ้ใดๆ ในสถานะตอนนี้ของตัวเอง มันต้องการจะเอาชนะ และจะดื่มโลหิตของเมิ่งฮ่าวลงไปในที่สุด!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่สามผู้ฝึกตนใกล้เข้ามา ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้นด้วยแสงที่เย็นชา ยกเท้าขวาขึ้นไปในอากาศ และเดินออกไปนอกวิหารหนึ่งก้าว ตัววิหารเองสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง และเริ่มแตกกระจายออกไป

เมิ่งฮ่าวใช้พลังของก้าวที่โผล่ออกไปนั้นเปิดตัวออกไป เคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วจนทิ้งเป็นภาพทับซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ขณะที่เขาระเบิดพลังพุ่งตรงไปจนกลายเป็นวิหคยักษ์สีทอง

ขณะที่วิหคยักษ์สีทองบินฝ่าอากาศไป ร่างก็แวบแสงขึ้นมาขณะที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า ตอนนี้วิหคยักษ์สีฟ้า จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของหานชิงเหลย เมิ่งฮ่าวไม่สนใจสายฟ้าสีเขียวแม้แต่น้อย ขณะที่ใช้กรงเล็บกรีดเฉือนออกไปด้วยความดุร้าย

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ขณะที่สายฟ้าพังทลายลงไป ดวงตาหานชิงเหลยเบิกกว้างขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวในรูปแบบของวิหคยักษ์สีฟ้ากรีดเฉือนหน้าอกไปมันด้วยกรงเล็บที่แหลมคมราวใบมีด

หานชิงเหลยแผดร้องคำรามออกมา และใช้สองมือขยับร่ายเวท ร่างกายมันพุ่งเปลวไฟออกมา และพื้นฐานฝึกตนก็ทะยานสูงขึ้นไป แต่ในเวลาเดียวกันนั้นพลังของมันก็พุ่งขึ้นมา เมิ่งฮ่าวในรูปแบบวิหคยักษ์ส่งเสียงแผดร้องอันทรงพลังออกมา และส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์แทงเข้าไปในศีรษะของหานชิงเหลย

หานชิงเหลยส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก มันกำลังจะพุ่งถอยไปทางด้านหลังเพื่อหลบหนี แต่เมิ่งฮ่าวก็เข้าไปใกล้อีกครั้ง และใช้กรงเล็บของวิหคยักษ์สีฟ้ากรีดเฉือนลงไปบนศีรษะของมัน

เจ้าต้องการกำจัดวิญญาณข้า? ข้าก็จะกำจัดวิญญาณเจ้า!

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่ศีรษะของหานชิงเหลยระเบิดออก จากนั้นร่างกายมันก็สั่นไปมาอย่างรุนแรง และตามมาด้วยการระเบิดขึ้นจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป

เมิ่งฮ่าวกำลังจะสังหารมันอีกครั้ง แต่เวทแห่งเต๋าของเต้าเทียน, สัตว์อสูรแห่งบรรพกาลสิบแปดตัวก็พุ่งใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวอาจจะไม่สนใจหานชิงเหลย หรือแม้แต่หลินชงได้ สำหรับเขาแล้วพวกมันแทบจะไม่มีอะไร แต่เต้าเทียน ถึงแม้ว่ามันไม่อาจจะต่อสู้กับเขาได้ ก็ยังเป็นภัยคุกคามมากที่สุดในสามคนนี้

พร้อมกับเสียงแค่นเย็นชา ร่างเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น และพุ่งตรงไปยังเต้าเทียน กรงเล็บที่แหลมคมราวใบมีดพุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังสิบแปดสัตว์อสูรบรรพกาล

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา และระลอกคลื่นก็พุ่งออกไป การโจมตีไปเพียงครั้งเดียวของเมิ่งฮ่าวสามารถทำลายสัตว์อสูรทั้งสิบแปดตัวลงไปได้ เขาคล้ายกับเป็นริ้วแสงสีฟ้ากระแทกลงไปยังพวกมันได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นกิ่งไม้ที่เน่าเปื่อยผุพัง

ในที่สุดวิหคยักษ์สีฟ้าก็แวบขึ้น และร่างมนุษย์ของเมิ่งฮ่าวก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่ยื่นมือขวาฟาดตรงไปยังเต้าเทียน

เต้าเทียนแผดร้องคำรามออกมาและสะบัดมือออกไปทั้งสองข้าง ทำให้เปลวไฟสีดำพุ่งออกไป กลายเป็นหัตถ์ยักษ์ที่ตบฟาดลงมายังเมิ่งฮ่าว

ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ก็ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะตัวเล็กอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับหัตถ์ยักษ์สีดำนั้น อันที่จริงก็ดูเหมือนว่าทั้งสองแทบไม่อาจจะเทียบกันได้แม้แต่น้อย แต่ขณะที่หัตถ์ยักษ์นั้นใกล้เข้ามา ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น

ผนึกอสูร, เวทรุ่นห้า!

เวทด้านในด้านนอก!

ภายในฝ่ามือที่พุ่งออกไปของเมิ่งฮ่าวปรากฎเป็นรอยแตกขึ้น ในชั่วพริบตาก็มีความกว้างนับสิบจ้าง แทบจะดูคล้ายกับเป็นดวงตา ซึ่งในตอนแรกก็หดเล็กลงไป จากนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตูมมมมมมม!

ขณะที่มันขยายตัวออกไป หัตถ์เปลวไฟสีดำที่ใกล้เข้ามาก็ระเบิดขึ้น จากนั้นเปลวไฟก็ม้วนตัวตรงไปยังทิศทางของเต้าเทียน ราวกับว่าพวกมันกำลังระเบิดพุ่งไปทางด้านหลังด้วยสายลมที่ดุร้ายเหลือคณา

สีหน้าเต้าเทียนสลดลง และมันก็ล่าถอยออกไปในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นจู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็พุ่งตรงไป ฟาดมือขวาออกไปส่งผลให้เกิดเป็นลำแสงสีฟ้าไปปิดกั้นสายฟ้าสีเขียวของหานชิงเหลยย ต่อมาเขาก็พุ่งผ่านแรงกดดันจากดินแดนยมโลกของหลินชง ไปปรากฏกายขึ้นอีกครั้งที่เบื้องหน้าเต้าเทียน จากนั้นเขาก็ฟาดมือขวาตรงไปยังมัน

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของเต้าเทียน ขณะที่ฝ่ามือของเมิ่งฮ่าวกลายเป็นหมัดในทันที หมัดสังหารเทพ

เกิดเป็นเสียงกึกก้องขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ในอากาศ และเต้าเทียนก็ถอยไปทางด้านหลังในทันที สีหน้ามันดุร้าย โลหิตพุ่งกระจายออกมาจากบาดแผลต่างๆ ในตอนนี้หมัดของเมิ่งฮ่าวได้กลายเป็นนิ้วที่ชี้ตรงไปยังเต้าเทียนด้วยความตั้งใจอันน่ากลัว

ดวงตาเต้าเทียนเริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ และจู่ๆ มือของมันก็พุ่งออกมาจับไปที่แขนของเมิ่งฮ่าว

“อสูรฟ้ากลืนกิน!” เต้าเทียนแผดร้องคำราม ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่งและรังสีสังหาร

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ดูเหมือนว่าเวลาจะไหลย้อนกลับจนถึงจุดที่หานชิงเหลยได้ตายไปเมื่อครู่นี้ โลหิตและชิ้นเนื้อของมันก่อตัวขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว และหานชิงเหลยก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ซีดขาว ในทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น ก็พุ่งถอยไปทางด้านหลัง มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัว และต้องการสังหารในเวลาเดียวกัน

เมื่อเห็นว่าเต้าเทียนสามารถจะตรึงเมิ่งฮ่าวไว้ได้ หานชิงเหลยก็กัดฟันแน่น แผดร้องคำรามออกมา และพุ่งเข้าไปอีกครั้ง

หลินชงกระทำเช่นเดียวกัน ผู้ฝึกตนทั้งสองฉวยโอกาสในตอนนี้ พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นสายฟ้า ผู้ที่รวดเร็วมากที่สุดในคนทั้งสองคือหานชิงเหลย ซึ่งมุ่งหน้าตรงไปราวกับเป็นสายฟ้าสีเขียว!

หลินชงกัดไปที่ปลายลิ้นเล็กน้อย และพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ ทำให้ดินแดนยมโลกของมันกลายเป็นสีโลหิตไปในทันที และบดขยี้ลงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้าย

“ตาย!”

ในตอนนี้เองที่ผู้ฝึกตนจากขุนเขาที่ห้าซึ่งเป็นเด็กหนุ่มอ้วน ฉับพลันนั้นก็ได้รับความรู้แจ้งสามพันแก่นแท้ขึ้นมา

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ร่างกายมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายของมันจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป และพลังของมันก็พุ่งขึ้นมา

ดวงตาแวบแสงขึ้นขณะที่พุ่งเข้ามาต่อสู้ในทันที ร่วมมือกับผู้ฝึกตนลำดับขั้นอีกสามคนโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าว

ถึงแม้ว่ามันจะไม่เคยเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าวมาก่อน และจริงๆ แล้วก็น่าจะมองว่าเต้าเทียนคือศัตรูของมัน แต่ในตอนนี้…มันสามารถจะบอกได้ว่าผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มพวกมันทั้งหมดไม่ใช่เต้าเทียนอีกต่อไป ถ้าพวกมันไม่จัดการเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ก็จะไม่มีใครมีโอกาสได้ครอบครองสุดยอดแก่นแท้โลกอีกเลย

อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาที่ห้าเริ่มเคลื่อนที่มา

อวี่เหวินเจียนก็ส่งเสียงแผดร้องคำรามอันทรงพลังขึ้นมา ใบหน้ามันบิดเบี้ยวขึ้นด้วยรอยยิ้มอันดุร้าย พุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ เรียกขวานสงครามซึ่งเป็นของวิเศษอาณาจักรโบราณออกมา จากนั้นก็สับลงไปยังผู้ฝึกตนอ้วนนั้นในทันที

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาที่ห้าก็หลบไปทางด้านข้างด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

“อวี่เหวินเจียน เจ้ากำลังทำอะไร!?”

“ไม่มีอะไร บิดาแค่รำคาญเจ้า!” อวี่เหวินเจียนกล่าวตอบพร้อมกับหัวเราะเป็นเสียงดัง มันยังไม่รู้แจ้งถึงสามพันแก่นแท้ แต่ก็ตัดสินใจที่จะหยุดการใคร่ครวญรู้แจ้ง โดยไม่พูดอะไรอีก มันกวัดแกว่งขวานไปมาอีกครั้ง และทันใดนั้นก็เริ่มทำการต่อสู้อย่างดุร้ายกับผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาที่ห้าในทันที

เวลาเดียวกันนั้น หลินชงและหานชิงเหลยต่างก็เข้ามาใกล้ มือขวาเต้าเทียนจับอยู่ที่แขนของเมิ่งฮ่าว และปลดปล่อยเวทอสูรฟ้ากลืนกินออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยื่นนิ้วที่เหลือออกไปเพื่อรวมตัวกันเป็นฝ่ามือ เพื่อตบฟาดลงไปบนแขนของเต้าเทียนด้วยความรวดเร็วราวสายฟ้า

ขณะที่เต้าเทียนปลดปล่อยเวทอสูรฟ้ากลืนกินออกมา เมิ่งฮ่าวก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิต!”

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่ร่างเมิ่งฮ่าวแห้งเหี่ยวลงไป พลังชีวิต, เลือดเนื้อ และทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถูกดูดซับไปโดยเต้าเทียนอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเมื่อเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตถูกใช้ออกมา พลังชีวิตของเต้าเทียน, วิญญาณของมัน เลือดเนื้อและทุกสิ่งทุกอย่างของมัน ก็ถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือของเมิ่งฮ่าวเช่นเดียวกัน

คนทั้งสองใช้วิชาเวทที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างยิ่งออกมาในเวลาเดียวกัน ทำให้สีหน้าของเต้าเทียนเปลี่ยนไป หลังจากที่มันต่อสู้ไปมากับเมิ่งฮ่าวทุกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้เห็นเวทแห่งเต๋าของเมิ่งฮ่าวที่มีความคล้ายคลึงเป็นอย่างยิ่งกับเวทอสูรฟ้ากลืนกินของมัน

อันที่จริงเต้าเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่พบว่าเวทอสูรฟ้ากลืนกินของมันไม่อาจจะเทียบได้กับเวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตของเมิ่งฮ่าว ในแง่ของการดูดซับและสิ่งที่ได้รับเข้ามา สีหน้ามันสลดลง และเริ่มกู่ร้องออกไป ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของมันโคจรไหลเวียนย้อนกลับ และพลังก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาในแขนของมัน

ด้วยความที่มันคุ้นเคยกับเวทอสูรฟ้ากลืนกิน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะตระหนักดีถึงวิธีการตอบโต้กับเวทชนิดนี้ เสียงกระหึ่มเริ่มดังก้องขึ้นมาระหว่างมันและเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นมันก็กระเด็นไปทางด้านหลัง ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาด้วยแขนข้างขวาที่ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เต้าเทียนพุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าที่ซีดขาว ทันใดนั้นมันก็กระแทกลงไปยังผู้ฝึกตนจากอาณาจักรขุนเขาทะเล และก่อนที่บุรุษผู้นั้นจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ เต้าเทียนก็ฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าอกของบุรุษผู้นั้น อีกครั้งที่มันปลดปล่อยเวทอสูรฟ้ากลืนกินออกมา บุรุษผู้นั้นแผดร้องโหยหวนขณะที่ร่างกายเริ่มเหี่ยวแห้งลงไป ในเวลาเดียวกันนั้นแขนขวาของเต้าเทียนก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!