Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1059

ตอนที่ 1059

เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า!

อาณาจักรขุนเขาทะเลในตอนนี้ ขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียนคือผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากที่เปิดชีพจรเซียนได้หนึ่งร้อยยี่สิบสามจุด และก่อตัวเป็นสามสิบสามสวรรค์ คนผู้นั้นก็จะก้าวเท้าเข้าไปในจุดสูงสุดของอาณาจักรเซียน นั่นคือตำแหน่งที่สูงมากที่สุดในยุคปัจจุบันนี้

เมิ่งฮ่าวเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่บรรลุถึงระดับนั้นได้ในตอนนี้ เขามีความสำเร็จที่เหนือกว่าราชันที่แข็งแกร่งมากที่สุดแห่งขุนเขาทะเล ซึ่งก็คือตี้จ้างต้าจุนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่

บางทีด้วยการช่วยเหลือจากวิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทำให้เมิ่งฮ่าวบรรลุกลายเป็นเซียนด้วยการยืนกรานเต๋าของตนเอง จนถึงระดับที่สูงเกินกว่าผู้ใดจะสามารถเทียบได้!

อย่างไรก็ตาม…ถึงแม้ว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรเซียนจะเป็นระดับที่สูงมากที่สุดในยุคปัจจุบันนี้ แต่ในสมัยโบราณ ตอนที่โลกแห่งเซียนยังไม่ได้ประกอบไปด้วยเก้าขุนเขาทะเล ซึ่งอยู่ภายใต้สวรรค์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนี้ ยังมีระดับที่สูงไปกว่าผู้ยิ่งใหญ่ และนั่นก็คือจักรพรรดิเซียน!

จักรพรรดิเซียนไม่ใช่แค่ชื่อตำแหน่ง แต่เป็นอาณาจักรแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้เมิ่งฮ่าวสามารถผ่านเข้าไปในอาณาจักรนั้นได้แค่ชั่วคราว ด้วยการใช้ผลเนี่ยผาน ตอนนี้เขาดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไปได้อย่างถาวร ทำให้เข้าไปอยู่ในอาณาจักรนั้นได้อย่างมั่นคง และจริงๆ แล้วก็ตราบชั่วนิรันดร์

อย่างไรก็ตาม…อาณาจักรแห่งจักรพรรดิเซียน ก็ยังไม่ใช่ระดับที่สูงมากที่สุด เหนืออาณาจักรนั้นยังมีอีกสองอาณาจักรในตำนาน แต่ก็มีคนแค่หยิบมือเท่านั้นที่จะเคยบรรลุถึงอาณาจักรเหล่านั้นได้จริงๆ แม้แต่ในช่วงที่รุ่งเรืองของโลกแห่งเซียน ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะพบเห็นขนหงส์หรือเขากิเลนกว่าการที่ได้พบกับบุคคลเช่นนั้น

เหนือจักรพรรดิเซียนคือ จักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้า จากนั้นที่เหนือกว่าจักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้าก็คือ…เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า!

เป็นเรื่องยากที่จะกลายเป็นจักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้า และสำหรับการกลายมาเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า…ก็ยิ่งยากมากขึ้นไปอีก!!

เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าคือขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียน ซึ่งเป็นอาณาจักรที่สามารถจะกำจัดผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดของอาณาจักรโบราณ และแม้แต่ผู้แข็งแกร่งอันทรงพลังของอาณาจักรเต๋าก็ยังต้องสั่นสะเทือน!

บุคคลเช่นนี้ คือผู้ที่อยู่เหนือกว่าอาณาจักรทั้งหมดได้อย่างแท้จริง คือผู้ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าพวกมันจะมีชีวิตอยู่ในยุคไหนหรือสมัยใด ก็จะกลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง!

น่าเสียดายที่จักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ยากกว่าการพบเห็นสมาชิกของอาณาจักรเต๋าซะอีก เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้ายิ่งพบเห็นได้ยากมากขึ้นไปอีก ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ทั้งหมดของโลกแห่งเซียน นับจากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ เคยมีเพียงแค่เก้าคนเท่านั้น!

สำหรับคนทั้งเก้าเหล่านั้น แม้แต่สามผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดก็ยังต้องปฏิบัติต่อพวกมันด้วยมารยาทที่ดี

นั่นเป็นเพราะว่า เนื่องจากตำนานโบราณของโลกแห่งเซียนได้กล่าวไว้ว่า เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าคือต้นกำเนิดของโลกแห่งเซียนทั้งหมด! ถ้าบุคคลเช่นนั้นกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง…มันก็จะคงอยู่ในฐานะที่เป็นจุดสูงสุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!

ในความเป็นจริงแล้ว เนื่องจากจิ่วเฟิงจื้อจุนเคยเป็นจักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้ามาก่อน ทำให้ในที่สุดท่านก็กลายมาเป็นผู้นำในท่ามกลางเหล่าผู้ยิ่งใหญ่

ถ้ามีใครสามารถจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ผ่านทางวิถีของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า นั่นก็จะเป็น…สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่จากในสมัยโบราณมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ตามที มันเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าเข้าไปในอาณาจักรโบราณ โอกาสที่จะล้มเหลวในการดับตะเกียงวิญญาณ และจากนั้นก็ตกตายไป จะมีสูงกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ของอาณาจักรโบราณเป็นอย่างมาก ซึ่งความจริงแล้วก็แทบจะเป็นเรื่องที่แน่นอน เห็นได้ชัดว่าจะไม่มีความหวังรอดชีวิตอยู่ได้ เนื่องจากเช่นนั้น…มันจึงไม่อาจจะผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณ หรือก้าวเท้าเข้าไปในอาณาจักรเต๋าได้!

จากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ จากเก้าเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าที่เคยปรากฏขึ้น

ห้าคนได้ตายไปในอาณาจักรโบราณล้มเหลวที่จะดับตะเกียงวิญญาณของพวกมันไป สำหรับอีกสี่คน…พวกมันตกตายหรือหายสาบสูญไปในช่วงของหายนะอันยิ่งใหญ่

ในอดีตที่ผ่านมา หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่มีความพยายามที่จะรู้ให้ได้ว่า มีเซียนทุกชั้นฟ้าปรากฏขึ้นมาในโลกแห่งเซียนนี้มากมายเท่าใดกัน แต่ก็ไม่อาจจะค้นหาร่องรอยใดๆ ได้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่พอจะมั่นใจได้…

ถ้าใครบางคนมีบรรพบุรุษที่กลายเป็นเซียนทุกชั้นฟ้าแล้ว แม้แต่เป็นแค่จักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้าก็ตามที โอกาสที่บุคคลผู้นั้นจะสามารถทำได้สำเร็จก็จะสูงตามไปด้วย!

เช่นเดียวกัน ถ้าใครบางคนมีบรรพบุรษที่เคยเป็น…

เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า คนผู้นั้นก็จะมีโอกาสบรรลุถึงระดับเดียวกันนั้นได้มากเป็นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน!

แทบจะเหมือนกับเป็นมรดกที่ถูกตกทอดมาทางสายโลหิต! ในความเป็นจริงก็สามารถจะกล่าวได้ว่า ถ้าไปค้นหาข้อมูลจากประวัติศาสตร์โบราณมาทั้งหมด ก็จะพบว่า…ทุกสิ่งทุกอย่างมีแหล่งที่มาจาก…

เก้าตระกูลเท่านั้น!

หลายยุคสมัยที่ผ่านมา ผู้ยิ่งใหญ่คือบุคคลที่ค้นพบข้อเท็จจริงดังกล่าว และต้องหวาดกลัวขึ้นในทันที จึงได้ยกเลิกการค้นคว้าต่อไป แทบจะราวกับว่ามีความรู้สึกที่ลึกล้ำบางอย่าง พยายามป้องกันไม่ให้ความจริงถูกเปิดเผยออกมา!

ตอนนี้ได้ผ่านไปหลายยุคสมัยแล้ว ตั้งแต่การพังทลายลงไปของโลกแห่งเซียน ก่อนเมิ่งฮ่าว ไม่เคยมีจักรพรรดิเซียนปรากฏขึ้นมาอีก จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เซียนทุกชั้นฟ้าจะกลายเป็นแค่สิ่งที่อยู่ในตำนานเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ลืมเลือนไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ตอนนี้…

ในทันทีที่ผลเนี่ยผานจมลึกลงไปในหน้าผากของเมิ่งฮ่าว แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง ความปั่นป่วนวุ่นวายระเบิดขึ้นมาอยู่ภายในใจ เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ขึ้นจนทำให้เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายอาจจะระเบิดออกไปได้ทุกเมื่อ

กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น ในชั่วพริบตาเขาก็มีความสูงถึงสามจ้าง แต่มันก็ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งสูงถึงห้าจ้าง จากนั้นก็แปดจ้าง…

ขณะที่เมิ่งฮ่าวสูงใหญ่ขึ้น ก็รู้สึกราวกับว่ากายเนื้อกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ร่างกายสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขามีพลังแห่งเจตจำนงที่น่าเหลือเชื่อแล้วละก็ เขาคงต้องแผดร้องออกมาอย่างแน่นอน เหงื่อแห่งความเจ็บปวดไหลท่วมไปทั่วร่าง และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากรูขุมขนของเขา

โลหิตและหยาดเหงื่อคละเคล้าเข้าด้วยกัน จนกระทั่งดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะถูกสร้างขึ้นมาจากโลหิตไปโดยสิ้นเชิง!

ถึงแม้ว่าพลังของกายเนื้อจะระเบิดขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อจนเกิดเป็นความเจ็บปวดเต็มไปทั่วร่าง แต่เขาสามารถรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังทะลวงผ่านขีดจำกัดไป จิตใจเต้นรัวและร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้น ขณะที่พลังอันน่าเหลือเชื่อกำลังพุ่งไปทั่วร่าง

เหล่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงของกายเนื้อเมิ่งฮ่าวเท่านั้น ไม่นานต่อมา ก็เกิดเป็นลมพายุกระจายออกไปจากภายในร่างเขา ทำให้ต้องถอยโซเซไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ขณะที่ลมพายุอันน่ากลัวนั้นทำให้พลังเซียนของเขาต้องพุ่งสูงขึ้นไป ฉับพลันนั้นเขาก็ตระหนักว่าการเติบโตขึ้นของร่างกายเมื่อครู่นี้ เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงกำลังเกิดขึ้นอยู่กับพื้นฐานฝึกตนของเขา!

ตูมมมมมมม!

เมิ่งฮ่าวถอยโซเซไปทางด้านหลัง กระอักโลหิตออกมากองโต ดูเหมือนว่าเขาจะถูกสร้างขึ้นมาจากโลหิตโดยสิ้นเชิง และลมพายุก็พุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ รู้สึกว่าเส้นลมปราณทั้งหมดกำลังจะระเบิดออกไป

พลังมีความเข้มข้นขึ้นอย่างมากมาย จนทำให้เมิ่งฮ่าวต้องตะลึงไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่านี่ไม่ใช่พลังของผลเนี่ยผาน แต่เป็นพลังที่มาจาก…สายโลหิตของเขา ผลเนี่ยผานเป็นแค่กุญแจที่จะปลดปล่อยพลังอันน่ากลัวที่ถูกปิดกั้นอยู่ภายในโลหิตออกมาเท่านั้น!

“นี่…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ภายในร่าง ซึ่งบุคคลภายนอกไม่อาจจะได้ยิน

แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว มันเป็นเสียงที่ดังก้องจนแก้วหูแทบฉีกขาด ต่อมาเขาสามารถจะรับรู้ได้ว่าชีพจรเซียนทั้งหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุด…กำลังหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างฉับพลัน เพื่อก่อตัวเป็นชีพจรเซียนเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น!

ชีพจรเซียนจุดเดียวนั้นทำให้เกิดเป็นโครงร่างอยู่ด้านในซึ่งก็คือวงจรอันสมบูรณ์!

ขณะที่วงจรนั้นก่อตัวขึ้นมา พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นไปอย่างบ้าคลั่งเป็นประวัติการณ์ ในชั่วพริบตาเขาก็พุ่งผ่านระดับจักรพรรดิเซียนไปจนไกล พลังที่พุ่งขึ้นมาและกลิ่นอายอันน่ากลัวที่ระเบิดออกมานี้พุ่งขึ้นไปในจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง

ขณะที่เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ในที่สุดมันก็บรรลุถึงจุดที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป เขาแหงนหน้าขึ้นและส่งเสียงกู่ร้องอันน่ากลัวออกมา เสียงกู่ร้องนั้ช่วยระบายความปั่นป่วนวุ่นวายที่อยู่ภายในร่างออกมา ม้วนกวาดออกไปยังทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้น ซากปรักหักพังของที่พักกลายเป็นเถ้าธุลีไป และห้องศิลาก็หายไปอย่างง่ายดาย นกแก้วมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและไม่อยากจะเชื่อ

“เซียนทุกชั้นฟ้า! เจ้าเป็นเซียนทุกชั้นฟ้าจริงๆ! บัดซบ ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าจะมีสายโลหิตเช่นนี้ได้ เมิ่งฮ่าว! ใครคือบรรพบุรุษของเจ้า!? ตระกูลฟาง, ตระกูลฟาง! บัดซบ!

ทำไมก่อนหน้านี้ข้าถึงคิดไม่ได้นะ!!?” นกแก้วแผดร้องออกมาด้วยความร้อนใจ กระพือปีกไปมา ทำให้เกราะป้องกันก่อตัวขึ้น ปกคลุมไปทั่วผู้ฝึกตนอสูรที่กำลังตกใจอยู่ทั้งหมด

ผีโต้งก็กำลังสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยเช่นกัน และทันใดนั้นมันก็โค้งตัวลงไปเพื่อกราบกรานเมิ่งฮ่าว เป็นการบ่งบอกว่ามันไม่อาจจะออกไปจากภายในวงจรแห่งการเกิดใหม่นี้ได้!

ซูเยียนจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง จิตใจนางกำลังหมุนคว้าง และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวได้แผดร้องคำรามออกมาอีกครั้ง ทำให้เกิดเป็นสีฟ้าปรากฏขึ้นมาอยู่รอบๆ ร่างเขา

สีฟ้านั้นคือสีที่สูงสุด เป็นสีที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในโลกแห่งเซียน!

นั่นเป็นเพราะว่าสีฟ้า…เป็นตัวแทนของทุกชั้นฟ้า!

และทุกชั้นฟ้า…เป็นตัวแทนของความเป็นนิรันดร์!

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังกระจายแสงสีฟ้าอันเจิดจ้าออกมา รวมทั้งเจตจำนงเซียนแห่งจักรพรรดิเซียน ทำให้เกิดเป็นบรรยากาศที่กดดันคุกคามพุ่งออกมาจากภายในร่าง

ถ้าเปรียบเจตจำนงอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเซียน กับจักรพรรดิจริงๆ ของอาณาจักรทั่วไป

ถ้าเช่นนั้นพลังที่ระเบิดซึ่งได้กระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าวในตอนนี้…ทำให้เขาสามารถจะกลายเป็นราชันเหนือดวงดาว ราวกับว่ามันคืออาณาจักรของเขาเอง!

ในช่วงหนึ่งเจตจำนงแห่งจักรพรรดิพุ่งขึ้นมา ในช่วงต่อมาดวงตาเมิ่งฮ่าวก็มืดสลัวลงไป และจู่ๆ ร่างกายก็หดเล็กลงไป

เนื่องจากพลังที่ระเบิดออกมานี้ ถ้าเขาก้าวขึ้นไปอีกแค่ก้าวเดียว เขาก็จะไปอยู่ในอาณาจักรของจักรพรรดิเซียนทุกชั้นฟ้า แต่ฉับพลันนั้นพลังทั้งหมดจู่ๆ ก็จางหายไป

ผลเนี่ยผานลูกที่สองโผล่ออกมาจากหน้าผาก และตกลงไปบนพื้น ร่างกายเมิ่งฮ่าวหดเล็กกลับลงมาจากความสูงเกือบสิบจ้าง มาอยู่ในความสูงที่ปกติเหมือนเดิม ชีพจรเซียนก็แยกกระจายออกมาด้วยเช่นกัน และอีกครั้งที่กลายเป็นชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดเหมือนเดิม

ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติในชั่วพริบตา เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ม่านตาเริ่มพร่าเลือน และเริ่มหมดสติไป

ขณะที่เขาหมดสติไป ก็ยิ้มอย่างขมขื่นออกมา การกระทำในสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเมื่อครู่นี้ช่างวู่วามนัก แต่เขาก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงอาณาจักรที่มีอยู่ ในตอนที่ดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สองเข้าไป ซึ่งระดับของพลังนั้น…ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้น, บ้าคลั่ง และความปรารถนา

เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าใดแล้ว ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ก็มองเห็นนกแก้วและผีโต้ง กำลังจ้องมองมาที่เขา พวกมันมีท่าท่างคล้ายกับว่ากำลังมองมาที่เขาอยู่ตลอดเวลา และดวงตาของพวกมันก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น ดูท่าทางมีความสุข และยังรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีกด้วยเมื่อได้มองดูเขา

“พวกเจ้ากำลังมองดูอะไร!?” เมิ่งฮ่าวถาม หอบหายใจออกมา สายตาของผีโต้งเป็นสายตาเดียวกับตอนที่มันได้มองเห็นคนพาลอยู่เป็นประจำ สำหรับนกแก้วสายตาของมันเหมือนกับตอนที่มองไปยังสิ่งมีชีวิตที่มีขนอันงดงาม

หนังศีรษะเมิ่งฮ่าวด้านชา และสีหน้าก็เปลี่ยนไป ก้มมองลงไปที่ด้านล่างก็เห็นว่าเสื้อผ้าฉีกขาดราวกับเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ก็ยังคงปกคลุมอยู่บนร่าง เขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ บนร่างกาย ดังนั้นในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา ถึงแม้ว่าเขาไม่ชอบที่จะพูดถึงนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของนกแก้ว แต่ภายในใจเขาก็ตระหนักดีถึงนิสัยนั้น และมักจะระมัดระวังตัวอยู่เสมอ

“เซียนทุกชั้นฟ้า! อื้อหือ! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะกลายเป็นเซียนทุกชั้นฟ้า!” นกแก้วพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“เซียนทุกชั้นฟ้า?” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น จ้องมองไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็คิดย้อนกลับไปยังสิ่งที่เขารู้สึก เมื่อดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สองเข้าไป และยิ้มออกมา

“เป็นชื่อที่ไม่เลวนัก” ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็ลุกขึ้นมายืน เกิดเป็นเสียงแตกร้าวดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง ขณะที่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ได้ทำงานขึ้น รักษาร่างกายเขาให้กลับคืนเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“เมิ่งฮ่าว อู่เหยียคิดว่าเจ้าจะเหมือนกับจู่เหริน (เจ้านาย)กระจกทองแดงคนอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งไม่เคยจะสามารถทำให้กระจกก้าวหน้าไปได้เกินกว่าขั้นแรก และเข้าไปสู่ขั้นที่สองได้” นกแก้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“แต่ในตอนนี้…ถ้าเจ้าสามารถกลายเป็นเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า เจ้าก็สามารถจะทำให้กระจกทองแดงเข้าไปสู่ขั้นที่สองได้! ซึ่งมันจะกลายเป็น…อาวุธสงคราม!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!