Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1118

ตอนที่ 1118

ต่อสู้กับเต้าเทียน

เต้าเทียนมาถึงแล้ว!

ท้องฟ้าพลุ่งพล่านปั่นป่วนและพื้นดินก็สั่นสะเทือน ราวกับว่าราชันแห่งห้วงสวรรค์ทุกชั้นฟ้าได้มาถึงแล้ว ในทันทีที่มันก้าวเท้าลงไปบนพื้นดินที่ด้านล่าง ก็ดูเหมือนว่ามีพลังที่ไร้พ่ายพุ่งกระจายออกไปในแต่ละก้าวที่มันเดินไป

ทุกย่างก้าวนั้นทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน และรอยเท้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นดิน ราวกับว่ามียักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังก้าวเดินตรงไป

เต้าเทียนอยู่ในชุดยาวสีขาว และมีเส้นผมสีดำที่ลอยพลิ้วไปมา มีหน้าตาที่หล่อเหลา จนดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งเซียน ดวงตามันสาดประกายขึ้นราวกับเป็นดวงดาว และใครก็ตามที่มองเข้าไปในดวงตาทั้งคู่ก็จะรู้สึกราวกับว่า พวกมันกำลังถูกดูดเข้าไปในความลึกล้ำของดวงตาคู่นั้น

สามสิบปีก่อน…มันถูกยกย่องในฐานะที่เป็น…ผู้ฝึกตนอันดับหนึ่งแห่งลำดับขั้น เป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งมากที่สุด

มันไม่ได้สวมมงกุฎจักรพรรดิ แต่ใครก็ตามที่มองไปก็จะรู้สึกได้ถึงความเป็นราชันในตัวมัน มันไม่ได้สวมใส่ชุดของจักรพรรดิ เพียงแค่เสื้อผ้าสีขาวเท่านั้น แต่ก็เหมือนกับเป็นตัวแทนแห่งสวรรค์

มันเดินมาอย่างเนิบนาบ ดูเหมือนว่าไม่ได้รีบร้อนแต่อย่างใด เต็มไปด้วยความหนาวเย็นราวน้ำแข็ง

วิธีที่มันมองไปยังเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ ทำให้คล้ายกับว่าพวกเขาคือมดแมลงสำหรับมัน เห็นได้ชัดว่าสำหรับมันแล้ว มีเพียงเมิ่งฮ่าวเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าจะยังคงน่าสนใจอยู่เล็กน้อย

“พวกเจ้าทั้งสามต้องการท้าต่อสู้กับข้า?”

มันกล่าวเสียงเย็นชาขณะที่ลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ คำพูดอันเรียบง่ายของมันดังก้องออกไปราวกับเป็นเสียงฟ้าร้องคำราม ทำให้สิ่งกีดขวางทั้งหมดต้องถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ดังก้องเข้าไปในหูของเมิ่งฮ่าว

อวี่เหวินเจียนและหงปิน

อวี่เหวินเจียนมีใบหน้าซีดขาว และสั่นสะท้านไปมา ขณะที่ถอยไปทางด้านหลังสองสามก้าว จากนั้นมันก็แหงนหน้าขึ้นและร้องตวาดว่า “เต้าเทียน!!”

พร้อมกับเสียงกระหึ่มกึกก้อง ฉับพลันนั้นมันก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ

หงปินนั่งอยู่ที่ด้านหลังเกราะป้องกัน โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว มันไม่เคยคาดคิดว่าเพียงเต้าเทียนพูดขึ้นมาแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้มันต้องบาดเจ็บอย่างร้ายแรงได้เช่นนี้ แทบจะราวกับว่าเกราะป้องกันที่มันกำลังนั่งอยู่ด้านหลัง ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อได้เห็นอวี่เหวินเจียนกำลังจะโจมตีไป หงปินก็กัดฟันแน่นและขยับมือร่ายเวท จากนั้นก็ชี้นิ้วตรงไปยังเต้าเทียน ทำให้ดวงดาวจำนวนมากเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาที่ด้านบน

ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ และจากนั้นก็กระแทกตรงไปยังเต้าเทียน

นอกจากนี้ยังมีลายเส้นอันซับซ้อนมากมาย ได้กระจายออกไปอยู่รอบๆ ร่างเต้าเทียน ก่อตัวเป็นค่ายกลเวทที่กำลังหมุนวนไปมา จนดูเหมือนว่าจะตั้งใจผูกมัดและสังหารมันไป

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ถึงแม้ว่าคำพูดของเต้าเทียนจะไม่มีผลกระทบต่อตนเองมากนัก แต่ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับมัน

ทำให้สามารถจะรับรู้ได้ถึงพลังอันน่าเหลือเชื่อที่กระจายออกมาจากร่างมัน เป็นพลังแห่งการต่อสู้อันน่าเหลือเชื่อของพื้นฐานฝึกตนอันน่าตกใจของเต้าเทียน

“จากผู้คนทั้งหมดที่ข้าเคยพบเจอมาในรุ่นเดียวกันนี้ มันต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดอย่างแน่นอน!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายขึ้น ก้าวเดินตรงไป ปลดปล่อยเจ็ดก้าวเทพออกมา ทำให้พลังเริ่มพุ่งขึ้นไป

ต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการอธิบายถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นมาแทบจะในทันที เต้าเทียนยิ้มอย่างไม่แยแส ราวกับว่ามันไม่กังวลใจใดๆ ต่อคู่ต่อสู้ทั้งสามคนนี้

“พวกเจ้าทั้งหมดไม่คู่ควรที่จะอยู่ในลำดับขั้น”

มันกล่าว ฟาดมือขวาออกไปในอากาศ ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าอากาศจะถูกแยกส่วนออกไป และหมุนคว้างตรงไปยังดวงดาวที่กำลังพุ่งเข้ามา ก่อนที่ดวงดาวเหล่านั้นจะทันได้เข้าไปใกล้เต้าเทียน พวกมันก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ

ต่อมาเต้าเทียนก็ยกเท้าขึ้นไปและกระทืบลงมา เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป ตามมาด้วยระลอกคลื่นที่กระจายออกไปด้วยพลังโจมตีอันน่าประหลาดใจ ในทันทีที่พลังนั้นไปสัมผัสโดนค่ายกลเวท เสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา และค่ายกลเวทที่ประณีตซับซ้อนก็พังทลายลงไป

หลังจากที่เดินไปก้าวแรก เต้าเทียนก็ชี้นิ้วข้างขวาตรงไปยังอวี่เหวินเจียนที่กำลังใกล้เข้ามา

อวี่เหวินเจียนแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องออกมา “ร่างเทพหกจ้างเก้าเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงครั้งที่เก้า!”

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นมา ขณะที่ร่างกายมันมีขนาดใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งดูคล้ายกับเป็นยักษ์ ต่อยสองหมัดตรงไปยังเต้าเทียนโดยพร้อมเพรียงกัน ด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อที่กระจายออกมาจากร่าง ในชั่วพริบตาหมัดของมันก็ไปกระแทกเข้ากับนิ้วของเต้าเทียน

ทันใดนั้นชิ้นเนื้อที่มือของมันก็ฉีกขาดออก เผยให้เห็นถึงกระดูกที่อยู่ด้านใน อวี่เหวินเจียนส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ขณะที่ร่างมันสั่นสะท้านลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาทั่วทุกที่ อย่างน่าตกใจยิ่งสองหมัดของมัน ไม่อาจจะต่อต้านกับการชี้มาแค่นิ้วเดียวของเต้าเทียนได้!

เมิ่งฮ่าวต้องสั่นสะท้านอยู่ภายในใจ เขาเคยต่อสู้กับอวี่เหวินเจียน และรู้ว่าด้วยสถานะในตอนนี้ของตนเอง ไม่อาจจะทำให้อวี่เหวินเจียนต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ด้วยการชี้นิ้วไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

“เป็นไปไม่ได้!” อวี่เหวินเจียนแผดร้องออกมา

“เจ้า เจ้า…เจ้าได้ลดพื้นฐานฝึกตนลงมาจากอาณาจักรโบราณมากมายเท่าใด?!?!” เกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่กระจายอยู่ในจิตใจมัน เมื่อต้องบาดเจ็บอย่างสาหัสด้วยนิ้วที่ชี้มาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

“แมลงในฤดูร้อนเช่นพวกเจ้า ไม่อาจจะเข้าใจถึงชีวิตในฤดูหนาวได้” เต้าเทียนกล่าวเสียงราบเรียบ เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว เลยผ่านเมิ่งฮ่าวไปในทันที แทบจะคล้ายกับเป็นการเคลื่อนย้ายทางไกล ทำให้มันไปอยู่ใกล้กับเกราะป้องกันของภูเขากั๋วยิ่นแห่งชนเผ่าที่หกมากที่สุด

“อวี่เหวินเจียน เจ้าไม่คู่ควรที่จะอยู่ในลำดับขั้น และเจ้า…หงปิน เจ้ายิ่งไม่คู่ควรมากไปกว่านั้น”

มันชี้นิ้วตรงไปยังเกราะป้องกัน ทำให้ดวงตะวันและจันทราปรากฏขึ้น พวกมันหมุนวนไปมาซึ่งกันและกัน ขณะที่พุ่งฝ่าอากาศและจากนั้นก็กระแทกเข้าไปในเกราะป้องกัน

หงปินมีสีหน้าดุร้ายขึ้น ขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ ทำให้กระแสแห่งแสงจำนวนมากระเบิดออกไป สิบล้านกระแสพุ่งกระจายออกไป สร้างเป็นแม่น้ำอันเจิดจ้าพุ่งตรงไปยังเต้าเทียน

สีหน้าเต้าเทียนยังคงเย่อหยิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่นิ้วของมันไปแตะสัมผัสโดนเกราะป้องกัน จนเกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา และเกราะป้องกันก็สั่นสะท้าน บิดเบี้ยวไปมาอย่างรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทันใดนั้นรอยแตกร้าวก็กระจายออกไปจากจุดที่นิ้วของมันแตะสัมผัสโดน!

“ทำลาย” มันกล่าว รอยแตกร้าวกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และในชั่วพริบตา เกราะป้องกันทั้งหมดก็แตกกระจายไปในทันที ในเวลาเดียวกันนั้น แม่น้ำแห่งแสงทั้งสิบล้านกระแส ก็ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงไปยังเต้าเทียนด้วยพลังอันน่าตกใจ

พร้อมกันนั้นใบหน้าของหงปินก็ซีดขาวลง และความหวาดกลัวก็ปรากฏขึ้น โดยไม่ลังเลอีกต่อไป มันฟาดฝ่ามือลงไปบนพื้น ทำให้ประตูเคลื่อนย้ายทางไกลเริ่มทำงานขึ้น โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของผู้ติดตามทั้งเก้าคนของมัน ขณะที่พวกมันใช้พลังชีวิตเพื่อขับเคลื่อนประตูเคลื่อนย้ายทางไกลนั้น

“เจ้ามีอยู่แค่นี้?!” เต้าเทียนถามขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น ไม่แม้แต่จะมองไปยังแม่น้ำแห่งแสงที่กำลังใกล้เข้ามา ขณะที่แม่น้ำเข้ามาใกล้ มันก็พุ่งผ่านแม่น้ำออกไป ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งบนยอดเขากั๋วยิ่นของชนเผ่าที่หก เมื่อหงปินกำลังจะเคลื่อนย้ายทางไกลหลบหนีจากไป เต้าเทียนก็ยกเท้าขวาของมันขึ้น และกระทืบลงไปบนยอดเขา

ตูมมมมมมม!

พลังขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากร่างมัน ทำให้ภูเขากั๋วยิ่นทั้งหมดแตกกระจายและพังทลายลงไป เศษหินดินทรายนับไม่ถ้วนฟุ้งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง และผู้ติดตามของหงปินทั้งเก้าคนก็ระเบิดขึ้นกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป ประตูเคลื่อนย้ายทางไกลก็แตกกระจายไปด้วยเช่นเดียวกัน และหงปินก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว

“ช่วยข้าด้วย!” มันแผดร้องออกมา มันอยู่ในลำดับขั้นและเป็นคนที่เย่อหยิ่งทระนง แต่ในช่วงของอันตรายที่ร้ายแรงนี้ มันได้ละทิ้งความเย่อหยิ่งอวดดีทั้งหมดไป

อวี่เหวินเจียนส่งเสียงแผดร้องด้วยโทสะออกมา และโจมตีไปอีกครั้ง

เมิ่งฮ่าวถอยไปทางด้านหลังด้วยเช่นกัน ระดับพลังที่เต้าเทียนแสดงออกมา ได้กระแทกลงไปในจิตใจเขาอย่างลึกล้ำ เขาเคยต่อสู้กับผู้คนในรุ่นเดียวกัน ที่มีพื้นฐานฝึกตนเช่นเดียวกับเขามาอย่างมากมาย แต่ก็ไม่มีใครจะสามารถเทียบกับเต้าเทียนได้

“นี่คือลำดับขั้นที่แท้จริง…?”

เมิ่งฮ่าวคิดด้วยความรู้สึกที่สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ หลังจากที่เอาชนะหานชิงเหลย, หลินชง และไห่ตงชิง ทำให้เขาเริ่มดูถูกลำดับขั้น แต่ในตอนนี้ความรู้สึกนั้นทั้งหมดได้จางหายไปแล้ว

“ไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้ในตอนนี้”

เต้าเทียนกล่าวขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ จากนั้นก็หัวเราะและกลายเป็นภาพซ้อนทับอันเลือนลางพุ่งตรงไปยังหงปิน ยกมือขวาขึ้นมาและชี้นิ้วตรงไปที่หน้าผากของหงปิน

ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนที่หงปินจะทันได้ทำอะไร นิ้วนั้นก็ใกล้จะแตะไปที่หน้าผากของมันแล้ว

ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น กระถางสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือของเมิ่งฮ่าว ประจุไฟฟ้าเต้นไปมาอยู่รอบๆ ร่างเขา และจากนั้นก็หายตัวไป

เมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง อย่างน่าตกใจยิ่ง เขาไปอยู่ที่เบื้องหน้าหงปิน สำหรับเต้าเทียน ตอนนี้มันไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวเคยอยู่มาก่อน

ถึงแม้ว่ามันจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ยังต้องอ้าปากค้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

ในช่วงที่มันกำลังตกตะลึงอยู่นั้น เสียงของเมิ่งฮ่าวก็ดังก้องออกมา เต็มไปด้วยความต้องการสังหาร

“เวทผู้ยิ่งใหญ่ สุดยอดสะพาน!!”

เขาโบกสะบัดมือ ทำให้พื้นฐานฝึกตนพุ่งพลังขึ้นไป ชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุด และสามสิบสามสวรรค์ได้ก่อตัวกันเป็นสุดยอดสะพาน กระแทกตรงไปยังเต้าเทียนที่กำลังประหลาดใจอยู่

สำหรับหงปิน มันไม่อาจจะหลบหนีไปยังที่แห่งใดได้จริงๆ มันเพิ่งจะรอดพ้นมาจากความตายได้อย่างหวุดหวิด และตอนนี้ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ขยับมือร่ายเวททำให้หน้าผากของมันแยกเปิดออก และมัจฉาสองตัวก็พุ่งออกไป

หนึ่งในมัจฉานั้นเป็นสีดำ และอีกหนึ่งเป็นสีขาว พวกมันหมุนวนเป็นรูปวงกลม ส่วนหัวไล่ตามหางของกันและกัน สร้างเป็นวงกลมขึ้นมาในกลางอากาศ แสงสีดำและขาวสาดกระจายออกมาขณะที่พวกมันหมุนวนไปมา ก่อตัวเป็นตารางค่ายกลขึ้นมาอย่างช้าๆ อย่างน่าตกใจยิ่ง ตางรางค่ายกลนี้คือเวทผู้ยิ่งใหญ่ของหงปิน!

“เวทผู้ยิ่งใหญ่ เต๋าแห่งหยินหยาง!”

อวี่เหวินเจียนแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา แสงสีแดงจ้าพุ่งออกมาจากร่างมัน ในตอนนี้หยดโลหิตเทพที่มันกลืนกินลงไปก่อนหน้านี้ ถูกดูดซับเข้าไปอย่างเต็มกำลังแล้ว ทำให้มันสามารถจะปลดปล่อยเวทผู้ยิ่งใหญ่ของตนเองออกมาได้

“เวทผู้ยิ่งใหญ่ รอยสักกำจัดเทพ!” อวี่เหวินเจียนโบกสะบัดมือ ทำให้เสื้อผ้าของมันครึ่งหนึ่งกลายเป็นเถ้าธุลีไป อย่างน่าตกใจยิ่งโลหิตกำลังหมุนวนอยู่รอบๆ หน้าอกและแผ่นหลังของมัน เพื่อสร้างเป็นรอยสักสีโลหิต!

รอยสักนั้นคือรูปของเทพขนาดใหญ่จำนวนมาก กำลังถูกสังหารหมู่ไปภาพแล้วภาพเล่า กลิ่นอายอันน่ากลัวระเบิดออกมาจากร่างของอวี่เหวินเจียน และน่าประหลาดใจยิ่งที่ดูเหมือนว่า บริเวณรอบๆ ตัวมันจะกลายเป็นภาพจากรอยสักนั้น ท้องฟ้ากลายเป็นสีโลหิต และมองเห็นเป็นเงาร่างภาพลวงตาอันน่าตกใจมากมายอยู่ทั่วทุกที่

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าว, อวี่เหวินเจียน และหงปิน ต่างก็ปลดปล่อยเวทผู้ยิ่งใหญ่ของตนเองออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน

สีหน้าของเต้าเทียนเปลี่ยนไป และฉับพลันนั้นมันก็ยกมือขวาขึ้นมา ฟาดลงไปที่หน้าอกของตนเอง จู่ๆ เสียงเต้นของหัวใจก็เริ่มดังก้องออกมา

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก…เสียงหัวใจเต้นเก้าครั้งดังก้องออกไปคล้ายกับเป็นเสียงฟ้าคำราม ทำให้โลกแห่งนี้ต้องสั่นสะเทือนไปมา ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละครั้งที่เสียงหัวใจเต้นดังขึ้นมา พลังของเต้าเทียนก็พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกระจายกลิ่นอายของอาณาจักรโบราณออกมา!

หลังจากที่หัวใจเต้นผ่านไปเก้าครั้ง พลังของมันก็แทบไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ นี่คือกลิ่นอายของการทะลวงผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณเก้าครั้ง เปลี่ยนให้มันกลายเป็นปีศาจศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมันแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา สีสันแปลกๆ ก็แวบขึ้นไปในท้องฟ้า

“ข้าเคยก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณมาเก้าครั้งก่อนหน้านี้ เก้าครั้งที่ข้าบังคับให้พื้นฐานฝึกตนของตัวเองต้องตกลงมาเพื่อฝึกฝนใหม่ และทะลวงผ่านเข้าไปอีกครั้ง พวกเจ้าคิดว่าผู้อ่อนแอเช่นพวกเจ้าสามารถจะเทียบกับข้าได้จริงๆ? พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!”

เสียงของเต้าเทียนดังก้องออกไปพร้อมกับแรงกดดันอันน่าตกใจ กดทับลงไปบนร่างของเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ อย่างรุนแรง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น และทันใดนั้นก็กล่าวว่า

“เจ้าก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณถึงเก้าครั้ง แต่ก็บังคับให้ตนเองต้องย้อนกลับลงมาและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง? นั่นก็หมายความว่าเจ้าทำผิดพลาดมาแล้วเก้าครั้ง เลือกวิถีที่ไม่ถูกต้องมาเก้าเส้นทาง ถ้าวิถีของเจ้าถูกต้อง…แค่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว!” จากนั้นเขาก็บังคับให้เวทผู้ยิ่งใหญ่ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งออกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!