ตอนที่ 1129
อ๋าวเฉี่ยนปีกโลหิต!
สีหน้าของชายชราชุดดำเปลี่ยนไป ขณะที่ถูกบังคับให้ต้องถอยไปทางด้านหลังอีกครั้ง ระดับพลังอันรุนแรงของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ แม้แต่เต้าเทียนก็ยังรู้สึกหวาดกลัว ชายชราชุดดำอาจจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งและมีเวทแห่งเต๋าที่แปลกๆ แต่เมื่อต้องมาต่อสู้กับเมิ่งฮ่าวในสถานะเช่นตอนนี้ ก็ทำให้มันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่ากลัว
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของมัน ขณะที่มันล่าถอยไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็เข้าไปใกล้เพื่อต่อยออกไปอีกหนึ่งหมัด ดวงตาของชายชราเบิกกว้างขึ้น และขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ
“เต๋าเดิมแท้!” มันร้องตะโกนขึ้น ทะแลแห่งแสงสีม่วงที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้ามัน กลายเป็นหัตถ์ยักษ์สีม่วงพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“ทำลายเวททั้งหมด? บดขยี้เต๋าให้หายไป?”
เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นพร้อมกับแค่นเสียงเย็นชา ขยับมือร่ายเวท และแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากพลังของอาณาจักรเซียนทุกชั้นฟ้า แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทางด้วยพลังอันน่ากลัว เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่มันกระแทกเข้าไปยังหัตถ์ยักษ์สีม่วงนั้น
ครั้งนี้ เต๋าไม่ได้กระจายหายไป หัตถ์ยักษ์สีม่วงไม่อาจจะขับไล่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ออกไป ได้แต่ต่อต้านไว้เท่านั้น เกิดเป็นเสียงกึกก้องขึ้นขณะที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์เริ่มจางหายไป ในเวลาเดียวกันนั้นหัตถ์ยักษ์สีม่วงก็พังทลายลงไป
เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ยังเหลืออยู่พุ่งตรงไปยังชายชราชุดดำอย่างต่อเนื่อง ปกคลุมมันไว้ในทันที สีหน้ามันสลดลงและถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ฝึกตนสีโลหิตและบุรุษชุดดำคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังมันไม่อาจจะหลบหนีไปได้ทัน
ในชั่วพริบตาเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ม้วนกวาดและปกคลุมไปยังพวกมันทั้งหมด เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนดังก้องออกมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีร่างกายที่ไม่มีวันตกตายไป แต่กระนั้นผู้ฝึกตนสีโลหิตก็ยังต้องถูกทำลายไป
สำหรับกลุ่มบุรุษชุดดำ พวกมันส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ขณะที่กลายเป็นเถ้าธุลีไป
ผู้นำของกลุ่มบุรุษชุดดำตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิงขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง ขยับมือร่ายเวทขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้แสงสีม่วงอันไร้ขอบเขตปรากฏขึ้น กลายเป็นเวทแห่งเต๋าและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากนั้นก็รวมตัวเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์อื่นออกมา ทำให้ตาข่ายขนาดใหญ่แตกกระจายออกไป สีหน้าชายชราชุดดำสลดลง โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก และถอยไปทางด้านหลังอีกครั้ง เมิ่งฮ่าวกำลังจะโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง แต่ทันใดนั้นเองทั่วทั้งร่างของเขาก็กระตุกขึ้นจนไม่อาจจะควบคุมได้ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระจายออกมาจากหน้าผาก ขณะที่ผลเนี่ยผานโผล่ออกมาและตกลงไป เขาคว้าจับไว้แต่ขณะที่ทำเช่นนั้น ระลอกคลื่นแห่งความอ่อนแอก็พุ่งผ่านไปทั่วร่างอย่างรุนแรง
เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมากองโต และโซเซถอยไปทางด้านหลังเล็กน้อย ตอนนี้เขาไม่มีพลังที่จะโจมตีไปเหลืออยู่อีกแล้ว รู้สึกได้ถึงความว่างเปล่า และทันใดนั้นก็เริ่มล้มลงไปบนพื้น
เมื่อได้เห็นเช่นนี้ ชายชราชุดดำก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว มาถึงตัวเขาในชั่วพริบตา อย่างน่าตกใจยิ่งมันใช้หมัดสังหารเทพโจมตีมาอีกครั้ง
เมิ่งฮ่าวยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เขาไม่มีพลังเหลืออยู่แม้แต่น้อย และม่านตาก็สลัวเลือนรางลงไป รู้สึกเหน็ดเหนื่อยไปทั่วร่าง ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อกระตุ้นให้ตัวเองมีพลังขึ้นมาได้
ขณะที่ชายชราชุดดำใกล้เข้ามา ทันใดนั้นเสียงแผดร้องคำรามด้วยโทสะก็ดังก้องออกมาจากภายในแท่งน้ำแข็งสีโลหิต จู่ๆ น้ำแข็งก็แตกกระจายออกมา ทำให้เกิดเป็นเศษชิ้นส่วนลอยออกไปในทั่วทุกทิศทาง ริ้วสีโลหิตพุ่งฝ่าอากาศไป ปกคลุมอยู่บนร่างเมิ่งฮ่าวเพื่อคุ้มครองเขาจากหมัดที่ต่อยมาของชายชราชุดดำในทันที
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป และชายชราก็สั่นสะท้านไปมาอย่างเห็นได้ชัด โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก และพลังสะท้อนกลับก็ทำให้ร่างมันลอยไปทางด้านหลัง ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงคำรามอยู่ในลำคอก็ได้ยินออกมาจากภายในแสงสีโลหิตนั้น ต่อมาแสงสีโลหิตก็กลายเป็นกลุ่มหมอกไป ภายในนั้นมองเห็นเป็นศีรษะขนาดใหญ่ของอ๋าวเฉี่ยนขึ้นมาในทันที มีหน้าตาที่ดุร้ายบึ้งตึง พุ่งกระโจนเข้าใส่ชายชราชุดดำพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง ราวกับว่าจะกลืนกินมันลงไป
สีหน้าชายชราสลดลง และหลบหนีออกไปไกลมากขึ้น หลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ แต่ก็มีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากมันมากขึ้นกว่าเดิม
“ครอบครอง! เจ้า…เจ้าใช้สัตว์อสูรตัวนี้ทำการครอบครองค้างคาวโลหิต?”
ชายชราร้องตะโกนขึ้น
เมิ่งฮ่าวหอบหายใจเมื่ออ๋าวเฉี่ยนที่ตื่นขึ้นมาแล้วหมุนวนอยู่รอบๆ ตัว ส่งพลังชีวิตให้ไหลเข้ามาในร่างช่วยเขาฟื้นฟูร่างกาย เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นกลุ่มหมอกสีแดงอยู่รอบๆ ตัว และศีรษะของอ๋าวเฉี่ยน ความรู้สึกคุ้นเคยก็เต็มอยู่ในจิตใจ และต้องยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“เพื่อจะช่วยเจ้า มันได้หยุดขั้นตอนการของหลอมรวมไว้ จำเป็นต้องหาโอกาสหลอมรวมในครั้งต่อไป” นกแก้วกล่าวขึ้น
นกแก้วและผีโต้งมีท่าทางเหน็ดเหนื่อย หลังจากที่มองมายังเมิ่งฮ่าวชั่วขณะ พวกมันก็กลายเป็นลำแสงพุ่งกลับเข้าไปในถุงสมบัติ
ตอนนี้อ๋าวเฉี่ยนกระจายพลังระลอกคลื่นของอาณาจักรโบราณออกมา เห็นได้ชัดว่าเทียบได้กับผู้ฝึกตนมนุษย์ซึ่งมีตะเกียงวิญญาณที่ถูกดับลงไปแล้วสิบดวง
มันน่าจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ โอกาสที่จะได้ครอบครองวิญญาณผู้ทรยศเป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นในห้วงจักรวาลนี้ แต่เมิ่งฮ่าวก็เป็นเจ้านายของมัน เป็นครอบครัวของมัน เหตุผลเดียวเท่านั้นที่มันต้องการให้ตัวเองแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นก็คือปกป้องดูแลเขา ดังนั้น…ถ้าเมิ่งฮ่าวตกอยู่ในห้วงวิกฤตอันร้ายแรง มันก็เลือกที่จะไม่เพิ่มพลังให้มากขึ้นต่อไป นอกจากนั้นถ้ามันสูญเสียเจ้านายไป ชีวิตของมันก็จะไร้ความหมายใดๆ
มันเป็นสุนัขที่จงรักภักดี และน่าจะถูกต้องมากที่สุดถ้าจะกล่าวว่า มันมีชีวิตอยู่เพื่อเมิ่งฮ่าวเท่านั้น!
มองเห็นแสงอันอ่อนโยนสาดประกายอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่มองไปยังอ๋าวเฉี่ยน ซึ่งกำลังแหงนหน้าขึ้นไปและแผดร้องคำรามออกมา เกิดเป็นเสียงแตกร้าวดังออกมาจากภายในกลุ่มหมอก จากนั้นก็รวมตัวกันเพื่อก่อตัวเป็นร่างของอ๋าวเฉี่ยน มีกระดูกอันแหลมคมงอกออกมาทั่วทั้งร่าง และเขี้ยวของมันก็แหลมคมราวใบมีด มีสีแดงโลหิตคล้ายกับเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มันมีปีกสีโลหิตขนาดใหญ่อยู่สองข้าง!
อ๋าวเฉี่ยนมีท่าทางดุร้ายมากกว่าก่อนหน้านี้ คล้ายกับเป็นเทพโลหิตอันโหดเหี้ยม ดวงตากระจายแสงอันเย็นชาและดุร้ายอย่างไร้จุดสิ้นสุดมองตรงไปยังโลกแห่งนี้ ราวกับว่าสำหรับอ๋าวเฉี่ยนแล้ว ไม่มีสิ่งที่เป็นเทพหรือมาร, ถูกหรือผิด มีเพียงแต่…เจ้านายของมันเท่านั้น!
มันมีท่าทางดุร้าย, โหดเหี้ยมและเย็นชา ใครก็ตามที่ไม่มีความกล้าหาญเพียงพอ ก็จะรู้สึกหวาดกลัวในทันทีที่มองไปยังมัน
แม้แต่สิ่งมีชีวิตอันดุร้ายจำนวนมาก ก็ยังต้องสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัว เมื่อมองไปยังมันเพียงแค่แวบเดียว
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อ๋าวเฉี่ยนอันน่ากลัวนี้ ยอมให้มานั่งอยู่บนหลังของมันได้ เป็นคนที่มันยอมกระดิกหางให้ คนผู้นั้นคือ…คนที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่ยังเล็กอยู่ เมิ่งฮ่าว
เขาคือคนผู้นั้น และเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถจะทำเรื่องเช่นนั้นได้!
เมิ่งฮ่าวนั่งลงไปบนหลังของอ๋าวเฉี่ยน และมันก็แผดร้องคำรามออกมา กระพือปีกขึ้นลง จากนั้นก็บินตรงไปยังพื้นดินที่ด้านบน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ บริเวณนั้นสั่นสะเทือนไปมา พังทลายลงไป กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่อยู่ที่ด้านหลัง เมื่อมันโผล่ขึ้นไปในท้องฟ้า
ขณะที่มันบินขึ้นไป ก็เห็นได้ชัดว่าได้พุ่งผ่านเกราะป้องกันบางอย่าง ซึ่งถูกปกคลุมไว้ในเขตพื้นที่แห่งนั้นทั้งหมด ในเวลาเดียวกันนั้นอ๋าวเฉี่ยนก็มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็มีความยาวถึงหนึ่งร้อยจ้าง และขณะที่มันบินขึ้นไป ก็ส่งเสียงแผดร้องคำรามอย่างน่าประหลาดใจออกมา จนทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสั่นสะเทือน และกระพือปีกขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไป
ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องด้วยโทสะ ดังพุ่งขึ้นมาในท้องฟ้า เป็นเสียงที่ดังออกมาจากยอดเขากั๋วยิ่นของชนเผ่าที่สาม
“สังหารมัน! นำแก้วผลึกโลหิตกลับมา!” บุรุษในชุดจักรพรรดิแผดร้องตะโกนขึ้น
ในตอนที่อ๋าวเฉี่ยนบินขึ้นไปในอากาศ บุรุษในชุดจักรพรรดิก็รับรู้ได้ว่าแท่งน้ำแข็งสีโลหิตแตกกระจายออกไป มันยังรับรู้ด้วยอีกว่าค้างคาวสีโลหิตถูกกลืนกินไปแล้ว และผลลัพธ์ก็คือ…อ๋าวเฉี่ยนได้มาแทนที่ของค้างคาวไป!
ขณะที่เสียงร้องตะโกนของมันดังก้องออกไป ผู้ฝึกตนชุดดำที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ ตัวมัน พวกมันแทบจะกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที
ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดคือบุรุษชุดดำสามคนที่อยู่ด้านหน้าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงกลางของคนทั้งสาม เป็นบุรุษที่สวมใส่ชุดดำเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ใบหน้ามันไม่ได้ถูกปิดบังไว้ เป็นบุรุษวัยกลางคนที่ศีรษะล้านเลี่ยน และมีสีหน้าที่เงียบขรึมจนดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความฉลาดรอบรู้
ในทันทีที่พวกมันบินขึ้นไป ก็กระจายเป็นแรงกดดันอย่างน่าเหลือเชื่อออกมา เมื่อเมิ่งฮ่าวรับรู้ได้สีหน้าก็เปลี่ยนไป ตบเบาๆ ลงไปบนตัวอ๋าวเฉี่ยน กล่าวว่า “ไป!”
ทันใดนั้นอ๋าวเฉี่ยนก็เงยหน้าและแผดร้องคำรามขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นลำแสงสีโลหิตพุ่งจนหายลับตาไปยังที่ห่างไกล
ขณะที่เวลาผ่านไป กลุ่มผู้ฝึกตนชุดดำก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้นมากขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น ชายชราชุดดำที่เมิ่งฮ่าวต่อสู้ด้วยที่ชั้นใต้ดินก็โผล่ออกมาจากภายในของเศษชิ้นส่วนของหลุมขนาดใหญ่นั้น แทนที่จะเข้าไปร่วมกับกลุ่มบุรุษชุดดำคนอื่นๆ มันกลับบินตรงไปยังผู้ฝึกตนศีรษะล้านที่มีหน้าตาฉลาดเฉลียว อย่างน่าตกใจยิ่ง…มันกลับหลอมรวมเข้าไปในร่างของบุรุษผู้นั้น!
ในชั่วพริบตาคนทั้งสองก็กลายเป็นหนึ่งเดียว ใบหน้าของบุรุษวัยกลางคนเปลี่ยนแปลงไป มันดูแก่ชราลง แต่กลิ่นอายเสมือนเต๋าก็ปะทุขึ้นมาจากร่างมันในทันที!!
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในอาณาจักรนั้นอย่างแท้จริง แต่ก็เข้าใกล้มากจนสามารถจะถือได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งเสมือนเต๋า!
“เมิ่งฮ่าว ขุนเขาที่เก้า ทะเลที่เก้า…”
บุรุษผู้นั้นพึมพำ ดวงตาแวบขึ้นด้วยแสงแห่งการหวนรำลึก และถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็พุ่งฝ่าอากาศออกไปเพื่อไล่ล่า ติดตามมาด้วยบุรุษชุดดำคนอื่นๆ ทั้งหมด
มันเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ จนทำให้บุรุษชุดดำคนอื่นๆ ตกอยู่ที่เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว ร่างมันคล้ายกับเป็นลูกธนูที่พุ่งผ่านท้องฟ้าไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
สำหรับอ๋าวเฉี่ยน มันกำลังเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดเป็นภาพซ้อนทับอยู่ทางด้านหลัง ขณะที่พุ่งผ่านชนเผ่าที่สามตรงไปยังวิหารซึ่งอยู่ตรงเขตจุดศูนย์กลาง
เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่บนหลังของมัน กลืนกินเม็ดยาลงไป เพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่การฟื้นฟูร่างกาย อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขายากจะทำงานได้ ขณะที่เขาฉวยโอกาสในทุกช่วงเวลา เพื่อให้บรรลุถึงระดับพลังที่สูงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าไม่อยู่ในจุดสูงสุดของพลังตนเอง ก็จะตกอยู่ในอันตรายภายใต้อาณาจักรสายลมแห่งนี้
เขายังรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารอันเข้มข้น ที่กำลังใกล้เข้ามาจากทางด้านหลังอีกด้วย
โชคดีที่อ๋าวเฉี่ยนมีความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้สามารถออกไปจากชนเผ่าที่สามได้อย่างรวดเร็ว และผ่านเข้าไปยังเขตพื้นทีของวิหารกลาง
นั่นเป็นสถานที่ของสงครามใหญ่แห่งเก้าชนเผ่าด้วยเช่นกัน และมีผู้ฝึกตนจากเก้าขุนเขาทะเลต่างๆ อยู่ในบริเวณนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่คนทั้งหมดก็เลือกที่จะคงอยู่ในบริเวณนี้ต่อไป พวกมันรู้ว่านี่เป็นบริเวณที่ดูเหมือนว่าจะอันตราย แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด
ใครก็ตามที่กลับไปยังชนเผ่าของตนเอง ก็จะถูกลากให้เข้าไปพัวพันกับการต่อสู้กันอย่างดุร้ายของผู้ฝึกตนลำดับขั้น ทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากที่สุดอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดเริ่มตระหนักว่า เขตพื้นที่วิหารกลางคือสถานที่เหมาะสมมากที่สุดที่พวกมันจะสามารถควบคุมความปรารถนาของตนเองไว้ได้
ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวผ่านเข้าไปในพื้นที่แห่งนั้น ผู้ฝึกตนและมนุษย์ธรรมดาที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุร้าย ต่างก็มองขึ้นไปยังอ๋าวเฉี่ยนที่มีรูปร่างขนาดใหญ่โต และต้องอ้าปากค้างขึ้นด้วยความตกตะลึง
“นั่นคืออะไรกัน?!?!?”
“สวรรค์! ทำไมสัตว์อสูรสีโลหิตเช่นนั้น ถึงได้ปรากฏขึ้นมาอยู่ในอาณาจักรสายลมนี้ได้!?!?”
ในที่สุด มนุษย์และผู้ฝึกตนที่ตกตะลึงกันอยู่ ก็ตระหนักว่ามีใครบางคนกำลังนั่งอยู่บนหลังของอ๋าวเฉี่ยน
“ดูนั่น บนหลังของมัน…เป็นคนผู้หนึ่ง!!”
“มันคือเมิ่งฮ่าว!” ฝานตงเอ๋อร์และเป้ยอวี้ต่างก็อยู่ในเขตพื้นที่วิหารกลาง ทันใดนั้นก็มองเห็นอ๋าวเฉี่ยนและเมิ่งฮ่าวที่อยู่บนหลังของมันได้ในทันที
ในตอนนี้เองที่ผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าได้ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา ขณะที่มันออกมาจากชนเผ่าที่สาม และผ่านเข้าไปในเขตพื้นที่วิหารกลาง
“นานมาแล้ว…ที่ข้าไม่ได้มายังที่แห่งนี้” มันพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา