Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1188

ตอนที่ 1188

ค่ายกลสังหารดาวหนานเทียน

ในทันทีที่ค่ายกลเวทนี้ปรากฏขึ้น ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งดาวหนานเทียน ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าว, ฟางโส่วเต้า และฟางเหยียนซวี…และผู้ฝึกตนอื่นๆ ทั้งหมด ต่างก็รู้สึกได้ถึงความต้องการสังหารที่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

ราวกับเป็นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวที่ม้วนกวาดไปทั่วทั้งผืนดิน ปกคลุมไปทั่วทั้งดาวหนานเทียน สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง ขณะที่รับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัว และตระหนักว่ามันคือสิ่งที่เขาไม่อาจจะต่อสู้กลับไปได้ ถ้าพลังนั้นต้องการจะทำลายล้างสิ่งใดๆ ก็สามารถจะทำได้ในชั่วพริบตา!

ใบหน้าฟางโส่วเต้าซีดขาว และฟางเหยียนซวีก็เริ่มสั่นสะท้าน สีหน้าเมิ่งลี่สลดลง เช่นเดียวกับฟางอวี๋

“นั่นคือค่ายกลสังหารแห่งดาวหนานเทียน!!”

“บัดซบ! เห็นได้ชัดว่าค่ายกลนี้ไม่รับรองการก้าวเข้าไปในเต๋าของซิ่วเฟิง มิเช่นนั้นมันคงจะไม่ทำงานขึ้นมา!!”

“มันกำลังจะกำจัดซิ่วเฟิงออกไปแล้ว!!”

ตูม!

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ขณะที่พลังอันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อพุ่งขึ้นมา ผลักดันให้คนทั้งหมดอยู่ห่างออกไปจากฟางซิ่วเฟิง ไม่มีใครสามารถจะต่อต้านได้ แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ตามที ในตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอม แต่ก็ยังคงถูกผลักออกไปจนกระทั่งฟางซิ่วเฟิงยืนอยู่เพียงลำพังโดยสิ้นเชิง

มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้คนทั้งหมดกำลังแสดงความยินดีต่อฟางซิ่วเฟิงที่ก้าวเข้าไปในเต๋าได้สำเร็จ แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ถึงการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นภายใต้สวรรค์และปฐพีแห่งนี้

ดวงตาฟางซิ่วเฟิงสาดประกายขึ้น ในทันทีที่รังสีสังหารปรากฏขึ้น ท่านก็บังคับให้พื้นฐานฝึกตนของตัวเองลดลงจากอาณาจักรเต๋าจนกลายเป็นวงจรอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโบราณไป

อย่างไรก็ตามรังสีสังหารนั้นก็ยังคงมีแต่จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ เสียงฟ้าร้องคำรามดังก้องออกมาจากร่างแหภาพลวงตา ขณะที่พุ่งลงมายังฟางซิ่วเฟิง เต็มไปด้วยความต้องการสังหารอันน่าตกใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพลังแห่งการทำลายล้าง เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น พลังทำลายล้างนั้นก็เข้ามาใกล้ฟางซิ่วเฟิงแล้ว

ถ้าฟางซิ่วเฟิงล้มเหลวในการก้าวเข้าไปในเต๋า และกลายเป็นผู้ฝึกตนเสมือนเต๋า ค่ายกลเวทดาวหนานเทียนก็จะไม่ปรากฏขึ้น โดยที่ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะรับรองท่านหรือไม่ นอกจากนั้นค่ายกลเวทนี้ก็มุ่งเป้าไปที่อาณาจักรเต๋าเท่านั้น ยกเว้นว่าจักรพรรดิถังจะสามารถควบคุมมันได้ มิเช่นนั้นมันก็จะไม่ทำร้ายผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าใดๆ

ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงเจิดจ้าขณะที่มีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที กระถางสายฟ้าปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือขวา และประจุไฟฟ้าก็เต้นไปมาขณะที่เขาพยายามจะสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับบิดา แต่ถึงแม้ว่าจะมีประจุไฟฟ้าเต้นไปมา แต่กระถางสายฟ้าก็ไม่ทำงาน!

เนื่องจากค่ายกลเวทแห่งดาวหนานเทียน ทำให้มันไร้ประโยชน์ใดๆ!

เมิ่งฮ่าวยังไม่ยอมแพ้ ดวงตาแวบขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง พุ่งตรงไปคล้ายกับเป็นลูกธนู ด้วยความตั้งใจที่จะพุ่งฝ่าร่างแหเข้าไปในช่วยบิดา

แต่ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวสัมผัสโดนร่างแห ก็รู้สึกได้ถึงพลังขนาดใหญ่กำลังผลักดันตนเองออกไปอีกครั้ง คล้ายกับเป็นพลังแห่งการขับไล่ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนกำลังขับไล่เขาออกไป ไม่ยอมให้เขาผ่านเข้าไปในร่างแหนั้น

อย่างไรก็ตาม ร่างแหนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายเขาแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาสอดมือเข้าไป ด้วยเจตจำนงแห่งค่ายกลดาวหนานเทียนเท่านั้น!

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาว และเริ่มหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา เขา…ไม่อาจจะทำอะไรได้ในตอนนี้ เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ได้แต่มองไปเท่านั้น ไม่อาจจะช่วยเหลือใดๆ ได้ แต่นี่คือบิดา ผู้ให้กำเนิดเขามา ดังนั้นความรู้สึกที่ไม่อาจจะทำอะไรได้เต็มอยู่ในจิตใจ จนทำให้ต้องแผดร้องด้วยโทสะออกมา

มารดาและพี่สาวของเมิ่งฮ่าวกำลังกรีดร้องออกมา ขณะที่มองดูฟางซิ่วเฟิงเผชิญหน้ากับอันตรายนี้

แต่ในตอนนี้เอง ที่เสียงแผดร้องคำรามก็ดังก้องออกมาจากราชวังจักรพรรดิแห่งต้าถัง

“ด้วยโลหิตตระกูลหลี่ของข้า ข้าขอเรียกร้องต่อวิญญาณบรรพบุรุษที่อยู่ภายในค่ายกลเวท บุรุษผู้นี้…คือผู้พิทักษ์แห่งดาวหนานเทียน คือคนที่มาจาก…ตระกูลฟางทุกชั้นฟ้า อย่าได้ทำร้ายหรือสังหารมันไป…” พร้อมกับคำพูดเหล่านี้ เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกมาจากสวรรค์และปฐพี ดูเหมือนว่าร่างแหจะหยุดชะงักไป และในเวลาเดียวกันนั้น เงาร่างๆ หนึ่งก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอยู่ในกลางอากาศข้างกายฟางซิ่วเฟิง

เงาร่างนั้นสวมใส่ชุดและมงกุฎของจักรพรรดิ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นจักรพรรดิถัง ท่านคว้าจับฟางซิ่วเฟิงไว้และพาลงมาบนพื้นดินอย่างรวดเร็ว เมื่อดูเหมือนว่าคนทั้งสองแทบจะสัมผัสพื้นดิน จู่ๆ สายฟ้าอันเจิดจ้าไร้ขอบเขตก็พุ่งลงมายังฟางซิ่วเฟิง เต็มไปด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น

หลังจากที่ยืนอยู่บนพื้นได้แล้ว เสียงของจักรพรรดิถังก็ดังก้องขึ้นมาอีกครั้งอย่างเร่งรีบ “พี่ซิ่วเฟิง ค่ายกลเวทนี้ไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิกรา ข้าคงไม่อาจจะช่วยท่านได้เหมือนเมื่อครู่นี้อีก รีบนั่งลงเข้าฌานในทันที

ข้าจะมอบหยดโลหิตตระกูลหลี่ให้กับท่าน หลังจากที่ดูดซับเข้าไปได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าก็จะใช้เวทแห่งเต๋าของบรรพบุรุษเพื่อให้ค่ายกลเวทนี้รับรองท่าน แต่ท่านจำเป็นต้องอดทนไปอีกชั่วระยะธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก!”

“นี่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นตายของท่าน…”

“ถ้าท่านผ่านไปได้ ก็จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าเพียงคนเดียวบนดาวหนานเทียนแห่งนี้!”

“ถ้าท่านล้มเหลว…นับจากวันนี้เป็นต้นไป ท่านและข้าก็จะแยกจากกันไปตลอดกาล…” จักรพรรดิถังรีบกล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ท่านพูดจบก็ชี้นิ้วออกไป ตอนแรกเป็นฟางโส่วเต้า และจากนั้นก็เป็นฟางเหยียนซวี คนทั้งคู่หายตัวไป ปรากฏขึ้นใหม่อยู่ที่ด้านข้างของฟางซิ่วเฟิง

“ถ้าท่านทั้งสองต้องการให้พี่ซิ่วเฟิงมีชีวิตอยู่ในช่วงธูปเผาไหม้หนึ่งดอก ก็จำเป็นต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยเหลือมัน แต่…จดจำไว้ว่าต้องไม่ใช้พลังของอาณาจักรเต๋าออกมา มิเช่นนั้นไม่เพียงแต่พี่ซิ่วเฟิงเท่านั้น พวกท่านก็จะต้องตายไปด้วย!” หลังจากกล่าวจบ จักรพรรดิถังก็นั่งลงขัดสมาธิและโบกสะบัดมือออกไป ทำให้หยดโลหิตลอยไปหลอมรวมเข้ากับหน้าผากของฟางซิ่วเฟิงซึ่งเริ่มเข้าฌานอยู่

ดวงตาจักรพรรดิถังสาดประกายขึ้นด้วยความแน่วแน่ ท่านกำลังจะหลับตาลง แต่ก็มีเสียงแหบแห้งดังผ่านเข้ามาในหูอย่างรวดเร็ว

“จักรพรรดิถัง ให้ข้าเข้าร่วมด้วย!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ สายตาของจักรพรรดิถังแวบขึ้นและลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่จากนั้นก็ชี้นิ้วออกไปทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็หายตัวไป และจากนั้นก็ปรากฏกายขึ้นใหม่อยู่ด้านข้างฟางซิ่วเฟิง

เมื่อกระทำเสร็จสิ้น จักรพรรดิถังก็หลับตาลงและใช้สองมือขยับร่ายเวท

เรียกเวทลับของตระกูลหลี่ออกมาเพื่อช่วยให้ฟางซิ่วเฟิงได้รับการยอมรับจากค่ายกลเวท

ร่างแหภาพลวงตาขนาดใหญ่ยังคงส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งลงมายังคนทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดาวหนานเทียนเป็นอันตรายแม้แต่น้อย รังสีสังหารที่อยู่ภายในเริ่มรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สีสันแปลกๆ แวบขึ้นไป และสายลมก็กรีดร้องระงม

ดวงตาฟางโส่วเต้าสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่จู่ๆ ท่านก็บินขึ้นไปในอากาศ ติดตามไปด้วยฟางเหยียนซวี พวกท่านเริ่มต้นต่อสู้กับร่างแหนั้นในทันที ไม่ใช้พลังจากอาณาจักรเต๋า แต่เป็นพื้นฐานฝึกตนที่ถูกจำกัดไว้ในระดับวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณแทน

เมิ่งฮ่าวบินขึ้นในอากาศด้วยเช่นกัน ร่วมมือกับคนทั้งสอง แทบจะทันใดนั้น โลหิตก็พุ่งกระจายออกมาจากปากของคนทั้งสาม เป้าหมายของร่างแหคือฟางซิ่วเฟิง แต่ก็ยังคงทำให้คนทั้งสามได้รับบาดเจ็บไป ถึงแม้ว่าจะเพียงแค่ผิวเผินก็ตามที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมิ่งฮ่าว ซึ่งมีใบหน้าที่ซีดขาวอยู่แล้ว และทันใดนั้นก็ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างร้ายแรง ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านแต่ก็กัดฟันแน่นและต่อสู้กับร่างแหต่อไปเพื่อถ่วงเวลาไว้

ฟางโส่วเต้าแผดร้องคำรามออกมา และพลังของฟางเหยียนซวีก็พุ่งขึ้นไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกท่านจะทำอย่างใด ผลลัพธ์ก็แค่ทำให้ร่างแหนั้นมาตกลงมาช้าลงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อาจจะหยุดมันไว้ได้อย่างแท้จริง

หลังจากที่ผ่านไปสิบอึดใจ เสียงกระหึ่มก็ดังก้องไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และแสงสีฟ้าอันไร้ขอบเขตก็พุ่งออกมาจากโลหิตของเขา พลังของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าระเบิดออกมา ขณะที่กระแทกเข้าไปในร่างแห ทำให้เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวีต่างก็กระทำเช่นเดียวกัน

ท้องฟ้าสั่นสะท้านและพื้นดินก็สั่นสะเทือน ร่างแหถูกโจมตีจนต้องช้าลงเล็กน้อยอีกครั้ง แต่ก็ยังคงปกคลุมลงมาอย่างต่อเนื่อง บังคับให้คนทั้งสามตกลงไปและมีช่องว่างแคบลง

เวลาชั่วธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอกไม่ได้นานมากนัก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่าเวลาเหมือนจะคลืบคลานผ่านไป ไม่แน่ใจว่าผ่านไปนานเท่าใดแล้ว แต่ก็ยังคงโจมตีกลับไปอย่างต่อเนื่อง เสื้อผ้าเมิ่งฮ่าวชุ่มโชกไปด้วยโลหิต แต่ร่างแหก็ยังคงหดตัวลงมาจนถึงจุดที่ ปล่อยให้พวกเขามีช่องว่างเหลืออยู่เพียงแค่สิบกว่าจ้างเท่านั้น

ในตอนนี้เองที่สีหน้าของฟางเหยียนซวีสลดลง และท่านก็หยุดการต่อสู้ไป เห็นได้ชัดว่าท่านกำลังมีปัญหาในการผนึกพื้นฐานฝึกตนอาณาจักรเต๋าของตนเองไว้ ถ้ามันถูกเปิดเผยออกมาเมื่อใด ท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรงในทันที

ในที่สุดท่านก็กัดฟันแน่น ต่อสู้กลับไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งเป็นครั้งสุดท้าย และจากนั้นก็พุ่งผ่านร่างแหออกไปที่ด้านข้าง ลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดแต่แววตาเต็มไปด้วยการขออภัย

โดยไม่มีฟางเหยียนซวี อัตราการหดตัวลงของร่างแหก็เพิ่มขึ้น ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวและฟางโส่วเต้าตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมิ่งฮ่าว ซึ่งได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่ต้น และพื้นฐานฝึกตนก็ไม่ใกล้เคียงกับฟางโส่วเต้าแม้แต่น้อย เขาอาจจะมีอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ แต่กระนั้นก็ยังคงสั่นสะท้านไปมา ขณะที่ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป

ฟางโส่วเต้าแผดร้องคำรามออกมา ตอนนี้ท่านมาถึงจุดที่ไม่อาจจะสะกดพื้นฐานฝึกตนอาณาจักรเต๋าของตนเองไว้ได้อีกต่อไป กัดฟันแน่นตบไปบนหน้าอกอย่างรุนแรง ทำร้ายตนเองเพื่อบังคับให้พื้นฐานฝึกตนยังคงถูกสะกดข่มไว้

แต่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะยาว ตอนนี้เวลาชั่วธูปไหม้ได้ผ่านไปแล้วเจ็ดในสิบส่วน และใบหน้าฟางโส่วเต้าก็ซีดขาว ร่างกายสั่นสะท้าน ถึงแม้ว่าท่านจะใช้กลยุทธ์ทำร้ายตนเอง แต่ก็มาถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว ซึ่งแทบไม่อาจจะควบคุมพื้นฐานฝึกตนอาณาจักรเต๋าไว้ได้อีกต่อไป ท่านถอนหายใจออกมา

“ฮ่าวเอ๋อร์ เหล่าฟูทำทั้งหมดเท่าที่จะทำได้แล้ว โปรด…อย่าได้ตำหนิ” ท่านมีท่าทางแก่ชราลงไปมากกว่าเดิม และมีสีหน้าขมขื่นขณะที่พุ่งจากไป ไม่อาจจะต่อสู้กับร่างแหได้อีกต่อไป ตอนนี้ท่านไปอยู่ที่ด้านนอก พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาให้พื้นฐานฝึกตนอยู่ภายใต้การควบคุม แต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างลึกล้ำและยาวนาน

จากคนทั้งสามที่พยายามต่อต้านร่างแห ตอนนี้เหลือเพียงเมิ่งฮ่าวคนเดียวเท่านั้น พื้นฐานฝึกตนของเขาอ่อนแอมากที่สุด แต่ก็สามารถจะต่อต้านได้นานมากที่สุด นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่มีพื้นฐานฝึกตนอาณาจักรเต๋าให้เปิดเผยออกมา จึงไม่จำเป็นต้องกังวลต่อผลกระทบที่ตามมา ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ และกำลังกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ยอมจะถอยลงไปด้านล่าง ตอนนี้ร่างแหได้หดตัวลงมาจนถึงจุดที่มีความกว้างเพียงแค่ห้าจ้างเท่านั้น!

ด้านหลังเมิ่งฮ่าว บิดากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ ทำให้เขาไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ และขณะที่ร่างแหกำลังหดเล็กลง แววตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง ยกมือขวาขึ้นมาและโบกสะบัดออกไป ทำให้ผีโต้งปรากฏกายขึ้น

“คุ้มกันเตียข้าด้วย!” เมิ่งฮ่าวกล่าว ทันใดนั้นผีโต้งก็ไปหยุดอยู่ตรงด้านบนฟางซิ่วเฟิง กลายร่างเป็นชุดเกราะปกคลุมไปรอบตัวท่านอย่างเต็มรูปแบบ โลหิตเมิ่งฮ่าวกำลังเดือดพล่าน เมื่อเขายกมือขึ้นมา…เผยให้เห็นเป็นผลเนี่ยผานลูกที่สี่!

โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาวางมันลงไปบนหน้าผาก ผลเนี่ยผานละลายหายไปอย่างรวดเร็ว และเสียงที่คล้ายฟ้าร้องคำรามก็เริ่มดังก้องออกมาจากภายในร่างเขาในทันที

เมิ่งฮ่าวส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา และร่างกายก็สั่นสะท้านขณะที่แสงสีฟ้าอันเจิดจ้าพุ่งออกมา ระดับพลังการฝึกตนอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้พุ่งขึ้นไปอย่างฉับพลัน แทบจะดูคล้ายกับมีประตูปรากฏขึ้นมา

นั่นคือ…ประตูอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ!

ราวกับว่ามันกำลังถูกเรียกออกมา ทำให้มีกลุ่มเมฆขนาดใหญ่มารวมตัวกันในท้องฟ้า ซึ่งภายในนั้นคือประตูอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ!

เมื่อยืมพลังจากผลเนี่ยผานลูกที่สี่มาได้ เมิ่งฮ่าวก็ยกสองมือขึ้นและฟาดลงไปบนพื้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากภายในร่าง ขณะที่แรงระเบิดได้พุ่งลงไปบนพื้นดิน จากนั้นก็เกิดเป็นพลังสะท้อนกลับพุ่งตรงขึ้นไปยังร่างแหขนาดใหญ่นั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!