Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1193

ตอนที่ 1193

ไม่กล้าสังหาร?

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน เสียงของชายชราดังก้องไปมา เต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างชั่วร้าย ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจว่าตระกูลทุกชั้นฟ้าคืออะไร แต่สามนิกายหกสำนัก รวมทั้งกลุ่มคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน และมองไปยังตระกูลฟาง

“ตระกูล…ทุกชั้นฟ้า?”

ขณะที่พวกมันมองไปยังร่างแหภาพลวงตาขนาดใหญ่ที่กำลังจางหายไป และเมิ่งฮ่าวที่พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า เป้าหมายของเขาชัดเจนยิ่งคือเหรียญทองแดงซึ่งไร้เจ้าของอยู่ในตอนนี้ และเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ

เขาเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่คนอื่นๆ ในกลุ่มฝูงชนก็พุ่งขึ้นไปด้วยความรวดเร็วราวกับเป็นสายฟ้าเช่นเดียวกัน มีทั้งหมดเก้าคน แต่ละคนต่างก็พุ่งตรงไปยังเหรียญทองแดง!

แต่จากนั้น จู่ๆ ก็มีหกคนเปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าวแทนที่จะเป็นเหรียญทองแดง เห็นได้ชัดว่าพวกมันตั้งใจที่จะไปขัดขวางเขาไว้

อีกสามคนพุ่งตรงไปยังเหรียญทองแดงเร็วขึ้นกว่าเดิม

สีหน้าฟางซิ่วเฟิงสงบนิ่ง ฟางโส่วเต้าและฟางเหยียนซวีที่อยู่ด้านข้างท่านก็ไม่ทำอะไรเช่นเดียวกัน คนทั้งสามต่างก็เชื่อมั่นในตัวเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยแสงอันเย็นชา ชายชราที่เขาเพิ่งจะสังหารไปด้วยความช่วยเหลือจากค่ายกลสังหารดาวหนานเทียน พุ่งเป้าหมายมายังตระกูลฟาง ดังนั้นเขาจึงมีความตั้งใจที่จะเก็บเหรียญทองแดงนี้ไว้เพื่อเป็นสิ่งที่ระลึกจากการต่อสู้

ขณะที่เมิ่งฮ่าวแวบฝ่าอากาศไป มือขวาก็ขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โบกสะบัดมือออกไป ทำให้ภูเขาเซียนที่ถูกห้อมล้อมด้วยแสงสีฟ้าจำนวนมากตกลงมา จากกลุ่มคนทั้งหก สามคนกระอักโลหิตออกมา และเชื่องช้าลงไปในทันที

อีกสามคนปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงหลากสีอันเจิดจ้า และระลอกคลื่นของพลังเวท

จิ้งเหลนดำสิบกว่าตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แผดร้องคำรามออกมาขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ยังมีแส้ขนาดใหญ่ที่ตวัดฟาดลงมาที่เขาราวกับเป็นมังกรอันดุร้ายอีกด้วย

สุดท้ายคือสายรุ้งเจ็ดสี กระจายเป็นแสงอันเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชาและพุ่งตรงไป ด้วยการพึ่งพาความแข็งแกร่งของกายเนื้อ ปะทะเข้ากับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ยื่นสองมือออกไปข้างหน้า ทำท่าฉีกออก ทำให้จิ้งเหลนดำขนาดใหญ่ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวน ขณะที่พวกมันถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ

โดยไม่เชื่องช้าลงแม้แต่น้อย เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือขวา คว้าจับไปที่แส้ภาพลวงตา และส่งเปลวไฟให้พุ่งออกไปปกคลุมมันไว้ ในชั่วพริบตาแส้เส้นนั้นก็กลายเป็นอสรพิษไฟไปทันที

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็กระแทกเข้าไปในสายรุ้ง ทำให้มันแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เมิ่งฮ่าวไม่ชะงักลงแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาไปอยู่ที่เบื้องหน้าของสามผู้ฝึกตนที่เพิ่งจะปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และก่อนที่พวกมันจะทันได้ปลดปล่อยวิชาเวทออกมาอีก เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้เกิดเป็นลมพายุม้วนกวาดตรงไปยังพวกมัน

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากพวกมัน ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านไป เขาไม่สังหารพวกมัน วันนี้คือวันที่บิดากลายเป็นผู้นำของตระกูล ดังนั้นถ้าไม่จำเป็น เขาจะไม่สังหารใครเช่นเดียวกับตอนที่ท้าประลองก่อนหน้านี้ เขาไม่ต้องการเปลี่ยนพิธีที่น่ายินดีนี้ให้กลายเป็นการสังหารหมู่ไป

หลังจากนั้นเขาก็ไปอยู่ที่เบื้องหน้าเหรียญทองแดง กำลังจะยื่นมือไปคว้าจับมันไว้ แต่ผู้ฝึกตนอีกสามคนก็เข้ามาใกล้ ขยับมือร่ายเวท ส่งพลังออกไปขัดขวางเมิ่งฮ่าว

หนึ่งในพวกมันเรียกขวดน้ำเต้าสีเงินขนาดใหญ่ออกมา ให้พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว กระจายเป็นแรงดึงดูดอันแข็งแกร่งออกมา รวมทั้งเกิดเป็นเสียงกรีดร้องอันน่าตกใจอยู่ในหูและจิตใจเมิ่งฮ่าว

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น กำมือซ้ายเป็นหมัดต่อยออกไปด้วยพลังสังหารเทพ ขวดน้ำเต้าสีเงินสั่นสะท้านและจากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นชิ้นๆ ภูตผีที่อยู่ด้านในกระจัดกระจายออกไป เกิดเป็นพลังสะท้อนกลับกระแทกเข้าไปบนร่างของผู้ฝึกตนที่ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ออกมา

สีหน้ามันสลดลงขณะที่ภูตผีเหล่านั้นกระแทกเข้าไปในร่างมัน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และร่างกายมันก็เหี่ยวแห้งลงไป สั่นสะท้านลอยไปทางด้านหลัง หนึ่งในสหายของมันแค่นเสียงเย็นชา ไม่สนใจเหรียญทองแดง พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว พร้อมกับแววตาที่สาดประกายขึ้น ขณะที่มันเผาไหม้พลังชีวิตของตัวเองไป

มันกำลังทำร้ายตนเองและพื้นฐานฝึกตนของตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เมิ่งฮ่าวหยิบเอาเหรียญทองแดงไป การเผาไหม้พลังชีวิตนั้นกลายเป็นพลังของการระเบิดตนเอง ทำให้ใบหน้าของคนทั้งหมดเต็มไปด้วยความตกตะลึง ขณะที่ร่างของบุรุษผู้นั้นระเบิดขึ้น

ราวกับเป็นการระเบิดขึ้นมาของดวงตะวัน ทำให้เกิดเป็นแสงอันเจิดจ้าเสียดแทงออกไปในทั่วทุกทิศทาง เมิ่งฮ่าวไม่ได้ล่าถอยออกไป ชี้นิ้วตรงไปยังพลังของการระเบิดตนเองที่กำลังขยายตัวออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา

“ผนึกอสูร เวทรุ่นห้า!”

เวทด้านในด้านนอก!

ตอนที่เมิ่งฮ่าวได้ครอบครองเวทนี้ พื้นฐานฝึกตนของเขายังอ่อนแอเป็นอย่างมากที่จะปลดปล่อยมันออกมาได้อย่างเต็มกำลัง แต่ตอนนี้เขามีพลังของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า จึงสามารถจะใช้มันได้ในรูปแบบที่แข็งแกร่งมากที่สุด

ชั่วขณะต่อมา รอยแตกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ซึ่งดูคล้ายกับเป็นปากยักษ์ กระจายแรงดึงดูดอันแข็งแกร่งอย่างเหลือคณา ดูดเอาพลังจากการระเบิดตนเองเข้าไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ หนึ่งชั่วขณะคนทั้งหมดรับรู้ได้ถึงพลังของการระเบิดตนเอง แต่ชั่วขณะต่อมามันก็หายไป

คนทั้งหมดจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง และตระหนักว่าตอนนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ใกล้กับเหรียญทองแดง ซึ่งก็คือเมิ่งฮ่าว และผู้ฝึกตนวัยกลางคนในชุดยาวสีดำ

บุรุษผู้นั้นกำลังจ้องมองมายังเมิ่งฮ่าว ดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความหวาดกลัว มันไม่เคยคาดคิดว่าถึงแม้จะมีผู้คนมากมาย ก็ยังไม่อาจจะขัดขวางให้เมิ่งฮ่าวหยุดชะงักลงได้ ตอนนี้มีเพียงคนทั้งสองเท่านั้นที่กำลังแย่งชิงเหรียญนี้

มือสองข้างยื่นออกไปในเวลาเดียวกันเพื่อคว้าจับมัน!

ดวงตาบุรุษวัยกลางคนแวบประกายขึ้น ขณะที่กลิ่นอายแห่งกรรมจู่ๆ ก็กระจายออกมาจากร่างมัน แทนที่จะยื่นมือออกไป แต่เส้นใยกรรมนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปแทน หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมัน และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเหรียญทองแดงเพื่อห่อหุ้มมันไว้

“ตระกูลจี้…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยรังสีสังหาร บุรุษวัยกลางคนผู้นี้มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณ แต่เนื่องจากความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่แปลกประหลาดของตระกูลจี้ ทำให้พลังของมันเหนือกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ในอาณาจักรเดียวกัน

“นี่คือสิ่งที่เป็นของข้า!” บุรุษผู้นั้นร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ข่มขู่ เส้นใยกรรมของมันตรึงแน่นไปบนเหรียญทองแดง และกระชากให้พุ่งเข้ามาหามัน

“เจ้าโง่ตระกูลจี้!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามออกมา แสงสีฟ้าระเบิดออกมาจากร่าง เขาไม่จำเป็นต้องขยับมือทำท่าร่ายเวท วิชาเวทของเขาตอบสนองต่อเจตจำนงของตนเอง แสงสีฟ้ากลายเป็นใบมีดภาพลวงตากรีดเฉือนตรงไปยังผู้ฝึกตนตระกูลจี้และเส้นใยกรรมของมันในทันที

ในชั่วพริบตา เส้นใยกรรมก็ถูกตัดออกเป็นสองส่วน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากบุรุษผู้นั้น ร่างกายมันแห้งเหี่ยวลงไป ในเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็คว้าจับไปที่เหรียญทองแดง

โดยไม่แม้แต่จะมองไปที่เหรียญนั้น เขาใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ประทับลงไป และจากนั้นก็โยนเข้าไปในถุงสมบัติ หมุนตัวในกลางอากาศ จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนตระกูลจี้ด้วยสายตาที่เย็นชา

สีหน้าของบุรุษผู้นั้นเปลี่ยนไป ขณะที่จ้องกลับมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นมันก็แค่นเสียงและเริ่มจะกลับลงไป

“ข้าบอกให้เจ้าไปได้แล้ว?!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น แวบตรงไปยังทิศทางของบุรุษผู้นั้น และชี้นิ้วขวาออกไป อากาศบิดเบี้ยวไปมา และท้องฟ้าก็มืดสลัวลงไป เมื่อพื้นที่รอบๆ บุรุษผู้นั้นเริ่มพังทลายลงไป

สีหน้ามันเปลี่ยนไป และกัดลงไปที่ปลายลิ้นเล็กน้อย พ่นโลหิตออกมาเพื่อปลดปล่อยเวทลับ แต่ก็แทบไม่อาจจะหลบเลี่ยงจากการโจมตีนี้ไปได้ จึงร้องตะโกนขึ้นมาด้วยโทสะ “เจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ เมิ่งฮ่าว!? เจ้ากล้าจะสังหารข้าไปจริงๆ?”

ที่ด้านล่าง ผู้ฝึกตนอื่นๆ จากตระกูลจี้มองมาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ดูเหมือนว่าไม่มีใครกังวลต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้แม้แต่น้อย ราวกับว่าพวกมันมั่นใจว่าเมิ่งฮ่าวไม่กล้าจะสังหารผู้ฝึกตนตระกูลจี้ต่อหน้าสายตาผู้คนมากมายเช่นนี้

สีหน้าเมิ่งฮ่าวเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่กล่าวว่า “วันนี้คือวันแต่งตั้งบิดาข้าในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูล แต่ก็มีอันธพาลบางคนแสดงตัวขึ้น และพยายามจะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมา ถึงแม้ว่าข้าจะสังหารพวกมันไปแล้ว แต่ข้ายังคงมั่นใจว่าพวกมันกระทำตามคำสั่งของใครบางคน! ซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!”

“ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น ผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าอันกระจ้อยร่อยจะกล้ามาทำเรื่องน่าตกใจเช่นนั้นในบ้านข้าได้อย่างไร?” ขณะที่เขากล่าวขึ้น ก็เริ่มเดินตรงไปยังผู้ฝึกตนตระกูลจี้

“ข้ากำลังค้นหาเงื่อนงำของเรื่องนี้ในนามของตระกูลฟาง ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบเหรียญทองแดงนี้และความเป็นมาของมันอย่างละเอียด แต่เจ้า…กลับพยายามมาขัดขวางข้า!?”

“ไม่เพียงแต่เช่นนี้เท่านั้น เจ้ายังมาต่อสู้กับข้าเพื่อแย่งชิงเหรียญนี้! ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เป็นไปได้หรือไม่ว่า…ตระกูลจี้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายนี้? ตอนนี้เมื่อผู้ฝึกตนเสมือนเต๋าตกตายไป เจ้าจึงกังวลว่าตระกูลฟางอาจจะเปิดเผยความจริงออกมาได้ ดังนั้นจึงยื่นมือเข้ามายังหลักฐานชิ้นนี้!”

“ใช่หรือไม่?!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุดชะงักลงแม้แต่น้อย และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นด้วยการร้องตะโกนออกมาในคำพูดสุดท้าย คำพูดของเขาคล้ายกับเป็นแรงระเบิดของสายฟ้า หลังจากนั้นก็เข้าไปใกล้บุรุษผู้นั้นและต่อยหมัดออกไป

สีหน้าของผู้ฝึกตนตระกูลจี้สลดลง และต่อสู้กลับมาด้วยพลังทั้งหมด แต่ต้องกระอักโลหิตออกมาพร้อมกับถอยโซเซไปทางด้านหลัง ในเวลาเดียวกันนั้นผู้ฝึกตนตระกูลจี้ที่อยู่ด้านล่าง ก็ลุกขึ้นมายืน และมองขึ้นไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่เย็นชา

“เมิ่งฮ่าว หยุดใส่ร้ายได้แล้ว! ตระกูลจี้ไม่เคยทำเรื่องเช่นนี้ และต่อให้ทำ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องแก้ตัว!” บุรุษวัยกลางคนกล่าว

“หือ? ข้าเข้าใจแล้ว ไม่ใช่ตระกูลจี้ แต่เจ้าทำเพียงคนเดียว! เจ้าคือคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด!”

“เจ้าคนชั่วบังอาจนัก! เจ้าต้องการให้ตระกูลฟางและจี้ตกอยู่ในสงคราม! ข้าจะสังหารเจ้าไปในตอนนี้ เพื่อเป็นคำเตือนไปยังใครก็ตาม ที่กล้ามาปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างตระกูลฟางและจี้!!” พร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไป สีหน้าบุรุษผู้นั้นสลดลง ผู้ฝึกตนตระกูลจี้คนอื่นๆ กำลังจะมาขัดขวาง แต่จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยกมือขึ้นมา และปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นห้าออกไป

ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นรูปแบบด้านใน แต่เป็นรูปแบบด้านนอก พลังขนาดใหญ่ระเบิดออกไป ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นพลังระเบิดตนเองจากเมื่อครู่นี้ ฟ้าดินบิดเบี้ยวไปมาขณะที่ผู้ฝึกตนวัยกลางคนถูกปกคลุมด้วยพลังระเบิดนั้น

ก่อนหน้านี้ พลังระเบิดได้พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง แต่ตอนนี้มันมุ่งเน้นไปที่ร่างของผู้ฝึกตนตระกูลจี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ด้วยเวทรุ่นห้านี้

บุรุษผู้นั้นไม่อาจแม้แต่จะต่อสู้กลับมา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป ขณะที่มันถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณในทันที

“เมิ่งฮ่าว!!” ผู้ฝึกตนตระกูลจี้คนอื่นๆ ร้องตะโกนออกมา หลายคนบินขึ้นไปในอากาศ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยสมาชิกของตระกูลฟาง

“สหายเต๋าตระกูลจี้ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า ข้าต้องช่วยพวกท่านอย่างไร้ทางเลือกจริงๆ คนผู้นี้บังอาจมาปลุกระดมก่อความรุนแรงขึ้นระหว่างตระกูลของพวกเรา จึงสมควรตายแล้ว!” เมิ่งฮ่าวยิ้ม ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับสมาชิกของตระกูลจี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!