ตอนที่ 1208
สังหารจี้ตงหยางอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าข้อความในแผ่นหยกจะมาจากผู้คนที่แตกต่างกันทั้งหมด แต่กลับมีคำพูดที่เหมือนกัน!
“วิญญาณของฉู่อวี้เยียนกำลังกระจัดกระจายไปอย่างรวดเร็ว ให้มายังเต๋าคุนหลุน!”
คนทั้งหมดต่างก็พูดถึงเรื่องเดียวกัน!
เขาได้รับข้อความจากมารดา บิดาและพี่สาว จากปรมาจารย์โส่วเต้า…แม้แต่ไท่หยางจื่อ, ซ่งหลัวตาน และซุนไห่…
ข้อความที่ถูกส่งมามากที่สุดมาจาก…ตานกุ่ย!
นอกจากนี้ก็ยังมีหนึ่งข้อความที่มาถึงในวันแรกที่เมิ่งฮ่าวตกอยู่ในวิธีการเดินที่แปลกประหลาดนั้น เป็นข้อความที่มาจากฉู่อวี้เยียน
“เมิ่งฮ่าว…ข้าหวังว่าท่านและสวี่ชิงจะมีชีวิตที่สงบสุขและปลอดภัยร่วมกัน…” นั่นเป็นข้อความเดียวที่ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวต้องรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกแทงด้วยคมมีด
เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน ไม่อาจจะบอกได้ว่าสิ่งที่เขากำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้คืออะไร แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เขามั่นใจเกี่ยวกับวิญญาณที่กำลังกระจัดกระจายออกไปของฉู่อวี้เยียน มันต้องไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน ต้องมีเบื้องหลังมากกว่านั้น
เขาไม่มีเวลาที่จะมานั่งขบคิดอยู่ที่นั่น และไม่รู้ว่าควรจะคิดอะไรดี มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นที่เต็มอยู่ในจิตใจตอนนี้ และนั่นก็คือเขาไม่ต้องการให้ฉู่อวี้เยียนตกตายไป
“เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร…?” เมิ่งฮ่าวพึมพำ กลายเป็นลำแสงหลากสีพุ่งตรงไปยังดวงดาวที่มีประตูเคลื่อนย้ายทางไกลที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความรวดเร็ว
ในทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น กลุ่มคนก็จดจำเขาได้และสีหน้าของพวกมันก็เปลี่ยนไป มีอยู่หลายคนที่ตระหนักดีว่าคนทั้งหมดในขุนเขาทะเลที่เก้า กำลังค้นหาเมิ่งฮ่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมา
“เจ้าได้ยินข่าวฉู่อวี้เยียนแห่งเต๋าคุนหลุนที่เป็นคนรักเก่าของเมิ่งฮ่าวหรือไม่…? วิญญาณของนางกำลังกระจัดกระจายออกไป…”
“หลายวันมานี้ คนทั้งหมดพยายามจะตามหามัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครหาพบ วันนี้มันกลับปรากฏตัวขึ้นแล้ว…”
“สมควรแล้วสำหรับคนที่โหดร้ายเช่นมัน ผู้คนมากมายต่างก็ดีใจที่ได้เห็นเช่นนี้”
เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงมาราวกับเป็นสายลม แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงพูดคุยของคนทั้งหมด และคำพูดของพวกมันก็เสียดแทงเข้ามาในจิตใจคล้ายกับเป็นใบมีดอันคมกริบ ทันใดนั้นเขาก็หันหน้ามองกวาดพวกมันไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่าก็กระอักโลหิตออกมา ถอยโซเซไปทางด้านหลัง พื้นฐานฝึกตนของพวกมันพังทลายลงไป พร้อมกับเสียงแผดร้องอย่างโหยหวน…ผู้ฝึกตนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่เพิ่งจะพูดจาแดกดันเมื่อครู่นี้
ถ้าเป็นช่วงเวลาอื่นเมิ่งฮ่าวคงไม่ลดตัวลงมาหาเรื่องพวกมัน แต่ตอนนี้เขารู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง และคำพูดเหล่านั้นก็ล้ำเส้นมากเกินไป
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไปยังประตูเคลื่อนย้ายทางไกล ที่นำไปสู่เต๋าคุนหลุน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะบรรลุถึง เงาร่างสิบกว่าสายก็โผล่ออกมาจากกลุ่มฝูงชนปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวางเขาไว้ในทันที
จากระลอกคลื่นที่กระจายออกมาจากพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน ก็เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านี้มาจากตระกูลจี้ ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลที่เป็นผู้นำพวกมันก็คือ…จี้ตงหยาง!!
ไม่มีใครรู้ว่ามันมาอยู่ในที่แห่งนี้นานเท่าใดแล้ว และตอนนี้ในช่วงเวลาที่เมิ่งฮ่าววิตกกังวลมากที่สุด มันก็นำกลุ่มคนของตระกูลจี้มาขัดขวางไม่ให้เมิ่งฮ่าวผ่านเข้าไปในประตูเคลื่อนย้ายทางไกล
“นั่นไม่ใช่พี่เมิ่ง? ทำไมท่านถึงกระวนกระวายใจเช่นนี้?” จี้ตงหยางหัวเราะเป็นเสียงดังขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ แทบจะดูเหมือนว่ามันกำลังมองไปยังเหยื่อของตนเอง ราวกับว่ามันกำลังล่อเหยื่ออยู่ เพื่อทำให้ตนเองพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไป
“วิญญาณที่กระจัดกระจายไปของฉู่อวี้เยียน ทำให้ข้ามีโอกาสจัดการกับเหยื่อของข้า” รอยยิ้มของจี้ตงหยางเริ่มกว้างมากขึ้น และดวงตาของผู้ฝึกตนตระกูลจี้ที่ด้านหลังมันก็สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร
“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาดขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด และสุ้มเสียงก็ดังก้องออกมาคล้ายกับเสียงฟ้าร้อง ผู้ฝึกตนตระกูลจี้มีโทสะพุ่งขึ้นมาในทันที และพุ่งตรงมายังเขาในทันที
“บังอาจ! กงจื่อพวกเราพูดกับเจ้า เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดจาหยาบคายเช่นนี้!”
“ไสหัวไป!” สีหน้าเมิ่งฮ่าวไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ขณะที่ขยับมือร่ายเวท ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะท้าน และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือน ดาวทั้งดวงสั่นไปมาเมื่อลมพายุที่ไร้รูปร่างพุ่งตรงไปยังกลุ่มคนตระกูลจี้
ขณะที่เมิ่งฮ่าวบินฝ่าอากาศไป ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวก็สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ลมพายุนั้นคล้ายกับเป็นปากอันกว้างใหญ่ เกิดเป็นเสียงดังกึกก้องด้วยโทสะตรงไปยังกลุ่มคนตระกูลจี้ โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากพวกมัน แต่ละคนลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง บางคนยังได้ระเบิดขึ้นมาอีกด้วย ถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ
เมิ่งฮ่าวบรรลุถึงจุดที่ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว!
“พี่เมิ่ง ข้าไปตอแยอะไรท่าน? ข้าแค่ร้องตะโกนทักทายท่านเท่านั้น แต่ท่านกลับกล้ามาสังหารคนในตระกูลจี้ของข้า?” สีหน้าจี้ตงหยางเคร่งเครียดขึ้นขณะที่ก้าวเดินตรงมา ทำให้คลื่นลมปราณพุ่งระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง อย่างน่าตกใจยิ่งคลื่นเหล่านั้นกลายเป็นแสงแห่งเกราะป้องกันซึ่ง…ปิดกั้นประตูเคลื่อนย้ายทางไกลที่จะไปยังเต๋าคุนหลุนไว้โดยสิ้นเชิง
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นมองมาอย่างเงียบๆ และยังถอยไปทางด้านหลังอีกด้วย พวกมันมองไปยังเกราะป้องกันนั้นด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน ใครก็ตามที่มองเห็นภาพที่เบื้องหน้านี้ ก็จะมองเห็นสิ่งที่ตระกูลจี้พยายามจะทำนี้ได้อย่างชัดเจน
ในช่วงที่เมิ่งฮ่าวมีความวิตกกังวลอย่างลึกล้ำ เมื่อเขาไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากการไปยังเต๋าคุนหลุนเท่านั้น ตระกูลจี้กลับมาขัดขวางเขาไว้ เพื่อจะถ่วงเวลาเขาไปมากกว่านี้ ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องกระวนกระวายใจมากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเป็นช่วงเวลาอื่น เขาอาจจะไม่สนใจ แต่ในตอนนี้เมื่อเขาไม่มั่นใจว่าฉู่อวี้เยียนจะเป็นหรือตายไปแล้ว การที่ตระกูลจี้มาทำเช่นนี้…ก็ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ต่างก็รู้สึกว่าเป็นการกระทำที่มากเกินไป
แต่บางคนก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นความความโชคร้ายของผู้อื่น แววตาพวกมันสาดประกายขึ้นด้วยความชั่วร้าย
เมื่อได้เห็นเส้นทางที่ไปยังประตูเคลื่อนย้ายทางไกลถูกขัดขวางไว้ ก็ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวระเบิดเป็นรังสีสังหารพุ่งออกมา โดยที่ไม่หยุดลงเขาพุ่งตรงไปยังจี้ตงหยางราวกับเป็นดาวตก
ขณะที่เข้าไปใกล้ จี้ตงหยางแอบแค่นเสียงเย็นชา ขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ และจากนั้นก็พุ่งถอยไปทางด้านหลัง ทำให้เมิ่งฮ่าวผ่านไปยังเกราะป้องกันอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นร่างเขาก็กระแทกเข้าไป
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป กายเนื้อของเมิ่งฮ่าวเทียบได้กับของวิเศษ และพลังการโจมตีของเขาก็ถูกสนับสนุนด้วยพื้นฐานฝึกตนของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า ร่างเขาคล้ายกับเป็นลูกธนูอันแหลมคม ทะลุผ่านเข้าไปในเกราะป้องกันอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เกราะป้องกันแตกกระจายไป ร่างเมิ่งฮ่าวก็คล้ายกับเป็นประกายสายฟ้าพุ่งตรงไปยังประตูเคลื่อนย้ายทางไกลอย่างต่อเนื่อง เขาไม่มีเวลาที่จะไปต่อสู้กับจี้ตงหยาง เป้าหมายของเขาก็คือไปยังเต๋าคุนหลุนให้รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเมิ่งฮ่าวกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในประตูเคลื่อนย้ายทางไกล เสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา ขณะที่ประตูนั้น…แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป!
จี้ตงหยางยิ้มให้กับเมิ่งฮ่าว ราวกับว่ามันกำลังมองไปยังสัตว์ป่าที่ติดกับดัก
“พี่เมิ่ง ท่านจะรีบร้อนไปทำไม? ข้าไม่ได้พยายามจะหยุดท่านจริงๆ ข้าแค่ติดตั้งเครื่องป้องกันไว้รอบๆ ประตูเคลื่อนย้ายทางไกลเท่านั้นเพราะว่ามันเก่ามากไปแล้ว และจำเป็นต้องซ่อมแซม มันแทบจะพังทลายลงไปแล้ว เห็นหรือไม่ว่าข้ากังวลใจแทนท่านมากแค่ไหน? ข้าไม่ต้องการให้ท่านพบเจอกับปัญหาใดๆ เมื่อต้องก้าวเท้าเข้าไป จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมข้าถึงต้องขัดขวางท่านไว้”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า เป็นเรื่องสมควรแล้วที่ข้าต้องทำเช่นนี้”
เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ค่อยๆ หมุนตัวไปรอบๆ กลิ่นอายอันน่ากลัวระเบิดขึ้นไป
จี้ตงหยางยังคงยิ้มออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ถอยไปทางด้านหลังอย่างช้าๆ
“พี่เมิ่ง ข้าทำสิ่งทั้งหมดนี้ด้วยความตั้งใจดี ข้าจะไปแล้วในตอนนี้ ไม่ต้องวิตกไป พวกเรายังมีเวลาที่จะรู้จักกันให้ดีกว่านี้ในวันข้างหน้า และกรรมระหว่างพวกเรา…จะต้องถูกสร้างขึ้นมาด้วยเช่นกัน…” มันยิ้มอย่างลี้ลับออกมา ร่างกายเริ่มจางหายไป
“เจ้าต้องการกรรม? ข้าจะให้กรรมกับเจ้า!” เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และกลิ่นอายอันน่ากลัวก็เริ่มเข้มข้นมากขึ้น ขณะที่พุ่งเป็นเส้นตรงไปยังจี้ตงหยาง
เขาเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้า ใช้วิธีการเดินไปแบบแปลกๆ ที่เพิ่งจะเรียนรู้มาจากช่วงหลายวันนั้นออกไป!
พวกที่มุงดูอยู่ไม่อาจจะมองเห็นสิ่งที่แปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้แต่จี้ตงหยางก็ตาม มันยังคงยิ้มออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่ร่างกายเริ่มจางหายไป
เมิ่งฮ่าวส่งเสียงดังกึกก้องออกไปทั่วในอากาศ ทำท่าคว้าจับด้วยมือขวา ทันใดนั้นกระจกทองแดงก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก่อนที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันก็เปลี่ยนรูปร่างไป ม้วนพันไปรอบๆ มือของเมิ่งฮ่าว บิดตัวไปมาจนกลายเป็น…กระบี่ยาวสีดำสนิท!!
มันเป็นกระบี่อันน่ากลัว คล้ายกับเป็นอาวุธแห่งปีศาจ และทันใดนั้นก็กรีดเฉือนตรงไปยังเงาร่างที่มองไม่เห็นของจี้ตงหยาง
อย่างไรก็ตาม ตรงทิศทางที่กระบี่นั้นกรีดเฉือนลงไป ไม่ใช่ตำแหน่งที่จี้ตงหยางหายตัวไป แต่เป็นความว่างเปล่าตรงหน้ามัน!
ขณะที่คมกระบี่กรีดเฉือนลงไป เมิ่งฮ่าวก็เดินไปอีกก้าว ทันใดนั้นสีหน้าของพวกที่มุงดูอยู่ต่างก็แปลกใจไปตามๆ กัน
ฉับพลันนั้นทุกสรรพสิ่งก็แยกออกเป็นสองส่วน ขณะที่ช่วงของกาลเวลาที่แตกต่างกันสองแบบปรากฏขึ้นอยู่ที่เบื้องหน้าสายตาพวกมัน คล้ายกับเป็นภาพกระจกที่บิดเบี้ยว…และจากนั้นก็กลายเป็นภาพที่แปลกประหลาดไป
ภายในภาพนั้น ประตูเคลื่อนย้ายทางไกลที่เพิ่งจะพังทลายลงไป…บิดเบี้ยวไปมาและกลับมาเป็นเหมือนเดิมทั้งหมด มองเห็นภาพที่แตกต่างไปของจี้ตงหยางและเมิ่งฮ่าวจากตอนนี้ ราวกับเป็นภาพสะท้อน เป็นภาพสะท้อนของจี้ตงหยางที่มีสีหน้าเดียวกันจากก่อนหน้านี้ และกำลังกล่าวบางอย่างออกมา จากนั้นภาพสะท้อนของจี้ตงหยางก็เริ่มถอยไปทางด้านหลัง ยังตำแหน่งที่มันเริ่มหายตัวไป และตรงไปยังตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังตวัดกระบี่กรีดเฉือนลงไปด้วยเช่นกัน
แทบจะราวกับว่าจี้ตงหยางกำลังส่งร่างของมันตรงมายังกระบี่ของเมิ่งฮ่าวเอง อาวุธสงครามของเมิ่งฮ่าวที่กรีดเฉือนลงไปยังภาพสะท้อนของจี้ตงหยาง ไม่เพียงแต่จะไม่หยุดลงเท่านั้น แต่ยังคงกรีดเฉือนไปยังจี้ตงหยางที่กำลังหายตัวไปอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ในเวลาเดียวกับที่ประตูเคลื่อนย้ายทางไกลพังทลายลงไป และเมิ่งฮ่าว…ก็กล่าวคำพูดที่เย็นชาบางอย่างที่เพิ่งจะพูดขึ้นมาก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็พุ่งตรงไป อาวุธสงครามก่อตัวขึ้นมา ตวัดเฉือนออกไป หลอมรวมเข้ากับร่างจริงของเขา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นรู้สึกสับสนต่อสิ่งที่พวกมันกำลังมองเห็นอยู่ คนทั้งหมดตกใจและประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อร่างจริงของเมิ่งฮ่าวและจี้ตงหยางหลอมรวมเข้ากับภาพสะท้อนของคนทั้งสอง เมิ่งฮ่าวก็ดูเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่สำหรับจี้ตงหยางที่กำลังจางหายไป จู่ๆ ก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา เงาร่างที่เลือนรางลงไปของมัน แยกออกเป็นสองส่วน!!
“นี่เป็นเวทแห่งเต๋าอะไรกัน!?!?” มันแผดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นร่างทั้งสองส่วนของมันก็จางหายไป
มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ด้านหลัง ซึ่งก็คือน้ำเสียงกึกก้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและประหลาดใจ
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่ไหลผ่านไป กลับมาหลอมรวมเข้ากับช่วงเวลาในปัจจุบัน!
เมิ่งฮ่าวใช้วิธีการเดินที่แปลกประหลาดนี้สร้างเป็น…กลยุทธ์การต่อสู้ที่เหมาะสมกับตนเองโดยสมบูรณ์!
ข้าบิดเบือนกาลเวลาเพื่อทำให้มีพลังที่จะย้อนกลับไปในอดีต และกรีดเฉือนร่างเจ้าด้วยกระบี่ของข้า เมื่อภาพสะท้อนของเจ้าหลอมรวมเข้ากับร่างจริง อาการบาดเจ็บนั้น…ก็จะกลายเป็นของจริง!
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นต่างก็อ้าปากค้างขึ้นโดยสิ้นเชิง ถ้านับรวมกลุ่มคนเหล่านี้เข้าด้วยกัน วิชาเวทที่พวกมันเคยพบเห็นมาตลอดทั้งชั่วชีวิตนั้นมีจำนวนมากมาย แต่…ไม่มีใครจะเคยพบเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้มาก่อน