ตอนที่ 1224
ศิษย์ข้า ไม่ต้องหนี
สีหน้าแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรออกมา นักพรตชราก็จ้องมองไปยังศิษย์สำนักเฮ่าหรันที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น
“พวกเจ้าจะยืนหาอะไร? ไม่เห็นหรือว่าซือซูของพวกเจ้ากำลังถูกรังแกอยู่!? ทำไมถึงไม่ไปช่วย?!” นักพรตชรากระทืบเท้าลงไป ทำให้เกิดเป็นเสียงดังก้องขึ้น ศิษย์สำนักเฮ่าหรันมองตากันไปมา อดที่จะฝืนยิ้มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ชายชราที่เป็นผู้นำกลุ่มคนเหล่านี้มาแทบอยากจะร้องไห้ ถอนหายใจยาวด้วยความไม่แน่ใจว่าจะโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวดีหรือไม่
ขณะที่มันกำลังคิดกลับไปกลับมาถึงสิ่งที่ต้องทำอยู่นั้น เสียงหวีดหวิวแหลมเล็กก็ได้ยินมาจากท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไป ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกมา อสรพิษทั้งหมดบนดาวลั่วเหอก็ขู่ฟ่อๆ เป็นเสียงดังขึ้น
เสียงนั้นดังก้องไปมา ทำให้กลุ่มเมฆพลุ่งพล่านปั่นป่วน เผยให้เห็นถึงงูเหลือมเมฆาจำนวนมากพุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เวลาเดียวกันนั้น อสรพิษที่คล้ายกับลูกธนูนับไม่ถ้วน ก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน แววตาดูน่ากลัว แลบลิ้นเข้าออกอย่างรวดเร็ว
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ บนท้องฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไป งูเหลือมขนาดใหญ่เริ่มตกลงมา เปล่งประกายเป็นแสงเจิดจ้า และยังได้กระจายเป็นกลิ่นอายที่เหมือนกับผู้ยิ่งใหญ่ออกมาอีกด้วย
ผู้ฝึกตนในกลุ่มฝูงชนทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านไปตามๆ กัน สำหรับเมิ่งฮ่าว เมื่อเขามองขึ้นไปดวงตาก็ต้องเบิกกว้างขึ้นชั่วขณะ และจากนั้นก็ยิ้มออกมา
“ในที่สุด ข้าก็ได้พบกับ…ผู้ถูกเลือกในที่แห่งนี้แล้ว”
เมิ่งฮ่าวพึมพำด้วยความต้องการต่อสู้ ในทันทีที่งูเหลือมปรากฏขึ้น เขาก็พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าด้วยความรวดเร็วจนเกิดเป็นเสียงดังก้องออกมา พึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งของกายเนื้อตนเอง กระแทกเข้าไปบนร่างของงูเหลือมเมฆา จนทำให้พวกมันต้องกรีดร้องออกมา และแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็พุ่งตรงไปยังงูเหลือมที่คล้ายกับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตัวนั้น
เขาโบกสะบัดมือออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกไป กลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟที่สามารถจะเผาไหม้ได้ทุกสรรพสิ่ง งูเหลือมยักษ์ตัวนั้นอ้าปากขึ้นและทำให้เกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ จนทะเลแห่งเปลวไฟไม่อาจจะไปโดนตัวมันได้ จากนั้นมันก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับปากที่อ้ากว้าง
เมิ่งฮ่าวยิ้มอย่างเย็นชา กำมือเป็นหมัดและต่อยตรงไปยังงูเหลือมที่กำลังอ้าปากค้างอยู่ตัวนั้น
หมัดแรก หมัดทำลายล้างชีวิต!
ขณะที่หมัดนั้นพุ่งฝ่าอากาศไป ฟ้าดินก็แวบเป็นสีสันอันปั่นป่วนขึ้นมา สายลมขนาดใหญ่พุ่งออกไป และทุกสรรพสิ่งก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง งูเหลือมส่องเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวออกมาขณะที่แสงของมันแตกกระจายไป และจากนั้นร่างกายก็แหลกสลายกลายเป็นชิ้นๆ ไป
เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเสียงที่ไม่ดังมากนัก แต่ในทันทีที่เสียงนั้นดังก้องออกไป งูเหลือมที่เหลืออยู่ในบริเวณนั้นก็เริ่มสั่นสะท้าน ไม่กล้าเข้ามาใกล้อีก ม้วนตัวหลบหนีจากไป
“หุบปาก!” ใครบางคนร้องตวาดขึ้น ซึ่งก็คือหญิงสาวป่าเถื่อนผู้นั้น ที่กำลังขี่ลำแสงห้าสีพุ่งเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
หญิงสาวนางนี้มีหน้าตาที่ดูงดงาม ถึงแม้ว่าผิวกายของนางจะค่อนข้างคล้ำก็ตามที แต่ก็ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้ดูแตกต่างไปจากผู้ฝึกตนหญิงสาวที่เมิ่งฮ่าวเคยพบเจอมาเป็นอย่างมาก
“หลงเสอหนี่ว์!!” (สตรีมังกรอสรพิษ)
“นั่นคือหลงเสอหนี่ว์ แห่งสำนักหลงเสอเหอฮวน! (มังกรผสมอสรพิษ) คาดไม่ถึงว่านางจะมายังดาวลั่วเหอนี้ด้วยเช่นกัน!”
“รางวัลประกาศจับเมิ่งฮ่าวช่างดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่สำนักหลงเสอเหอฮวนก็ยังให้ความสนใจ…หรือบางทีหลงเสอหนี่ว์ที่งดงามผู้นี้อาจจะสนใจเองก็เป็นได้…”
“ถ้านางมาที่นี่ สมาชิกอีกแปดคนของเก้ากรงเล็บเทพสวรรค์ก็คงจะเดินทางมาด้วยเช่นกัน!” ขณะที่คนทั้งหมดพูดคุยกัน ชายชราจากสำนักเฮ่าหรันก็ถอนหายใจ แอบคิดว่าเมื่อหลงเสอหนี่ว์ปรากฏตัวขึ้น ก็ทำให้มันหลุดพ้นออกมาจากสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนนี้ได้ ตอนนี้มันไม่ต้องตัดสินใจว่าควรจะโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวดีหรือไม่อีกแล้ว
เมื่อมันมองไปยังซือจุน (อาจารย์) ด้วยหางตา ก็อดที่จะฝืนยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้แววตาของนักพรตชรากำลังสาดประกายเจิดจ้า และมันก็รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่นักพรตชรามีท่าทางเช่นนี้ คงคิดจะทำอะไรบางอย่างที่เหลวไหลวุ่นวายเป็นแน่…
เมิ่งฮ่าวมองไปยังหญิงสาวที่กำลังใกล้เข้ามา และดวงตาก็ต้องหรี่ลงเล็กน้อย เวลาเดียวกันนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เมื่อเขาได้ยินผู้ฝึกตนในบริเวณนั้นกำลังพูดว่านางคือใคร
“เก้ากรงเล็บเทพสวรรค์ พวกมันต้องเป็นผู้ถูกเลือกจากพันธมิตรเทพสวรรค์อย่างแน่นอน…ไม่เลว ไม่เลว ข้าไปเก็บหนี้จากขุนเขาทะเลที่เก้าเกือบครบแล้ว และตอนนี้เมื่อข้าอยู่ที่นี่…ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องและเหมาะสมที่จะก่อการฆ่าฟันในขุนเขาทะเลที่แปดแห่งนี้” เมิ่งฮ่าวหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา พุ่งตรงไปยังหลงเสอหนี่ว์ในทันที
ม่านตานางหดเล็กลงเมื่อตระหนักว่าเมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่นางก็ไม่ยอมหลบเลี่ยงการต่อสู้นี้ ใช้มือขวาขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้แสงห้าสีระเบิดออกไปในทั่วทุกทิศทาง กลายเป็นงูเหลือมห้าตัวส่งเสียงกรีดร้องพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เวลาเดียวกันนั้นนางก็โบกสะบัดมือออกไป เรียกเส้นเชือกกระดิ่งออกมา เมื่อนางเหวี่ยงเส้นเชือกไปมา เสียงกระดิ่งที่ดังไพเราะก็ได้ยินขึ้น แต่เมื่อเสียงนั้นผ่านเข้าไปในหูเมิ่งฮ่าว ก็คล้ายกับเป็นเสียงคำรามจากสวรรค์ ทำให้จิตใจต้องสั่นสะท้านขึ้น
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา เขาฝึกฝนคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์มา ดังนั้นในทันทีที่เสียงสั่นสะท้านจิตใจโจมตีมา เขาก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป จนกลายเป็นลมพายุที่มองไม่เห็น กระแทกกลับไปยังเสียงนั้น ทำให้หลงเสอหนี่ว์มีสีหน้าสลดลง และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก นางรีบถอยไปทางด้านหลังด้วยความตื่นตระหนก
ก่อนที่นางจะทันได้ทำอะไรต่อไป เมิ่งฮ่าวก็แวบฝ่าอากาศไป กลายเป็นวิหคยักษ์สีฟ้า พุ่งตรงไปยังงูเหลือมทั้งห้าราวกับเป็นสายฟ้า แน่นอนว่าวิหคสามารถสะกดข่มมังกรและอสรพิษได้ ดังนั้นในทันทีที่กลิ่นอายของวิหคปรากฏขึ้น งูเหลือมทั้งห้าตัวต่างก็สั่นสะท้านขึ้นมาในทันที วิหคยักษ์สีฟ้าเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว ใช้กรงเล็บกรีดเฉือนลงไปยังพวกมัน
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นขณะที่งูเหลือมไม่อาจจะต่อสู้กลับมาได้โดยสิ้นเชิง พวกมันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็เข้าไปใกล้หญิงสาวนางนั้น
“แปลงร่างเป็นวิหค!! เจ้าเป็นศิษย์แห่งสำนักเทียนเผิง! (วิหคสวรรค์)” สีหน้าหญิงสาวสลดลง และรีบถอยไปทางด้านหลัง ใช้มือขวาขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พ่นโลหิตสีดำออกมาหนึ่งคำ ทำให้กลายเป็นเครื่องหมายผนึกสีโลหิต เครื่องหมายผนึกนั้นบิดเบี้ยวไปมา ในชั่วพริบตาก็กลายเป็นมังกรหนึ่งตัว!
มังกรตัวนี้เกิดขึ้นมาจากโลหิตสีดำ ทำให้มันกลายเป็นมังกรดำ แผดร้องคำรามออกมาจนเกิดเป็นสายลมขนาดใหญ่ ขณะที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“วิชาเวทเช่นนี้ คู่ควรที่จะเป็นผู้ถูกเลือกจริงๆ?” เมิ่งฮ่าวกล่าว พร้อมกับส่ายหน้าไปมา ถ้านางทำได้แค่นี้ หญิงสาวนางนี้ก็ไม่คู่ควรที่จะมีตั๋วสัญญาและเป็นหนี้ตนเอง
เมิ่งฮ่าวก้าวเท้าตรงไป กำมือขวาเป็นหมัดและต่อยออกไป
นี่คือการโจมตีจากหมัดที่สองของเขา หมัดกลายเป็นปีศาจ!
เมื่อหมัดนั้นส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งฝ่าอากาศไป ก็ดูเหมือนว่าสวรรค์จะสั่นไปมาจนแทบจะพังทลายลงไป มังกรดำเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้น แต่ก็บิดเบี้ยวไปมาในทันที ส่งเสียงแผดร้องโหยหวนออกมา ราวกับว่ามันกำลังจะแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ
แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น หลงเสอหนี่ว์ก็โคจรหมุนเวียนพื้นฐานลมปราณ ทำให้ตะเกียงวิญญาณสิบกว่าดวงปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง มากกว่าครึ่งถูกดับลงไปแล้ว ภายในตะเกียงวิญญาณเหล่านั้นมองเห็นภาพของบุคคลผู้หนึ่งกำลังนั่งเข้าฌาณอยู่
คนทั้งหมดมีใบหน้าเหมือนกับหลงเสอหนี่ว์ ยกเว้นว่าจากท่อนเอวลงไปเป็นอสรพิษ ทันใดนั้นพวกมันก็ลืมตาขึ้นมา และมองไปยังมังกรดำ
“มังกรอสรพิษสิบสามเท่า!” นางแผดร้องออกมาเป็นเสียงแหลมเล็ก ทันใดนั้นแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างมังกรดำ และพลังของมันก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
จากนั้นก็เป็นสามเท่า, สี่เท่า…ในชั่วพริบตา พลังของมังกรดำก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบสามเท่า ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะดูแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังกระจายเป็นเส้นทางของอาณาจักรเต๋าออกมาอย่างเลือนลางอีกด้วย
เมิ่งฮ่าวรู้สึกตกตะลึง แต่ก็ยังคงส่ายหน้าไปมา
“ยังไม่ดีพอ” เขากล่าวขึ้น รู้สึกเบื่อหน่ายกับการต่อสู้นี้แล้ว ดังนั้นจึงต่อยหมัดที่สามออกไปในทันที หมัดสังหารเทพ!
ในทันทีที่หมัดสังหารเทพถูกโจมตีออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มสั่นสะเทือน มังกรดำที่ในตอนนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมถึงสิบสามเท่า ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา ขณะที่ร่างกายมันถูกทำลายไป ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและประหลาดใจ
“พันธมิตรเทพสวรรค์ประเมินผิดพลาดไปแล้ว พลังที่มันใช้ออกมา…ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรโบราณ!!”
“มัน…มันหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว!!”
“ก่อนที่มันจะบาดเจ็บ มันสามารถกวาดล้างเฮยหุนเต้าได้ทั้งสำนัก แม้แต่ปรมาจารย์เฮยหุนเองก็ยังได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส!!”
ขณะที่คนทั้งหมดกำลังตื่นตระหนก เมิ่งฮ่าวก็เดินตรงไปยังหลงเสอหนี่ว์ และยื่นมือขวาออกไป ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ผู้ฝึกตนมากมายมายังที่แห่งนี้เพื่อสังหารเขา ดังนั้นไม่ว่าพวกมันจะเป็นบุรุษหรือสตรี ถ้าไร้คุณสมบัติที่จะมีตั๋วสัญญา เมิ่งฮ่าวก็จะไม่ยอมละเว้นพวกมันไปอย่างง่ายดาย
เขาเข้าไปใกล้หลงเสอหนี่ว์ พร้อมกับรังสีสังหารที่พุ่งขึ้นมา สีหน้านางสลดลง และใช้สองมือขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะคว้าจับไปที่ลำคอนาง นางก็แผดร้องออกมา และทันใดนั้นก็กลายเป็นภาพทับซ้อนไป
เมื่อนางปรากฏขึ้นอีกครั้งในที่ห่างไกลออกไป โลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก
เมิ่งฮ่าวร้องอุทานออกมา ในตอนที่นางทำการเคลื่อนย้ายทางไกล เขารู้สึกได้ถึงความผันผวนของคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์
เมิ่งฮ่าวแวบฝ่าอากาศตรงไปยังนางอีกครั้ง และใบหน้าหลงเสอหนี่ว์ก็ซีดขาวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่นางถอยไปทางด้านหลัง ก็ขยับมือร่ายเวทไปด้วย และจากนั้นก็หลบหนีจากไปด้วยการเคลื่อนย้ายทางไกลอีกครั้ง
เมิ่งฮ่าวรู้สึกสนใจขึ้นมา ชี้นิ้วออกไปในทันที ปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นแปดออกมา หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไม แต่จู่ๆ ร่างนางก็หยุดลง และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความสิ้นหวัง
ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้นาง ทันใดนั้นเอง มือที่แห้งเหี่ยวข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในกลางอากาศ ตะปบลงมายังเมิ่งฮ่าว
“เสมือนเต๋า? ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวรู้ขึ้นในทันทีว่าบุคคลผู้นี้อยู่ในอาณาจักรอะไร โบกสะบัดมือออกไป ทำให้กลิ่นอายของสุดยอดสะพานปะทุขึ้นมา ทันทีที่มือข้างนั้นแตะสัมผัสโดนตัวเขาก็แตกกระจายออกไปอย่างฉับพลัน หญิงชรานางหนึ่งเดินโซเซออกมาจากความว่างเปล่า มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว กระอักโลหิตออกมา พุ่งตรงไปยังหลงเสอหนี่ว์ คว้าจับนางไว้และหลบหนีจากไป
หญิงชรานางนี้คือผู้พิทักษ์เต๋าของหลงเสอหนี่ว์ แต่ตอนนี้นางรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง “เสาจู่ (นายน้อย) รีบหนีไป คนผู้นี้…ไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย!!”
เมื่อเห็นว่าหลงเสอหนี่ว์กำลังหลบหนีไป เมิ่งฮ่าวก็ยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่เย็นชาราวน้ำแข็ง เขาโบกสะบัดมือตรงไปยังหลงเสอหนี่ว์ที่กำลังหลบหนีไปในทันที
“กรรมจงก่อตัวเป็นตั๋วสัญญา นับจากวันนี้ไป…เจ้าเป็นหนี้ข้า!” ทันใดนั้นเส้นใยกรรมก็ปรากฏขึ้นที่ด้านบนหลงเสอหนี่ว์ จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือออกไปคว้าจับเส้นใยที่ส่องประกายเจิดจ้ามากที่สุดไว้ และวางเครื่องหมายผนึกลงไป!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่หลงเสอหนี่ว์กระอักโลหิตออกมา จิตใจนางในตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางมองเห็นกระดาษเรืองแสงแผ่นหนึ่ง กำลังลอยลงไปบนฝ่ามือของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่านางได้ทำสิ่งของบางอย่างที่สำคัญสูญหายไป และยิ่งมีความหวาดกลัวมากขึ้น
ในตอนนี้เองที่เสียงแค่นเย็นชาดังออกไปทั่วทั้งท้องฟ้า และกลุ่มหมอกโลหิตที่พลุ่งพล่านปั่นป่วนก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
“อีกคนแล้ว” เขากล่าวพร้อมกับหัวเราะหึๆ แทนที่จะยืนรออยู่ที่นั่น ทันใดนั้นก็กลายเป็นลำแสงหลากสีพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า แต่ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ก็จะดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามจะหลบหนีจากไป
ขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าและจะเริ่มต่อสู้ นักพรตชราก็ปรากฏตัวขึ้นในกลางอากาศ ฉีกยิ้มออกมาขณะที่ร้องตะโกนขึ้นว่า “ศิษย์ข้า ไม่ต้องหนี!”