Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1274

ตอนที่ 1274

เข้าไปในประตูโบราณ

“ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนลำดับขั้น…เจ้าจะได้รับ…สอง…ชีวิต!”

ตรงด้านนอกประตูอาณาจักรโบราณ หลังจากที่ดรรชนียักษ์หายไป ชิ้นเนื้อที่แหลกเหลวและโลหิตที่สาดกระเซ็นกระจายออกไป ทันใดนั้นก็เริ่มรวมตัวกันขึ้นมาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วอย่างที่ยากจะอธิบายได้

เลือดเนื้อเหล่านั้นรวมเข้าด้วยกันเป็น…เมิ่งฮ่าว!

วิญญาณที่เพิ่งถูกทำลายไป แต่ทันใดนั้นก็สาดประกายแห่งชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาเมิ่งฮ่าวลืมขึ้นมา และลึกลงไปข้างในก็มองเห็นร่องรอยแห่งกาลเวลา

นั่นเป็นเพราะว่าสถานที่ซึ่งร่างกายของเขาระเบิดออก อยู่ที่ด้านนอกประตูอาณาจักรโบราณ เป็นสถานที่ซึ่งเวลาไหลแตกต่างกันออกไป เนื่องจากเช่นนี้จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่การฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ของเมิ่งฮ่าว จะมีร่างกายที่ประกอบไปด้วยแก่นแท้แห่งกาลเวลา!

มันไม่ใช่แก่นแท้ที่แท้จริง แต่เป็นบางสิ่งที่คล้ายกับเมล็ดพันธุ์…เป็นเมล็ดแก่นแท้แห่งกาลเวลา!

จากสมัยโบราณเป็นต้นมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แก่นแท้แห่งความว่างเปล่า และแก่นแท้แห่งกาลเวลา เหมือนกับเป็นแก่นแท้แห่งชีวิตและความตาย ซึ่งยากที่จะครอบครองได้เป็นอย่างยิ่ง โอกาสเดียวเท่านั้นที่จะทำได้ก็คือมีโชควาสนาที่หายากอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้น

แต่ในตอนนี้ด้วยความบังเอิญที่สมบูรณ์แบบทำให้เมิ่งฮ่าวมี…เมล็ดแก่นแท้แห่งกาลเวลาอยู่ภายในร่าง

เมื่อเมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา เขาก็รับรู้ถึงความจริง สองชีวิตผู้ถูกเลือกที่ไห่เมิ่งจื้อจุนมอบให้มา ไม่ได้ทำให้วิญญาณของเขาไม่ถูกทำลายไป แต่กลับ…ถูกประทับไว้ด้วยเครื่องหมายผนึก ทำให้วิญญาณถูกแยกออกเป็นสามส่วน วิญญาณแต่ละส่วนมีการเติบโตขึ้นไปพร้อมกัน ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของเขาก้าวหน้าขึ้นไป เนื่องจากเช่นนั้นทำให้สามารถจะตายไปได้สองครั้งจริงๆ ก่อนที่จะถูกกำจัดไปอย่างแท้จริง!

ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีผลกับวิญญาณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีผลกับเลือดเนื้อด้วยเช่นกัน มันคือกฎธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร เป็นวิชาเวทที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะเข้าใจได้ตั้งแต่ตอนแรก มันคือ…พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่!

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา ประตูอาณาจักรโบราณที่กำลังจางหายไป จู่ๆ ก็แวบประกายขึ้นและก่อตัวเข้าด้วยกันอีกครั้ง กลุ่มเมฆที่กำลังกระจัดกระจายออกไปพลุ่งพล่านปั่นป่วน และเงาร่างที่กำลังล่าถอยออกไปก็ส่งเสียงคำรามด้วยความไม่อยากจะเชื่อออกมา

บุรุษไร้หน้านับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาอย่างบ้าคลั่ง และดรรชนียักษ์ก็ยื่นตรงมายัง

เมิ่งฮ่าวอีกครั้ง พร้อมกับเสียงกู่ร้องอย่างมีโทสะ

อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วเขาจะตายเป็นครั้งที่สองได้อย่างไร? เมื่อฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ใบหน้าเมิ่งฮ่าวก็เย็นชาลง ความรู้สึกถึงความตายที่เพิ่งจะพบเจอมาเป็นสิ่งที่เขาไม่ปรารถนาจะรับรู้อีกครั้ง ขณะที่บุรุษไร้หน้าและดรรชนียักษ์ใกล้เข้ามา รอยยิ้มอันเย็นชาก็บิดขึ้นมาบนริมฝีปากเมิ่งฮ่าว

เขาไม่เพียงแต่จะฟื้นฟูวิญญาณและร่างกายมาเท่านั้น แต่ยังฟื้นฟู…พลังการฝึกตนด้วยเช่นกัน!

เมิ่งฮ่าวยกมือขวาขึ้นไป จากนั้นก็กระแทกลงไปยังประตูอาณาจักรโบราณอย่างรุนแรง การกระแทกครั้งนี้เต็มไปด้วยพลังจากพื้นฐานฝึกตนแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าที่ระเบิดออกไป, พลังจากกายเนื้ออันแข็งแกร่ง, สุดยอดสะพาน

รวมทั้งพลังจากความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด พลังเหล่านั้นรวมเข้าไปในฝ่ามือ ขณะที่เมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปบนประตูอาณาจักรโบราณเป็นครั้งที่สาม

ตูม!

เมื่อมือเมิ่งฮ่าวกระแทกโดนประตู ก็เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และส่วนที่เปิดออกเพียงเล็กน้อยทันใดนั้นก็สั่นสะท้าน ขณะที่ประตู…เริ่มเปิดออกกว้างมากขึ้น!

เมื่อประตูเปิดออก แสงอันเจิดจ้าก็พุ่งออกมา รวมทั้งเสียงกระซิบที่ดูเหมือนว่าจะดังออกมาจากในสมัยโบราณ เสียงนั้นเต็มอยู่ในหูเมิ่งฮ่าวและดังก้องออกไปในรอบๆ บริเวณนั้น

บุรุษไร้หน้าส่งเสียงแผดร้องโหยหวนออกมา ขณะที่แสงนั้นห่อหุ้มพวกมันไว้ ทำให้พวกมันไม่อาจจะเข้าไปใกล้แม้แต่น้อย พวกมันจ้องมองไปยังประตูอาณาจักรโบราณ ขณะที่เริ่มเปิดออกไปอย่างต่อเนื่อง และร่างพวกมันก็หลอมละลายไปอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน!

เวลาเดียวกันนั้น ดรรชนีที่มีพลังแห่งการทำลายล้างและเสียงกู่ร้องอย่างไร้ขอบเขต ที่พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างต่อเนื่อง กำลังฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ และหลอมละลายไปด้วยแสงนั้นขณะที่พุ่งตรงมา แต่ก่อนที่ดรรชนีนั้นจะทันได้สัมผัสโดนตัว

เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงเย็นชา และก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไป

เดินไปแค่ก้าวเดียวเท่านั้น!

แต่ก็เหมือนกับเป็นความแตกต่างระหว่างสวรรค์และปฐพี ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปอยู่ด้านในประตูอาณาจักรโบราณ ดรรชนีนั้นก็หยุดชะงักนิ่ง ลอยตัวอยู่ที่นั่นตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ห่างจากใบหน้าเขาแค่หนึ่งชุ่นเท่านั้น

แต่หนึ่งชุ่นนั้นคล้ายกับเป็นช่องว่างระหว่างฟ้าดิน เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะผ่านไปได้โดยสิ้นเชิง

“ความแค้นของการสังหารในครั้งนี้ เมิ่งโหม่วจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน ตอนนี้ข้าไม่ใช่คู่มือเจ้า แต่สักวันหนึ่ง ข้าจะลากเจ้าออกมาจากกลุ่มเมฆเหล่านั้น ทำให้เจ้ารู้ว่าเมิ่งโหม่วต้องตายไปด้วยความเจ็บปวดมากแค่ไหน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงแผ่วเบา ถึงแม้ว่าจะเป็นเสียงที่ราบเรียบ แต่ภายในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเย็นชาและมุ่งมั่น

“ประตูอาณาจักรโบราณ เปิดออก!” เมิ่งฮ่าวกล่าว โบกสะบัดชายแขนเสื้อ แสงอันไร้ขอบเขตเริ่มกระจายออกมาจากประตูอาณาจักรโบราณ ลำแสงนั้นคล้ายกับเป็นกระบี่อันแหลมคม หมุนวนไปรอบๆ ทำให้กลุ่มเมฆกระจัดกระจายออกไป บุรุษไร้หน้าที่สามารถจะหลบเข้าไปในกลุ่มเมฆ ก็หายตัวไปในทันที แต่ใครที่หลบหนีไม่ทัน กระบี่แสงก็จะแทงเข้าไปในร่าง ทำให้เกิดเป็นเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา ราวกับว่าพวกมันกำลังตายไปทั้งร่างกายและวิญญาณ เพียงชั่วขณะพวกมันก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป

ดรรชนียักษ์สั่นสะท้าน และเสียงแผดร้องต่อต้านก็ดังก้องออกมาจากภายในกลุ่มเมฆ ดรรชนีล่าถอยหายเข้าไปในกลุ่มเมฆ เวลาเดียวกันนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายเย็นชา ขณะที่…เดินออกมาจากประตู

ถ้ามีบุคคลอื่นอยู่ในที่แห่งนี้ และมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ พวกมันคงจะตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เมื่อพบว่าการกระทำของเมิ่งฮ่าวช่างอุกอาจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น รับรองได้ว่าพวกมันจะต้องเดินเข้าไปในประตูมากขึ้น เพื่อให้ผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณโดยสมบูรณ์

แต่ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวแทบจะไม่สนใจต่อประตูที่เปิดกว้างออกมานี้ แม้แต่เจ้าของดรรชนียักษ์นั้นก็ยังไม่อาจจะคาดคิดได้ว่าจะมาพบกับบุคคลเช่นนี้ ในช่วงของการเอาชนะทัณฑ์โบราณ

เมิ่งฮ่าวคือบุคคลที่มีบุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ เขาจะไม่ไปหาเรื่องใครก่อน แต่ถ้ามีใครมาหาเรื่องตนเอง เขาก็จะไม่ปล่อยมันไปอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบุคคลผู้นี้สังหารเขาไปหนึ่งชีวิต เท่าที่เมิ่งฮ่าวคิด เมื่อความเป็นศัตรูเกิดขึ้นมาแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวก้าวเดินออกมาจากประตู กระจกทองแดงก็ปรากฏขึ้น กลายเป็นอาวุธสงครามด้วยความรวดเร็วอย่างน่าตกใจ นี่คืออาวุธที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเมิ่งฮ่าว ในท่ามกลางอาวุธเวททั้งหมดของเขา พื้นฐานฝึกตนเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าพุ่งเข้าไประเบิดเป็นพลังออกมา กล้ามเนื้อทุกมัดโลหิตทุกหยดในกายเนื้อของเขา กระจายเป็นความแข็งแกร่งอย่างน่ากลัวออกมา

ภายในร่างเมิ่งฮ่าว สุดยอดสะพานเชื่อมต่อเขาเข้ากับฟ้าดิน และตรงด้านนอกภาพของสะพานก็ปรากฏขึ้น ทำให้ทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวมืดสลัวลงและสั่นสะท้านไปมา เต็มไปด้วยเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ เมิ่งฮ่าวเริ่มก้าวเดินไปด้วยจังหวะแปลกๆ ขณะที่เดินผ่านกาลเวลา มุ่งหน้าตรงไปยังดรรชนีที่กำลังล่าถอยกลับไป จากนั้นก็ตวัดใบมีดออกไป!

ตูมมมมมมม!

เมิ่งฮ่าวดูคล้ายกับเป็นนักรบเซียนพร้อมกับพลังที่พุ่งขึ้นมา ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน เพราะว่ากลุ่มเมฆกำลังกระจัดกระจายออกไป ทำให้รูปร่างหน้าตาของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้เผยให้เห็นบนจอภาพที่ด้านล่างในทันที ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหมดของตระกูลเมิ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน จิตใจพวกมันหมุนคว้างขณะที่มองเห็นทั้งเมิ่งฮ่าว และประตูอาณาจักรโบราณที่เปล่งประกายอยู่ตรงด้านหลัง!

สำหรับผู้ฝึกตนที่บุกรุกเข้ามาจากสำนักอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งอยู่ที่ด้านนอกเกราะป้องกัน พวกมันก็มองเห็นด้วยเช่นกัน และดวงตาต่างก็เบิกกว้างไปตามๆ กัน

จากมุมมองของพวกมัน ภาพเงาของเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นสายฟ้าที่พุ่งออกมาจากประตู ทำให้ดูคล้ายกับเป็นผ้าคลุม เมื่อเขายกอาวุธสงครามขึ้น คนทั้งหมดก็สามารถจะมองเห็นได้ ขณะที่มันกรีดลงไปยังดรรชนียักษ์นั้นอย่างดุร้าย!

เกิดเป็นลำแสงขนาดใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ขณะที่พลังอันแข็งแกร่งอย่างที่ยากจะอธิบายระเบิดออกไป ต่อมา ดรรชนีนั้น…ถึงแม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงล่าถอยกลับไป ก็ยังคงถูกกรีดเฉือนด้วยลำแสงนั้น!

“ตัด!” เมิ่งฮ่าวร้องตวาดขึ้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่ว ขณะที่ปลายนิ้วนั้นถูกตัดขาดออกไปโดยสิ้นเชิง!

ปลายนิ้วที่ถูกตัดออกไปนั้นมีความยาวประมาณหนึ่งจ้างเท่านั้น เมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือของดรรชนียักษ์ ถือว่าเล็กน้อยเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทั้งหมด เมื่อถูกตัดออกไป โลหิตสีน้ำเงินก็ไหลออกมา ได้ยินเสียงแผดร้องอย่างเจ็บปวดดังก้องออกมาจากภายในกลุ่มเมฆที่กำลังจางหายไป เสียงแผดร้องนั้นเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและความเจ็บปวดรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง สำหรับผู้ที่อยู่ภายในกลุ่มเมฆ ซึ่งคงอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน นี่เป็นครั้งแรก..ที่มันถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ!!

เป็นเวลานานมากแล้วที่มันคงอยู่ในกลุ่มเมฆ และปลดปล่อยทัณฑ์อันน่ากลัวออกมายังเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า ที่พยายามจะผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณ แต่วันนี้ในที่สุดมันก็ได้รับบาดเจ็บ!

“เจ้าต้องตาย! ข้าขอสาปแช่งเจ้า…เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลาที่เจ้าต้องดับตะเกียงอาณาจักรโบราณ ข้าจะกลับมาอีกครั้ง!!” เสียงเก่าแก่โบราณแผดร้องคำราม จากนั้นดรรชนีและกลุ่มเมฆก็หายไปโดยสิ้นเชิง

มีเพียงประตูอาณาจักรโบราณเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เปล่งแสงอันเจิดจ้าออกไปในทั่วทุกทิศทาง ทันใดนั้นการต่อสู้ที่ด้านล่างก็หยุดลง ขณะที่คนทั้งหมดมองขึ้นไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความตกใจ

ใบหน้าเขาซีดขาวขณะที่เก็บอาวุธสงครามไว้ การกระทำของเขาเมื่อครู่นี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง แต่นั่นก็คือสิ่งที่เมิ่งฮ่าวเป็น ถ้าไม่ยอมฉวยโอกาสจากสถานการณ์เช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการสูญเสีย ถ้าไม่ฉวยโอกาสโจมตีกลับไป เขาก็คงจะไม่ใช่เมิ่งฮ่าว

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็มองไปยังชิ้นนิ้วขนาดหนึ่งจ้าง และดวงตาก็สาดประกายขึ้น ทันใดนั้นเวทแห่งเต๋าคำสาปแช่งต่างๆ ก็ลอยขึ้นมาในจิตใจ เขาทำท่าคว้าจับ และชิ้นนิ้วก็ลอยเข้าไปในถุงสมบัติ

ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็หันหน้าไปยังประตูอาณาจักรโบราณ และเริ่มก้าวเดินตรงไป เมื่อผ่านเข้าไปในประตูโดยสมบูรณ์ มันก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง และแสงจำนวนมากก็พุ่งออกมา เสียงเก่าแก่โบราณดังก้องอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่เมิ่งฮ่าวจมอยู่ในแสงอันเจิดจ้าเหล่านั้น พื้นฐานฝึกตนของเขาก็ฟื้นกลับคืนมา และจากนั้นเสียงกระหึ่มก็ดังก้องขึ้นขณะที่มัน…เริ่มพุ่งขึ้นไป

นี่คือการพุ่งขึ้นมาจากอาณาจักรเซียน เพื่อเข้าไปสู่อาณาจักรโบราณ!

เมิ่งฮ่าวหลับตาลง รู้สึกได้ว่าความเก่าแก่โบราณกำลังพุ่งกระจายอยู่ภายในร่าง และกลิ่นอายนั้นก็กระจายเป็นความผันผวนที่โดดเด่นของอาณาจักรโบราณออกมา

ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบกริบ ทั้งในตระกูลเมิ่งและท่ามกลางสำนักที่บุกรุกเข้ามา แม้แต่กลุ่มฝูงชนที่กำลังรอคอยอยู่บนใบหลิวยักษ์ต่างก็เฝ้ามองไปยังเมิ่งฮ่าว

พวกมันมองเห็นด้วยสองตาของตนเองถึงทัณฑ์โบราณอันน่ากลัวนี้ และในส่วนลึกของคนทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่าไม่สามารถจะเอาชนะมันได้ แต่บุรุษที่กำลังยืนอยู่ที่นั่นตรงหน้าพวกมันสามารถ!

เด็กชายยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ มันคือจักรพรรดิเต๋าห้าแก่นแท้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะทัณฑ์เช่นนั้นได้

“เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า…จากนั้นมันก็จะเริ่มเข้าไปในอาณาจักรเต๋าได้อย่างแท้จริง มันจะดูดซับแสงแห่งประตูอาณาจักรโบราณ และก่อตัวเป็น…ตะเกียงวิญญาณของมัน!” เด็กชายพึมพำ ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน

“ไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะมีตะเกียงวิญญาณมากน้อยเท่าใดผู้ที่มีมากที่สุดคือตี้จ้างต้าจุนแห่งขุนเขาทะเลที่สี่ ซึ่งมีทั้งหมดยี่สิบเก้าดวง! ยิ่งมีตะเกียงวิญญาณมากเท่าใด ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อความเป็นตายมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

“พวกเราที่เป็นผู้ฝึกตน ถ้าหวาดกลัวต่อความตาย ก็ไม่จำเป็นต้องฝึกตนแล้ว ด้วยนิสัยของคนผู้นี้ มันจะต้องเปิดตะเกียงวิญญาณด้วยจำนวนสูงสุดอย่างแน่นอน…” ดวงตาของเด็กชายสาดประกายขึ้น ขณะที่ยกมือขึ้นและชี้ตรงไปยังตระกูลเมิ่ง

“ส่งคำสั่งลงไป กำจัดตระกูลเมิ่งให้หมดสิ้น เพื่อรบกวนความคิดของคนผู้นี้ ถ้าจิตใจมันปั่นป่วนเมื่อจุดตะเกียงวิญญาณ มันก็จะไม่มีทางบรรลุถึงจุดสูงสุด ด้วยวิธีนี้จะทำให้เส้นทางในอนาคตของมันถูกตัดไป เมื่อมันเปิดตะเกียงได้น้อยลง ก็จะมีผลต่อการก้าวเข้าไปในเต๋าของมันในวันข้างหน้า!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!