Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1295

ตอนที่ 1295

ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดมาถึง

เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงด้านนอกของรอยแตกขนาดใหญ่ กำลังรอคอยให้ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดมาถึง สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จะเป็นการทดสอบพลังการต่อสู้ของตนเองอย่างแท้จริง

บุคคลที่เขาต้องการจะต่อสู้ด้วย เป็นหนึ่งในราชันแห่งเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ เป็นคนที่ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนมองว่าเป็นผู้ที่น่ากลัว มันคือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด ในท่ามกลางราชันขุนเขาทะเล แต่ก็ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว นี่จะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญมากที่สุด เมื่อคิดว่ามันจะเป็นตัวแปรที่ช่วยให้ไว่กงฟื้นตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล และจะเป็นกุญแจที่ทำให้สงครามขุนเขาทะเลสิ้นสุดลงด้วยเช่นกัน ถ้าเขาสามารถเอาชนะราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดได้ในการต่อสู้ สงครามกับขุนเขาทะเลที่แปดก็จะจบลงไป

เมิ่งฮ่าวไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้โดยสิ้นเชิง พลังการต่อสู้ของเขาในตอนนี้เทียบเท่ากับระดับห้าแก่นแท้ และถึงแม้ว่าสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะสูงมากไปกว่านั้น แต่…เขากำลังจะเผชิญหน้ากับราชันขุนเขาทะเล!

ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะอยู่ในระดับห้าแก่นแท้ด้วยเช่นกัน แต่ในแง่ของประสบการณ์และพื้นฐานฝึกตนแล้ว ใครก็ตามที่มีศักดิ์ฐานะเป็นราชันขุนเขาทะเล ก็ต้องมีมากกว่าเมิ่งฮ่าวอย่างแน่นอน ภายในอาณาจักรของมัน…มันคือผู้ไร้พ่ายเมื่อต้องต่อสู้กับใครบางคนที่ไม่ใช่ราชันขุนเขาทะเล!

ยิ่งไปกว่านั้น แก่นแท้ทั้งห้าของมันก็ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เป็นแก่นแท้ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกต้องตกอยู่ในความมืดเมื่อถูกปลดปล่อยออกมา

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะดับตะเกียงวิญญาณดวงแรกไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้ นอกจากนี้…ราชันแห่งเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ ก็เป็นบุคคลที่สูงส่งเป็นอย่างยิ่งในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งปวง

การที่จะกลายมาเป็นราชันขุนเขาทะเล คนผู้นั้นต้องผ่านการสังหาร และเอาชนะศัตรูมาแล้วจนนับไม่ถ้วน เป็นการดิ้นรนต่อสู้เพื่อรักษาตำแหน่งของการเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน

“แต่ข้าก็ยังต้องการจะพบกับผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังเช่นนี้…และต่อสู้กับมัน!” แววตาเมิ่งฮ่าวลุกโชนขึ้นด้วยความต้องการจะต่อสู้ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมความต้องการต่อสู้ไว้อย่างช้าๆ จากนั้นก็หลับตาลงและทำจิตใจให้เยือกเย็น

ถึงเวลาที่ต้องเพ่งสมาธิไปที่พลังของตนเองแล้ว!

การเพ่งสมาธิไปเช่นนั้น ทำให้ไม่มีระลอกคลื่นแห่งพลังกระจายออกมาจากร่างแม้แต่น้อย

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในวันแรก เริ่มมีเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากภายในรอยแตก ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งหมดต้องบิดเบี้ยวไปมาในช่วงสั้นๆ

วันที่สอง เสียงกระหึ่มกลายเป็นเสียงระเบิดที่แตกต่างกันห้าครั้ง วันที่สาม เสียงระเบิดเหล่านั้นดังก้องออกมามากกว่าสิบครั้ง เมิ่งฮ่าวเริ่มเยือกเย็นลงมากขึ้น จนกระทั่งเสียงเต้นหัวใจของตนเองก็ยังได้หายไปจากความรู้สึก ราวกับว่าความแข็งแกร่งถูกสร้างขึ้นมาจากความแข็งแกร่ง และเสียงระเบิดเหล่านั้นก็เหมือนกับเป็นสายลมอันอ่อนโยนที่โชยพัดมาบนยอดเขา

วันที่เจ็ด เสียงระเบิดดังก้องออกมาอย่างไม่รู้จบ รอยแตกที่อยู่ด้านนอกท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวบิดเบี้ยวไปมาโดยสิ้นเชิง ยกเว้นส่วนที่เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

ชายชราผมแดงและผู้ติดตามของมัน ยังคงอยู่ในอาณาเขตรอบๆ รอยแตก ไม่ได้จากไป พวกมันอยู่ห่างออกไปหลายพันจ้าง นั่งลงขัดสมาธิ เฝ้าจับตาดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อวันที่เจ็ดผ่านไป ความมุ่งหวังในจิตใจพวกมันก็พุ่งขึ้นมา เริ่มสูดหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง หลังจากที่ได้เห็นระดับพลังอันน่ากลัวของเมิ่งฮ่าวด้วยสองตาของตนเอง พวกมันก็ตัดสินใจว่าจะเฝ้ารอดูการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วเมิ่งฮ่าวจะชนะหรือพ่ายแพ้ ในโลกแห่งการฝึกตนนี้ กฎแห่งป่าก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์เสมอ ดังนั้นใครก็ตามที่กล้ามาท้าทายต่อสู้กับราชันขุนเขาทะเล ก็เป็นบุคคลที่จะได้รับความเคารพอย่างลึกล้ำ

ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นศัตรู แต่ก็ไม่อาจจะสะกดข่มความเคารพและความหวาดกลัว ที่เกิดขึ้นจากการพบเห็นใครบางคนที่มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงได้

ที่ห่างไกลออกไปคือกลุ่มผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดนับแสนคน พวกมันไปตั้งค่ายพักแรมกันอยู่ที่นั่น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกวิตกกังวล แต่ก็ไม่ยอมจะจากไปด้วยเช่นกัน

พวกมันทั้งหมดกำลังเฝ้ารอคอย รอคอยให้…ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดโผล่ออกมาจากรอยแตกนั้น!

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งโดยสิ้นเชิง แทบจะดูเหมือนว่าไม่ได้หายใจ เพ่งสมาธิไปที่พลังภายในร่าง จนไม่หลุดรอดออกมาแม้แต่น้อย แทบจะราวกับว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เยือกเย็นจนแทบไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงการคงอยู่ของเขา

เสียงระเบิดที่คล้ายฟ้าร้องคำราม จนทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะเทือน ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย เขาเยือกเย็นจนคล้ายกับเป็นภาพวาดของทะเลที่เงียบสงบไร้คลื่นลมใดๆ เขากำลังรอคอย…รอให้พายุฝนเข้ามาใกล้ คล้ายกับเป็นภูเขาไฟที่เตรียมตัวจะปะทุขึ้นมา

แรงกดดันขนาดใหญ่ค่อยๆ เต็มอยู่ในอาณาเขตรอบๆ รอยแตก เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีความถี่เพิ่มมากขึ้น และในที่สุดก็เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ทั้งสองกำลังสอดประสานท่วงทำนองที่แตกต่างซึ่งกันและกันอยู่

หนึ่งเคลื่อนไหว หนึ่งสงบนิ่ง!

การเคลื่อนไหวเช่นนี้สามารถทำให้สวรรค์ชั้นสูงสุดต้องแตกกระจายไป ความเยือกเย็นเช่นนี้คือความสงบนิ่งของโลกในซากปรักหักพัง!

ผ่านไปอีกหนึ่งวัน และเสียงที่ดังออกมาจากรอยแตกก็เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยังคงสงบนิ่งและเยือกเย็น จนไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายใดๆ ของเขา…

ในตอนนี้เอง ท่ามกลางเสียงกระหึ่มดังก้องนั้น เงาร่างที่สูงใหญ่สง่างามก็ปรากฏขึ้น…จากภายในรอยแตก

เป็นบุรุษวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดยาวสีขาว เส้นผมลอยพลิ้วไปมา และดูน่าเกรงขามโดยที่ไม่ต้องทำหน้าบึ้งตึง เสื้อผ้าของมันดูเหมือนว่าจะเรียบง่าย แต่ใครก็ตามที่มองไปก็สามารถจะบอกได้ว่ามันต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงสุด และเคยชินกับการออกคำสั่ง

มันเดินมาราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ แต่ทุกย่างก้าวก็ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นอย่างไม่รู้จบ ราวกับว่าพื้นฐานฝึกตนของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่เดินไป มันสามารถจะทำลายสิ่งกีดขวางไปได้ทั้งหมด แค่เหยียบย่างเท้าลงไป ก็ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มอย่างน่าเหลือเชื่อตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา

แทบจะในทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้นภายในรอยแตกขนาดใหญ่นั้น แรงกดดันอันเข้มข้นก็กระจายออกไป ม้วนกวาดไปยังทุกสรรพสิ่ง รอยแตกสั่นสะท้าน และเปิดออกกว้างมากขึ้น

ระลอกคลื่นทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องถูกฉีกกระชากออกไปชั้นแล้วชั้นเล่า ที่ห่างออกไปหลายพันจ้าง ชายชราผมแดงและผู้ติดตามต่างก็ถอยไปทางด้านหลังกันทั้งหมด สีหน้าเปลี่ยนไปขณะที่ประสานมือและโค้งตัวลง

“ขอต้อนรับการมาถึงของไป๋จู่ (ราชันขาว) ด้วยความนับถือ!”

ที่ห่างไกลออกไปมากกว่านั้น ผู้ฝึกตนนับแสนกำลังตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง พวกมันก็ประสานมือและโค้งตัวลงยังทิศทางของรอยแตกเช่นเดียวกัน

“ขอต้อนรับการมาถึงของไป๋จู่ด้วยความนับถือ!”

ขุนเขาที่เก้ามีจี้จู่ (ราชันจี้) ขุนเขาที่แปดมีเทียนเสิน ขุนเขาที่เจ็ดมีไป๋จู่ ซือหม่าเต้า!

เมื่อเสียงของผู้ฝึกตนทั้งหมดดังขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน ก็สร้างเป็นคลื่นเสียงที่ทรงพลังจนทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน เมื่อรวมเข้ากับแรงกดดันที่กระจายออกมาจากบุรุษชุดขาว ก็ทำให้ขุนเขาทะเลที่แปดต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว

แน่นอนว่าเมิ่งฮ่าวคือเป้าหมายหลัก แต่ขณะที่แรงกดดันนั้นบดขยี้ลงมาบนร่าง ดวงตาเขาก็ยังคงหลับอยู่ ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใดๆ

ถ้าพลังอันไร้ขอบเขตนั้น เปรียบเสมือนเป็นระลอกคลื่นที่บดขยี้ลงมาของทะเลที่เกรี้ยวกราด เมิ่งฮ่าวก็คือโขดหินที่อยู่ในทะเล ยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติงไม่ว่าทะเลจะแผดร้องคำรามออกมาอย่างไรก็ตาม

ถ้าแรงกดดันที่ออกมาจากราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด เปรียบเสมือนเป็นลมพายุอันคลุ้มคลั่ง เมิ่งฮ่าวก็คือภูเขาที่เงียบสงบไม่เคลื่อนไหวภายใต้ลมพายุนั้น!

เวลาเดียวกันนั้น ในวิหารที่อยู่บนขุนเขาที่แปด ราชันหน้ากากแห่งขุนเขาทะเลที่แปดจู่ๆ ก็สั่นสะท้านขึ้นมา ราวกับว่ามีแรงกระตุ้นกระแทกลงไปบนร่างอย่างฉับพลัน ราวกับว่าสติสัมปชัญญะในตอนนี้เริ่มที่จะกลับคืนมา และกำลังพยายามจะ…ตื่นขึ้นมา

ขุนเขาทะเลที่แปดสั่นสะเทือนไปทั่ว ยกเว้นเมิ่งฮ่าว กลิ่นอาย, วิญญาณ, ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเขา ต่างก็เพ่งนิ่งอยู่ภายในโดยสิ้นเชิง เยือกเย็นราวกับเป็นน้ำนิ่ง และยังคงคล้ายกับเป็นภาพวาดของทะเลที่ไร้คลื่นลมใดๆ

ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดยังคงอยู่ภายในรอยแตก และคนทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการแสดงออกถึงการปะทะกันในการต่อสู้กันครั้งแรก

เสียงแค่นเย็นชาดังก้องออกมาจากรอยแตก ขณะที่ไป๋จู่ยกเท้าขวาขึ้น และก้าวออกมาจากรอยแตกในทันที

แรงกดดันอันเข้มข้น กำลังกดทับลงไปบนขุนเขาทะเลที่แปด ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวบิดเบี้ยวไปมา และดาวเคราะห์จำนวนมากสั่นสะท้าน ย้อนกลับไปยังขุนเขาที่แปด ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปดสั่นสะท้านมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

จากนั้นเสียงอันเยือกเย็นก็ดังก้องออกมาจากภายในรอยแตก กระจายออกไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปด

“เจ้าเป็นคนแรกที่กล้ามาขวางทางเปิ่นจุน…” (คำเรียกตัวเองของผู้ที่ถูกเทิดทูนบูชา)

ในตอนนั้นเองที่เท้าของมันได้เหยียบย่างออกมาจากรอยแตกอย่างสมบูรณ์ ทำให้ร่างของไป๋จู่โผล่เข้าไปในขุนเขาทะเลที่แปดครึ่งตัว

ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ครึ่งตัวเท่านั้นที่ผ่านออกมาจากรอยแตก แต่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง จนดูเหมือนว่าแทบจะพังทลายลงไป อันเนื่องมาจากพลังแห่งขุนเขาทะเลที่กำลังกระจายออกมาจากร่างไป๋จู่

ขณะที่ท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน ผู้ฝึกตนแห่งพันธมิตรเทพสวรรค์ทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบของขุนเขาทะเลที่แปด ต่างก็มีโลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก สีหน้าเปลี่ยนไป

ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในที่แห่งใด ก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่กำลังกระจายออกมาจากด้านบน ราวกับเป็นภูเขาที่กำลังบดขยี้ลงมา ทำให้ยากที่จะโคจรหมุนเวียนพลังการฝึกตนได้

ตรงกันข้ามกับผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ใบหน้าพวกมันเปล่งประกายขึ้น และสามารถจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่ใช่แรงกดดัน แต่เป็นพลังที่กระจายลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านบน และหลอมรวมเข้าไปในร่าง ทำให้พลังการต่อสู้ของพวกมันเพิ่มขึ้นในทันที

“ไป๋จู่มาแล้ว! ขอต้อนรับการมาถึงของไป๋จู่ด้วยความนับถือ!!”

“ขอต้อนรับการมาถึงของไป๋จู่ด้วยความนับถือ!!”

“ขุนเขาทะเลที่เจ็ดต้องชนะในสงครามนี้อย่างแน่นอน ไป๋จู่มาแล้ว!!” ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดกำลังร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ทำให้เสียงของพวกมันดังก้องออกไปทั่วทั้งสนามรบในพันธมิตรเทพสวรรค์

เมื่อเทียบกันแล้ว ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่แปดรู้สึกว่าพลังของพวกมันกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกมันกำลังเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ซึ่งมีพลังที่พุ่งทะยานขึ้นไป ทำให้ใบหน้าต้องซีดขาว และเริ่มถอยไปทางด้านหลังโดยไม่รู้สึกตัวในทันที ฉับพลันนั้นผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่แปดก็แทบจะพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง

“และจะเป็นคนสุดท้ายด้วยเช่นกัน” ราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดกล่าวต่อไป ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว ขณะที่มัน…ก้าวออกมาจากภายในรอยแตกอย่างเต็มตัว!

“ไป๋จู่!” ที่ห่างไกลออกไปหลายพันจ้าง ชายชราผมแดงและผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าคนอื่นๆ ต่างก็ประสานมือและโค้งตัวลง ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ไป๋จู่!” ผู้ฝึกตนนับแสนที่อยู่ห่างออกไปแผดร้องตะโกนขึ้น

“ไป๋จู่!” ผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดร้องตะโกนขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกัน

ตูม!

ถึงแม้ว่าผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่แปดจะมองไม่เห็นการมาถึงของราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด แต่จิตใจพวกมันกำลังสั่นสะท้านอยู่ในตอนนี้

ตูม!

บนยอดเขาที่แปด ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปดซึ่งอยู่ในห้องโถงของวิหารในตอนนี้กำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าดวงตาที่อยู่ภายใต้หน้ากากกำลังจะลืมขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

ตูม!

เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมาในทันที และทันใดนั้นภาพวาดของทะเลที่สงบนิ่งก็กลายเป็นภูเขาไฟที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ความต้องการต่อสู้ที่ซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจระเบิดออกมา ทำให้เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไปในท้องฟ้า และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังกึกก้องขึ้น ระลอกคลื่นชั้นแล้วชั้นเล่าพุ่งกระจายออกไปจนเต็มไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปดในทันที!

เจตจำนงของเมิ่งฮ่าว พลังของเขา และทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างก็หลอมรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นแรงกดดันอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ บดขยี้ตรงไปยังราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดในทันที!

ตูมมมมมมม!

“ราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ด เมิ่งโหม่วรอเจ้ามานานแล้ว!”

ดวงตาของราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ดเบิกกว้างขึ้น แรงกดดันของภูเขาไฟที่ปะทุออกมาจากเมิ่งฮ่าวซึ่งก่อนหน้านี้สงบเยือกเย็นไปโดยสิ้นเชิง

ทำให้พลังของไป๋จู่ต้องสะดุดไปเล็กน้อย ราวกับว่าจู่ๆ มันก็พบกับคู่ต่อสู้ของตนเอง เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังขึ้นมาระหว่างกลางคนทั้งสอง และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ดูเหมือนว่าแทบจะเริ่มฉีกขาดออกไป

ทันใดนั้นผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่แปด ซึ่งเริ่มถอยไปทางด้านหลังเมื่อครู่นี้ ต่างก็ผ่อนคลายมากขึ้น และเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!