Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1300

ตอนที่ 1300

ภาพของเต้าฟางปรากฏขึ้น

ตูม! โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว

ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของไป๋จู่รวมเข้าด้วยกัน และกระแทกลงมาบนร่าง เขาไร้ทางเลือกนอกจากต้องถอยไปทางด้านหลัง อาการบาดเจ็บเลวร้ายลง ในตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าพลังที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่ของอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ ไม่อาจจะรักษาอาการบาดเจ็บได้ทัน

สำหรับไป๋จู่ มันมีเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ ซึ่งสามารถจะช่วยเหลือได้อย่างแท้จริง ความจริงแล้วด้วยความน่ากลัวของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้ไป๋จู่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก แต่มันก็ยังไม่ถูกต้อนให้จนมุม

รังสีสังหารสาดประกายขึ้นมาในแววตาไป๋จู่ แต่ก็แอบตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆ ข้างใน จิตใจกำลังเต้นรัวหลังจากที่ได้เห็นสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันสามารถจะปะติดปะต่อชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน และรู้ว่าจริงๆ แล้ว…เมิ่งฮ่าวคือใคร

“ราชันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล! เป็นราชันเพียงหนึ่งเดียวแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล…ถ้าข้าสามารถสังหารมันได้ ก็จะทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ต้องถือว่าเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ข้าก็จะได้ค่าตอบแทนอย่างน่าเหลือเชื่อ!” รังสีสังหารในแววตามันเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น ในทันทีที่การโจมตีของมันทำให้เมิ่งฮ่างพุ่งห่างออกไป ก็ยกมือขึ้นมาในทันที

“คัมภีร์ขุนเขาทะเล!” มันร้องตวาดขึ้น ทันใดนั้นภาพคัมภีร์ขุนเขาทะเลโบราณก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง กระจายแสงอันลี้ลับออกมา ไป๋จู่กำหมัดแน่นในทันที และจากนั้นก็เปิดคัมภีร์นั้นออกมา

“ขุนเขาประกอบด้วยสามเต๋า เต๋าแรก ขุนเขามนุษย์!” ไป๋จู่ขยับสองมือร่ายเวท ทำให้กลิ่นอายแห่งคัมภีร์ขุนเขาทะเลกระจายออกมาจากร่างมัน

เมื่อคำว่า ‘ขุนเขา’ และ ‘มนุษย์’ ดังก้องขึ้น ความรวดเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่ยากจะอธิบาย และพุ่งตรงไปปรากฏตัวอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็ยกสองมือขึ้นและผลักออกไปข้างหน้า

ท่าทางเช่นนั้นทำให้ร่างมันกลายเป็นภูเขาไป พื้นฐานฝึกตนปะทุขึ้น และพลังที่ทำลายล้างสวรรค์บดขยี้ปฐพีก็กระแทกลงไปยังร่างเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะหลบเลี่ยง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก หน้าอกยุบลงไป ในขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง ดวงตาไป๋จู่ก็สาดประกายเป็นสีแดงก่ำขึ้นมา ร้องตวาดว่า

“เต๋าที่สอง ขุนเขาปฐพี!” ด้วยเช่นนั้น มันก็หายตัวไปอีกครั้ง ปรากฏร่างขึ้นที่ด้านล่างเมิ่งฮ่าว กลายเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างฉับพลัน!

ความรวดเร็วของมันทำให้เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้อีกครั้ง ภูเขากระแทกลงไปบนร่าง ทำให้กระดูกแตกหักและพ่นโลหิตออกมาจากปาก พลังชีวิตอ่อนแอลงไป ถึงแม้ว่าต้องการจะหลบเลี่ยงหรือปกป้องตัวเอง แต่ก็ไม่อาจจะทำได้

“เต๋าที่สาม ขุนเขาสวรรค์!” ในทันทีที่เสียงของมันดังก้องขึ้น ก็ไปปรากฏกายขึ้นที่ด้านบนเมิ่งฮ่าว ขณะที่ภูเขายิ่งมีขนาดใหญ่และน่าตกใจมากกว่าสองลูกก่อนหน้านี้!

จากนั้นมันก็บดขยี้ลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว!

ตูมมมมมมม!

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว พื้นฐานฝึกตนถูกบดขยี้ไป และกายเนื้อก็แทบจะแยกออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่ขุนเขาสวรรค์จางหายไป เมิ่งฮ่าวก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลังราวกับเป็นว่าวที่ถูกตัดสายป่าน

ดวงตาไป๋จู่เบิกกว้างขึ้น “ยังไม่ตายอีก!?!?”

เต๋าสามขุนเขาคือเวทขั้นสูงสุดของคัมภีร์ขุนเขาทะเล มันแทบไม่ค่อยจะได้ใช้ออกมา แต่เมื่อใช้แล้วก็มักจะทำให้คู่ต่อสู้ต้องตายไปทุกครั้ง

เห็นได้ชัดว่า ถึงแม้เมิ่งฮ่าวจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ก็ไม่ตายไป ทำให้ไป๋จู่ต้องขมวดคิ้ว และรังสีสังหารของมันก็พุ่งขึ้นไป

แต่ไป๋จู่ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก โลหิตกำลังไหลซึมออกมาจากมุมปากมันในตอนนี้ สามเต๋าและสามเวทแห่งขุนเขาทะเล เป็นเรื่องยากสำหรับมันที่จะควบคุมได้อย่างแท้จริง “ทะเลก็มีเวททั้งสามด้วยเช่นกัน…”

เมิ่งฮ่าวกำลังดิ้นรนลุกขึ้นมายืนด้วยความระมัดระวังตัว และกลืนกินเม็ดยาลงไปอย่างรวดเร็ว อาณาจักรความเป็นนิรันดร์แทบจะหมดไป และอาการบาดเจ็บก็ทำให้อวัยวะภายในแหลกละเอียดไปทั้งหมด อันที่จริงกระดูกก็แทบจะพังทลายเป็นชิ้นๆ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ได้ด้วยพลังแห่งเจตจำนงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือพื้นฐานฝึกตน การโจมตีของไป๋จู่ก็สร้างความเสียหายให้กับเขาได้อย่างแท้จริง

สามขุนเขาเหล่านั้นทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง เขาไม่เคยเห็นเวทแห่งเต๋าที่น่าตกใจเช่นนี้มาก่อน และถึงแม้จะดูเหมือนว่าพวกมันค่อนข้างจะธรรมดา แต่พลังการโจมตีอันน่ากลัวนั้นก็เกินกว่าที่จะเชื่อถือได้

“นั่นคือคัมภีร์ขุนเขาทะเล…?” เมิ่งฮ่าวคิดด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน จากนั้นก็ตระหนักว่าไป๋จู่กำลังจะปลดปล่อยเวทแห่งเต๋าเช่นเดียวกันออกมาอีก เมิ่งฮ่าวรีบฉวยโอกาสนี้ในตอนที่คู่ต่อสู้กำลังเตรียมตัวโจมตี เดินไปด้วยวิธีการที่แปลกประหลาดในทันที

จากนั้นแสงอันดุร้ายก็สาดประกายขึ้นมาในดวงตา ขณะที่พึมพำว่า “ไฟมอดไหม้!”

ทันใดนั้น ร่างเมิ่งฮ่าวก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป ราวกับว่าเขากำลังเผาไหม้โลหิตของตนเอง ให้กลายเป็นเปลวไฟ และจากนั้นก็พุ่งออกไปจากร่างกาย

ในตอนนี้เองที่ดวงตาไป๋จู่สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น ปลดปล่อยวิชาเวทของมันออกมา

“เวทแรก เวทแห่งปุถุชน ตลอดทั้งร่างของปุถุชน ร่างดับลงเวทสิ้นสูญ!”

ไป๋จู่ยกมือขึ้นชี้นิ้วตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นภาพลวงตาของคัมภีร์โบราณที่ด้านหลังมันก็เริ่มสั่นสะท้าน และจากนั้นไป๋จู่ก็หายตัวไปอย่างฉับพลัน เมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้งก็ไปอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ชี้นิ้วตรงไปที่เขา

ดรรชนีนั้นประกอบไปด้วยเวทแปลกๆ และเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ว่าถ้ามันมาแตะต้องโดนตัว ร่างกายตนเองก็จะต้องแตกกระจายและดับสูญไป!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ดรรชนีนั้นจะสัมผัสโดนตัว วิธีเดินแปลกๆ ของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้เต๋าแห่งกาลเวลาถูกปลดปล่อยออกมาในทันที

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็เดินผ่านไป๋จู่ไป หลบเลี่ยงจากดรรชนีที่โจมตีมา เวลาเดียวกันนั้น แสงแปลกๆ ก็สาดประกายขึ้นมาในแววตาเมิ่งฮ่าว

“เวทอสูร!” ในทันทีที่คำพูดนี้ดังก้องขึ้น เมิ่งฮ่าวก็เริ่มกระจายเป็นความผันผวนที่แปลกๆ ออกมา หลอมรวมเข้ากับเปลวไฟ ทำให้เกิดเป็นกระแสปราณลอยออกไป เพื่อก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนอย่างรวดเร็ว

ภายในกระแสน้ำวนนั้น สามารถจะได้ยินเสียงเต้นหัวใจที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน

“เวทที่สอง เวทแห่งขุนนาง สายโลหิตขุนนาง โลหิตเหือดแห้งร่างดับลง!”

ไป๋จู่แผดร้องคำราม ชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้มันเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น ถ้าดรรชนีนั้นแตะสัมผัสโดนตัวเมิ่งฮ่าว โลหิตของเขาคงจะเหือดแห้งหายไปอย่างแน่นอน

แต่ก่อนที่ดรรชนีนั้นจะแตะสัมผัสโดนตัว วิชาเดินข้ามกาลเวลาอันน่าตกใจของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้สามารถจะหลีกเลี่ยงจากอันตรายได้อีกครั้ง สีหน้าไป๋จู่เคร่งเครียดขึ้น และหมุนตัวมาเพื่อปลดปล่อยเวทที่สาม!

“เวทที่สาม เวทแห่งจักรพรรดิ ทุกสรรพสิ่งทั่วหล้าเป็นของจักรพรรดิ เมื่อคำพูดถูกเปล่งออกมา เวทแห่งจักรพรรดิก็ไร้จุดสิ้นสุด!” ขณะที่พูดมันก็ชี้นิ้วโจมตีไปเป็นครั้งที่สาม และทันใดนั้นดรรชนีของมันก็แตะลงไปบนหน้าผากของเมิ่งฮ่าว!

ราวกับว่า…มันถูกลิขิตให้เป็นเช่นนี้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว!

แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และในทันทีที่ดรรชนีนั้นแตะสัมผัสโดนหน้าผาก เขาก็ร้องตวาดขึ้น “เต๋าเดิมแท้!”

ขณะที่คำพูดนี้ดังก้องขึ้น ภาพอันเลือนรางก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว ซึ่งดูเหมือนกับเขาทุกสัดส่วน!

ตูมมมมมมม!

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น ขณะที่เวทแห่งจักรพรรดิทำให้เมิ่งฮ่าวที่ไม่ใช่ภาพลวงตาถูกสังหารไปในทันที ตอนแรกวิญญาณของเขาถูกทำลายไป จากนั้นโลหิตก็เหือดแห้งหายไป และในที่สุดร่างกายก็แตกสลายกลายเป็นชิ้นเนื้อไป

สำหรับร่างภาพลวงตา พุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

เวลาเดียวกันนั้น แสงแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในแววตาไป๋จู่ มันรีบขยับมือร่ายเวท และกางแขนออกเป็นวงกว้างในทันที

“แปดโซ่ดวงดาวกำจัดวิญญาณ ปิดกั้นเส้นทางที่จะไปเกิดใหม่ของวิญญาณทั้งปวง!” ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมัน ลำแสงสีแดงแปดสายก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ กลายเป็นโซ่โลหิตแปดเส้น ตรึงสถานที่แห่งนั้นทั้งหมดไว้โดยสิ้นเชิง ในชั่วพริบตาเสียงกระหึ่มก็ดังก้องไปทั่วในอากาศ เมื่อท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวถูกปิดกั้นไว้ทั้งหมด!

ภายในบริเวณนั้นสายโซ่ปิดกั้นทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ระเบิดเป็นสายฟ้าส่งเสียงดังกระหึ่ม พุ่งตรงไปยังภาพลวงตาของเมิ่งฮ่าว

“ต่อให้เจ้ามีเวทกำเนิดใหม่ ที่ช่วยส่งเศษเสี้ยววิญญาณออกไปในช่วงวิกฤตนี้ เจ้าก็ถูกลิขิตให้ต้องตายไปในวันนี้ แปดโซ่ดวงดาวของข้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตัดเส้นทางของวิญญาณโดยเฉพาะ ร่างวิญญาณเจ้าต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไปในตอนนี้!”

ไป๋จู่เกือบจะเป็นสีม่วงไป จากความพยายามที่จะปลดปล่อยคัมภีร์ขุนเขาทะเลออกมา สามเต๋าและสามเวทแห่งขุนเขาทะเลมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง และเป็นวิชาเวทระดับสูงอย่างน่าเหลือเชื่อ อันที่จริงก็มีข่าวลือว่าพวกมันถูกเรียกว่าเวทผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ไป๋จู่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะปลดปล่อยออกมาได้อย่างง่ายดาย ทุกครั้งที่มันใช้ออกมา ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปอย่างสูงลิ่ว

เสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่สายโซ่แห่งโลหิตทั้งแปดเส้น ระเบิดเป็นพลังแห่งการทำลายล้างวิญญาณออกมา พุ่งตรงไปยังภาพลวงตาของเมิ่งฮ่าว แต่พวกมันก็จบลงด้วยการพุ่งผ่านร่างเขาไปโดยที่ไม่อาจจะทำร้ายได้แม้แต่น้อย

ภาพนี้ทำให้ไป๋จู่ต้องจ้องมองไปด้วยความตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

“นั่นไม่ใช่ร่างวิญญาณ?”

ขณะที่สีหน้าของไป๋จู่สลดลง ทันใดนั้นภาพลวงตาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นชัดเจนขึ้นโดยสิ้นเชิง กลายเป็นเมิ่งฮ่าวตัวจริง!

ทั้งในแง่ของรูปร่างและใบหน้า ก็ดูเหมือนกับคนที่ไป๋จู่เพิ่งจะสังหารไป นี่ไม่ใช่ร่างวิญญาณ แต่เป็นกายเนื้อที่แท้จริง ซึ่งดูเหมือนว่าค่อนข้างจะผอมแห้ง ราวกับว่าได้สูญเสียปราณและโลหิตไปอย่างมากมาย!

เพราะว่าเป็นกายเนื้อ ทำให้แปดโซ่ดวงดาวไม่อาจจะโจมตีไปได้โดยสิ้นเชิง!

นั่นเป็นเพราะว่าในช่วงก่อนที่จะตกตายไป เมิ่งฮ่าวตระหนักดีว่าไม่อาจจะต่อสู้กลับไปยังสามเต๋าและสามเวทแห่งคัมภีร์ขุนเขาทะเลได้ ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้วิธีอื่น เป็นสิ่งที่มีผลเช่นเดียวกับเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ และนั่นก็คือเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้!

เขาแค่สร้าง…ร่างตัวแทนขึ้นมาเท่านั้น!

ในช่วงวิกฤตเขาใช้ปราณและโลหิตบางส่วนของตนเอง พร้อมกับวิชาเต๋าเดิมแท้เวทอสูรไฟมอดไหม้ เพื่อสร้างเป็นร่างจำแลงขึ้นมา เป็นร่างจำแลงที่สามารถจะตายแทนตัวเองได้!

“บัดซบ!!” สีหน้าไป๋จู่สลดลง และต้องบังคับให้ตนเองอย่าได้กระอักโลหิตออกมา มันรู้สึกมีโทสะและไม่พอใจจนถึงระดับที่ยากจะอธิบายออกมาได้ มันเพิ่งจะจ่ายค่าตอบแทนไปอย่างมหาศาลเพื่อปลดปล่อยสามเต๋าและสามเวทแห่งคัมภีร์ขุนเขาทะเลออกมา ทั้งในแง่ของอายุขัยและสถานะทางร่างกาย ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เทียบเท่าเดิมจากก่อนหน้านี้

มันมั่นใจว่าเมิ่งฮ่าวต้องตายไปแล้ว และยังได้ปลดปล่อยแปดโซ่ดวงดาวออกมาอีกด้วย แล้วจะคาดคิดได้อย่างไรว่าเมิ่งฮ่าวจะใช้เวทร่างตัวแทนออกมา!?

ตอนนี้มันกำลังพบเจอกับสิ่งที่เมิ่งฮ่าวเคยเผชิญหน้ามาก่อนในตอนที่เขาทุ่มออกมาจนสุดตัว โดยที่ไม่ต้องพูดถึงค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไป เพื่อปลดปล่อยหอกสังหาร แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ด้วยเวทตราบนิรันดร์ชิงตี้

“เจ้าเด็กผู้นี้ต้องตาย!” ไป๋จู่ร้องตวาดขึ้น จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว กัดฟันแน่น ยกสองมือขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และแสงแปลกๆ ก็สาดประกายอยู่ในดวงตา

“แปดโซ่ดวงดาวกำจัดวิญญาณ ปิดกั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขอให้เต้าฟางลงมาช่วยข้า…ทำลายทุกสรรพสิ่ง!” ในทันทีที่คำพูดหลุดจากปาก

ส่วนของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ถูกตรึงแน่นไว้จู่ๆ ก็แตกกระจายไป ต่อมาเสียงแผดร้องด้วยโทสะก็ดังก้องออกมาจากภายในความว่างเปล่า ขณะที่เงาร่างขนาดใหญ่มหึมาได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังไป๋จู่ในทันที

มันคือวานรยักษ์ที่ถือไม้เท้าขนาดใหญ่อยู่ในมือ ดวงตาเป็นสีแดงเข้ม และในทันทีที่มันมองมา จิตใจเมิ่งฮ่าวก็หมุนคว้างด้วยความตกตะลึง

เขาเคยเห็นเงาร่างนี้มาก่อน!!

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง เขาเพิ่งจะหลบหนีจากสถานการณ์อันร้ายแรงมาได้เมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้ก็ต้องสูญเสียความได้เปรียบไป เขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส เลวร้ายจนกระทั่งทุกๆ การเคลื่อนไหว ก็ทำให้ทั่วทั้งร่างแทบจะพังทลายลงไป

ในทันทีที่มองเห็นภาพของวานรนั้น เมิ่งฮ่าวก็รู้ขึ้นในทันทีว่ามันคือใคร มันคือ…เต้าฟาง!

เต้าฟาง ผู้ที่สะกดข่มแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์!

อย่างไรก็ตาม ในทันทีที่ภาพของเต้าฟางปรากฏขึ้น แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างเมิ่งฮ่าว จู่ๆ ก็ปะทุขึ้นมาจนยากจะควบคุมได้ ไหลออกมาจากร่างเขา กระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณนั้น โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง ทำให้โลกแห่งนี้กลายเป็นโลกแห่งเปลวไฟไปทั้งหมด อย่างช้าๆ ภายในทะเลแห่งเปลวไฟ เจตจำนงอันน่าตกใจก็มารวมตัวกัน

“เต้าฟาง เจ้าต้องตาย!!” เสียงแผดร้องคำรามที่เต็มไปด้วยโทสะ ความเป็นศัตรูและบ้าคลั่งดังก้องขึ้น เวลาเดียวกันนั้นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาเป็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

เป็นบุรุษวัยกลางคน สวมใส่ชุดเกราะเปลวไฟ กำลังแผดร้องคำรามพุ่งตรงไปยังภาพของวานร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!