Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1301

ตอนที่ 1301

ชัยชนะ

เมิ่งฮ่าวไม่รู้จักบุรุษที่ก่อตัวขึ้นมาจากแก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เขารู้สึกคุ้นเคยเกี่ยวกับมัน และจากนั้นเมิ่งฮ่าวก็นึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในดินแดนแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์

ดวงตาขนาดใหญ่ในที่แห่งนั้นถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟที่พลุ่งพล่าน ราวกับว่ามันเป็นวิญญาณของทะเลแห่งเปลวไฟ

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่ได้ข้อสรุปว่าบุรุษผู้นี้คงต้องเป็น…บุคคลเดียวกับดวงตาขนาดใหญ่ที่อยู่ในโลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์นั้น

มันคือผู้แข็งแกร่งจากในสมัยโบราณที่ถูกจองจำอยู่บนดาวหนานเทียน ในขุนเขาทะเลที่เก้าโดย…เต้าฟาง!

ในช่วงเวลาเดียวกับที่บุรุษผู้นี้ปรากฏขึ้น ย้อนกลับไปในขุนเขาทะเลที่เก้า ใต้พื้นดินแห่งดาวหนานเทียน โลกแห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน ขณะที่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดปะทุขึ้นมา ทำให้ทั่วทั้งโลกแห่งนั้นลุกเป็นไฟไปโดยสิ้นเชิง

เสียงแผดร้องคำรามด้วยโทสะดังก้องอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด จากบุรุษที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ก่อตัวเป็นเสียงสะท้อนดังก้องไปมา

“เต้าฟาง เจ้าต้องตาย!!” บุรุษผู้นั้นแผดร้องขึ้น ราวกับว่าความคิดนี้จะกลายเป็นพลังให้วิญญาณของมันไม่มีทางจะถูกกำจัดออกไปได้ ภาพของเต้าฟางที่ถูกเรียกออกมาโดยไป๋จู่ เริ่มสั่นสะท้านด้วยโทสะและความเกลียดชัง ขณะที่มันก้าวเดินตรงมา ทะเลแห่งเปลวไฟก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน

เมื่อบุรุษที่อยู่ภายในโบกสะบัดมือออกไป ทำให้เปลวไฟพุ่งขึ้นราวกับเป็นระลอกคลื่นในทะเล พุ่งตรงไปยัง…ภาพของเต้าฟาง

จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังหมุนคว้าง และขณะที่หรี่ดวงตาเล็กลง ก็เริ่มสาดประกายเป็นแสงเจิดจ้าขึ้น ที่ห่างไกลออกไป ไป๋จู่ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่เคยคาดคิดว่า กระแสแห่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของเต้าฟาง จะไม่อาจกำจัดเมิ่งฮ่าวไปในทันที และเมิ่งฮ่าวก็ยังมี…วิญญาณที่แปลกประหลาดซุกซ่อนอยู่ภายในร่างด้วยเช่นกัน!

ทั้งวิญญาณนั้นและเต้าฟางต่างก็ระเบิดเป็นพลังอันน่าประหลาดใจออกไป ซึ่งไม่ใช่พลังแห่งจักรพรรดิเต๋า แต่สูงเกินกว่านั้น! มันคือ…พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่!

ตูมมมมมมม!

เสียงปะทุขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น จนทำให้ขุนเขาทะเลที่แปดต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว ดวงตาของภาพเต้าฟางสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่มันก้าวเนิบนาบตรงไป หมุนควงไม้เท้าขนาดใหญ่ และจากนั้นก็ฟาดลงไปยังบุรุษวัยกลางคน

บุรุษผู้นั้นแผดร้องคำราม ดวงตาแวบขึ้นด้วยความเกลียดชัง ขยับสองมือร่ายเวท จากนั้นก็ยกมือขึ้นไปในอากาศ เรียกศีรษะเปลวไฟขนาดใหญ่ ที่ยิ้มออกมาอย่างดุร้ายราวกับเป็นวิญญาณปีศาจ พร้อมกับเสียงแผดร้องคำรามด้วยความไม่ยินยอมและความบ้าคลั่งอย่างไร้ที่เปรียบ พุ่งตรงไปโจมตีด้วยความเกลียดชังที่สะสมมานานนับหมื่นปี

เมื่อพวกมันกระแทกเข้าหากัน ทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือน และคลื่นอันน่าตกใจขนาดใหญ่ก็ม้วนกวาดออกไปทั่วทุกทิศทาง เมื่อคลื่นนั้นกระแทกไปยังเมิ่งฮ่าว โลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก และต้องถอยโซเซไปทางด้านหลัง สำหรับไป๋จู่มันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยเช่นกัน และกระอักโลหิตออกมาขณะที่กระเด็นไปทางด้านหลัง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่คนทั้งสองถอยไปทางด้านหลัง บุรุษที่อยู่ในเปลวไฟก็เริ่มต่อสู้กับเต้าฟาง ทั้งเมิ่งฮ่าวและไป๋จู่หยุดชะงักนิ่ง และจากนั้นก็พุ่งเข้าหากันในทันที

การต่อสู้ของคนทั้งสองยังไม่จบลง ถึงแม้ว่าจะคล้ายกับเป็นตะเกียงน้ำมันที่แทบจะดับลงไปได้ทุกเมื่อก็ตามที ถึงแม้ว่าคนทั้งสองจะได้รับบาดเจ็บสาหัส…แต่ก็ยังคงจะต่อสู้!

ตูม!

เมื่อคนทั้งสองเข้ามาใกล้ซึ่งกันและกัน แสงวิชาเวทก็พุ่งขึ้นไป และระลอกคลื่นแห่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็กระจายออกไป พลังแห่งขุนเขาทะเลถูกปลดปล่อยออกมาจากทั้งสองฝ่าย และยังปะทะกันด้วยกายเนื้ออีกด้วย ทันใดนั้นคนทั้งสองก็ปะทะกันไปมานับพันครั้ง

อาการบาดเจ็บของทั้งสองเลวร้ายลงกว่าเดิม และกำลังกระอักโลหิตออกมา บาดแผลเต็มไปทั่วร่าง แม้แต่เวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ของไป๋จู่ก็ไม่อาจจะช่วยได้ทัน

หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เสียงระเบิดก็ดังก้องออกมา ขณะที่คนทั้งสองถอยไปทางด้านหลัง โลหิตพุ่งกระจาย และใบหน้าก็บิดเบี้ยวอย่างดุร้าย ไป๋จู่กัดฟันแน่น เท่าที่เห็นในแววตาของมัน ดูเหมือนว่ามันกำลังโยนความระมัดระวังตัวทั้งหมดทิ้งไปในสายลม ใช้วิชาเวททุกอย่างเท่าที่จะคิดออกมาได้ แต่ก็ไม่อาจจะกำจัดเมิ่งฮ่าวไปได้ จริงๆ แล้วก็สามารถจะกล่าวได้ว่าเมิ่งฮ่าวคือ…คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในชั่วชีวิตของมัน!

“วันนี้ เจ้าต้องตาย!” มันแผดร้องคำรามขึ้น เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ทำท่าคว้าจับขึ้นมาในทันที เพื่อเรียกกระบี่สีดำสนิทเก้าเล่มออกมา!

ในทันทีที่กระบี่สีดำเก้าเล่มปรากฏขึ้น พวกมันก็เริ่มกระจายเป็นกลิ่นฉุนออกมา เวลาเดียวกันนั้นภูติผีพยาบาทนับไม่ถ้วนก็เริ่มหมุนวนอยู่รอบๆ พวกมัน ส่งเสียงกรีดร้องที่ไร้เสียงออกมา

“เมื่อชีวิตตกตายไป เมื่อความตายกลายมาเป็นชีวิต พลังคำสาปแช่งหนึ่งประโยคสังหาร ด้วยระดับสูงสุดคือ…เวทคำสาปแห่งความตาย!”

ดวงตาไป๋จู่สาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง เท่าที่มันคิดเวทคำสาปแห่งความตายนี้ ยังน่ากลัวมากกว่าสามเต๋าและสามเวทแห่งคัมภีร์ขุนเขาทะเลซะอีก อันที่จริงคำสาปแห่งความตายเป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวมันเอง ซึ่งเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ก็เคยใช้ออกมาเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในชั่วชีวิตนี้

นั่นคือตอนที่มันกลายมาเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ในการต่อสู้ครั้งนั้น มันได้ใช้เวทนี้ในช่วงวิกฤตจนได้รับชัยชนะมา แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไป…ก็มาจากในตอนนั้นเช่นกัน ทำให้พื้นฐานฝึกตนของมันต้องติดอยู่ในระดับห้าแก่นแท้ไปตลอดกาล ความสำเร็จนอกเหนือไปกว่านั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบากอย่างถึงที่สุด

ในตอนนี้มันกำลังใช้เวทคำสาปนั้นเป็นครั้งที่สองแล้ว!

มันไม่ลังเลแม้แต่น้อย ความบ้าคลั่งในดวงตาเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น ขณะที่โบกสะบัดมือออกไป จากนั้นเสียงหึ่งๆ ก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่หนึ่งในเก้ากระบี่สีดำพุ่งตรงมาและแทงเข้าไปในหน้าอกของมัน!

เมื่อกระบี่แทงเข้าไปในร่างมัน ไป๋จู่ก็ส่งเสียงแผดร้องคำรามออกมา เวลาเดียวกันนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ต่อมากระบี่เล่มที่สอง, สาม, สีและห้า ต่างก็แทงเข้ามาในแขนขาทั้งสี่ของมันอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของไป๋จู่กำลังพุ่งขึ้นไปโดยไร้ทีท่าว่าจะหยุดลง จนแม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังต้องตกตะลึง

ในตอนนี้เองที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของไป๋จู่เข้าใกล้กับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ยิ่งใหญ่สามในสิบส่วน!

แต่ก็ยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ กระบี่เล่มที่หก, เจ็ด, แปด…และในที่สุดก็เล่มที่เก้า ต่างก็แทงเข้าไปในร่างไป๋จู่ จนต้องพ่นโลหิตออกมาจากปาก และร่างกายมันก็เต็มไปด้วยโลหิต โลหิตเริ่มไหลซึมออกมาจากดวงตา, หู, จมูกและปาก แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันก็บรรลุถึงจุดสูงสุด ห้าในสิบส่วนของผู้ยิ่งใหญ่!

เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันน่ากลัวปะทุขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือน เวลาเดียวกันนั้น ใบหน้าของไป๋จู่ก็บิดเบี้ยวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง มองไปยังเมิ่งฮ่าวและจากนั้นก็กล่าวว่า “คำสาปแห่งความตาย!”

ทันใดนั้นสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันก็ระเบิดออกไป เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในรูปแบบของสัญลักษณ์เวทผนึกคำสาปแช่งสีดำสนิทที่ซับซ้อนอย่างน่าประหลาดใจพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว พื้นฐานของพลังคำสาปแช่งนั้นคือสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นยิ่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใด คำสาปแช่งนั้นก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ไป๋จู่ที่มีกระบี่สีดำเก้าเล่มปักอยู่ในร่าง ทำให้ตอนนี้มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่ากับห้าในสิบส่วนของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเช่นนั้น เมื่อถูกใช้ออกมาร่วมกับระดับห้าแก่นแท้ ก็ทำให้คำสาปแห่งความตายนี้…ไร้ผู้ต่อต้าน!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น

ขณะที่สัญลักษณ์เวทสีดำสนิทนั้นเข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าวที่มีใบหน้าเคร่งเครียด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และ…ระเบิดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้พุ่งออกไป!

ตูม! สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งฟ้าดินด้วยความบ้าคลั่งอย่างรุนแรง

ตูมมมม!

เขาทุ่มออกมาอย่างสุดกำลัง ต่อสู้กลับไปด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง ซึ่งเทียบเท่ากับสี่ในสิบส่วนของระดับผู้ยิ่งใหญ่

ตูมมมมมมม!

โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว และไหลซึมออกมาจากดวงตา หูและจมูก เขากำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงต่อต้านกับคำสาปแห่งความตายนั้น ที่ห่างไกลออกไป ไป๋จู่กระอักโลหิตออกมากองโต และดวงตาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มันรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว เห็นได้ชัดว่าทรงพลังอย่างเพียงพอที่จะต่อต้านคำสาปแห่งความตายของมันได้!

“เป็นไปไม่ได้!” มันแผดร้องคำราม ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา เวทคำสาปแห่งความตายไม่ใช่สิ่งที่มันจะใช้ออกมาได้นานมากนัก ถ้าเวทนี้ไม่อาจจะโจมตีไปยังเป้าหมายได้ ผลสะท้อนกลับที่เกิดขึ้น ก็เป็นสิ่งที่มันไม่อาจจะรับมือได้

ในช่วงเวลานี้เอง บนจุดสูงสุดของขุนเขาที่แปด ไว่กงของเมิ่งฮ่าว ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่แปด กำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง การต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด กำลังกลายเป็นตัวกระตุ้นอย่างดีสำหรับท่าน!

จริงๆ แล้วกลิ่นอายของท่านในตอนนี้ กำลังกระจายออกไปจากขุนเขาที่แปดด้วยความเข้มข้นที่เพิ่มมากขึ้น

แต่ไป๋จู่ก็ไม่มีเวลาที่จะสังเกตเห็น เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า เมื่อไหร่ที่ขึ้นขี่บนหลังพยัคฆ์แล้ว ก็ยากที่จะลงมาได้ มันเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ขยับสองมือร่ายเวท จากนั้นก็ตบลงไปบนหน้าผากของตัวเอง

“กลุ่มร่างจำแลง! รวมตัวขึ้นมาจากพลังเปลวธูปแห่งราชันขุนเขาทะเลที่เจ็ด เพื่อช่วยข้า…เปลี่ยนแปลง!” ขณะที่เสียงของไป๋จู่ดังก้องออกมาคล้ายเสียงฟ้าร้องคำราม ภาพทับซ้อนจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น ขณะที่มันเปลี่ยนจากหนึ่งคนเป็นสองคน จากสองกลายเป็นสี่ ต่อมาก็แปด และจากนั้นก็สิบหก…

ม่านตาเมิ่งฮ่าวหดเล็กลงขณะที่ไป๋จู่เริ่มสร้างร่างจำแลงขึ้นมากว่าหนึ่งร้อยคนอย่างรวดเร็ว แต่ละร่างกระจายระลอกคลื่นอันน่ากลัวออกมาและจากนั้น…ก็เริ่มระเบิดตัวเองไปทั้งหมด

พลังของการระเบิดตัวเองนี้ไปช่วยเกื้อหนุนเวทคำสาปแห่งความตาย สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของไป๋จู่เริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ทำให้สัญลักษณ์เวทผนึกเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีดำสนิทมากขึ้นกว่าเดิม

“ตาย!” ไป๋จู่ที่กำลังระเบิดออกไปต่างก็ร้องตวาดขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งร่างจำแลงและร่างจริง

อย่างไรก็ตามในตอนที่เวทคำสาปแห่งความตายบดขยี้ไปยังสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว และกำลังจะกระแทกไปโดนตัวเขา เมิ่งฮ่าวก็หลับตาลง

“เต๋าอยู่ในจิตใจ เจตจำนงอยู่ในดวงตา…”

“ข้าจะครอบครองขุนเขาทะเล…เวทผนึกสวรรค์!” ในช่วงวิกฤตของการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อตัดสินเป็นครั้งสุดท้ายนี้ เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยเวทผนึกสวรรค์ออกมา!

พลังแห่งขุนเขาทะเลส่งเสียงดังกระหึ่มกดทับลงมา และเจตจำนงแห่งขุนเขาทะเลก็หลอมรวมเข้ากับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว จากนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ปะทุด้วยพลังขึ้นมา โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลางของทั้งหมด!

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวพังทลายลงและความว่างเปล่าก็แตกกระจายไป ขุนเขาทะเลที่แปดสั่นสะท้าน และเวทคำสาปแห่งความตายก็หยุดชะงักลงในทันที รอยร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของสัญลักษณ์เวทสีดำสนิท จนกระทั่งในที่สุดพลังที่รวมตัวกันของเวทผนึกสวรรค์และสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวก็ทำให้มันแตกกระจายไป เสียงแตกร้าวดังก้องขึ้นขณะที่มันระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน!

ตูม!

เวทคำสาปแห่งความตายพังทลายลงไปกลายเป็นเศษชิ้นส่วนของสัญลักษณ์เวทจำนวนมาก และจากนั้นก็ม้วนกวาดตรงไปยังไป๋จู่ แทงทะลุเข้าไปในร่างมันอย่างฉับพลัน

ไป๋จู่แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ขณะที่พลังสะท้อนกลับทำให้ร่างมันแห้งเหี่ยวลงไปในทันที โลหิตจำนวนมากระเหยกลายเป็นไอ และเงาแห่งความตายก็ปกคลุมในจิตใจอย่างรวดเร็ว แต่ก็มันก็ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อต่อสู้กลับไปได้ แม้แต่กระเสือกกระสนดิ้นรนก็ยากที่จะทำได้อย่างแท้จริง

“ไม่ ข้าคือไป๋จู่ (ราชันขาว) ข้าคือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด ข้าต้องไม่ตายในที่แห่งนี้…” แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของมันเริ่มพังทลายลงไป และไม่อาจจะทำอะไรได้เพื่อหยุดยั้งขั้นตอนนี้

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็รู้แล้วว่าตนเองชนะแล้ว กระอักโลหิตออกมากองโต สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนรางลง ชัยชนะที่เพิ่งจะได้รับมานี้ ช่างยากเย็นแสนเข็ญเป็นอย่างยิ่ง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!