ตอนที่ 1299
เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลเป็นของใคร
ขณะที่สัตว์พิษทั้งห้าพุ่งมายังเมิ่งฮ่าว ไป๋จู่ก็ถอยหลัง และรีบพุ่งไปยังโลกแก่นแท้ที่แน่นิ่งไม่ไหวติงตรงด้านบนอย่างรวดเร็ว พยายามจะฟื้นฟูแก่นแท้ที่ถูกผนึกไว้ของมัน
จิตใจมันเต็มไปด้วยความระมัดระวังตัว รู้สึกราวกับว่ากำลังต่อสู้ด้วยมือเท้าที่ถูกมัดไว้ จากช่วงที่มันมาถึงขุนเขาทะเลที่แปด เมิ่งฮ่าวก็เข้ามาขัดขวางมันทุกย่างก้าว จนเกิดเป็นความรู้สึกว่ามันกำลังเดินไปตามเส้นทางที่คู่ต่อสู้ชักนำอยู่อย่างไร้ทางเลือก
มันรู้สึกอัปยศอย่างแท้จริง แต่สุดท้ายก็รู้ว่าทำไมถึงได้เกิดขึ้นเช่นนั้น ในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้ เมิ่งฮ่าวโจมตีมาด้วยหอกยาวเล่มนั้นอย่างสุดกำลัง!
ถึงแม้ว่าไป๋จู่จะไม่ถูกหอกเล่มนั้นสังหารไป แต่ก็ทำให้ต้องสูญเสียความได้เปรียบในการต่อสู้ไป!
ตอนนี้ดวงตาเมิ่งฮ่าวกำลังสาดประกายขึ้น เขาต้องจ่ายค่าตอบแทนไปอย่างมากมายเพื่อต่อสู้กับไป๋จู่ และถึงแม้ว่าไม่อาจจะสังหารมันได้ แต่ก็บังคับให้มันต้องใช้วิชาจากคัมภีร์ขุนเขาทะเลออกมาบางส่วน
เพราะว่าเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ลงมือก่อน ทำให้ได้เปรียบขึ้นทีละน้อย และสามารถผนึกแก่นแท้ของคู่ต่อสู้ได้อย่างบังเอิญ ถึงแม้ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปอย่างสูงลิ่ว ทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ก็คุ้มค่าไม่น้อย!
ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะว่าเขาได้ควบคุมจังหวะการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ไม่เคยให้ฝ่ายศัตรูมีโอกาสได้เปรียบ ดังนั้น…เขาจึงต้องไม่ปล่อยให้มันมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้ในตอนนี้!
“คิดจะฟื้นฟูแก่นแท้? ข้าจะปล่อยให้เจ้าทำได้อย่างไรกัน!?” เมิ่งฮ่าวมองไปยังห้าสัตว์พิษแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะไปจัดการพวกมัน เป้าหมายของเขาคือไป๋จู่เท่านั้น
“ดูเหมือนว่าข้าจะใช้เวทผนึกอสูรได้ไม่มากเท่าที่ควร เห็นได้ชัดว่าข้าประเมินมันต่ำมากเกินไป” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ตบไปที่ถุงสมบัติอย่างฉับพลัน จากนั้นเสียงแผดร้องคำรามก็ดังก้องขึ้น อ๋าวเฉี่ยนกลายเป็นลำแสงสีโลหิตพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
ต่อมาก็เป็นกลุ่มภูติเกราะดำทั้งฝูง
แววตาเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยแสงแปลกๆ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเวทผนึกอสูรสามารถจะผนึกแก่นแท้ได้ ทำให้ต้องการจะเห็นผลลัพธ์…จากพื้นฐานฝึกตนในตอนนี้เพื่อใช้ผนึกความเที่ยงธรรม!
“ผนึกความเที่ยงธรรม!”
โดยไม่ลังเล เมิ่งฮ่าวยกมือขวาขึ้นและชี้ตรงไปยังอ๋าวเฉี่ยน ทันใดนั้นระลอกคลื่นแห่งเวทผนึกอสูรก็เริ่มกระจายออกมา ร่างอ๋าวเฉี่ยนสั่นสะท้าน และจากนั้นพลังก็พุ่งขึ้นไป มันเริ่มมีขนาดใหญ่โตมากขึ้น และพลังการฝึกตนก็พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตา อ๋าวเฉี่ยนก็ทะลวงผ่านวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณเข้าไปสู่อาณาจักรเต๋า!
ย้อนกลับไปตอนที่อยู่ในอาณาจักรสายลม เมิ่งฮ่าวช่วยอ๋าวเฉี่ยนให้กลืนกินวิญญาณค้างคาวลงไป แต่เพื่อที่จะช่วยเมิ่งฮ่าว อ๋าวเฉี่ยนได้หยุดการทะลวงผ่านของมันไว้ ติดอยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรโบราณมาตั้งแต่ตอนนั้น
ตอนนี้ด้วยการช่วยเหลือจากผนึกความเที่ยงธรรม ทำให้พลังการฝึกตนของมันสามารถจะพุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง มันแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังห้าสัตว์พิษ ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็มองไปยังภูติเกราะดำ และปลดปล่อยผนึกความเที่ยงธรรมออกมาอีกครั้ง!
ทันใดนั้นภูติเกราะดำก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกได้ถึงพลังแห่งขุนเขาทะเลบนร่างพวกมัน แน่นอนว่าเป็นพลังที่มีแต่เมิ่งฮ่าวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถจะรับรู้ได้ แม้แต่ราชันแห่งขุนเขาทะเลก็ไม่อาจจะรู้สึกได้
เมิ่งฮ่าวค่อนข้างจะตกใจ หลังจากที่ตรวจสอบดูอ๋าวเฉี่ยนอย่างละเอียด ก็ตระหนักว่าสามารถจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของอาณาจักรขุนเขาทะเลอยู่ในร่างมันด้วยเช่นกัน “ผนึกความเที่ยงธรรมได้ผลเช่นนี้เอง ข้าสามารถจะประทานสิทธิ์ให้พวกมันได้รับการยอมรับจากอาณาจักรขุนเขาทะเล และช่วยให้พวกมันยืมพลังมาได้บางส่วน!”
อ๋าวเฉี่ยนและภูติเกราะดำกระแทกเข้าไปยังห้าสัตว์พิษ เกิดเป็นเสียงระเบิดขึ้นในทันที จนทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะท้าน ขณะที่การต่อสู่อย่างดุร้ายเริ่มต้นขึ้น
ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็พุ่งตรงไปยังไป๋จู่!
ม่านตาไป๋จู่หดเล็กลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เห็นเมิ่งฮ่าวใช้ผนึกความเที่ยงธรรมออกมา จนต้องถอนหายใจและตระหนักว่าแผนการที่จะใช้ห้าสัตว์พิษไปขัดขวางเมิ่งฮ่าว เพื่อให้ตนเองปลดผนึกแก่นแท้ได้ ต้องล้มเหลวไปโดยสิ้นเชิง
สีหน้าไป๋จู่เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งไปในทันที ถอนหายใจยาว มองไปยังเมิ่งฮ่าวและกล่าวว่า “พวกเราไม่มีความเป็นศัตรูต่อกัน แค่มีมุมมองที่แตกต่างกันเท่านั้น…แต่ก็ไม่สำคัญ เจ้าอาจจะแข็งแกร่ง แต่ในฐานะที่เป็นราชันขุนเขาทะเล ข้าจึงอยู่เหนือกว่าเจ้า…เมื่อเจ้าต้องการต่อสู้ต่อไป ข้าก็จะ…ช่วยให้เจ้าเห็นถึงพลังที่แท้จริงของราชันขุนเขาทะเล”
เสียงถอนหายใจของมันทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะท้านขึ้นมา และระลอกคลื่นอันทรงพลังก็ระเบิดออกมาจากร่างมัน ในชั่วพริบตาก็กระจายออกไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปด
“ข้าคือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด…” มันกล่าวเสียงแผ่วเบา และทันใดนั้นภาพลวงตาก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของมัน เป็นภาพของหนึ่งขุนเขา หนึ่งทะเล!
เมื่อภาพนั้นปรากฏขึ้น ก็กระจายพลังอันน่าตกใจออกมา เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และแสงอันลี้ลับก็สาดประกายออกมาจากดวงตาของไป๋จู่ ขณะที่มันยกมือขวาสูงขึ้นไป ทำให้พลังอันรุนแรงของอาณาจักรขุนเขาทะเลปรากฏขึ้น!
เวลาเดียวกันนั้น ไป๋จู่ก็เริ่มกระจายเป็นแรงกดดันอันน่ากลัวออกมา เสียงแตกร้าวดังก้องขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และความว่างเปล่าก็บิดเบี้ยวไปมา ขณะที่กลิ่นอายแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลบนตัวมันเริ่มมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ภาพของขุนเขาทะเลที่อยู่เหนือศีรษะมันก็เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนั้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดก็ดูเหมือนว่าจะเหือดแห้งหายไป ความว่างเปล่าเริ่มมืดสลัวลงไป และพลังชีวิตก็ถูกดูดออกไปจากร่างสวรรค์ รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งขุนเขาที่เจ็ด ขณะที่ชีวิตทั้งปวงถูกดึงออกมา
ในทะเลที่เจ็ด อสูรทะเลกำลังสั่นสะท้าน ขณะที่ร่างกายพวกมันเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป และตัวทะเลเองก็เริ่มเหือดแห้งลง ขณะที่พลังชีวิต, พื้นฐานแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดถูกดึงออกไปยัง…ไป๋จู่!
แสงสีขาวที่ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน เริ่มสาดประกายออกมาจากร่างมัน กระจายออกไปยังขุนเขาทะเลที่แปดอย่างไร้ขอบเขต และทันใดนั้นก็ทำให้ราชันแห่งขุนเขาทะเลอื่นๆ เกิดความสนใจขึ้นมา
ดูเหมือนว่าร่างของไป๋จู่จะมีขนาดที่ใหญ่โตอย่างเหลือคณา และภาพขุนเขาทะเลที่ด้านบนศีรษะของมันก็เห็นได้ชัดขึ้นโดยสิ้นเชิงในตอนนี้ มองไปยังเมิ่งฮ่าว ชี้นิ้วออกไปและกล่าวว่า “เจ้าอาจจะแข็งแกร่ง แต่สุดท้าย…เจ้าก็เป็นแค่ผู้ฝึกตนธรรมดาเท่านั้น ข้าสามารถเอาชนะผู้ฝึกตนทั่วไป และมีพลังของหนึ่งในเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ ข้าคือ…ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด!”
“ในอาณาจักรขุนเขาทะเล ไม่มีใครต่อต้านราชันแห่งขุนเขาทะเลได้ ข้าคือผู้ที่ตัดสินว่าใครจะมีชีวิตอยู่หรือตายไป”
“พลังแห่งขุนเขาทะเลจะบดขยี้เจ้าไป!”
ขณะที่เสียงของมันดังก้องออกมา กลิ่นอายแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัวมัน กลายเป็นดวงตะวันสีขาว กระจายแรงกดดันอย่างที่ยากจะอธิบายได้พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
เป็นการโจมตีที่ไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ เต็มไปด้วยพลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ถูกชักนำโดยเจตจำนงแห่งหนึ่งในผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในเก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งก็คือราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด!
ไป๋จู่ถอนหายใจกล่าวว่า “ด้วยเหตุผลส่วนตัวแล้ว ข้าไม่ต้องการจะสูญเสียพลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลไปมากกว่านี้ นอกจากนั้นข้าก็คงอยู่ในอาณาจักรนี้…มานานหลายปีมากแล้ว”
“ด้วยการตายไปภายใต้อาณาจักรขุนเขาทะเล เจ้าควรจะไร้ซึ่งความเสียใจใดๆ แล้ว” ด้วยเช่นนั้นไป๋จู่จึงโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้แรงกดดันแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
เมิ่งฮ่าวมองไปยังไป๋จู่กล่าวว่า “อาณาจักรขุนเขาทะเล …?”
เขาหัวเราะขึ้นมา และดวงตาก็เริ่มสาดประกายขึ้น อันที่จริงการต่อสู้ในครั้งนี้เขามีกลยุทธ์หลักอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือการใช้หอก จากนั้นก็รอคอยให้คู่ต่อสู้…ใช้พลังแห่งขุนเขาทะเลออกมา
“เจ้าใช้พลังแห่งขุนเขาทะเลต่อหน้าข้า?” เมิ่งฮ่าวชี้นิ้วขวาออกไป และทันใดนั้นพลังแห่งขุนเขาทะเลที่มหาศาลไร้ขอบเขตก็ปะทุออกมาจากภายในร่าง ทำให้กลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวเริ่มพุ่งขึ้นไปเป็นเท่าตัวอย่างฉับพลัน
ไป๋จู่อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นี่…”
มันไม่เคยเห็นใคร นอกจากราชันแห่งขุนเขาทะเล ที่จะสามารถปลดปล่อยพลังแห่งขุนเขาทะเลได้อย่างน่าตกใจเช่นนี้ ยิ่งไปว่านั้นก็เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวไม่ใช่ราชันแห่งขุนเขาทะเล ดังนั้นจิตใจของไป๋จู่จึงเริ่มเต้นรัวขึ้น และสีหน้าก็สลดลง
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นขณะที่กล่าวต่อไป “เจ้าบอกว่าเป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด แต่รู้หรือไม่ว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมดนี้เป็นของใคร?”
เมื่อเมิ่งฮ่าวพูดจบ เสียงกระหึ่มก็ดังก้องขึ้น ขณะที่…เก้าขุนเขาปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขาอย่างน่าตกใจยิ่ง!!
นอกจากเก้าขุนเขาแล้ว ก็ยังมีเก้าทะเลด้วยเช่นกัน!
เก้าขุนเขา! เก้าทะเล!
ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพที่ดูเลือนรางไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับภาพขุนเขาทะเลที่อยู่บนศีรษะของไป๋จู่ แต่ในทันทีที่ปรากฏขึ้นมา ก็ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว อาณาจักขุนเขาทะเลทั้งหมดเริ่มสั่นสะท้านไปมา
แรงกดดันอันเข้มข้นเริ่มพุ่งออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าวในทันที
สีหน้าไป๋จู่สลดลงไปโดยสิ้นเชิง และเริ่มสั่นสะท้านไปทั้งร่าง โดยไม่ต้องขบคิดใดๆ มันเริ่มถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว จิตใจถูกบดขยี้ด้วยคลื่นแห่งความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ กล่าวว่า “นี่…นี่…เป็นไปไม่ได้! เจ้า…คาดไม่ถึงว่าเจ้าคือ…”
จิตใจไป๋จู่กำลังหมุนคว้าง ด้วยระดับพลังเจตจำนงของมัน ก็มีเรื่องอยู่น้อยมากที่สามารถจะทำให้มันพูดไม่ออกได้เช่นนี้ แต่ตอนนี้มันกำลังสั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม
“นี่คืออาณาจักรขุนเขาทะเลของข้า” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ยกมือขึ้นมา ทำท่าคว้าจับตรงไปยังไป๋จู่
ท่าคว้าจับนี้ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่พลังแห่งขุนเขาทะเลระเบิดออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว แรงกดดันอันแข็งแกร่งพุ่งตรงไปยังไป๋จู่ และจิตใจมันก็เต็มไปด้วยวิกฤตอันร้ายแรง โดยไม่ลังเลใดๆ มันรีบกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นและแผดร้องออกมาด้วยความขมขื่น
“ขุนเขาทะเลที่เจ็ด!” ทันใดนั้นพลังแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดก็ปะทุขึ้น ทะเลที่เจ็ดเริ่มเหือดแห้งลง และขุนเขาที่เจ็ดก็สั่นสะเทือน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ดแทบจะแตกกระจายออกไปได้ทุกเมื่อ ในขณะที่พลังแห่งขุนเขาทะเลเริ่มพุ่งมารวมตัวกันที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวมากขึ้น
ในสระสวรรค์ด้านบนสุดของขุนเขาที่เจ็ด เต่าเสวียนอู่ส่งเสียงกู่ร้องด้วยความขมขื่นออกมา เป็นเสียงกู่ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและคลุ้มคลั่ง ไป๋จู่ใช้พลังแห่งขุนเขาทะเลที่เพิ่มขึ้นมาสร้างเป็นดวงตะวันสีขาวอีกดวง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีพลังสูงเกินกว่าดวงก่อนหน้านี้ ขณะที่มันใช้โจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวในช่วงของการต่อสู้
ตูมมมมมมม…
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังเต็มไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปด โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของไป๋จู่ และร่างมันก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง เสื้อผ้าฉีกขาด และกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ห่างออกไปมากกว่าหนึ่งพันจ้าง ดูสกปรกเลอะเทอะไปโดยสิ้นเชิง เมื่อมันมองขึ้นไป ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหารอย่างเข้มข้น
สิ่งที่มันเห็นก็คือ เมิ่งฮ่าวกำลังกระอักโลหิตออกมา และลอยไปทางด้านหลังนับพันจ้างด้วยเช่นกัน ตอนนี้คนทั้งสองอยู่ห่างไกลกันหนึ่งพันจ้าง และมองเห็นแววตาอันน่ากลัวของกันและกันอย่างชัดเจน
ตูม!
ทั้งคู่บินตรงมาโจมตีพร้อมกัน ปลดปล่อยลมพายุแห่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทออกมาอย่างปั่นป่วนวุ่นวาย
เสียงระเบิดดังรุนแรงมากขึ้น จนทำให้ขุนเขาทะเลที่แปดต้องสั่นสะเทือน และในเวลาต่อมา คนทั้งสองก็ปะทะกันไปมานับพันครั้ง การโจมตีแต่ละครั้งทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องมืดสลัวลงไป แต่ก็ไม่ยอมออมรั้งยั้งมือใดๆ จนสั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศทาง